สูตรโกงฉบับเด็กเรียน – บทที่ 221 จับรางวัลด้วยมือข้างที่ได้รับพรจากคนทั้งชาติ

บทที่ 221 จับรางวัลด้วยมือข้างที่ได้รับพรจากคนทั้งชาติ

ทันทีที่ไป๋เยี่ยเดินออกมาจากห้องประชุมเขาก็ตรงไปที่มุมเปลี่ยว

จับรางวัล!

ต้องจับแล้ว!

มือทั้งสองข้างนี้เพิ่งได้รับพรมา มันอาจจะนำความโชคดีมาให้ประเทศก็ได้!

ไป๋เยี่ยคิดพลางไม่รีรอเปิดหน้าจับรางวัลขึ้นมา

นี่คือรางวัลระดับหกดาว ถ้าจับมันด้วยมือที่เปี่ยมไปด้วยพรนี้มันจะต้องออกมาเป็นสิ่งมหัศจรรย์แน่นอน!

ไป๋เยี่ยสงบสติอารมณ์พร้อมกับหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะลืมตาขึ้นในทันใด!

จับรางวัล!

จานหมุนขนาดใหญ่หมุนอย่างบ้าคลั่ง นี่เป็นการจับรางวัลระดับหกดาวครั้งแรกของไป๋เยี่ย มาดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น

ไป๋เยี่ยจ้องมองเข็มบนจานหมุนอย่างใจจดใจจ่อ ในที่สุดมันก็หยุดลง!

แต่…ดูเหมือนว่า…สิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าจะเป็นเพียงกระดาษแผ่นหนึ่ง

ไป๋เยี่ยสับสนกับภาพตรงหน้า ได้แต่คว้ากระดาษแผ่นนั้นออกมา ทันใดนั้นข้อมูลมากมายก็หลั่งไหลเข้ามาในหัวเขา!

[ติ๊ง! ขอแสดงความยินดี คุณได้รับแปลนภาพหุ่นยนต์ศัลยกรรมกระดูกและข้อแล้ว]

ไป๋เยี่ยดีใจมาก!

ของดีนี่หว่า!

หุ่นยนต์ผ่าตัดกระดูก!

ไป๋เยี่ยรู้สึกว่าเขาต้องพกยามาด้วยแล้ว เผื่อว่าวันหนึ่งเขาจับรางวัลแล้วหัวใจวายขึ้นมา…ความรู้สึกเศร้าปนสุขนี่มันช่าง…ฟินจริงๆ!

ไป๋เยี่ยมองแปลนด้วยความพึงพอใจ หัวใจเขาเต้นระรัวด้วยความตื่นเต้น เขายกมือขวาขึ้นมาพินิจพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง สมแล้วที่เป็นมือข้างให้โชค! เข้าสูดดมมือตนเอง หอมจริงๆ!

ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ตอนที่ไป๋เยี่ยยังอยู่ที่ญี่ปุ่น เขาได้เห็นหุ่ยนต์ผ่าตัดบริเวณทวารหนักโดยเฉพาะ ทำให้เขารู้สึกอิจฉาขึ้นมา เขาได้แต่ตั้งคำถามว่าเมื่อไหร่ประเทศของเขาจะพัฒนาหุ่นยนต์ผ่าตัดขึ้นมาได้บ้าง

หากกล่าวตามจริง ตอนนี้การใช้หุ่นยนต์ทางการแพทย์ถือเป็นสิทธิบัตรของบรรดาประเทศที่พัฒนาแล้ว ก็เหมือนกับการที่คนรวยนิยมชมชอบรถยนต์และนาฬิกา ต้องรอให้ประเทศมีความพัฒนาทั้งทางด้านเศรษฐกิจและเทคโนโลยีไปพร้อมๆ กันถึงจะใช้ของพวกนั้นได้!

ที่สำคัญคือ ตอนนี้แนวโน้มการพัฒนาหุ่นยนต์ทางการแพทย์อยู่ในเกณฑ์ดีมาก!

จากมุมมองของตลาดโลก สถิติจากบีซีจีบอสตัน[1]แสดงให้เห็นว่าในช่วงเดือนมกราคมของปีสองพันสิบหก มูลค่าทางการตลาดของอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ทางการแพทย์จากทั่วโลกพุ่งสูงถึงเจ็ดพันสี่ร้อยเจ็ดสิบล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าจะสูงถึงสองหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปีสองพันยี่สิบ!

แต่ถึงกระนั้น ประเทศจีนซึ่งมีอัตราส่วนประชากรมากถึงยี่สิบเปอร์เซ็นต์ของทั้งโลกกลับครอบครองสัดส่วนในตลาดไม่ถึงห้าเปอร์เซ็นต์!

จากสถิติล่าสุด ยอดขายทั่วโลกของหุ่นยนต์ดาวินซีสูงถึงสี่พันสิบหกตัว ในขณะที่ในประเทศจีนสั่งซื้อเพียงสี่สิบหกเครื่อง คิดเป็นหนึ่งจุดหนึ่งสี่เปอร์เซ็นต์ของยอดขายทั่วโลก

ในประเทศจีนมีโรงพยาบาลชั้นนำทั้งสิ้นหนึ่งพันเจ็ดสิบเก้าแห่ง แต่มีหุ่นยนต์ดา วินซีเพียงสี่สิบหกตัว เท่ากับว่ามีอัตราการเจาะตลาดเพียงสี่จุดสามเปอร์เซ็นต์เท่านั้น

แต่อีกมุมมองหนึ่งก็แสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ทางการแพทย์ของจีนยังพัฒนาไปได้อีกไกลนัก!

ใช่แล้ว เรายังมีจุดที่พัฒนาต่อไปได้!

ไป๋เยี่ยเก็บแปลนแผ่นนั้นไว้อย่างระมัดระวัง เขาจะนำสิ่งนี้ไปค้นคว้าต่อเมื่อมีเวลา

นี่คือขุมทรัพย์ของชาติเชียวแหละ!

หลังจากวันนั้น ไป๋เยี่ยก็กลับมาวิเคราะห์ข้อมูลและความคืบหน้าการวิจัยเรื่องจุลชีพภายในลำไส้ เขาตัดสินใจรอให้แผนการวิจัยออกมาก่อนจึงค่อยจัดการประชุมขึ้น จากนั้นค่อยแบ่งหน้าที่ให้แต่ละฝ่าย

อย่างไรเสียทฤษฎีเรื่องจุลชีพภายในลำไส้ก็ไม่ใช่ทฤษฎีเรียบง่ายทั่วๆ ไป แต่เป็นทฤษฎีที่เกี่ยวพันกับหลายสิ่ง

เพราะเรียกได้ว่านี่คือการศึกษาโรคบริเวณทวารหนักในอีกแง่มุมหนึ่ง ซึ่งเทียบเท่ากับการศึกษาระบบใหม่เลยก็ว่าได้

การศึกษาโรคใดๆ ก็ตามต้องมีการเชื่อมโยงถึงแง่มุมอื่นด้วย

ไม่ว่าจะเป็นสาเหตุ การเกิด การรักษา หรือกระทั่งการป้องกันก็ตาม

นี่ไม่ใช่สิ่งที่คนเพียงหนึ่งคนจะทำได้อย่างแน่นอน ทั้งนี้จำเป็นต้องมีองค์กรและหน่วยงานจำนวนมากยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือในการวิจัย

ระหว่างการประชุมเมื่อวานนี้ ทุกคนต่างออกมาขอให้ไป๋เยี่ยเดินหน้าทำการวิจัยโดยไม่ต้องกังวล ทั้งประเทศจะคอยให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะให้ความร่วมมืออย่างแข็งขัน!

รู้แบบนี้แล้ว ไป๋เยี่ยไยจะมัวลังเล

ไม่กี่วันมานี้ ไป๋เยี่ยไม่ได้เข้าแล็บเลย ทว่าเขากลับขอลาอาจารย์ไปที่โรงพยาบาลแทน

หลิวป๋อหลี่รู้จักไป๋เยี่ยดี เขาตอบกลับมาเพียงประโยคเดียวเท่านั้น ‘อย่าทำให้ตนเองและคนอื่นๆ ต้องผิดหวัง’

ไป๋เยี่ยเข้าใจว่าเขาต้องการสื่ออะไร ทั้งยังรู้ว่าทุกคนคือครอบครัวของเขา!

ไป๋เยี่ยกลับมาที่แล็บและเริ่มเขียนแผนโครงการวิจัยทันที

ถ้าจะบอกว่าตอนนี้ทุกอย่างถูกเตรียมพร้อมหมดแล้วก็ไม่เกินจริงเลย ถนนทุกสายล้วนปูไว้เพื่อไป๋เยี่ย เหลือแค่รอแผนการจากไป๋เยี่ยเท่านั้น

ไป๋เยี่ยตัดสินใจไม่กลับไปที่หอพัก เขารู้ว่าถ้ากลับไปจะต้องเจอเรื่องวุ่นวายแน่นอน ซึ่งเขาคงทนเสียเวลาตรงนั้นไม่ได้แม้วินาทีเดียว

การเขียนแผนโครงการวิจัยเป็นงานที่ยาก ยิ่งเป็นหัวข้อใหม่ก็ยิ่งซับซ้อนมากขึ้นไป

แต่ตอนนี้ในหัวของไป๋เยี่ยก็มีแผนรอไว้อยู่แล้ว ทั้งตัวชี้วัดแต่ละตัวและแผนการแต่ละแผนล้วนมีขั้นตอนการวิจัยเบื้องต้น

แผนโครงการวิจัยต้องประกอบด้วยรายงานเสนอหัวข้อ ทิศทางการวิจัย วัตถุประสงค์และความสำคัญของงานวิจัย ผู้เข้าร่วมงานวิจัยและความคิดสร้างสรรค์!

และสิ่งสำคัญอันดับหนึ่ง!

เงินทุน!

เมื่อลองคำนวณดูแล้ว ไป๋เยี่ยก็ต้องตกตะลึง

เงินทุน: หนึ่งร้อยยี่สิบล้านหยวน

หนึ่งร้อยยี่สิบล้านหยวนจะพอไหมนะ

วันรุ่งขึ้น ไป๋เยี่ยส่งแผนโครงการวิจัยไปที่ศูนย์จัดการงานวิจัย ผู้ตรวจสอบแผนโครงการวิจัยก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากคนที่เคยตรวจสอบแผนโครงการวิจัยให้ไป๋เยี่ยมาก่อน!

ผู้อำนวยการศูนย์บริหารจัดการงานวิจัยแห่งชาติ หยางมู่จวิน!

หลังจากหยางมู่จวินอ่านดูอย่างละเอียดแล้วก็พยักหน้า “ร้อยยี่สิบล้านเหรอ”

ไป๋เยี่ยถอนหายใจเบาๆ มันเป็นจำนวนเงินที่มากจริงๆ นั่นแหละ แต่งานวิจัยชิ้นนี้ก็ต้องใช้หลายอย่างมากเช่นกัน เขากำลังจะปริปากตอบ ทว่าหยางมู่จวินกลับแทรกขึ้นมา “พอเหรอ”

ไป๋เยี่ยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถามกลับไป “ไม่พอเหรอครับ”

หยางมู่จวินกระแอม “ผมพูดไปหมดแล้วนะ คุณต้องกล้าๆ หน่อยสิ คุณรู้ไหมว่าเงินทุนที่ใช้ในการพัฒนาหุ่นยนต์ผ่าตัดระบบทางเดินอาหารของปีที่แล้วคือเท่าไหร่ ตั้งหนึ่งพันหกร้อยล้านเชียวนะ!”

“แต่นี่คุณกำลังจะบัญญัติองค์ความรู้ใหม่ ผมคิดว่าคุณควรพุ่งเป้าไปที่มันและทำมันให้ดีนะ ถึงแม้ว่ายิ่งมีทุนเยอะจะยิ่งทำได้ดีก็เถอะ แต่ไม่ว่ามีทุนเท่าไหร่คุณก็ต้องทำมันให้ดี!”

ไป๋เยี่ยพยักหน้า “ครับ ผอ.หยางไม่ต้องกังวลนะครับ ผมจะทำมันให้ดี ขาดเงินทุนอีกไม่มากหรอกครับ นี่เป็นโครงการใหญ่ และเป็นก้าวแรกของการวิจัยจุลชีพภายในลำไส้ แทนที่จะจับปัจจัยนั้นปัจจัยนี้มาผสมโรงกัน ก็สู้พุ่งชนเป้าหมายไปเลยดีกว่า”

“จากนั้น ผมจะใช้ฐานความรู้นี้เป็นรากฐานในการพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ ครับ”

หยางมู่จวินได้ฟังก็พลันสัมผัสได้ว่าไป๋เยี่ยโตขึ้นจากเมื่อก่อนมาก เขาจึงพยักหน้ารับ

“ตามนั้น! มีปัญหาอะไรก็บอกผมแล้วกัน” ดฮณ๊ฯดฯฌซ,

艾

แผนโครงการวิจัยของไป๋เยี่ยได้รับการอนุมัติล่วงหน้าโดยไม่จำเป็นต้องผ่านการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ เพียงแค่ดำเนินการตามขั้นตอนอนุมัติเท่านั้น

เช้าวันรุ่งขึ้น ไป๋เยี่ยจึงเรียกบรรดาผู้เชี่ยวชาญที่ได้เข้าร่วมการประชุมที่ญี่ปุ่นมาร่วมประชุมกัน

หัวข้อการประชุมคือการแบ่งงาน โดยเฉพาะการวิจัยเชิงปฏิบัติ

[1] บีซีจี (BCG/Boston Consulting Group) คือ บริษัทที่ปรึกษาด้านการจัดการระดับโลกของอเมริกา ก่อตั้งขึ้นในปี 2506