กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี – บทที่ 261 คุณชอบไหม

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

บทที่ 261 คุณชอบไหม

บทที่ 261 คุณชอบไหม

จู่ ๆ เซี่ยชิงหยวนก็จำความรู้สึกที่เคยได้สัมผัสเมื่อตอนถูกเกลี้ยกล่อมให้ช่วยเขาที่โรงพยาบาลในวันนั้น

ใจเธอสั่นจนอยากจะถอนมือออก

เสิ่นอี้โจวยกสะโพกของเธอขึ้น และฝ่ามือของเขาก็แตะมันอย่างง่ายดาย

ผ่านเนื้อผ้าชุดนอนที่เรียบลื่น สัมผัสไม่เด่นชัด

อุณหภูมิที่แผดเผาลอดไปถึง ฝ่ามือก็พลันร้อนขึ้นอย่างรวดเร็ว

เมื่อไม่สามารถขยับมือได้ เซี่ยชิงหยวนจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจ้องมองเขา “รีบพาฉันลุกขึ้นเร็ว ๆ ถ้าแม่หรือคนอื่นตื่นขึ้นมาเห็นเข้ามันจะไม่ดีนะ”

เมื่อได้ยินแบบนี้ เสิ่นอี้โจวก็หยุดขยับมือแล้วพูดว่า “ในอนาคตเมื่อเราเปลี่ยนไปอยู่บ้านหลังใหญ่ เราสองคนจะครองทั้งชั้นไปเลย”

ขณะที่เขาพูด เขาก็โน้มตัวเข้ามาใกล้หูภรรยา “เมื่อเป็นแบบนั้น เราจะได้ไม่ต้องฝืนทนอะไรอีกแล้ว”

ริมฝีปากของเขาคลี่ยิ้มจาง ๆ “ตัวคุณเองก็จะได้ไม่ต้องกัดหมอนกัดผ้านวมให้มันเป็นรอยฟันและต้องซ่อมบ่อย ๆ ด้วย”

เซี่ยชิงหยวนรู้สึกอับอายมากพลันพูดทันที “หุบปากไปเลย”

ขณะที่พูด หญิงสาวก็พยายามที่จะลุกขึ้น

เสิ่นอี้โจวไม่ปล่อยให้เธอทำสำเร็จ

เขาจับหญิงสาวตรงหน้าไว้ในอ้อมแขน ยกขาเธอข้างหนึ่งพลางโน้มกายลงทับ

เขาเอ่ยว่า “สิ่งที่ผมพูด คุณเห็นด้วยไหม?”

ดวงตาของเขาร้อนแรงเกินไป ซึ่งทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นและต้องมองไปทางอื่นอย่างรวดเร็ว

จากนั้นน้ำเสียงหวานๆ ก็ดังออกมาจากลำคอของเธอ “ค่ะ”

เสิ่นอี้โจวอารมณ์ดี

เขาจูบแก้มเธออย่างแรง “ดีมาก”

จากนั้นเขาก็ปล่อยเธอและยืนขึ้น “รอผมก่อนนะ ผมจะไปอาบน้ำ”

เซี่ยชิงหยวนเงยหน้าขึ้นมองเขา ชายหนุ่มกำลังถอดเนกไทแบบสบาย ๆ มีความเกียจคร้านอยู่บนใบหน้า ซึ่งเป็นด้านที่เขาจะไม่แสดงตามปกติ

เธอรู้สึกหน้าแดงขึ้นมาอีกครั้ง

เธอก้มศีรษะลงและตอบว่า “อืม”

พลางรีบลุกขึ้นจากโซฟาและกลับไปที่ห้องด้วยความตื่นตระหนก

เมื่อเสิ่นอี้โจวออกมาจากห้องอาบน้ำ มีเพียงไฟกลางคืนดวงเล็ก ๆ ที่เปิดเหลืออยู่ในห้องเท่านั้น

เซี่ยชิงหยวนนอนอยู่บนเตียงโดยหลับตาลง ราวกับว่าเธอหลับไปแล้ว

เสิ่นอี้โจวส่ายหัว แววตาของเขาเอ่อล้นไปด้วยความเสน่หา

เขาแขวนผ้าเช็ดตัวไว้ที่ราว แล้วนั่งบนขอบเตียง และพอกำลังจะปิดไฟเข้านอน ราวกับว่าเขาค้นพบบางสิ่ง เขาจึงหันศีรษะไปอีก

เขากลับพบว่าเปลือกตาของเซี่ยชิงหยวนที่ปิดอยู่เคลื่อนไหว และขนตาสั่นเล็กน้อย

แสดงว่าแกล้งหลับแน่ ๆ

เสิ่นอี้โจวไม่ได้สะกิดเธอ เขายกมือขึ้นแล้วปิดไฟ

ทั้งห้องตกอยู่ในความมืดทันที เขาคลำหาขอบผ้านวมแล้วล้มตัวลงนอน

ในช่วงเวลาต่อมา สัมผัสที่นุ่มนวลและละเอียดอ่อนก็มาถึง เซี่ยชิงหยวนก็กลิ้งเข้าสู่อ้อมแขนของเขา

ไม่ว่าสัมผัสตรงไหน มันก็เปลือยเปล่า…

ความตกใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเสิ่นอี้โจวก่อนที่เขาจะทันได้ตอบสนอง เซี่ยชิงหยวนก็กลิ้งมาขึ้นคร่อมเขาแล้ว

ในความมืด มีเพียงฟันขาวของเธอเท่านั้นที่สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนเมื่อเจ้าตัวยิ้ม

เมื่อรู้สึกได้ทั้งร่างกายของเธอ เขารู้สึกแข็งทื่อไปหมด

เซี่ยชิงหยวนพูดว่า “คุณ…คุณชอบไหม?”

เสียงของเธอสั่น เห็นได้ชัดว่าประหม่ากับเหตุการณ์นี้

ฝ่ามือขนาดใหญ่ของเสิ่นอี้โจวลูบไล้แผ่นหลังของเธอ และไล้ไปตามแผ่นหลังเนียนจนถึงเอว เขาอดไม่ได้ที่จะบีบคลึงมัน

มุมปากของเขายกขึ้นและดวงตาของเขาก็ส่องประกาย “ผมชอบนะ”

หลังจากพูดจบ ฝ่ามือใหญ่อีกข้างของเขาก็โอบหลังคอของเธอ กดภรรยาเข้าหาและมอบจูบทันที

ชายหนุ่มพลิกกลับอีกครั้ง เซี่ยชิงหยวนจึงนอนอยู่ใต้ร่างของเขาอย่างรวดเร็ว

เซี่ยชิงหยวนไม่พอใจกับท่าทางที่พลิกกลับเท่าไหร่นัก และพยายามดิ้นรน

เสิ่นอี้โจวเข้าใจความตั้งใจของเธอและเลิกคิ้วถาม “คุณต้องการที่จะอยู่ด้านบนเหรอ?”

เซี่ยชิงหยวนพยักหน้าอย่างจริงใจ

เสิ่นอี้โจวเอ่ย “ไว้เมื่อร่างกายของคุณแข็งแรงดีแล้ว ผมจะให้คุณอยู่ด้านบนแล้วกัน”

ริมฝีปากของเขาค่อย ๆ เข้าหาเธอ “เพราะต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการอยู่ด้านบนเชียวแหละ”

เขาจูบที่ติ่งหูของเธอ “ผมเกรงว่าคุณจะเหนื่อยเปล่าๆ น่ะ”

หลังจาก ‘ดิ้นรน’ ตลอดทั้งคืน เซี่ยชิงหยวนก็เกือบจะลุกขึ้นไม่ได้

เสิ่นอี้โจวลูบเอวและขาของเธอเป็นเวลานานก่อนที่จะออกไป

เธอยังคงรู้สึกเจ็บและระบมกาย วันนี้เธอจะไปร้านตรอกเก่าด้วยสิ ดังนั้นเธอจะผิดสัญญาไม่ได้

เธอลากเอวที่ปวดร้าวลุกไปแปรงฟันในขณะที่งัวเงียอยู่

แต่แล้วขณะที่แปรงฟัน เธอก็ได้ยินเสียงของเติ้งซูอี้คุยกับใครบางคน

ผู้หญิงคนหนึ่งถามว่า “สามีของคุณ เมื่อคืนเขาไม่กลับมาบ้านงั้นเหรอ?”

เติ้งซูอี้พยักหน้า “ใช่”

มีความรู้สึกอวดดีทั้ง ๆ ที่น้ำเสียงเหมือนทำอะไรไม่ถูก “ผู้คนระดับสูงของมณฑลกับเมืองหลวงมาน่ะ หากไม่มีสามีของฉันคอยตามน้ำไป มันก็จะดูไม่เหมาะสมกับสถานการณ์เท่าไหร่ด้วย”

คนหนึ่งชนแก้ว อีกคนก็ชนแก้ว จะไม่เมาได้ยังไง?

สองวันมานี้เธอรู้สึกไม่ค่อยสบาย จึงไม่ได้กลับมาให้เธอดูแล และเลือกที่จะพักผ่อนในหอพักแทน

ผู้หญิงคนนั้นถอนหายใจ “สามีของคุณเขารักคุณจริง ๆ”

เติ้งซูอี้เชิดหน้าชูคอ “ใช่แล้ว ผ้าไหมพันคอที่พันรอบคอของฉันอันนี้เขาก็เป็นคนซื้อให้ฉันเมื่อเดินทางไปทำธุระครั้งที่แล้วด้วยนะ”

ทั้งสองบังเอิญเดินคุยกันผ่านหน้าบ้านของเซี่ยชิงหยวนพอดี

เติ้งซูอี้ไม่พูดอะไร แต่เงยหน้าขึ้นพลางพ่นลมหายใจเบา ๆ แล้วเดินจากไป

ผู้หญิงที่อยู่กับเธอดูกระอักกระอ่วน ทำเพียงทักทายเซี่ยชิงหยวนแล้วตามไปอย่างรวดเร็ว

เซี่ยชิงหยวนชำเลืองมองที่ผ้าไหมพันคอรอบคอของเติ้งซูอี้ พ่นลมหายใจแล้วกลับเข้าไปในบ้าน

ในระหว่างรับประทานอาหารเช้า เซี่ยชิงหยวนนึกถึงสิ่งที่เธอได้ยินในตอนเช้าและถามเสิ่นอี้โจวอย่างสบาย ๆ “เมื่อคืนมีคนเมาเยอะเลยเหรอ?”

เสิ่นอี้โจวพยักหน้า “ก็มีไม่น้อยนะ เฉพาะคนที่กินร่วมโต๊ะเดียวกับผมก็มีสามคนแล้วที่กลับบ้านไม่ได้ และต้องค้างที่หอพักของศาลากลาง”

หลังจากได้ยินคำพูดของเสิ่นอี้โจว เซี่ยชิงหยวนก็มีความคิดหนึ่งขึ้นมาทันที เธอจึงถามว่า “เมื่อคืนคุณเห็นจางอวี้เอ๋อรึเปล่า?”

มือของเสิ่นอี้โจวที่ถือชามหยุดลง ราวกับว่าเขาเข้าใจอะไรบางอย่าง

เมื่อนึกถึงร่างหนึ่งที่เห็นแวบ ๆ เมื่อคืนนี้เขาก็ครุ่นคิด “ผมเห็นใครบางคนตอนก่อนงานเลี้ยงจะเลิกนะ แต่ผมไม่แน่ใจว่าใช่เธอรึเปล่า”

เขาหยุดชั่วคราวราวกับล้อเลียน “ยังไงซะ เธอก็เลือกเอง ไม่ว่าจะดีหรือร้ายจะมาโทษคนอื่นทีหลังไม่ได้”

ในโอกาสเช่นเมื่อคืนนี้ โรงอาหารจะยุ่งมากเช่นเดียวกับแผนกบริการและสำนักเลขาธิการ ไม่ว่าในกรณีใดจางอวี้เอ๋อควรจะไม่อยู่ที่นั่น

แต่ถ้าจางอวี้เอ๋ออยู่ที่นั่นจริง ๆ เขาก็ไม่ใส่ใจที่จะหาเหตุผล

เพราะเขาดูถูกผู้หญิงคนนั้นจริง ๆ

มีหรือที่เซี่ยชิงหยวนจะไม่เข้าใจ

หญิงสาวเพียงแค่ต้องรอให้เวลามาถึงแล้วค่อยผลักมัน แต่แล้วจางอวี้เอ๋อก็อดไม่ได้ที่จะกระโดดออกไปเอง

เธอพยักหน้า และยิ้มให้เสิ่นอี้โจว “คุณพูดถูก”

ณ ศาลากลาง

ถึงเวลาพักเที่ยง ทุกคนไปโรงอาหารเพื่อกินข้าว

ฉู่ซิงอวี่กำลังเดินไปที่โรงอาหาร ย่างก้าวของเขาอ่อนแรง

อาการเมาค้างจากเมื่อคืนทำให้เขาวิงเวียนศีรษะ

หลิงเยี่ยไล่ตามเขาจากด้านหลัง “เมื่อคืนนายดื่มเยอะมากรึไง?”

เมื่อเห็นอีกฝ่าย ฉู่ซิงอวี่ก็พยักหน้า “นายกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”

หลิงเยี่ยพยักหน้า “เมื่อเช้านี้เอง พอฉันกลับมาที่หอพัก ฉันเห็นว่าเตียงของนายว่างเปล่า ฉันเลยสงสัยว่าเมื่อคืนนายไม่ได้กลับไปนอนสินะ”

ฉู่ซิงอวี่นวดขมับของเขา “มีแขกมาประมาณสิบคนได้ มีทั้งคนระดับกลางและระดับสูง ศาลากลางของเราถูกเรียกตัวมาทักทายเป็นจำนวนมาก และกว่างานเลี้ยงจะเลิกมันก็ดึกแล้ว ดังนั้นฉันจึงนอนพักที่หอพักของศาลากลางไปเลยน่ะ”

ฉากเมื่อคืนนี้ปรากฏขึ้นในใจของฉู่ซิงอวี่อีกครั้ง มันทำให้เขารู้สึกขยะแขยงผู้หญิงคนนั้นมาก

เมื่อมองไปทางอื่น ดวงตาของเขาแข็งค้างอีกครั้ง

หลิงเยี่ยที่กำลังฟัง ทันใดนั้นเขาเห็นฉู่ซิงอวี่หยุดกะทันหันและจ้องมองไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง

หลิงเยี่ยถามขึ้นมา “มีอะไรเหรอ?”

จางอวี้เอ๋อออกมากินข้าวกลางวันด้วย แต่เธอไม่คาดคิดว่าจะได้พบกับฉู่ซิงอวี่

เธอต้องการซ่อนตัวโดยไม่รู้ตัว แต่ทันใดนั้นก็หยุดและเชิดหน้าอกขึ้นสูงดูเหมือนคนร้ายที่ไร้ยางอาย

ฉู่ซิงอวี่มองไปทางจางอวี้เอ๋อด้วยสีหน้าสงบ “ไม่มีอะไร เราไปกันเถอะ”

เขาจำได้ว่าผู้หญิงในห้องเมื่อคืนนี้เป็นจางอวี้เอ๋อที่อยู่ตรงหน้าเขา

เขาเคยเห็นเธอสองสามครั้งในโรงอาหารมาก่อน ปกติเธอจะแสดงสีหน้าอบอุ่นและสุภาพต่อหน้าเขามาก

เดิมทีเขาคิดว่าการบุกเข้ามาในห้องตอนที่เขาเมานั่นคือจุดสูงสุดของสิ่งที่เธอจะทำได้ แต่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะไร้ยางอายได้ขนาดนี้

จางอวี้เอ๋อไม่ได้แสดงอาการรู้สึกผิดเมื่อเห็นเขาเลย

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

Status: Ongoing
หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ประสบอุบัติตุจนเสียชีวิต และเธอก็ได้ย้อนไปตอนที่เธออายุ 21 ปี …ลับมาครั้งนี้เธอจะไม่ยอมหย่ากับเสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธออีกเด็ดขาด!หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ช่วยเด็กชายคนหนึ่งเอาไว้จนประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตปีแล้วปีเล่าผ่านไป เสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธอก็มักจะมายี่ยมหลุมศพของเธอประจำ เธอในร่างวิญญาณออกปากไล่เขาทุกครั้งต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้ยิน เขาจำไม่ได้เลยหรืออย่างไร ว่าเธอทำอะไรกับเขาไว้บ้าง แต่แล้วเธอก็ได้ย้อนกลับมาใน ในวันที่เธออายุ 21 ปี แลยังไม่ได้หย่าขาดกับเสิ่นอี้โจว ในเมื่อเธอได้โอกาสอีกครั้งนี้ เธอจะไม่ยอมหย่าเด็ดขาด ครั้งนี้เธอจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นกับเสิ่นอื้โจวได้จงได้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท