กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี – บทที่ 257 ในที่สุดก็ได้ชีวิตใหม่

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

บทที่ 257 ในที่สุดก็ได้ชีวิตใหม่

บทที่ 257 ในที่สุดก็ได้ชีวิตใหม่

ติงเหม่ยเซียนตกใจมากกับคำพูดของเจียงเพ่ยหลานที่บอกว่าจะไปสำนักงานรักษาความปลอดภัยสาธารณะเพื่อหาพยาน เพียงเท่านั้นหญิงชราก็ปิดปากเงียบทันที

ย้อนกลับไปตอนที่เธอไปยังสำนักงานรักษาความปลอดภัยสาธารณะ เนื่องจาก เจียงเพ่ยหลานมีรายงานการบาดเจ็บและเซี่ยชิงหยวนช่วยเป็นพยาน เธอกับหลินจื้อเฉียงจึงต้องทำงานหนักก่อนที่จะได้รับการปล่อยตัว

พอนึกถึงตอนนี้แล้วก็ยังกลัวอยู่เลย

เมื่อทุกคนเห็นการแสดงออกของติงเหม่ยเซียน พวกเขาก็รู้ทันทีว่าเจียงเพ่ยหลานไม่ได้โกหกและทุกคนก็มองอย่างดูถูกไปที่หญิงชรา

ลูกค้าขาประจำบ่นทันที “คุณปฏิบัติต่อคนอื่นอย่างเลวร้าย แต่คุณยังกล้าขอให้เขาไปดูแลลูกชายของคุณอีกเนี่ยนะ คุณหน้าด้านขนาดนี้ได้ยังไง?”

“ลูกชายคุณมีน้ำใจต่อครอบครัวลูกสาวคุณไม่ใช่เหรอ? ทำไมไม่ไปขอให้ลูกสาวของคุณดูแลเขาแทนล่ะ?”

“นี่แหละมันคือเวรกรรมตามทัน!”

ติงเม่ยเซียนเดิมทีต้องการใช้ความเห็นอกเห็นใจของทุกคนเพื่อบีบบังคับให้เจียงเพ่ยหลานดูแลหลินจื้อเฉียง และจะดีมากถ้าทั้งสองสามารถแต่งงานใหม่ได้

แต่เธอจะรู้ได้ยังไงว่าในชั่วพริบตาเดียว ตัวเองจะกลายเป็นหนูท่อที่ทุกคนตะโกนใส่และไล่ทุบตีแทน?

เธอมองไปยังเซี่ยชิงหยวนที่ยืนอยู่ด้านข้างด้วยท่าทางไม่แยแส จากนั้นมองไปที่เจียงเพ่ยหลาน ซึ่งกำลังแสดงออกค่อนข้างคล้ายกับเซี่ยชิงหยวน และทันใดเธอนั้นก็เข้าใจ

ทั้งหมดนี้เกิดจากเซี่ยชิงหยวน

เซี่ยชิงหยวนเป็นคนที่สนับสนุนให้เจียงเพ่ยหลานหย่าร้าง และเป็นคนที่สนับสนุนให้เจียงเพ่ยหลานต่อต้านเธอต่อหน้าผู้คนมากมาย

หญิงชราต้องการที่จะรีบลุกขึ้นและตะโกนใส่เซี่ยชิงหยวนเหมือนที่ทำกับเจียงเพ่ยหลาน แต่เมื่อเธอมองเข้าไปในดวงตาของเซี่ยชิงหยวน หญิงชราพลันรู้สึกได้ถึงความกลัวที่ไม่อาจอธิบายได้

ก่อนมาที่นี่ หลินจื้อเฉียงเตือนเธอซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าอย่าขัดแย้งกับเซี่ยชิงหยวน

เพราะตอนนี้เซี่ยชิงหยวนกลายเป็นตัวตนที่แตกต่างจากพวกเขาอย่างสิ้นเชิงแล้ว

ใบหน้าของติงเหม่ยเซียนเปลี่ยนเป็นมืดหม่น และมือของเธอที่จับเจียงเพ่ยหลานไว้ก็คลายออก

อาเซียงฉวยโอกาสดึงเจียงเพ่ยหลานออกมาทันที

เจียงเพ่ยหลานกล่าวว่า “ไปซะเถอะ ย้อนกลับไปตอนนั้น อี้ตั่วกับฉันก็สามารถผ่านความยากลำบากมาได้ และฉันก็เชื่อว่าพวกคุณก็สามารถทำได้เช่นกัน”

ติงเหม่ยเซียนรู้สึกไม่เต็มใจ

เธอมองเจียงเพ่ยหลานอย่างลึกซึ้งและยิ้มอย่างมีความหมาย “เพ่ยหลาน ตอนนี้เธอคิดว่าตัวเองปีกกล้าขาแข็งแล้วสินะ”

เธอจะไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ หรอก

หากเจียงเพ่ยหลานไม่กลับไป มันจะเป็นเธอที่ต้องทนทุกข์ทรมาน

หลังจากพูดจบ หญิงชราก็ลุกขึ้นจากพื้น ฝ่าฝูงชนและจากไป

เมื่อติงเหม่ยเซียนจากไป ฝูงชนก็เริ่มแยกย้ายกันไปเช่นกัน

บางคนก้าวเข้ามาเพื่อปลอบใจเจียงเพ่ยหลาน

เจียงเพ่ยหลานขอบคุณพวกเขาด้วยรอยยิ้ม ดวงตาที่โกรธและรู้สึกอยุติธรรมจางหายไป ตอนนี้มันดูเหมือนเธอได้เกิดใหม่หลังจากหายนะ

เธอเงยหน้าขึ้นและพยักหน้าให้กับเซี่ยชิงหยวนที่ยืนมองเธออยู่ ดวงตาของเธอร้อนผ่าวและร้องตะโกนว่า “ชิงหยวน”

เซี่ยชิงหยวนเดินเข้ามาและกุมมือที่สั่นเทาของเจีงเพ่ยหลาน

“ขอแสดงความยินดีด้วยนะ เมื่อกี้เธอยอดเยี่ยมมากเลย”

นี่คือคำยืนยันของเจียงเพ่ยหลาน

สุดท้ายเธอก็ได้ชีวิตใหม่สักที

การหย่าร้างเป็นขั้นตอนแรก และการต่อต้านติงเหม่ยเซียนกับหลินจื้อเฉียงด้วยกำลังของตัวเองเป็นขั้นตอนที่สอง ซึ่งมันสำคัญที่สุด

เจียงเพ่ยหลานที่เคยขี้ขลาด ไม่ขี้ขลาดอีกต่อไปแล้ว เธอรู้สึกโล่งใจมาก

น้ำตาขนาดเท่าเม็ดถั่วไหลออกมาจากตาของเจียงเพ่ยหลาน

ปรากฏว่าเซี่ยชิงหยวนกำลังรอให้เธอหลุดออกจากดักแด้และกลายเป็นผีเสื้อ

เธอสะอื้นไห้และพูดว่า “ชิงหยวน ขอบคุณนะ”

มุมปากของเซี่ยชิงหยวนโค้งขึ้น และเธอกะพริบตาให้เจียงเพ่ยหลาน “ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย”

ถัดมาภายในร้าน อาเซียงกับเจียงเพ่ยหลานหยิบเอาสมุดบัญชีออกมาและรายงานรายได้ในช่วงเวลาที่ผ่านมาให้เซี่ยชิงหยวนทราบ

ในขณะที่ฟัง เซี่ยชิงหยวนก็เล่นลูกคิดของเธอไปด้วยราวกับว่าเรื่องตลกเหตุการณ์ในตอนเช้าไม่ได้ส่งผลกระทบต่อพวกเธอแต่อย่างใด

ในไม่ช้า เซี่ยชิงหยวนก็ทำบัญชีเสร็จ

อย่างแรกคือขายเสื้อผ้า

ครั้งล่าสุดที่เธอไปกว่างโจวเพื่อซื้อสินค้า ยังมีสินค้าเหลืออยู่มากกว่าแปดร้อยชิ้น และเธอมีรายได้มากกว่าสี่พันหยวนในเวลาเพียงเดือนเดียว

กำไรครั้งนี้สูงมาก ส่วนใหญ่เป็นเพราะราคาซื้อเสื้อผ้าชุดนี้ต่ำ

แต่เสื้อผ้าที่ซื้อมารอบนี้มันเป็นการโละขายของโรงงาน ดังนั้นเธออาจจะไม่สามารถได้ราคาถูกแบบนี้ตลอดไป

อันที่จริง นี่เป็นเพราะสภาพอากาศของมณฑลยูนนานด้วย

เมืองส่วนใหญ่ทั่วประเทศได้เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้ว เมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นแบบฤดูใบไม้ร่วง ผู้คนในมณฑลยูนนานยังคงสวมเสื้อผ้าแขนสั้นในตอนกลางวัน แต่อุณหภูมิจะเย็นลงในเวลากลางคืน

ปกติแล้วเวลาอยู่บ้านในตอนกลางคืน ใครจะสนว่าการแต่งตัวกัน?

ดังนั้นเสื้อผ้าฤดูร้อนที่เอาไว้สวมใส่ระหว่างวันจึงกลายเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

เซี่ยชิงหยวนคำนวณอย่างคร่าว ๆ และในช่วงสามเดือนที่ผ่านมาตั้งแต่ขายเสื้อผ้า เธอมีรายได้รวมมากกว่าเก้าพันหยวน

และนี่เป็นยอดขายที่ตัวเธอมักจะไม่ได้อยู่ขายด้วย

ส่วนร้านตรอกเก่าก็มีเงินมากกว่าสามพันหยวนเข้ามาในบัญชี

ทั้งสองธุรกิจได้เงินรวมกันมากกว่าหนึ่งหมื่นสามพันหยวน!

เซี่ยชิงหยวนไม่สามารถระงับรอยยิ้มที่มุมปากของเธอได้เลย

ตอนนี้เธอเป็นเศรษฐีแล้ว!

ด้วยเงินมากกว่าหมื่นหยวน เธอใกล้จะเข้าสู่โลกของหยกแล้ว!

ตอนนี้เธอจึงเรียกหาเจียงเพ่ยหลานให้มาหา

เซี่ยชิงหยวนนับเงินจำนวนหกสิบหยวน และมอบให้เจียงเพ่ยหลาน “เพ่ยหลาน นี่คือเงินเดือนของเธอสำหรับเดือนที่แล้วนะ”

เจียงเพ่ยหลานเห็นว่ามันมีมากกว่าเดือนที่ผ่านมาประมาณสิบหยวน และเธอก็ไม่ยอมรับ

เซี่ยชิงหยวนยืนกราน “เธอสมควรได้รับมันแล้ว มีช่วงหนึ่งที่แม่กับฉันไม่ได้อยู่ที่นี่และร้านตรอกเก่าก็ได้รับการดูแลจากเธอโดยตรง ถ้าเธอยังปฏิเสธอีก ฉันจะถือว่าเธอไม่รักษาน้ำใจฉันแล้วนะ”

เจียงเพ่ยหลานได้ยินแบบนี้ก็รู้สึกตื้นตัน เธอรับเงินก่อนจะพยักหน้า “ขอบคุณนะ ชิงหยวน”

เซี่ยชิงหยวนเรียกให้อาเซียงและอาจ้วงเข้ามาอีกครั้ง “นี่คือเงินเดือนของเธอสองคนในช่วงเวลาที่ผ่านมานะ”

เมื่ออาเซียงเห็นว่าอาจ้วงได้รับเงินเช่นกัน เธอก็รีบดึงมือน้องชายออกทันที “พี่สาวเซี่ย อาจ้วงมาที่นี่เพื่อช่วยฉันเท่านั้น จะต้องเงินให้ทำไมล่ะคะ?”

เซี่ยชิงหยวนยิ้ม “ถ้าไม่มีอาจ้วงที่ร้านตรอกเก่านี้ เธอกับเพ่ยหลานสองคนจะทำกันไหวได้ยังไง?”

เซี่ยชิงหยวนแสร้งทำเป็นโกรธ “ถ้าเธอไม่ให้อาจ้วงรับไว้ ในอนาคตพี่จะไม่ขอความช่วยเหลืออะไรจากพวกเธออีกแล้วนะ”

เมื่อเห็นแบบนี้ อาจ้วงก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากรับเงิน และโค้งขอบคุณเซี่ยชิงหยวน

“ขอบคุณ พี่สาวเซี่ย!”

สองพี่น้องนับเงินแล้วกลายเป็นว่าพวกเขาคนหนึ่งได้หกสิบหยวน และอีกคนได้สามสิบหยวน ทั้งสองตกใจมากจนพวกเขาต้องการคืนเงินอีกครั้ง

เซี่ยชิงหยวนหาวและโบกมือให้พวกเขาออกไป และเธอก็เตรียมตัวที่จะออกไปซื้อของชำ

เซี่ยชิงหยวนออกไปซื้อผักและวัตถุดิบในตลาด แล้วกลับมาช่วยงานที่ร้านอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะพูดสั่งเจียงเพ่ยหลานและคนอื่น ๆ ไว้แล้วกลับบ้าน

โดยไม่คาดคิด เมื่อกลับถึงบ้าน เธอก็พบทั้งหลิงเยี่ยและฉู่ซิงอวี่อยู่ในบ้านด้วย

พวกเขานั่งอยู่บนโซฟา หันหน้าไปทางเสิ่นอี้โจวและพูดถึงบางสิ่งด้วยเสียงเบา

แต่ถึงอย่างนั้น คำว่า ‘เมืองหลวง’ และ ‘เมืองหลวงของมณฑล’ ก็เข้าหูของเซี่ยชิงหยวนโดยไม่ได้ตั้งใจ

เมื่อได้ยินเสียงเธอเดินเข้ามา พวกเขาทั้งหมดหันศีรษะและมองเซี่ยชิงหยวนด้วยความประหลาดใจทันที

มุมปากของเสิ่นอี้โจวโค้งขึ้น คิ้วและดวงตาของเขาพลันอ่อนลง “กลับมาแล้วเหรอ?”

หลิงเยี่ยรู้สึกตัวเช่นกัน

เขาลุกขึ้นยืนและพยักหน้าให้เซี่ยชิงหยวน “สวัสดีครับคุณนาย”

นี่เป็นครั้งแรกที่ทั้งสองพบกัน นับตั้งแต่ที่พวกเขาพูดอย่างชัดเจนในครั้งนั้น

เซี่ยชิงหยวนสงบลง และทักทายอย่างใจเย็น “สวัสดีค่ะ”

ฉู่ซิงอวี่ลุกขึ้นอย่างช้า ๆ และเอ่ยทักออกไปเช่นกัน “สวัสดีครับคุณนาย”

เซี่ยชิงหยวนกล่าวว่า “พวกคุณคุยกันต่อไปเถอะ ฉันจะไปทำอาหารในครัวค่ะ”

จากนั้นเธอพูดกับทั้งสองอีกครั้งว่า “นี่ก็เกือบจะเที่ยงแล้ว ทำไมพวกคุณไม่อยู่ทานข้าวด้วยกันล่ะ”

แววตาของเธอจริงใจและใจกว้าง หญิงสาวไม่หลบสายตาเลยแม้จะมีเรื่องบางอย่างก่อนหน้านี้

หลิงเยี่ยสังเกตเห็นว่าฉู่ซิงอวี่มองเซี่ยชิงหยวนในแบบที่แตกต่างออกไป จากนั้นจึงจำได้ถึงเรื่องที่พวกเขาเคยระบายแก่กันตอนกินเหล้า และเขาก็เข้าใจทุกอย่างได้ในที่สุด

เขายืนนิ่ง ๆ พลางกระแอมในลำคอ “เราคงไม่รบกวนคุณนายหรอกครับ เรากำลังจะไปแล้วน่ะครับ”

ฉู่ซิงอวี่กล่าวต่อ “ใช่ครับคุณนาย เดี๋ยวเราก็กลับกันแล้วครับ”

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

Status: Ongoing
หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ประสบอุบัติตุจนเสียชีวิต และเธอก็ได้ย้อนไปตอนที่เธออายุ 21 ปี …ลับมาครั้งนี้เธอจะไม่ยอมหย่ากับเสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธออีกเด็ดขาด!หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ช่วยเด็กชายคนหนึ่งเอาไว้จนประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตปีแล้วปีเล่าผ่านไป เสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธอก็มักจะมายี่ยมหลุมศพของเธอประจำ เธอในร่างวิญญาณออกปากไล่เขาทุกครั้งต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้ยิน เขาจำไม่ได้เลยหรืออย่างไร ว่าเธอทำอะไรกับเขาไว้บ้าง แต่แล้วเธอก็ได้ย้อนกลับมาใน ในวันที่เธออายุ 21 ปี แลยังไม่ได้หย่าขาดกับเสิ่นอี้โจว ในเมื่อเธอได้โอกาสอีกครั้งนี้ เธอจะไม่ยอมหย่าเด็ดขาด ครั้งนี้เธอจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นกับเสิ่นอื้โจวได้จงได้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท