ตอนที่ 814 ป้าฝูมากล่าวโทษ
ป้าเก๋อเก๋อแห่งราชวงศ์ชิงตื่นขึ้นในตอนเช้า แต่กลับไม่เห็นอู๋เสี่ยวเจี๋ยนอยู่ข้าง ๆ จึงค้นหาไปรอบบ้าน กระนั้นก็ยังคงไม่พบเขา
เมื่อเห็นว่าแฟนหนุ่มหายตัวไป นางก็รู้สึกอารมณ์ไม่ดีและเอาแต่ซ่อนตัวด้วยความเศร้า
หัวใจของนางเจ็บปวดอีกครั้ง และรู้สึกโกรธจนแทบจะระเบิดออกมา
แน่นอนว่าอู๋เสี่ยวเจี๋ยนแฟนหนุ่มของนางต้องเป็นทุกข์เพียงเพราะหญิงคนเดียว และเป้าหมายในการระบายโทสะก็คือหลินม่าย
ป้าฝูเก๋อเก๋อแห่งราชวงศ์ชิงไม่แม้แต่จะกินข้าวเช้า รีบออกไปสะสางบัญชีกับหลินม่ายอย่างอุกอาจ
นางต้องการทำลายชื่อเสียงของหลินม่ายและต้องการให้เธอถูกไล่ออกจากมหาวิทยาลัย
ทันทีที่ป้าเก๋อเก๋อแห่งราชวงศ์ชิงเดินออกจากประตูบ้าน นางก็พลันสบถด้วยเสียงดังฟังชัดจากชั้นสอง
“ใครขโมยเงินหนึ่งพันหยวนไป? แล้วใครขโมยถังสีใบใหญ่ของบ้านเราไป? ไม่เคยมีขโมยในชุมชนของเรา แล้วทำไมจู่ ๆ ถึงมีขโมย?”
สิ่งที่นางพูดทำให้เพื่อนบ้านตื่นตระหนก
ทุกคนต่างจับกลุ่มกันถามเซ็งแซ่ว่าใครกันจะเป็นขโมยในละแวกนี้?
เพื่อนบ้านหลายคนไม่สบายใจ เมื่อมีขโมย หมู่บ้านนี้ก็ไม่ปลอดภัยอีกต่อไป
มีคนแนะนำให้ป้าฝูโทรแจ้งตำรวจ
ป้าฝูจึงถามทุกคนอย่างลังเล “ก็แค่ถังสีที่หายไป ตำรวจจะรับแจ้งเหรอ?”
เพื่อนบ้านคนหนึ่งกล่าว “แม้การขโมยถังสีจะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยสำหรับตำรวจ แต่ก็เป็นเรื่องใหญ่สำหรับหมู่บ้านของเรา มีขโมยในชุมชน และใครก็ตามไม่อยู่บ้านจะต้องกังวลเรื่องนี้แน่”
“ถูกต้อง” เพื่อนบ้านทุกคนเห็นด้วยกับคำพูดของเพื่อนบ้านคนนี้
“หากกลัวตำรวจไม่รับเรื่องเพราะไปแจ้งคนเดียว เราก็จะไปด้วยกันทั้งหมดนี่แหละ เมื่อมีผู้ร้องเรียนจำนวนมาก ตำรวจจะต้องรับเรื่องอย่างแน่นอน” เพื่อนบ้านคนหนึ่งแนะนำ
ทุกคนต่างแสดงเจตจำนงที่จะตามป้าฝูไปยังสถานีตำรวจเพื่อแจ้งความเรื่องที่ถูกขโมยสี
เพื่อนบ้านคนหนึ่งถามป้าเก๋อเก๋อแห่งราชวงศ์ชิงว่าต้องการทำเช่นนั้นหรือไม่
ป้าฝูส่ายศีรษะ “ฉันไม่มีเวลา” แล้วนางก็จากไป
หากเป็นเมื่อก่อน ป้าฝูจะมีส่วนร่วมในเรื่องเช่นนี้แน่นอน
สามีของนางเสียชีวิต ลูกสาวของนางก็ไม่ได้อยู่ที่นี่ นางเป็นหญิงชราเกษียณอายุที่อยู่อย่างว่างเปล่าและโดดเดี่ยว
แต่ตอนนี้นางต้องการตามหาแฟนหนุ่มของตน จึงไม่สนใจที่จะทำเรื่องเหล่านี้
ป้าฝูมาถึงมหาวิทยาลัยชิงหัวในเวลาเจ็ดโมงเช้า
หลินม่ายและเพื่อนร่วมห้องหลายคนกำลังรับประทานอาหารเช้าด้วยกันพลางพูดคุยและหัวเราะ
ป้าฝูรีบพุ่งตัวเข้ามาด้วยความโกรธ จนดึงดูดความสนใจของนักศึกษาหลายคนทันที
ทุกคนมองนางอย่างสงสัย มีบางอย่างผิดปกติกับป้าคนนี้ ดูเหมือนว่านางจะมาที่นี่เพื่อสร้างปัญหา
ป้าฝูกวาดสายตามองรอบๆ ในที่สุดนางก็พบหลินม่าย จึงพุ่งเข้าใส่อีกฝ่ายอย่างรวดเร็วราวกับลูกปืนใหญ่
นางตบโต๊ะอย่างแรง จนข้าวของที่อยู่บนโต๊ะสั่นสะเทือนเล็กน้อย
หลินม่ายและเพื่อนร่วมห้องของเธอจ้องมองป้าฝูด้วยความโกรธเคือง
เหมียวเหมี่ยวพูดอย่างไม่พอใจ “ป้าคนนี้ป่วยจิตหรือยังไง? ป่วยก็ไปรักษาสิ มาทำแบบนี้กับเราได้ยังไง?”
ป้าฝูตะโกน “เงียบปากซะอีกะหรี่! ฉันไม่ได้มาหาเธอ!”
นางชี้ไปที่หลินม่ายพลางกล่าว “ฉันมาหานังนี่!”
เหมียวเหมี่ยวที่ถูกด่าในที่สาธารณะทนไม่ได้อีกต่อไป หล่อนหน้าแดงและตะโกน “ป้าเรียกใครว่าอีกะหรี่?”
รูมเมทคนอื่น ๆ ต่างตบโต๊ะเพื่อประณามป้าเก๋อเก๋อแห่งราชวงศ์ชิง
หลินม่ายไม่ต้องการให้เพื่อนร่วมห้องของเธอถูกป้าฝูดุเพราะความผิดของเธอ
เธอห้ามเพื่อนร่วมห้องที่กำลังอารมณ์เสีย “พอแล้ว ๆ อย่าเถียงกับป้าคนนี้เลย ในเมื่อหล่อนมาหาฉัน ฉันจะสะสางเรื่องนี้เอง ขอโทษด้วยนะที่ทำให้พวกเธอเดือดร้อนไปด้วย”
จากนั้นเพื่อนร่วมห้องก็นั่งลงด้วยท่าทางกระฟัดกระเฟียด
หลินม่ายเลิกคิ้วและมองไปที่ป้าฝู “ป้าเป็นใครคะ?”
ป้าฝูพูดอย่างเย่อหยิ่ง “เธอไม่จำเป็นต้องรู้ว่าฉันเป็นใคร! ฉันมาที่นี่เพื่อเตือนเธอว่าอย่าทำร้ายอู๋เสี่ยวเจี๋ยนอีก เธอหลอกใช้เขาทุกอย่าง แล้วสุดท้ายก็ทิ้งเขาไปเพื่อเป็ยเมียน้อยคนอื่น ในเมื่อเขากำลังจะเริ่มต้นใหม่ ทำไมเธอยังกวนใจเขาอยู่อีก? ฉันเคยเห็นคนไร้ยางอาย แต่ฉันไม่เคยเห็นใครไร้ยางอายเท่าเธอ ไม่เพียงเป็นโสเภณีเพื่อหาเงินเท่านั้น แต่ยังตามราวีอดีตแฟนอีกด้วย!”
หลังจากที่ป้าฝูพูดจบ ทุกคนในโรงอาหารก็มองเธอด้วยสายตาแปลกประหลาด
นี่มันเรื่องอะไรกัน?
หลินม่าย นักธุรกิจมูลค่านับสิบล้านยอมเป็นเมียน้อยเพื่อมีชีวิตที่ดี?
นี่อาจเป็นเรื่องตลกที่สนุกที่สุดแห่งปีแล้ว
เธอมีสามีที่ทั้งเก่งและชาญฉลาด
เธอกลายเป็นเมียน้อยของผู้อื่นตั้งแต่เมื่อใดกัน?
ป้าคนนี้คงป่วยทางจิตขั้นรุนแรงแล้ว
นางไม่รู้จักหลินม่าย ผู้ประกอบการเอกชนชื่อดังคนนี้เหรอ?
หากมีตาแต่ไม่มีแววหรือไม่รู้จักใช้งาน ก็บริจาคให้ผู้ที่ต้องการเสีย
อันที่จริงไม่น่าแปลกใจเลยที่ป้าฝูไม่รู้ว่าหลินม่ายเป็นผู้ประกอบการเอกชน และเธอยังเป็นผู้ขับร้องบทเพลง ‘ชีวิตที่เบ่งบาน’ อีกด้วย
ในฐานะมนุษย์ป้าคนหนึ่ง หล่อนย่อมไม่สนใจเรื่องปัจจุบัน ไม่สนใจเรื่องบันเทิง แต่จะติดตามเฉพาะละครเท่านั้น
หลินม่ายไม่เคยแสดงละคร ดังนั้นเป็นเรื่องปกติที่ป้าฝูจะไม่รู้จักเธอ
หลินม่ายยิ้มอย่างเหยียดหยาม “โอ้~ ฉันรู้แล้วว่าคุณเป็นใคร คุณคือป้าฝูที่อาศัยอยู่กับอู๋เสี่ยวเจี๋ยนใช่ไหมคะ?”
แม้เธอจะไม่เคยพบป้าฝู แต่เหมาฉงก็เล่าเรื่องการมีอยู่ของป้าฝูให้เธอฟัง
ก่อนหน้านี้เหมาฉงไปที่ชนบทเพื่อถามหาที่อยู่ของเฉาต้า แต่แล้วก็เปล่าประโยชน์ เพราะเฉาต้าไปทำงานที่กว่างโจว
ทุกวันนี้ คนในชนบทจำนวนมากชอบไปทำงานที่กว่างโจว เพราะหางานและหาเงินได้ง่าย
หากมีโอกาสทำงาน ใครจะอยากอยู่ในชนบทเพื่อทำไร่ทำนา?
การทำไร่ทำนาไม่ได้ทำเงินมากนักและยังเป็นงานหนัก
เหมาฉงไม่พบใครเลย ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าเสียเวลาไปมากกว่านี้
เขาทำได้เพียงฝากข้อความถึงพ่อแม่ของเฉาต้าว่า หากเฉาต้ากลับมาให้ติดต่อกลับโดยด่วน
ไม่นานหลังจากเหมาฉงกลับมายังเมืองหลวง เขาก็พบว่าอู๋เสี่ยวเจี๋ยนและป้าฝูกำลังคบหากัน
เขาตกตะลึงและรายงานสถานการณ์ให้หลินม่ายทราบทันที
ป้าฝูยืนหยัดเพื่ออู๋เสี่ยวเจี๋ยน หลินม่ายจึงเดาตัวตนของนางได้เป็นธรรมดา
ป้าฝูหน้าแดงและรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก
หลินม่ายรู้เรื่องความสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสมของนางกับอู๋เสี่ยวเจี๋ยนได้อย่างไร?
ป้าฝูตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด “นังสารเลว!”
หลินม่ายพูดอย่างเย็นชา “คุณแก่แล้ว อย่าตะโกนสิคะ คิดให้ดีว่าใครกันแน่ที่สารเลว! ป้าว่าฉันเป็นเมียน้อยของใครเหรอ? ฉันมีสามีและแต่งงานมานานแล้ว สามีของฉันคือฟางจั๋วหรานศัลยแพทย์ผู้มีชื่อเสียงแห่งโรงพยาบาลโหย่วเหอ อยากให้ฉันเรียกเขามาพบและสั่งสอนป้าสักสองสามครั้งไหม? ป้าจะได้เรียนรู้บทเรียนที่ใส่ร้ายภรรยาของเขา!”
เหล่ารูมเมทต่างให้การสนับสนุนหลินม่าย “ม่ายจื่อ โทรหาหมอฟางให้มาสั่งสอนยัยป้าแก่ๆ คนนี้เลย!”
เมื่อเห็นฉากนี้ ป้าฝูก็เริ่มสงสัย
เป็นไปได้ไหมที่อู๋เสี่ยวเจี๋ยนจะโกหกนาง?
หลินม่ายกล่าว “คุณบอกว่าฉันกวนใจอู๋เสี่ยวเจี๋ยนของคุณเหรอคะ? ลองถามรูมเมทฉันก่อนเถอะว่าใครกวนใจใครกันแน่”
เหล่ารูมเมทรวมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน “อู๋เสี่ยวเจี๋ยนต่างหากที่ก่อกวนหลินม่าย เขามอบดอกกุหลาบให้หลินม่ายทุกวัน และหลายคนในมหาวิทยาลัยก็รู้เรื่องนี้”
ป้าฝูสับสนมากขึ้น ในใจยังกรุ่นโกรธอยู่เล็กน้อย
อู๋เสี่ยวเจี๋ยนบอกนางว่านางคือรักเดียวในชีวิตของเขา แต่เขากลับยังคงมอบดอกไม้ให้หลินม่าย!
หลินม่ายพูดประชดประชัน “อู๋เสี่ยวเจี๋ยนไม่เพียงให้ดอกกุหลาบแก่ฉันเท่านั้น แต่ยังเขียนจดหมายมากมายมาให้ฉันด้วย อยากดูหน่อยไหมคะ?”
เธอไม่ได้โกหก
อู๋เสี่ยวเจี๋ยนเขียนจดหมายหลายฉบับถึงเธอราวกับเป็นแฟนของเธอ
ดวงดาวของผม ดวงจันทร์ของผม ห้วงคำนึงของผม…ซึ่งเหล่านี้คือคำเรียกที่อู๋เสี่ยวเจี๋ยนเขียนถึงเธอ
อันที่จริงสิ่งที่เขาเขียนมีมากมาย แต่หลินม่ายจำไม่ได้
เหตุผลที่อู๋เสี่ยวเจี๋ยนไม่เคยเขียนถึงหลินม่ายด้วยชื่อจริงของเธอ เพราะเขารู้สึกว่าเธอไม่คู่ควร
ความอ่อนโยนของเขาจะถูกมอบให้กับหลินเพ่ยเพียงผู้เดียว ส่วนผู้หญิงเลวอย่างหลินม่าย อย่าแม้แต่จะคิด!
เขาซ่อนตัวตนของเขาและเขียนถึงหลินม่ายด้วยชื่อเล่นอื่น และแสร้งทำเป็นหว่านล้อมเธอเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง
หากหลินม่ายเริ่มสงสัย เขาก็จะสามารถปฏิเสธได้ว่าตนไม่ได้เป็นผู้เขียน แต่หากเธอหลงใหล เขาก็จะทำให้เธอขายหน้า
หากหลินม่ายตกหลุมรักและเดินทางมาที่บ้านของป้าฝู เขาก็จะต่อว่าและขับไล่หลินม่ายให้อับอาย
แต่ดูเหมือนว่าเขาจะรังควานหลินม่ายอยู่ตลอดเวลา และเมื่อวานนี้หลินม่ายเพิ่งต่อสู้กับการรบกวนที่ไร้ยางอายของเขา
จากเรื่องนี้เธอก็ได้เห็นว่าอู๋เสี่ยวเจี๋ยนโหดเหี้ยมเพียงใด!
จดหมายที่อู๋เสี่ยวเจี๋ยนแสร้งเขียนถึงเธอถูกหลินม่ายโยนทิ้งทุกฉบับเพื่อไม่ให้เป็นมลพิษรกหูรกตา
ถ้าป้าฝูบอกให้เธอหยิบออกมาให้ดู เธอก็คงไม่อาจหยิบออกมาให้ดูได้สักฉบับ
เธอเลียนแบบกลยุทธ์ของจ้าวเลี่ยงเพื่อให้ป้าฝูหลงกล
และป้าฝูก็หลงกลเธออย่างจริงจัง สีหน้าของหญิงชราบูดบึ้งและเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
หลินม่ายกล่าว “บอกแฟนหนุ่มของคุณด้วยนะคะว่าอย่าใช้ชื่อเล่นว่าเยว่เหลิง เพราะฉันคิดว่าชื่อเล่นเยว่โก่วเหมาะกับเขามากกว่า”
ป้าฝูไม่พูดอะไร แต่เดินจากไปอย่างรวดเร็ว
แต่ก่อนที่จะเดินออกจากโรงอาหาร สวีชิงหยาก็รีบเร่งเข้ามาพร้อมกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของมหาวิทยาลัยสองสามคน
สวีชิงหยาชี้ไปที่ป้าฝูและพูดกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย “นี่คือป้าที่ทำร้ายเพื่อนร่วมชั้นของหล่อนในโรงอาหาร!”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสุ่มสอบถามนักศึกษาสองสามคน และทุกคนก็ยืนยันตามคำพูดของสวีชิงหยา
หลินม่ายวิ่งเหยาะ ๆ ไปรายงานเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยว่าป้าฝูดูถูกเพื่อนร่วมห้องของเธอ เธอจึงขอให้ป้าฝูขอโทษเพื่อนร่วมห้องของเธอ
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตรวจสอบเรื่องราวทั้งหมด ก่อนขอให้ป้าฝูขอโทษเพื่อนร่วมห้องของหลินม่ายและยอมรับความผิดพลาดของตน
เพื่อรักษาหน้า ป้าฝูปฏิเสธที่จะขอโทษและเอะอะโวยวายด้วยความไม่พอใจ
นางบอกว่าตนเป็นหญิงชรา จะให้ขอโทษเด็กได้อย่างไร หากใครเห็นเข้าคงไม่ดีแน่
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรกับนาง และโทรหาตำรวจในทันที
ในที่สุดนางก็โดนตำรวจสั่งสอนอย่างหนักจนไม่สามารถหนีไปไหนได้และยอมขอโทษคนอื่น ๆ
………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ป้ามาหาเรื่องผิดคนแล้ว ไปจัดการแฟนเด็กของป้าจะดีกว่านะคะ โดนเด็กหลอกให้รักแล้วยังไม่รู้ตัวอีก
ไหหม่า(海馬)