บทที่ 230 ใครคือไป๋เยี่ย! (2)
หลีอวี่หรานหมดความอดทนเต็มที เธอจึงยอมเสียเงิน 5.6 ดอลลาร์ให้กับความอยากรู้อยากเห็นนี้และซื้อวารสาร ‘การแพทย์ผู่เจ๋อสมัยใหม่’ มาทันที
บทความแรกเป็นสรีรวิทยาบทใหม่ที่เสนอโดยไป๋เยี่ย ‘ทฤษฎีจุลชีพภายในลำไส้’
หลีอวี่หรานชะงักไปครู่หนึ่ง ไป๋เยี่ย?
ชื่อคุ้นมาก นี่คือคนที่มีชื่อในวารสารการแพทย์เจ้าดังๆ ก่อนหน้านี้นี่นา เขามีบทความใน ‘การแพทย์ผู่เจ๋อสมัยใหม่’ ด้วยงั้นเหรอ
ศักยภาพของผู่เจ๋อไม่ธรรมดาจริงๆ ถึงดึงดูดบุคลากรชั้นนำแบบเขาไว้ได้ ไม่แปลกใจว่าทำไมถึงมีแต่คนแนะนำ
หลีอวี่หรานยังคงคาใจ เธอวางแก้วกาแฟลงแล้วคว้าแท็บเล็ตขึ้นมาอ่านบทความนั้นอย่างละเอียด ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ใช่นักวิจัยหรือผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ก็ตาม แต่เธอก็ประเมินคุณภาพของบทความได้เช่นกัน
สำคัญที่สุดคือ หลีอวี่หรานมั่นใจว่าความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีใหม่ๆ ของเธอไม่ได้เป็นรองใครเลย
หลังจากอ่านบทนำจบ เธอก็ประหลาดใจเล็กน้อย หรือว่าทฤษฎีจุลชีพภายในลำไส้จะได้รับการยืนยันแล้วจริงๆ
คิดได้ดังนั้น เธอก็อดตื่นเต้นไม่ได้ ในปัจจุบันการศึกษาจุลชีววิทยาไม่ค่อยมีความคืบหน้านัก ต่างจากไป๋เยี่ยที่เป็นผู้ยกทฤษฎีจุลชีพภายในลำไส้ขึ้นมา เพราะฉะนั้นสิ่งที่เขากล่าวไว้คงจะไม่ธรรมดาแน่นอน
หลีอวี่หรานอ่านบทความต่อไป ยิ่งอ่านก็ยิ่งตะลึง ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นไปอีก
ทฤษฎีได้รับการยอมรับแล้วจริงด้วย!
เมื่อพิจารณาถึงคุณค่าและข้อมูลของตัวบ่งชี้แต่ละตัว เธอก็พบว่าการประเมินตัวบ่งชี้ต่างๆ ในร่างกายมนุษย์นั้นละเอียดมาก!
ผ่านไปไม่นาน หลีอวี่หรานก็อ่านบทความกว่าห้าพันตัวอักษรจบ แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังคงเคลือบแคลงใจ จึงอ่านใหม่แต่ต้นอีกครั้งหนึ่ง
บทความนี้อธิบายทฤษฎีจุลชีพภายในลำไส้จากมุมมองทางสรีรวิทยาโดยละเอียด มีการวิเคราะห์ปฏิกิริยาของสารเมตาโบไลท์ที่เกิดจากจุลินทรีย์ในลำไส้ภายใต้สภาวะต่างๆ ตลอดจนการเกิดโรคบริเวณทวารหนัก
นี่กลายเป็นสาขาและทิศทางการวิจัยใหม่อย่างไม่ต้องสงสัย!
จู่ๆ หลีอวี่หรานก็มีความคิดแวบเข้ามาว่าไป๋เยี่ยกำลังจะสร้างประวัติศาสตร์!
นี่เป็นความก้าวหน้าล่าสุดของการพัฒนาองค์ความรู้ด้านสรีรวิทยา ไม่ได้เป็นเพียงก้าวสำคัญในการพัฒนาองค์ความรู้ด้านโรคบริเวณทวารหนักเท่านั้น
ถ้าไป๋เยี่ยเผยแพร่เนื้อหานี้ออกไปได้ แม้แต่สถาบันวิจัยสรีรวิทยานานาชาติก็ต้องมอบรางวัลให้เขาแน่นอน ยิ่งถ้าในไม่กี่สิบปีข้างหน้าเขาวิเคราะห์ตัวบ่งชี้เหล่านี้ออกมาได้อย่างละเอียด แม้แต่รางวัลโนเบลก็ล้วนเป็นไปได้ทั้งนั้น!
หลีอวี่หรานยิ่งคิดก็ยิ่งตื่นเต้น ทำให้เธออยากเจอไป๋เยี่ยมากจริงๆ
หลีอวี่หรานชื่นชอบคนมีความรู้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว โดยเฉพาะคนที่มีความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เธออยากจะทำความรู้จักกับผู้คนเหล่านั้นมากเป็นพิเศษ
เธอจึงเริ่มค้นคว้าข้อมูลในวารสารตั้งแต่นั้นมา วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีถือเป็นเวทีสำหรับการเผยแพร่ความรู้และแหล่งที่รวบรวมแนวคิดของผู้คนในแวดวงวิชาการไว้
เธอมองว่านักวิชาการทุกคนคือผู้เปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์และสรรค์สร้างอนาคตอันยิ่งใหญ่
หลังจากอ่านบทความจบ หลีอวี่หรานก็ยังคงสงสัยว่าทำไมไป๋เยี่ยถึงมาโผล่ในวารสาร ‘การแพทย์ผู่เจ๋อสมัยใหม่’
ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เธอก็บังเอิญสังเกตเห็นว่าหัวหน้ากองบรรณาธิการของ ‘การแพทย์ผู่เจ๋อสมัยใหม่’ ก็คือไป๋เยี่ยนั่นเอง ไป๋เยี่ยคือหัวหน้าบรรณาธิการเหรอเนี่ย ไม่ใช่หัวหน้าสวี่หรอกเหรอ
หลีอวี่หรานคิดได้ดังนั้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเพื่อนทันที “ซี ช่วยตรวจสอบบุคคลนี้ให้ฉันหน่อยได้ไหม”
“โธ่ คิดว่าฉันเป็นคนจากเอฟบีไอ หรือซีไอเอหรือไง ที่นี่คือประเทศจีนนะ คิดจะทำอะไรน่ะ”
หลีอวี่หรานยิ้ม “ฮิฮิ ก็ที่ปักกิ่งน่ะสิ วารสารของโรงพยาบาลผู่เจ๋อที่ปักกิ่งมีหัวหน้าบรรณาธิการคนใหม่นี่ ไหนๆ เธอก็มีเส้นสายที่นั่นอยู่แล้วก็ช่วยฉันสืบหน่อยน่า ไว้คราวหน้าฉันจะเลี้ยงของอร่อยๆ ให้นะ!”
“ก็ได้…หัวหน้าบรรณาธิการของผู่เจ๋อชื่ออะไรล่ะ ฉันจะช่วยถามให้แล้วกัน”
หลีอวี่หรานตอบ “มั๊วะ! น่ารักจริงๆ เลย เขาชื่อว่าไป๋เยี่ย เป็นหัวหน้าบรรณาธิการของวารสาร ‘การแพทย์ผู่เจ๋อสมัยใหม่’ ช่วยติดต่อเขาให้ฉันหน่อยนะ”
“…”
หลังจากที่หลีอวี่หรานวางสาย เธอก็เริ่มมีความหวังขึ้นมาเล็กน้อย ไป๋เยี่ยจะเป็นคนแบบไหนกันนะ
ไม่มีใครคิดว่าหลีอวี่หรานที่ภายนอกดูเย็นชาเคร่งขรึมจะมีมุมเด็กน้อยแบบนี้มาก่อน
หลีอวี่หรานคาดหวังกับวารสารฉบับนี้มากเหลือเกิน!
มิน่า ทำไมจู่ๆ วารสารถึงหยุดตีพิมพ์ไป ที่แท้ก็เปลี่ยนหัวหน้าบรรณาธิการเป็นไป๋เยี่ยนี่เอง บทความในวารสารจะต้องแตกต่างไปจากเดิมแน่นอน ไม่แปลกใจว่าทำไมบุคลากรระดับแนวหน้าถึงออกมาโปรโมตกัน
หลีอวี่หรานก้มหน้าก้มตาอ่านบทความในวารสารโดยไม่สนใจว่ากาแฟในแก้วจะเย็นลงแล้ว แต่ยิ่งเธออ่านก็ยิ่งตกตะลึงมากขึ้น เพราะบทความที่อยู่ในนั้นยอดเยี่ยมมากจริงๆ!
ประเสริฐ!
ไป๋เยี่ยเปลี่ยนสิ่งธรรมดาๆ ให้กลายเป็นปาฏิหาริย์ได้จริงๆ หลีอวี่หรานก็ยิ่งคาดหวังกว่าเดิม ไป๋เยี่ยจะเป็นคนแบบไหนกันแน่
หลังจากอ่านวารสารจบแล้ว หลีอวี่หรานก็ได้ตัดสินใจทำในสิ่งที่ตนเกรงกลัว
เธอตั้งใจจะบันทึกวารสาร ‘การแพทย์ผู่เจ๋อสมัยใหม่’ ลงในฐานข้อมูลเอซีไออีอีกครั้งหนึ่ง เธอคิดว่าไป๋เยี่ยจะต้องทำให้วารสารนี้มีอิทธิพลมากขึ้นเรื่อยๆ ได้แน่
ต่อมาหลีอวี่หรานก็ได้ออกประกาศอย่างเป็นทางการ [หลังจากที่วารสาร ‘การแพทย์ผู่เจ๋อสมัยใหม่’ ได้ตีพิมพ์ฉบับปรับปรุงออกมา วารสารฉบับนี้จะถูกนำเข้าสู่ฐานข้อมูลเอซีไออีอีกครั้งหนึ่ง และขอแนะนำวารสารฉบับนี้ให้กับทุกท่าน!]
ขณะเดียวกัน เมิ่งอวิ๋นซีที่อยู่ในสายโทรศัพท์ก็ได้แต่อึ้งงันไป ไป๋เยี่ย?
หัวหน้าบรรณาธิการของวารสาร ‘การแพทย์ผู่เจ๋อสมัยใหม่’ คือคนเดียวกันกับไป๋เยี่ยที่เรารู้จักจริงๆ เหรอ
เป็นไปได้ไหมว่าจะมีคนชื่อซ้ำกันในหน่วยงานเดียวกัน
แต่ปกติชื่อไป๋เยี่ยก็หายากอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นการจะมีคนชื่อซ้ำกันก็คงเป็นไปได้ยาก!
ทว่าตอนนี้ไม่เพียงแต่หลีอวี่หรานเท่านั้น ยังมีคนอื่นๆ อีกมากมายที่ให้ความสนใจกับ ‘การแพทย์ผู่เจ๋อสมัยใหม่’ คงเป็นเพราะสงสัยว่าทำไมหลายคนถึงแนะนำวารสารฉบับนี้กันนักหนา
แต่หลังจากอ่านจบแล้ว ผู้คนเหล่านั้นก็กระจ่างว่าเหตุใดวารสารฉบับนี้ถึงควรค่าแก่การแนะนำ เดิมทีพวกเขาคิดว่าเป็นผลประโยชน์ร่วมกันของหน่วยงาน แต่ไม่คิดเลยว่ามันจะทรงคุณค่าจริงๆ
ไม่กี่วัน วารสาร ‘การแพทย์ผู่เจ๋อสมัยใหม่’ ก็ได้รับความสนใจจากผู้คนมากขึ้นเรื่อยๆ บทความในนั้นเองก็สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนไม่น้อยเลย
ตัวอย่างเช่น นักวิจัยเคยค้นพบว่ากระบวนการผลิตเม็ดเลือดขาวของร่างกายมนุษย์นั้นเกี่ยวข้องกับสารบางชนิดนอกจากกลไกภูมิคุ้มกันด้วย อย่างไรก็ตาม นักวิจัยก็ยังหาสาเหตุไม่ได้ แต่หลังจากที่เหล่านักวิจัยได้เห็นตัวบ่งชี้ในวารสาร ‘การแพทย์ผู่เจ๋อสมัยใหม่’ พวกเขาก็เกิดสงสัยว่าประเด็นนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ของสารตัวชี้วัดเหล่านั้นก็เป็นได้
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ไป๋เยี่ยเสนอก็เป็นสาขาการวิจัยใหม่ล่าสุด มีการวิจัยน้อยที่สุด และเป็นสาขาที่หาผลลัพธ์ได้ง่ายที่สุดอีกด้วย
เป็นผลให้ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนเริ่มทำการวิจัยเอกสารเหล่านี้เพิ่มเติม
ทันใดนั้น สมาคมศัลยแพทย์นานาชาติก็ได้ออกประกาศอย่างกะทันหัน
‘ประกาศรางวัลผลงานดีเด่นประจำปี’
ข่าวนี้ทำให้ทุกคนตื่นตระหนกมาก เดิมทีข่าวการเลื่อนการประกาศรางวัลก็ได้รับความสนใจผู้คนมากแล้ว เพราะอย่างไรเสียนี่ก็เป็นรางวัลระดับโลกรางวัลหนึ่ง ความล่าช้าจึงเป็นเรื่องที่เข้าใจกันได้ ทว่าการประกาศผลรางวัลอย่างกะทันหันเช่นนี้จะต้องมีเหตุผลแฝงอยู่
จะเป็นใครกันแน่
ไม่มีใครได้รับรางวัลผลงานดีเด่นมาหลายปีแล้ว ครั้งนี้ใครจะเป็นผู้โชคดีกันนะ