”วันนี้ข้าไม่ต้องสวดมนต์” หงส์เพลิงไม่เคยตั้งใจสวดมนต์มาแต่ไหนแต่ไร ดังนั้นนางจึงยิ้มแล้วยื่นของในมือออกไป ”นี่สำหรับตี้จวินของพวกเจ้า”
เซียนอาวุโสใช้สองมือรับของสิ่งนั้นอย่างรวดเร็ว ”หากตี้จวินได้เห็นของสิ่งนี้ เขาจะต้องดีใจแน่ขอรับ เขารอท่านมาได้ครู่หนึ่งแล้ว ตอนนี้เขากำลังพักผ่อนอยู่ แต่เขาสั่งให้ข้านำทางท่านไปที่ห้องทันทีที่ท่านมาถึง”
หงส์เพลิงไม่สนใจว่าผู้ชายคนนั้นจะรอนางอยู่นานเพียงใด หงส์เพลิงน้อยรู้สึกประสบความสำเร็จอย่างมากเพราะในที่สุดของฝากที่เตรียมไว้ก็ถูกส่งมอบได้สำเร็จเสียที!
นางดีใจจนแทบตัวลอยกับเรื่องนี้
เซียนหลายคนยังรู้สึกไม่อยากเชื่อนาง พวกเขาต่างจากพวกด้านหลังของหงส์เพลิงด้วยความตกใจ หนึ่งในนั้นดึงแขนเสื้อของเซียนอาวุโสแล้วเอ่ยว่า ”เซียนอาวุโส ตี้จวินสั่งให้ท่านพาอรหันต์หงส์เพลิงเข้าไปข้างในจริงหรือขอรับ พวกเขาจะไม่ต่อสู้กันจริงหรือ”
”หึ เอาล่ะ เลิกคาดเดาได้แล้ว คราวนี้อรหันต์หงส์เพลิงเป็นแขกของที่นี่จริงๆ และนางอาจจะอยู่ที่นี่หลายวันอีกด้วย พวกเจ้าควรคิดให้ดีและระมัดระวังคำพูดของตัวเองเอาไว้เวลาอยู่ต่อหน้าพระอรหันต์ มิฉะนั้นตี้จวินอาจจะลงโทษพวกเจ้าได้ถ้าเขาไม่พอใจขึ้นมา” เซียนอาวุโสบอก
ทุกคนตกใจจนตัวแข็ง พวกเขามองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ ”เจ้าได้ยินที่เขาพูดเมื่อครู่หรือเปล่า”
”หูข้าจะต้องมีปัญหาแน่ ฮ่าๆ อยู่ต่ออีกหลายวันด้วยหรือ ตี้จวินไม่เคยขอให้ใครค้างคืนที่นี่ด้วยซ้ำ แล้วนับประสาอะไรกับอรหันต์หงส์เพลิงที่มักจะหาเรื่องเขาอยู่เสมอคนนี้!”
”แต่ถ้าเป็นอย่างที่พูดมาละก็” เซียนคนหนึ่งพึมพำขึ้นมาว่า ”เช่นนั้นข่าวลือก็อาจจะเป็นความจริง”
คนอื่นๆ หันไปมองเขา ”ข่าวลืออะไรหรือ”
เซียนคนที่ว่าคิดไม่ถึงว่าคำพูดของเขาจะก่อให้เกิดความวุ่นวายใหญ่โตเช่นนี้ขึ้น เขาจึงลดเสียงลง ”มีคนบอกว่าตี้จวินประกาศความสัมพันธ์กับอรหันต์หงส์เพลิงในงานเลี้ยงวันนี้…”
ทันทีที่ได้ยินเช่นนี้ เซียนทุกคนก็ตัวแข็งทื่อ พวกเขาอึ้งจนอ้าปากค้าง
แม้จะเป็นต้นเหตุของความโกลาหลทั้งหมดนี้ แต่หงส์เพลิงกลับยังสุขุมเยือกเย็นดังเดิม
เพราะนางมีความสุขกับการได้เห็นสีหน้าตกตะลึงของทุกคนยิ่งนัก
เซียนอาวุโสยืนอยู่ข้างๆ หลังจากนำทางหงส์เพลิงผ่านบันไดเมฆขึ้นมา เขาค้อมตัวพร้อมกับเอ่ยว่า ”พระอรหันต์ ตี้จวินอยู่ข้างในขอรับ เขาไม่ชอบให้คนอื่นเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง ข้าจึงไม่สะดวกที่จะเข้าไปขอรับ ดังนั้นคงต้องรบกวนท่านแล้ว”
หงส์เพลิงพยักหน้าแล้วค่อยๆ ก้าวเข้าไปข้างใน
ภพสวรรค์นั้นแตกต่างจากพระพุทธศาสนา
ไม่สิ ควรจะบอกว่าที่ที่ชายหนุ่มอยู่นั้นแตกต่างจากที่ที่นางอยู่ต่างหาก
ที่พระพุทธศาสนา นางสามารถนอนหลับได้แม้จะอยู่บนเมฆเพียงก้อนเดียว แต่สำหรับชายหนุ่ม ที่แห่งนี้กลับมีเสาตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางหมู่เมฆ ทั้งยังมีเตาสำหรับจุดกำยานอีกด้วย ทั่วทุกหนแห่งล้วนแต่ดูงดงาม แต่ก็ให้ความรู้สึกโดดเดี่ยวอ้างว้าง
มีเตียงสีดำสนิทราวกับปกคลุมไปด้วยขนกาขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางเมฆ สีขาวและสีดำที่ตัดกันนั้นเผยให้เห็นรสนิยมอันเป็นเอกลักษณ์และความเย่อหยิ่งของเจ้าของของมันได้เป็นอย่างดี
ชายหนุ่มนอนคว่ำอยู่บนนั้น ศีรษะครึ่งหนึ่งของเขาจมอยู่กับหมอน ผมของเขายาวสยายพร้อมกับเผยครึ่งหนึ่งของร่างกายอันงดงามให้เห็น ผ้าห่มสีขาวราวกับหิมะคลุมทับอยู่บนแผ่นหลังครึ่งหนึ่งของเขา ขณะที่เผยอีกครึ่งออกมา แขนข้างหนึ่งของเขาห้อยลงจากเตียงเผยให้เห็นมัดกล้ามสีน้ำผึ้งของเขา แผ่นอกของเขาขยับขึ้นและลงตามการหายใจ
เขาหลับอยู่หรือ
นึกไม่ถึงเลยว่าคนที่โหดร้ายเย็นชาอยู่เสมอเช่นนั้นจะดูไร้พิษภัยถึงเพียงนี้เวลาหลับ
แพขนตาหนาทิ้งตัวลงจนเกิดเป็นเงาบนตาคู่นั้น เวลานี้เครื่องหน้าหล่อเหลาดูสง่างามและดูดีอย่างมาก
หงส์เพลิงปล่อยให้เขานอนต่อ จากนั้นจึงมองไปที่ชั้นหนังสือขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหลังของชายหนุ่ม บนชั้นนั้นมีบันทึกเกี่ยวกับภพสวรรค์อยู่หลายม้วน ม้วนกระดาษโบราณทุกม้วนย่อมถูกมองว่าเป็นพงศาวดารจากสวรรค์หากพวกมันถูกทิ้งไว้บนโลกมนุษย์
หงส์เพลิงสุ่มหยิบพวกมันขึ้นมาม้วนหนึ่ง จากนั้นจึงนั่งลงบนเก้าอี้ไม้ที่อยู่ด้านข้างด้วยท่าทางเกียจคร้าน
แต่ในตอนที่นางกำลังจะคลี่ม้วนกระดาษออกมานั่นเอง จู่ๆ ชายหนุ่มที่อยู่บนเตียงก็ลืมตาขึ้น ดวงตาของเขาเย็นชาราวกับน้ำแข็ง
หงส์เพลิงรู้ว่านี่คือตัวจริงของเขา ความสุภาพนอบน้อมที่เขาแสดงออกมาตอนอยู่ในงานเลี้ยงเป็นเพียงแค่หน้ากากเท่านั้น…
”เจ้ามาถึงตั้งแต่เมื่อใด” อาจเป็นเพราะเพิ่งตื่น น้ำเสียงของชายหนุ่มจึงฟังดูทุ้มกว่าปกติ
หงส์เพลิงหุบม้วนกระดาษที่อยู่ในมือ แล้วตอบสั้นๆ ว่า ”เมื่อครู่นี้นี่เอง”
ชายหนุ่มชำเลืองมองนางแล้วจึงลุกขึ้น ทันทีที่ผ้าห่มหลุดออกจากตัว แผ่นอกและช่วงเอวอันแข็งแกร่งก็พลันปรากฏให้เห็นสู่สายตา เอวของเขาไม่มีไขมันส่วนเกินเลยแม้แต่นิดเดียว ในจำนวนเทพที่อยู่บนภพสวรรค์ทั้งหมด ร่างกายของเขาจัดว่าสมบูรณ์แบบและดูดีอย่างที่สุด
แม้ว่าหงส์เพลิงจะเคยฆ่าคนมามากมาย แต่นางก็ไม่ค่อยได้ใกล้ชิดกับใครนัก ดังนั้นนางจึงเคลื่อนสายตามองไปทางอื่นด้วยความประหม่าทันทีที่เห็นภาพนี้
ชายหนุ่มยิ้ม เขาตบเตียงเบาๆ แล้วเอ่ยว่า ”มานี่สิ”
”ไปตรงนั้นหรือ” คิ้วสวยของหงส์เพลิงขมวดเข้าหากัน ”ท่านมีที่อื่นให้ข้านอนหรือเปล่า ถ้าไม่มี ข้านอนบนเมฆก็หลับสบายดีเหมือนกัน”
ชายหนุ่มมองนางแล้วจึงเอ่ยขึ้นหลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ”คู่มือเขียนไว้ว่าให้นอนกอดกัน”
”ก็ได้” หงส์เพลิงลังเลเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆ เดินเข้าไปที่ขอบเตียง
ชายหนุ่มพิงหัวเตียงแล้วมองนางอย่างหยอกเย้า ”เจ้ากลัวว่าข้าจะทำอะไรเจ้าหรือ”
”เปล่า” นางแค่ไม่เคยนอนเตียงเดียวกันกับใครมาก่อน หากว่ากันตามตรงแล้วชายหนุ่มย่อมไม่สามารถทำอะไรนางได้ ดาบวงพระจันทร์อยู่บนข้อมือของนาง ถ้าผู้ชายคนนี้กล้าทำเกินเลย นางจะใช้มันกับเขาทันที
นางได้ยินมาว่าคนของภพสวรรค์เคยส่งผู้หญิงมาให้เขาไม่น้อย แต่เขาก็ปฏิเสธทุกคนไปจนหมด อาจเป็นเพราะเขาไม่สนใจผู้หญิง
ยิ่งกว่านั้น ระหว่างพวกเขาคงไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้
หลังจากคิดทบทวนได้ดังนั้นแล้ว หงส์เพลิงจึงเลิกผ้าห่มสีขาวราวหิมะขึ้นแล้วมุดเข้าไปข้างใน นางยกผ้าห่มขึ้นจนถึงช่วงอก ก่อนจะหันกลับไปมองชายหนุ่ม
เมื่อได้มานอนใกล้กันเช่นนี้ ผมสีดำของพวกเขาก็แทบจะสัมผัสกัน แม้กระทั่งลมหายใจก็ยังผสานเข้าด้วยกัน
ทันใดนั้นหงส์เพลิงก็นึกขึ้นได้ว่าชายหนุ่มนอนเปลือยอยู่ ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่หัวใจของนางจะเต้นแรง จริงสิ นี่มันผิดปกติ
ทันทีที่หงส์เพลิงขึ้นมาบนเตียง ชายหนุ่มที่ก่อนหน้านี้เคยนั่งอยู่ก็เอนตัวเข้ามาหานางอย่างรวดเร็ว
พวกเขาอยู่ใกล้กันเกินไป และนั่นทำให้หงส์เพลิงรู้สึกอึดอัดอยู่ครู่หนึ่ง
นางไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะกลิ่นหอมบนร่างของชายหนุ่มคือกลิ่นอะไร มันหอมอ่อนๆ แต่ก็รุนแรงราวกับเป็นกลิ่นที่เกิดจากการผสมกันระหว่างใบป๋อเหอกับกลิ่นธูปหอม กลิ่นนั้นค่อนข้างหอมดีทีเดียว แต่ลมหายใจที่รุกล้ำเข้ามาของคนคนนี้กลับรุนแรงเสียจนดูน่ากลัว
”เจ้าเชื่อใจข้ามากไหม”
”ข้าเอาของฝากมาให้ท่านด้วย”
ทั้งสองคนพูดขึ้นแทบจะในเวลาเดียวกัน
นิ้วของชายหนุ่มชะงักไป ”ของฝากอะไร”
”รอเดี๋ยว” หงส์เพลิงวิ่งออกไปด้วยท่าทางมีชีวิตชีวา ในไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับห่ออาหารปลาในมือ ”ตอนกลางคืนเราจะได้ป้อนอาหารปีศาจพวกนั้นด้วยกันอย่างไรล่ะ ท่านชอบทำเหมือนพวกมันเป็นปลาทองมิใช่หรือ”
ชายหนุ่มเหลือบมองอาหารปลา จากนั้นจึงมองไปที่ดวงตาคู่งามของหงส์เพลิง พลังหนาแน่นบนฝ่ามือของเขาหายวับไป จากนั้นเขาจึงยื่นมือออกไปดึงนางเข้ามาหาพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปาก ”ก็ดี”
ดูเหมือนตี้จวินจะชอบอาหารปลาเหล่านี้มาก
แต่มีเพียงปีศาจเหล่านั้นเท่านั้นที่รู้ว่าก่อนหงส์เพลิงจะหยิบของฝากออกมา
สิ่งที่ตี้จวินคิดที่จะทำกับนางนั้นไม่ใช่ธรรมดาเลย…