กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี – บทที่ 287 จบสิ้น

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

บทที่ 287 จบสิ้น

บทที่ 287 จบสิ้น

“แม่!”

เมื่อเห็นหวังผิงกลับห้องไปทั้งที่ยังร้องไห้อยู่ ลูกชายและลูกสะใภ้ก็ตะโกนเรียกขึ้นมาพร้อม ๆ กันทันที

นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นหวังผิงร้องไห้ จึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นตระหนก

เซี่ยโยว่หมิงโบกมือ “ปล่อยให้แม่เขาอยู่คนเดียวสักพักเถอะ”

เขาเอื้อมมือไปแตะกล่องยาเส้น แต่เพราะความตึงเครียดที่บ้าน เขาจึงเลิกไปนานแล้ว

ชายชราถอนหายใจและพูดว่า “แม่ของพวกลูกเข้มแข็งมาตลอดชีวิต พอได้ยินแบบนั้นเข้าไป มันก็คงเลี่ยงไม่ได้ที่แม่เขาจะคิดมากนั่นแหละ”

เซี่ยโย่วหมิงพูดต่อ “ตอนแม่แต่งงานกับพ่อ เธอยังเป็นสาวน้อยอารมณ์อ่อนไหว ต่อมาสองปีหลังจากแต่งงาน เธอก็ยังไม่ตั้งท้องสักที ทำให้คนในหมู่บ้านเริ่มนินทา จนกระทั่งเธอตั้งท้องลูกชายคนโตในที่ปีสาม แล้วเสียงนินทาถึงเริ่มน้อยลง”

“คุณย่าของพวกลูกเสียเร็วเกินไป และคุณปู่ที่ชราแล้วก็สุขภาพไม่ดีเช่นกัน ดังนั้นแม่เขาไม่เพียงต้องทำงานในบ้าน แต่ยังต้องทำงานในทุ่งนาเหมือนพ่อ แถมยังต้องดูแลปู่ของพวกลูกอีกด้วย”

“ตอนนั้นก่อนที่ชิงหยวนจะเกิด พวกลูกมีน้องชายหนึ่งคน และเมื่อเขาอายุได้หนึ่งขวบ เขากลับป่วย ในเวลานั้นทุกคนในครอบครัวแทบไม่มีจะกินอยู่แล้ว ดังนั้นจะมีเงินพอค่ารักษาพยาบาลได้ยังไง”

“หลังจากทนทุกข์ทรมานอยู่สองเดือน เด็กก็จากไป”

“ในเวลานั้นมีคนในหมู่บ้านบอกว่าแม่ของลูกไม่ได้รับพร และไม่สามารถเลี้ยงดูลูกชายของเธอได้หลังคลอด”

“ตั้งแต่นั้นมา นิสัยของแม่พวกลูกก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง”

“เธอไม่เพียงเข้มงวดกับตัวเองเท่านั้น แต่ยังเข้มงวดกับวพวกลูกด้วย”

“เธอทำแบบนี้เพียงเพื่อพิสูจน์ว่า ไม่ว่ายังไงเธอก็สามารถทำให้ทุกคนในบ้านมีชีวิตที่ดีได้”

“และท้ายที่สุด การตายของคุณปู่ก็กลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่บดขยี้เธอ”

“ต่อมาลูกรองกับสะใภ้รองมีชีวิตที่ไม่ดีนัก และผู้คนก็นินทาถึงเรื่องนี้กันมากขึ้น การที่เธอตัดสินใจให้ลูกเรื่องการแต่งงาน ส่วนหนึ่งมันเป็นเพราะเรื่องการตายของคุณปู่ เธอครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้หนักมาก”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เซี่ยโยว่หมิงก็ถอนหายใจ “พ่อไม่ควรบอกเรื่องพวกนี้กับลูกเลย แต่พ่อไม่อยากให้ลูกกับแม่เกิดช่องว่างความสัมพันธ์เพราะเรื่องนี้”

“แม่เขาเพียงแค่คิดอยากจะให้ครอบครัวอยู่กันได้ดีเท่านั้น”

“แม้ว่าจะดูเหมือนไม่ใส่ใจความคิดเห็นของคนอื่นในหลาย ๆ เรื่อง แต่ทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับประสบการณ์ในอดีตของแม่”

เขามองไปที่เซี่ยจิ่งเฉิน “พ่อจะช่วยพูดกับแม่ของลูกให้ ส่วนลูก ถ้าคิดรอบคอบแล้วก็ลงมือทำได้เลย”

หลังจากพูดจบ เขาโบกมือแล้วลุกขึ้นยืน “มันเริ่มดึกแล้ว ทุกคนเข้านอนกันเถอะ”

เซี่ยจิ่งเยว่และคนอื่น ๆ อดไม่ได้ที่จะตาแดงเมื่อได้ยินสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต

เซี่ยจิ่งเฉินยืนขึ้น และประคองเซี่ยโยว่หมิง “พ่อครับ ผมจะพาพ่อเข้าห้องเอง”

ในระหว่างการต่อสู้กับตระกูลจางวันนี้ เอวของเซี่ยโยว่หมิงได้รับบาดเจ็บ เขาไม่ต้องการไปโรงพยาบาล แปะแค่ปลาสเตอร์บนหลังเท่านั้น

เซี่ยโยว่หมิงไม่ปฏิเสธ และปล่อยให้ลูกชายประคองตัวเองไปที่ประตูห้อง

แต่สุดท้าย ชายชราก็สั่งว่า “ท้ายที่สุดแล้วมันก็เป็นความสัมพันธ์ของคู่รัก พยายามอย่าฝืนจนเกินไป และน้องสาวของลูก อย่าให้พวกเธอต้องเข้ามาพัวพันเลย”

เซี่ยจิ่งเฉินพยักหน้า “ผมเข้าใจแล้วครับ พ่อไม่ต้องห่วง”

คืนนี้คนที่นอนไม่หลับเลยคือแม่เฒ่าจางและจางอวี้เจียว

ตั้งแต่แม่ของเธอลากกลับบ้าน ใบหน้าของจางอวี้เจียวก็มืดหม่น และไม่รู้สึกดีขึ้นเลย

เมื่อแม่ของเธอเห็นแบบนี้ก็โกรธทันที “แกคิดบ้างไหมว่าตัวเองทำอะไรลงไป! ฉันบอกให้แกคว้าหัวใจผู้ชายให้ได้มาตลอด แล้วนี่คือวิธีที่แกทำอย่างนั้นเหรอ? สายตาที่เขามองเราวันนี้มันอย่างกับจะกินหัวเราให้ได้!”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ จางอวี้เจียวก็รู้สึกผิดเช่นกัน “ไม่ใช่ว่าแม่ก็รู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเขากับถานจิงเซียนมาก่อนรึไง? เขามีคนรักอยู่ในใจแล้ว หนูจะไปแทนที่ได้ยังไงล่ะ?”

เมื่อเห็นว่าลูกสาวของเธอยังคงดื้อรั้นและสับสน หญิงชราก็รู้สึกปวดหัว “ต่อให้เขามีคนอยู่ในใจแล้วยังไงล่ะ? สุดท้ายแกก็แต่งงานกับเขาไม่ใช่เหรอ? สรุปแล้วแกจำที่ฉันพร่ำบอกไม่ได้เลยรึไง? ไปอิจฉาทั้งวันทำไมกับผู้หญิงที่เขาคบไม่ได้?”

“ยิ่งเรื่องอื่นแล้วไม่ต้องพูดถึงเลย สภาพแวดล้อมครอบครัวของตระกูลเซี่ยดีมาก”

“อย่างน้อยหลายปีที่ผ่านมา ครอบครัวของพวกเขาไม่เคยปฏิบัติกับแกไม่ดีเลย” ขณะที่หญิงชราพูด เธอก็จิ้มหน้าผากของจางอวี้เจียวอย่างดุเดือดด้วยความโกรธ “สี่ปีแล้ว และมันก็ช่างไร้ประโยชน์จริง ๆ แกยังไม่สามารถกุมหัวใจเขาได้เหมือนเดิม!”

“แม่!” จางอวี้เจียวปฏิเสธที่จะยอมรับ “ไม่ใช่แม่เหรอที่ทำเหมือนกับทั้งครอบครัวเราไม่มีเงินน่ะ”

“ไม่ใช่เพราะแม่รึไงที่ต้องการไอ้นั่นวันนี้ หรืออยากได้ไอ้นี่พรุ่งนี้ ถ้าหนูไม่ได้เอาของมาให้ที่บ้านเรา พวกเขาจะทำกับหนูแบบนี้ไหม?”

แม่เฒ่าจางแทบสำลักกับสิ่งที่ลูกสาวพูด เธอพูดอย่างเชื่องช้าว่า “ยังไงก็เถอะ ตอนนี้แกอยู่กับครอบครัวเราก่อนสักสองสามวัน เมื่อความโกรธของพวกเขาลดลงแล้ว ก็ซื้อของไปเพื่อชดเชยซะ”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ จางอวี้เจียวก็ไม่มีความมั่นใจเลย “แต่วันนี้เซี่ยจิ่งเฉินบอกว่าเขาต้องการหย่ากับหนูให้ได้เลยนะ”

หญิงชราจางดีดหน้าผากลูกสาวของเธออีกครั้ง “นี่ไม่ใช่เพราะว่าเขากำลังโกรธเหรอ?”

“แต่ถ้ามันไม่ได้ผลจริง ๆ ก็ทำเหมือนตอนที่แกตั้งท้องซือเหยียนซะ ชวนเขามากินข้าวที่บ้าน ให้พี่ชายของแกกับคนอื่นทำให้เขาเมา แล้วแกก็ลองตั้งครรภ์อีกครั้ง ดูสิว่าพอถึงตอนนั้นเขาจะยังอยากหย่าอีกไหม?”

สำหรับการหย่าร้างที่จางอวี้เอ๋ออ้อนวอน หญิงชราวางแผนจะเก็บไว้เป็นความลับ

แผนการของเซี่ยชิงหยวนมุ่งเป้าไปที่การตัดความสัมพันธ์ระหว่างพี่สาวน้องสาวอย่างชัดเจน ดังนั้นเธอจะไม่ตกหลุมพรางของอีกฝ่าย

ต้องยอมรับว่าเซี่ยชิงหยวนลงมืออย่างโหดเหี้ยมจริง ๆ

เหมือนคำที่พูดกันว่าหมาที่ไม่แสดงเขี้ยวนั้นกัดจริง ที่ผ่านมาเธอประเมินเซี่ยชิงหยวนต่ำเกินไป

ขณะที่แม่เฒ่าจางยังคงฝันถึงเหตุการณ์ในอนาคตที่อาจราบรื่น แต่แล้วเธอก็ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยเสียงเคาะประตูอย่างรวดเร็วในตอนเช้าตรู่

สะใภ้ตระกูลจางไปเปิดประตูพร้อมสาปแช่ง แต่เมื่อเธอเห็นคนที่ยืนอยู่ที่ประตู คำพูดสาปแช่งก็หยุดลงกะทันหัน

“ใครมา?” แม่เฒ่าจางลุกขึ้นมาดู

เมื่อเธอเดินออกจากห้อง ดวงตาก็เบิกกว้างทันที “ตำรวจ…สหายตำรวจ?”

มีตำรวจในเครื่องแบบสองคนยืนอยู่ที่ประตู

พวกเขาถามว่า “นี่คือบ้านของจางฟู่กุ้ยใช่ไหม?”

จางฟู่กุ้ยเป็นชื่อพ่อของจางอวี้เจียว

แม่เฒ่าจางพยักหน้า “ใช่ ใช่”

ตำรวจพูดอีกครั้ง “ตอนนี้จางอวี้เอ๋อต้องสงสัยว่าเป็นชู้ โปรดตามเราไปที่สถานีตำรวจเพื่อสอบปากคำด้วย”

“อะไรนะ?” สะใภ้ตระกูลจางตะโกนทันทีว่า “ไปสถานีตำรวจ?”

แม่เฒ่าจาง ลูกชาย และลูกสาวของเธอ ไม่ได้บอกเรื่องนี้แก่ลูกสะใภ้ของพวกเขาเลย

หลังจากที่อุทาน ลูกสะใภ้อีกสามคนก็ออกมามองแม่สามีของพวกเธอด้วยความประหลาดใจ

สะใภ้รองของตระกูลจางหัวเราะเยาะ “ในที่สุดกีบไร้ยางอายตัวน้อยก็สะดุดแล้วสินะ”

แม่เฒ่าจางตกใจมากจนรีบปิดปากสะใภ้รอง “แกกำลังพูดถึงเรื่องไร้สาระอะไรห้ะ!”

แต่ตำรวจได้ยินอย่างชัดเจน

เขาพูดว่า “คุณเป็นใครกับจางอวี้เอ๋อ?”

แม่เฒ่าจางยังคงปิดปากสะใภ้รอง และพูดด้วยรอยยิ้ม “เธอเป็นลูกสะใภ้รองของฉันเอง และจางอวี้เอ๋อคือลูกสาวคนเล็กของฉันน่ะ”

ตำรวจอีกคนที่อยู่ข้าง ๆ พูดว่า “สะใภ้รองคนนี้ควรไปที่สถานีตำรวจกับเราด้วยเพื่อให้ปากคำ”

สะใภ้รองตระกูลจาง “…”

แม่เฒ่าจางมองสะใภ้รองด้วยสายตาขมขื่นแล้วพูดกับตำรวจว่า “สหายตำรวจ เธอไม่รู้อะไรหรอก หากคุณมีคำถามอะไร ถามฉันได้เลยค่ะ”

ตำรวจเหลือบมองเธออย่างเย้ยหยัน “แต่ผมคิดว่าสะใภ้รองสามารถให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ได้แน่นอน”

จางอวี้เอ๋อกระทำการลอบเป็นชู้ และสิ่งที่สะใภ้รองของตระกูลจางพูดนั้นดูเหมือนเกี่ยวข้องกับข้อมูลละเอียดอ่อน เขารู้สึกด้วยคำพูดของเธอว่าต้องรู้อะไรบางอย่างแน่

หลังจากพูดจบ ตำรวจก็ไม่สนใจความเห็นของพวกเธออีกต่อไป และพูดว่า “พวกคุณเก็บข้าวของเดี๋ยวนี้เลยแล้วมากับเรา เราจะไปถึงเตียนเฉิงบ่ายวันนี้”

แม่เฒ่าจางตกใจมากเมื่อได้ยินประโยคนี้ “อะไรนะ! ไปเมืองเตียนเฉิง?”

ตำรวจพยักหน้า “ใช่ ไปเมืองเตียนเฉิงเพื่อสอบปากคำ”

เนื่องจากตำแหน่งของเหอเส้าหยวน จึงมีผู้คนจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงก็ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับเรื่องนี้เช่นกัน

เมื่อเช้าได้เอกสารจากเบื้องบนส่งลงมา

แม่เฒ่าจางเป็นเหมือนมะเขือยาวที่ถูกทุบด้วยน้ำค้างแข็ง และร่างกายของเธอก็อ่อนแรงร่วงโรยไปทั้งตัว

เมื่อคืนเธอมั่นใจว่าจะครอบงำตระกูลเซี่ยอย่างช้า ๆ แต่หลังจากผ่านไปคืนเดียวแผนการก็สะดุดซะแล้ว

ในขณะนี้มีเสียงดังมาจากประตูถัดไปไม่ไกล

“จางอวี้เอ๋อถูกจับมันก็ไม่ใช่เรื่องของฉันสักหน่อย ทำไมต้องให้ฉันไปด้วย?”

คนที่พูดคือเพื่อนบ้านที่เคยเล่นสนุกกับจางอวี้เอ๋อ แต่หลังจากจางอวี้เอ๋อหยุดเรียนไปเพื่อให้กำเนิดลูก ทั้งสองก็ขาดการติดต่อกัน

สิ่งที่เพื่อนบ้านร้องคร่ำครวญต่อมา หญิงชราจางไม่มีอารมณ์จะฟังอีกต่อไป

เธอรู้เพียงว่าตอนนี้ทุกอย่างจบลงแล้วจริง ๆ

———————

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

Status: Ongoing
หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ประสบอุบัติตุจนเสียชีวิต และเธอก็ได้ย้อนไปตอนที่เธออายุ 21 ปี …ลับมาครั้งนี้เธอจะไม่ยอมหย่ากับเสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธออีกเด็ดขาด!หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ช่วยเด็กชายคนหนึ่งเอาไว้จนประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตปีแล้วปีเล่าผ่านไป เสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธอก็มักจะมายี่ยมหลุมศพของเธอประจำ เธอในร่างวิญญาณออกปากไล่เขาทุกครั้งต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้ยิน เขาจำไม่ได้เลยหรืออย่างไร ว่าเธอทำอะไรกับเขาไว้บ้าง แต่แล้วเธอก็ได้ย้อนกลับมาใน ในวันที่เธออายุ 21 ปี แลยังไม่ได้หย่าขาดกับเสิ่นอี้โจว ในเมื่อเธอได้โอกาสอีกครั้งนี้ เธอจะไม่ยอมหย่าเด็ดขาด ครั้งนี้เธอจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นกับเสิ่นอื้โจวได้จงได้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท