กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี – บทที่ 243 พบเจออาจารย์

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

บทที่ 243 พบเจออาจารย์

บทที่ 243 พบเจออาจารย์

หลินตงซิ่วไม่ตอบสนองต่อคำพูดของเซี่ยชิงหยวนเป็นเวลานาน

มณฑลยูนนานอยู่ใกล้กับทิเบตมาก และเธอเคยได้ยินคนพูดถึงเป็นครั้งคราวว่าที่นั่นยังวุ่นวายอยู่

เซี่ยชิงหยวนกล่าวว่า “หนูได้ยินคนพูดกันว่าถ้าไปทิเบตเพื่อสักการะ เราจะได้ใกล้ชิดกับพระพุทธเจ้ามากขึ้น”

หลินตงซิ่วไม่เข้าใจสิ่งที่เซี่ยชิงหยวนพูดถึง

แต่เธอสามารถบอกได้ว่าเซี่ยชิงหยวนต้องการทำอะไรเพื่อเสิ่นอี้โจว

เธอคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “อย่าห่วงเลย อี้โจวมีแม่อยู่ที่นี่ ที่นั่นยังไม่สงบสุขด้วย ดังนั้นลูกต้องระวังตัวเองให้มากนะ”

นับตั้งแต่อุบัติเหตุของเสิ่นอี้โจว หลินตงซิ่วได้แสดงให้เห็นถึงความร่วมมืออย่างแรงกล้า

เซี่ยชิงหยวนรู้สึกขอบคุณในใจ “ถ้าอย่างนั้นหนูจะไปซื้อตั๋วตอนนี้ และออกเดินทางให้เร็วที่สุดนะคะ”

เมื่อคืนนี้เธอคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ทั้งคืน

แทนที่จะรออย่างเฉยเมยแบบนี้ จะดีกว่าไหมถ้าลองดู

ในสายตาของคนอื่น ความคิดนี้อาจจะไร้สาระ

แต่สำหรับเธอ มันเป็นทางเลือกสุดท้าย

เธอยังคิดว่าบางทีหลังจากที่เธอจากไป เธออาจจะไม่ได้เห็นเสิ่นอี้โจวอีกเลย

แต่เธอก็ไม่สามารถหยุดได้

ชาติที่แล้วเธอทิ้งเขาก่อน แล้วชีวิตนี้เธอยังต้องดูเขาตายเฉย ๆ อีกเหรอ?

ในตอนเช้าของวันที่สอง เซี่ยชิงหยวนกล่าวลาเสิ่นอี้โจวและหลินตงซิ่ว

แสงอรุณส่องเข้ามาทางหน้าต่างส่องไปที่เตียงคนไข้

เซี่ยชิงหยวนก้มลงจูบริมฝีปากซีดและแห้งของเขาเบา ๆ

มุมริมฝีปากของเธอกระตุกขึ้น ดวงตาของเธอสบเข้ากับใบหน้าหล่อเหลาของเขา เขาดูอ่อนโยนและน่ารักสำหรับเธอ “เสิ่นอี้โจว คุณต้องรอฉันกลับมานะ”

หลินตงซิ่วมองดูเซี่ยชิงหยวนจากไป และเช็ดน้ำตาที่อดกลั้นไม่ได้อีกครั้ง

ผู้หญิงในวอร์ดตรงข้ามรอให้เซี่ยชิงหยวนออกไปก่อนที่จะถามหลินตงซิ่ว “ลูกสะใภ้ของคุณหนีไปเพราะลูกชายของคุณไม่ตื่นเหรอ?”

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลายครอบครัวที่ยากจนเกินไปจนมีผู้หญิงหลายคนที่ทิ้งผู้ชายและลูก

หลินตงซิ่วรีบหันไปจ้องหน้าอีกฝ่าย เธอผู้ไร้ประโยชน์และอ่อนแอมาตลอดชีวิตจ้องมองไปที่อีกฝ่ายและตวาดเสียงดังลั่น “อะไร! ลูกชายฉันตื่นแน่! และลูกสะใภ้ฉันไม่ใช่คนแบบนั้น สงบปากสงบคำให้มันน้อยลงหน่อยนะ!”

ผู้หญิงคนนั้นถูกหลินตงซิ่วตวาดใส่หน้าจนลืมพูดไปชั่วขณะ

เมื่อเธอตั้งสติได้ เธอชี้ไปที่หลินตงซิ่วและตะโกนกลับ “ฉันแค่หวังดีเอง ทำไมคุณต้องโกรธขนาดนี้ ฉันจะบอกคุณ…”

เธออยากจะพูดมากกว่านี้ แต่ถูกลากกลับไปโดยคนในครอบครัวที่ออกมาและขอโทษหลินตงซิ่ว

บางคนบอกว่าคนที่รักษาอยู่ในวอร์ดนี้มีทั้งคนรวยหรือคนชั้นสูง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ควรโกรธเคืองกันง่าย ๆ

หลินตงซิ่วมองไปที่วอร์ดตรงข้ามโดยที่ประตูปิดไปแล้ว เธอรู้สึกเศร้าโศกและขุ่นเคืองในใจ เธอคร่ำครวญอย่างอ่อนแรง “ลูกชายของฉันจะตื่นและลูกสะใภ้ของฉันจะกลับมา!”

เธอเดินกลับไปที่วอร์ดของเสิ่นอี้โจวอย่างเงียบ ๆ

ในขณะเดียวกัน เซี่ยชิงหยวนซื้อตั๋วรถไฟไปทิเบตเรียบร้อย

ในเวลานี้การคมนาคมในเขตปกครองตนเองทิเบตไม่สะดวกมากเท่าไหร่ เธอจึงต้องนั่งรถไฟอยู่หลายต่อกว่าจะไปถึง

นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตนี้ที่เธอมาที่ลาซา และเธอก็ต้องอดทนกับอาการแพ้ที่สูง*[1] ขึ้นเพราะสภาพแวดล้อมที่ต่างกันมากเกินไปตั้งแต่เข้าทิเบตมาเลย

เซี่ยชิงหยวนพยายามที่จะก้าวต่อไป ไม่กล้าที่จะเสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียว

ต่อมาเมื่อไม่สามารถยืนต่อไปได้ เธอก็ทรุดลงและถูกส่งไปหาหมอในท้องถิ่น

เมื่อเซี่ยชิงหยวนตื่นขึ้นมา สิ่งที่เธอเห็นคือหลังคาของบ้านสักหลาดสไตล์ทิเบต

เธอพยายามลุกขึ้นทันที แต่จากนั้นก็มีคนกดไหล่ของเธออย่างหนัก และเธอก็ล้มลงไปนอนบนเตียงอีกครั้ง

เมื่อเธอมองขึ้นไปก็เห็นชายชราผิวคล้ำมีผมเปียหลายเส้น

เขายิ้มให้เซี่ยชิงหยวนในขณะที่พูดภาษาทิเบต เขาแสดงท่าทางด้วยมือของเขา

ในชีวิตที่แล้วเซี่ยชิงหยวนได้เรียนรู้ภาษาทิเบตเพียงเล็กน้อยจากอาจารย์ของเธอ ดังนั้นเธอจึงเข้าใจเพียงครึ่งเดียว

ชายชรากำลังพูดว่า “ร่างกายของคุณอ่อนแอมาก และตอนนี้คุณยังลุกขึ้นไม่ได้”

เซี่ยชิงหยวนตอบชายชราเป็นภาษาทิเบตอย่างตะกุกตะกัก “ชายชรา ขอบคุณที่ช่วยฉันไว้นะคะ แต่ฉันมีเรื่องเร่งด่วนที่ต้องทำ และฉันต้องไปเดี๋ยวนี้ค่ะ”

“สาวน้อย ฉันเพิ่งช่วยเธอไว้ แล้วเธอกลับจะทำลายร่างกายของเธอเองแบบนี้น่ะเหรอ?”

ขณะที่ม่านที่ประตูเปิดออก ชายชราอีกคนหนึ่งก็เดินเข้ามา

เขาแต่งกายด้วยชุดชาวฮั่น รูปร่างปานกลาง ผมครึ่งหนึ่งเป็นสีขาว ใบหน้าสีแดง เขาสวมเครื่องประดับหยกปิดตาซ้ายทั้งหมด ดวงตาขวาของเขาแหลมคมมาก

ทันทีที่เซี่ยชิงหยวนมองเห็นชายชราผู้มาใหม่ ดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยน้ำตาคลอ

เธอมองเขาอย่างไม่ยอมกะพริบตา

เมื่อปี่เหลาซานเห็นเซี่ยชิงหยวนดวงตาแดงก่ำ เขาก็รู้สึกกระอักกระอ่วน “ฉันแค่บอกแนะนำเอง เธอไม่จำเป็นต้องร้องไห้สักหน่อย”

ในขณะที่พูด เขาได้เดินมาที่เตียงของเซี่ยชิงหยวนแล้ว

เซี่ยชิงหยวนไม่ตอบสนองต่อคำพูดของเขา

เธอกลิ้งลงจากเตียง คุกเข่าบนพื้นกอดขาของชายชราและร้องสะอื้นว่า “อาจารย์!”

การกระทำของเซี่ยชิงหยวนทำให้ปี่เหลาซานและหมอตกใจอย่างมาก

เกิดอะไรขึ้น?

ปี่เหลาซานตกใจมากจนเขารีบผละออกจากเซี่ยชิงหยวน “สาวน้อย เธอกำลังทำอะไรอยู่?”

เซี่ยชิงหยวนไม่คาดคิดว่าเธอจะได้พบกับอาจารย์ของเธอที่นี่

นี่คืออาจารย์ของเธอที่อายุน้อยกว่าตอนที่เธอพบในชาติที่แล้วหลายปี

ในเวลานี้ผมของเขายังไม่ขาวสนิท และเขาก็ไม่ได้แก่อย่างเห็นได้ชัด

เธอตายอย่างไม่คาดคิดในชาติที่แล้ว และเธอก็ไม่รู้ว่าเขาทำใจยอมรับกับตายของเธอยังไงหลังจากนั้น

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เซี่ยชิงหยวนก็น้ำตาไหลอีกครั้งและกอดเขาแน่นขึ้น

เมื่อรู้สึกว่ากางเกงของเขาค่อย ๆ หลุดลงมาอย่างต่อเนื่อง ปี่เหลาซานก็ยิ่งกระวนกระวายจนเขาดึงกางเกงอย่างเก้ ๆ กัง ๆ “เธอ…ปล่อยนะ กางเกงของฉันกำลังจะหลุดอยู่แล้ว!”

เป็นไปได้ไหมว่าผู้หญิงที่เขาช่วยชีวิตเป็นคนวิกลจริต?

ทันทีที่เธอเห็นเขา เธอกระโจนมากอดขาแล้วเรียกเขาว่าอาจารย์แบบไม่มีปี่มีขลุ่ยอย่างนี้

นับประสาอะไรกับหญิงสาว แม้แต่ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วยังกล้าที่จะถอดกางเกงใครสักคนแบบนี้ไหม?

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซี่ยชิงหยวนก็ไม่มีทางเลือกนอกจากปล่อยมือ

หลังจากการฝืนร่างกายเมื่อกี้นี้ หัวของเธอวิงเวียนอีกครั้ง

เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยตากะพริบ “อาจารย์”

ปี่เหลาซานอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสัย “เธอเรียกฉันว่าอะไรนะ?”

เซี่ยชิงหยวนตื่นเต้นไปหน่อยเมื่อเห็นปี่เหลาซานและสมองของเธอยังฟื้นไม่ชัดเจนนัก ดังนั้นเมื่อเธอได้สติแล้ว เธอก็จำได้ว่าตอนนี้เขายังไม่ใช่อาจารย์ของเธอ

เมื่อนึกถึงชีวิตที่แล้ว ปี่เหลาซานไล่ตามเธอเพื่อจะพาเธอไปเป็นลูกศิษย์ แต่เขาจำเธอไม่ได้ในชีวิตนี้ ดังนั้นเธอจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้า

เธอพูดอย่างตรงไปตรงมา “ฉันอยากจะเคารพคุณเป็นอาจารย์ของฉันค่ะ!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ปี่เหลาซานก็อดไม่ได้ที่จะมีความสุข เขาพูดว่า “เธอรู้ไหมว่าฉันทำอะไร? จู่ ๆ เธออยากมาให้ฉันเป็นอาจารย์เนี่ยนะ?”

เดิมทีเซี่ยชิงหยวนคิดว่าคงเป็นเรื่องยากสำหรับเธอที่จะพบกับอาจารย์อีกครั้งหากเธอเกิดใหม่ในชีวิตนี้ และเปลี่ยนเส้นทางเดิมของเหตุการณ์

ตอนนี้เธอพบเขาทันทีที่ก้าวเข้าสู่ลาซา ไม่งั้นเธอก็คงไม่รู้ว่าจะไปหาเขาที่ไหน

อาจารย์ของเธอเดินทางไปทั่วประเทศตลอดทั้งปีและมีที่อยู่อาศัยไม่แน่นอน

เมื่อพบแล้ว เธอต้องรักษาเขาไว้ให้ดี

หรืออย่างแย่ที่สุดเธอก็ต้องได้วิธีการติดต่อเขาไว้เพื่อที่เธอจะได้หาเขาพบในอนาคต

เธอเริ่มพูดเรื่องไร้สาระในท่าทางที่จริงจัง “ของที่นิ้วนางที่คุณสวมใส่อยู่ มันคือหยกเหอเถียน และหยกสีขาวของหยกเหอเถียนนั้นเป็นเกรดสูงสุดในบรรดาหยก”

“และจี้ที่คุณสวมใส่ที่เอวคือหยกเจไดต์ชนิดที่เป็นน้ำแข็งและเรียบโปร่งใส ไม่มีตำหนิใด ๆ เป็นหยกชั้นยอด”

“เมื่อเห็นเสื้อผ้าที่เรียบง่ายของคุณและความสึกหรอที่พื้นรองเท้าอย่างชัดเจน ฉันคิดกับตัวเองว่าคุณน่าจะเป็นพ่อค้าหยก ผู้สะสมหยกทุกชนิด”

“ฉันศึกษาหยกมาตั้งแต่เด็ก และตอนนี้พอฉันเห็นคุณ ความรู้สึกใกล้ชิดมันเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า”

“คุณช่วยชีวิตฉัน เป็นเหมือนพ่อแม่ให้ฉันได้เกิดใหม่ ฉันจึงถือวิสาสะขอให้คุณเป็นอาจารย์ ช่วยสอนสิ่งต่าง ๆ ให้ฉันด้วยค่ะ”

เธอเงยหน้าขึ้นมองปี่เหลาซานด้วยแววตาที่เปี่ยมด้วยความคาดหวัง “ไม่ทราบว่าผู้อาวุโสคิดเห็นยังไงบ้างคะ?”

* อาการแพ้ที่สูง หรือ เกาเหวียนฝั่นอิ้ง (高原反应) แต้จิ๋วว่า “เกา ง้วง หวง อิ่ง” หรือเรียกสั้น ๆ ว่า “เกาฝั่น” 高反 (เกาฮ่วง – แต้จิ๋ว) กล่าวคือ เมื่อไปถึงที่สูงขึ้น ๆ อากาศ (ออกซิเจน) จะเบาบางลง ทำให้หายใจไม่สะดวก บางคนจะรู้สึกปวดศีรษะหรือปวดท้ายทอย หายใจหอบหรือหายใจไม่ทัน เหนื่อยง่าย บ้างก็มีอาการท้องไส้ปั่นป่วน ท้องเสีย หรืออาจอาเจียน กินอาหารไม่ได้

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

Status: Ongoing
หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ประสบอุบัติตุจนเสียชีวิต และเธอก็ได้ย้อนไปตอนที่เธออายุ 21 ปี …ลับมาครั้งนี้เธอจะไม่ยอมหย่ากับเสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธออีกเด็ดขาด!หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ช่วยเด็กชายคนหนึ่งเอาไว้จนประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตปีแล้วปีเล่าผ่านไป เสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธอก็มักจะมายี่ยมหลุมศพของเธอประจำ เธอในร่างวิญญาณออกปากไล่เขาทุกครั้งต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้ยิน เขาจำไม่ได้เลยหรืออย่างไร ว่าเธอทำอะไรกับเขาไว้บ้าง แต่แล้วเธอก็ได้ย้อนกลับมาใน ในวันที่เธออายุ 21 ปี แลยังไม่ได้หย่าขาดกับเสิ่นอี้โจว ในเมื่อเธอได้โอกาสอีกครั้งนี้ เธอจะไม่ยอมหย่าเด็ดขาด ครั้งนี้เธอจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นกับเสิ่นอื้โจวได้จงได้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท