กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี – บทที่ 346 ชอบกินอาหารที่คุณนายเสิ่นปรุง

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

บทที่ 346 ชอบกินอาหารที่คุณนายเสิ่นปรุง

บทที่ 346 ชอบกินอาหารที่คุณนายเสิ่นปรุง

เสิ่นอี้โจวลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “แต่วิธีของผมอาจอ้อมค้อมอยู่หน่อย ๆ นะ”

เมื่อเซี่ยชิงหยวนได้ยิน เธอก็อยากจะตบหน้าเขาทันที

ในเวลาแบบนี้ ยังจะใช้วิธีอ้อมค้อมอยู่อีกเหรอ?

สามสิบหกกลยุทธ์ ไม่ใช่ว่าทั้งหมดมันเกี่ยวกับที่ฉันจะคุยกับคุณก่อนโจมตีเหรอ? และจะต่อสู้เมื่อคุณพร้อมหรือไง?

เมื่อเซี่ยจื่ออี้ทำสิ่งที่น่ารังเกียจมากมายกับเธอ หล่อนทำอย่างเปิดเผยรึเปล่า?

เสิ่นอี้โจวจับเอวของภรรยาแล้วพูดว่า “จริง ๆ แล้วถ้าเราไม่รีบ เราก็สามารถใช้ประโยชน์จากข่าวลือนี้ได้นะ”

เซี่ยชิงหยวนพบว่าเขาดูเหมือนจะคิดถึงตัวเองอยู่บ้าง

ดวงตากลมโตของเธอมองดูเขาด้วยความคาดหวัง

จากนั้นเสิ่นอี้โจวพูดว่า “เผยแพร่เหตุการณ์นี้ให้เป็นเหมือนว่าฉินซูอวี้เป็นคนปล่อยข่าว และทำให้ฉินซูอวี้คิดว่าเป็นเซี่ยจื่ออี้ที่จัดฉากทั้งหมด…”

รอยยิ้มของเซี่ยชิงหยวนกว้างขึ้นเรื่อย ๆ

พูดให้ตรง ๆ คือปล่อยให้พวกหมามันกัดกันเอง

เห็นได้ชัดว่าเซี่ยจื่ออี้เป็นผู้บงการ แต่ในท้ายที่สุดกลับมีข่าวลือว่าฉินซูอวี้เป็นคนปล่อยข่าวลือด้วยความอิจฉาแทน และค่อยจัดฉากให้ฉินซูอวี้รู้ว่าคนบงการเรื่องทั้งหมดคือเซี่ยจื่ออี้ ดูจากความสัมพันธ์ในปัจจุบันของพวกเธอแล้ว ฉินซูอวี้จะต้องคิดว่าเซี่ยจื่ออี้ใส่ร้ายเธอโดยตั้งใจแน่

พอทำแบบนี้แล้วจะมีฉากดี ๆ ให้ได้รับชมกันแน่นอน

เหตุผลที่ฉินซูอวี้เข้ามาเกี่ยวข้องก็เพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่เซี่ยจื่ออี้จะทำคนเดียว และมันจะต้องเกี่ยวข้องกับเฉินหลี่ด้วย

ในฐานะลูกสาวของเฉินหลี่ ฉินซูอวี้ไม่สามารถนั่งเฉย ๆ และรอเพลิดเพลินกับความสำเร็จได้หรอก เธอไม่ได้ไร้เดียงสาสักหน่อย

เซี่ยชิงหยวนจูบริมฝีปากของเขา “แผนยอดเยี่ยมมากค่ะ”

เสิ่นอี้โจวเลิกคิ้วและมองเซี่ยชิงหยวนที่ไม่ประหลาดใจเลย

เซี่ยชิงหยวนยิ้มและพูดว่า “ตอนแรกฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน แต่ฉันไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ตอนนี้ฉันได้รับการสนับสนุนจากคุณแล้ว ฉันก็เลยรู้สึกโล่งใจน่ะ”

เสิ่นอี้โจวขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้

เขาหันมามองให้ถนัดมากขึ้นแล้วพูดว่า “ถ้าคุณต้องการทำให้เรื่องราวมันใหญ่โตขึ้น คุณจะขอให้ฉีจิ่นจือร่วมด้วยก็ได้นะ”

รอยยิ้มในดวงตาของเซี่ยชิงหยวนแข็งแกร่งขึ้น

เธอยื่นมือออกมาบีบปลายจมูกอันหล่อเหลาของเขา “ทำไมคุณถึงร้ายกาจได้ขนาดนี้เนี่ย”

เสิ่นอี้โจว “คุณจะไม่ปล่อยให้ผมร้ายกาจคนเดียวใช่ไหม?”

เซี่ยชิงหยวนส่ายหัว “ไม่ดีกว่า นี่มันล้อเล่นกับอารมณ์ของคนไปหน่อยน่ะ”

ความขัดแย้งของฉินซูอวี้กับเซี่ยจื่ออี้ทวีความรุนแรงมากขึ้นเนื่องจากเรื่องของฉีจิ่นจือ เธอบรรลุเป้าหมายแล้ว และไม่สามารถขอให้ฉีจิ่นจือเล่นละครต่อฉินซูอวี้ได้อีกต่อไป

คำตอบของเธอทำให้เสิ่นอี้โจวรู้สึกไม่พอใจ “คุณปกป้องเขาเหรอ?”

เซี่ยชิงหยวน “เป็นแบบนั้นที่ไหนกัน?”

เสิ่นอี้โจวอุ้มเธอขึ้นมาแล้วเดินไปที่เตียง

เซี่ยชิงหยวนเกร็งขาทันที และเสียงของเธอก็สั่น “ถึงเวลากินข้าวแล้วนะ”

เสิ่นอี้โจว “ผมบอกหรือยังว่าผมจะทำอะไร?”

เขาวางเธอบนเตียง ถอดรองเท้าแล้วนวดเท้าให้ภรรยาด้วยฝ่ามือใหญ่ของตน ในขณะที่มือกำลังนวดเท้าเธอเบา ๆ ดวงตาของเขาก็สงบลง

การเคลื่อนไหวง่าย ๆ ที่เขาทำนั้นสร้างอารมณ์อย่างอธิบายไม่ถูก

ภายใต้การจ้องมองอย่างระมัดระวังของเซี่ยชิงหยวน เสิ่นอี้โจวโค้งริมฝีปากบางของเขาแล้วยิ้ม “วันนี้ที่คุณต้องทำงานหนัก ผมรู้สึกเสียใจมากเลยนะ ให้ผมนวดให้คุณไม่ได้เหรอ?”

ทันใดนั้นก็เกิดเสียงดัง ‘ผลั่ก!’ เซี่ยชิงหยวนเตะเสิ่นอี้โจวเข้าที่ไหล่

เสิ่นอี้โจวไม่ได้ทันตั้งตัว และล้มลงก้นจ้ำเบ้ากับพื้นห้องทันที

เสิ่นอี้โจว “…”

เซี่ยชิงหยวนนอนอยู่บนเตียงและจ้องมองเขา “หมอฮวงบอกไว้อยู่นะ ในช่วงที่ไม่ตกไข่ไม่ว่าคุณจะพยายามอย่างหนักแค่ไหน มันก็ไร้ประโยชน์อยู่ดี”

เธอมองลงไปที่เขาและพูดว่า “คุณควรจะอั้นเอาไว้ก่อน แล้วค่อยพยายามอย่างเต็มที่เมื่อถึงช่วงที่ฉันตกไข่สิ”

หลังจากพูดจบ เธอก็รีบเดินผ่านเขาไปอย่างรวดเร็ว และเล็ดลอดออกไปจากห้อง

เสิ่นอี้โจวซึ่งนั่งอยู่บนพื้นส่ายหัวอย่างตกตะลึง

เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น เซี่ยชิงหยวนไปที่ร้านตรอกเก่ากับหลินตงซิ่ว ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ซื้อผัก ล้างและปรุง มีเพียงเท่านี้

ป้าอู๋นึกถึงการเตรียมการของเซี่ยชิงหยวน และออกไปด้วยความวิตกกังวล

เธอมีไหวพริบ แต่ก็ซื่อสัตย์ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอทำอะไรแบบนี้ ดังนั้นจึงรู้สึกกังวลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

จากนั้นในเขตที่พักอาศัย เธอได้พบกับเพื่อนร่วมงานที่เคยทำงานร่วมกัน…

เซี่ยชิงหยวนอยู่ที่ร้านตรอกเก่า กำลังฮัมเพลงขณะเตรียมอาหารกลางวันให้กับฉีจิ่นจือ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเธอกำลังอารมณ์ดี

เธอสัญญากับฉีจิ่นจือว่าจะทำข้าวขาหมู และเธอก็ทำอาหารจานนี้ขึ้นมาจริง ๆ

เพียงแต่ว่าน้ำส้มสายชูหวานนั้นหาซื้อยากนิดหน่อย เธอจึงต้องไปเดินหาที่ร้านค้าถึงสองสามแห่ง

แต่จากนั้นเธอคิดว่าต่อให้ทำน้อยหรือทำมากมันก็มีค่าเท่ากัน จึงคิดที่จะทำมากขึ้น เธอซื้อกีบหมูเพิ่มอีกสองสามอันแล้วเคี่ยวให้เข้ากัน

ด้วยวิธีนี้เธอจะได้เอามาลองดูว่าสามารถขายมันในมณฑลอวิ๋นได้หรือไม่

ยังไงเธอก็ทำไม่เยอะมากอยู่ดี ดังนั้นถ้าขายไม่หมดก็เอากลับบ้านไปกินเองก็ได้

ขาหมูไม่ได้มีรสเค็มมากนัก และไม่เหมาะกับข้าว เซี่ยชิงหยวนจึงทำซี่โครงหมูกระเทียมเพิ่ม ซึ่งเป็นอาหารกวางตุ้ง

และท้ายที่สุดเธอก็ตักเครื่องในเนื้อวัวชามเล็กให้เขาอีกหนึ่งอย่าง

หลังจากเตรียมอาหารเสร็จแล้ว เธอก็ห่ออาหารทั้งหมดแล้วออกเดินทาง

เธอเดินไปที่ประตูห้องผู้ป่วย และได้ยินเสียงของเซี่ยจื่ออี้ก่อนที่จะเคาะประตูด้วยซ้ำ

เสียงของเซี่ยจื่ออี้ออดอ้อนราวกับกำลังพยายามเอาใจผู้คน

เซี่ยชิงหยวนอดไม่ได้ที่จะชื่นชมความพากเพียรของอีกฝ่ายจริง ๆ

เธอเคาะประตูและเสียงภายในประตูหยุดลงทันที จากนั้นเสียงของฉีจิ่นจือก็ดังขึ้น “เข้ามา”

เซี่ยชิงหยวนผลักประตูให้เปิดแล้วเข้าไป เธอพบว่าเซี่ยจื่ออี้นั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างเตียงของฉีจิ่นจือ โดยถือกล่องอาหารกลางวันที่เปิดฝาแล้วอยู่ในมือ

ปรากฏว่าเซี่ยจื่ออี้กำลังเกลี้ยกล่อมให้ฉีจิ่นจือทานข้าว

เซี่ยชิงหยวนหยุดชั่วคราว และพูดอย่างจงใจ “คุณฉีมีคนเอาอาหารมาให้แล้วเหรอคะเนี่ย?”

ขณะที่พูด เธอก็ถอยหลังหนึ่งก้าวและกำลังจะออกจากประตู “ถ้าอย่างนั้น ฉันกลับไปก่อนดีกว่า”

“คุณนายเสิ่น” ฉีจิ่นจือหยุดเธอ แต่การเคลื่อนไหวของเขานั้นเร่งรีบเกินไปและส่งผลกระทบต่อบาดแผล ทำให้เขาต้องขมวดคิ้วอย่างห้ามไม่ได้

เขามองเธอด้วยดวงตาสีพีชที่ดูจริงจัง ซึ่งหาได้ยากทันที “ผมชอบกินอาหารที่คุณนายเสิ่นทำ”

เซี่ยชิงหยวนยิ้มกลับไปทันทีที่ได้ยิน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอได้เห็นใบหน้าของเซี่ยจื่ออี้ที่ซีดลง รอยยิ้มของเธอก็สดใสยิ่งขึ้น

หญิงสาวปิดประตูแล้วเดินเข้าหาเขา โดยตั้งใจที่จะเหยียบย่ำเซี่ยจื่ออี้ซ้ำให้จมดินมากกว่าเดิม “เมื่อวานฉันคิดว่าทำอาหารมาให้น้อยเกินไป เพราะงั้นวันนี้ฉันเลยทำอาหารมาหลายอย่างเลยค่ะ คุณฉีคงสามารถกินมันได้หมดใช่ไหมคะ?”

ฉีจิ่นจือสังเกตเห็นท่าทางขี้เล่นในดวงตาของเซี่ยชิงหยวน

ดวงตาของเขามองกลับไปกลับมาระหว่างเธอกับเซี่ยจื่ออี้ และพูดด้วยรอยยิ้ม “ผมชอบกินอาหารที่เป็นฝีมือของคุณนายเสิ่นเท่านั้นเลยครับ”

ดวงตาดอกพีชเย็นยะเยือกของเขาเต็มไปด้วยความยินดี มันแสดงออกอย่างชัดเจนถึงความรักและเปล่งประกาย

เซี่ยชิงหยวนรู้สึกเหมือนว่าแทบจะถูกสุนัขจิ้งจอกล่อลวงในทันที

เธอกระแอมในลำคอและเก็บรอยยิ้มไว้ไม่เปลี่ยนแปลง “คุณฉีนี่เป็นคนอารมณ์ขันเหมือนกันนะคะ”

ฉีจิ่นจือมองไปที่เธอแล้วยิ้มเบา ๆ

เซี่ยจื่ออี้กัดริมฝีปากและราวกับจะร้องไห้ออกมา “จิ่นจือคะ นี่คืออาหารที่ฉันทำให้คุณเองเลยนะ”

ขณะเดียวกัน มือของเซี่ยจื่ออี้ที่กำลังถือกล่องอาหารกลางวันก็มีรอยสีแดงราวกับว่าเธอถูกไฟลวกมา

โอ้ ช่างดูจงใจทำอะไรแบบนี้

สีหน้าเศร้าโศกและน้ำตาคลอเบ้าแบบนี้ย่อมทำให้คนอื่นรู้สึกสงสาร

แต่ฉีจิ่นจื่อไม่สนใจแม้แต่นิดเดียว

ใบหน้าของเขาเย็นชา “คุณเซี่ย ผมซาบซึ้งในความมีน้ำใจของคุณนะครับ แต่ผมไม่เคยขอให้คุณทำสิ่งเหล่านี้ให้ผมเลยสักคำ และผมเชื่อว่าเมื่อวานนี้ผมได้พูดทุกอย่างไปอย่างชัดเจนมากแล้ว ว่าไม่ต้องการให้คุณเซี่ยมาทำอะไรให้ผมอีก”

สิ่งที่เขาพูดนั้นไร้ความปรานีอย่างยิ่ง

เซี่ยจื่ออี้รู้สึกอับอายมาก

เธอไม่คาดคิดว่าฉีจิ่นจือจะพูดสิ่งนี้ต่อหน้าเซี่ยชิงหยวน

เซี่ยชิงหยวนเป็นคนที่เธอไม่อยากให้มาเห็นฉากอับอายนี้มากที่สุด

ใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอขาวซีดครั้งแล้วครั้งเล่า และความภาคภูมิใจของเธอก็บอกให้ออกไปจากห้องนี้ซะ

แต่ท้ายที่สุดเธอก็ไม่เต็มใจที่จะทำแบบนั้น

เธอเงยหน้าขึ้นและมองตรงเข้าไปในดวงตาของฉีจิ่นจือ “จิ่นจือ ฉันรู้ว่าคุณไม่พอใจกับการจับคู่ของที่บ้านมาก แต่คุณต้องเข้าใจว่าสำหรับคุณ ฉันเหมาะสมที่สุดแล้ว และฉันสามารถให้ความช่วยเหลือทั้งหมดแก่คุณได้ รวมถึงในด้านอาชีพการงานของคุณด้วย”

ฉีจิ่นจือพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา “ผมเคยบอกเมื่อไหร่กันว่าผมอยากจะอยู่ในเส้นทางรับราชการ?”

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

Status: Ongoing
หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ประสบอุบัติตุจนเสียชีวิต และเธอก็ได้ย้อนไปตอนที่เธออายุ 21 ปี …ลับมาครั้งนี้เธอจะไม่ยอมหย่ากับเสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธออีกเด็ดขาด!หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ช่วยเด็กชายคนหนึ่งเอาไว้จนประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตปีแล้วปีเล่าผ่านไป เสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธอก็มักจะมายี่ยมหลุมศพของเธอประจำ เธอในร่างวิญญาณออกปากไล่เขาทุกครั้งต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้ยิน เขาจำไม่ได้เลยหรืออย่างไร ว่าเธอทำอะไรกับเขาไว้บ้าง แต่แล้วเธอก็ได้ย้อนกลับมาใน ในวันที่เธออายุ 21 ปี แลยังไม่ได้หย่าขาดกับเสิ่นอี้โจว ในเมื่อเธอได้โอกาสอีกครั้งนี้ เธอจะไม่ยอมหย่าเด็ดขาด ครั้งนี้เธอจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นกับเสิ่นอื้โจวได้จงได้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท