ตอนที่ 819 หลินม่ายตั้งครรภ์
คุณปู่ฟางและคุณย่าฟางต่างสงสัยว่าหลินม่ายกำลังตั้งครรภ์ แต่ฟางจั๋วหรานสงสัยว่าเธอป่วย
เขาและหลินม่ายเพิ่งวางแผนที่จะมีลูกเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม และพวกเขาทำการป้องกันมาโดยตลอดทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
ต่อให้หลินม่ายจะตั้งใจปล่อยให้ตัวเองตั้งครรภ์ แต่ตอนนี้ก็เพิ่งผ่านไปได้สี่สัปดาห์
โดยทั่วไปแล้วผู้หญิงจะมีอาการแพ้ท้องหลังจากตั้งครรภ์ได้หกสัปดาห์ แต่ตอนนี้หลินม่ายกลับมีอาการแพ้ท้อง ซึ่งไม่ปกติ
เขาเดินไปพยุงหลินม่าย “คุณไม่สบายหรือเปล่า?”
หลินม่ายส่ายศีรษะ “ฉันสบายดี”
เธอชี้ไปยังกุ้งรสเผ็ดบนโต๊ะอาหาร “ฉันแค่รู้สึกอยากอาเจียนเวลาได้กลิ่นมัน”
คุณย่าฟางเดินเข้ามาหาและช่วยฟางจั๋วหรานพยุงหลินม่ายนั่งบนโซฟาตัวเล็กในห้องอาหาร
คุณย่าฟางกล่าวต่อฟาางจั๋วหราน “เป็นถึงหมอ ทำไมถึงโง่ขนาดนี้ ดูไม่ออกเลยหรือยังไง? ม่ายจื่อเหม็นแก แค่นี้ก็ดูไม่ออกเหรอ? แก่ขนาดนี้แล้วยังไม่เข้าใจอะไรเลย เป็นหมอได้ยังไงกัน?!”
ฟางจั๋วหรานรู้สึกตกใจเล็กน้อย ทำไมทุกคนถึงบอกว่าเขาแก่ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่แก่เลย
เขารู้สึกอึดอัดเล็กน้อย “เราตั้งใจจะมีลูกก่อนวันที่ 1 พฤษภาคม แล้วก็เริ่มแผนการมีลูกหลังวันที่ 1 พฤษภาคม ต่อให้หล่อนจะตั้งครรภ์ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเริ่มแพ้ท้องเร็วขนาดนี้”
คุณปู่ฟางก็เข้ามาด้วย ทั้งสามคนล้อมหลินม่ายพร้อมศึกษาและสอบถามเกี่ยวกับสภาพร่างกายของเธอ
แต่ผิวพรรณของหลินม่ายก็ไม่ได้ซีดเซียวอะไร เห็นได้ชัดว่าเธอสบายดี
คุณปู่ฟางกล่าว “มีข้อยกเว้นสำหรับทุกสิ่ง บางทีม่ายจื่ออาจแพ้ท้องเร็วกว่าคนอื่น อย่ามัวคาดเดาอะไรด้วยตัวเองเลย จั๋วหราน พาม่ายจื่อไปตรวจที่โรงพยาบาลเถอะว่าหล่อนท้องหรือเปล่า”
แม้ว่าหมอในโรงพยาบาลจะเลิกงานไปนานแล้ว แต่ฟางจั๋วหรานก็สามารถขอให้เพื่อนร่วมงานที่ทำงานล่วงเวลาในแผนกห้องปฏิบัติการช่วยตรวจหลินม่ายได้ โดยใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น
แต่เขาต้องการให้หลินม่ายกินข้าวเย็นก่อนจึงจะพาเธอไปโรงพยาบาล
เนื่องจากหลินม่ายอยากจะอาเจียนเมื่อได้กลิ่นกุ้ง คุณย่าฟางจึงหยิบจานกุ้งผัดเผ็ดออกจากโต๊ะ
นอกจากหลินม่ายจะเหม็นกลิ่นกุ้งแล้ว เธอยังเจริญอาหารขึ้นอีกด้วย
เธอกินปลาข้างเหลืองทอดสองชิ้น และเธอยังกินถั่วฝักยาวดองผัดพริกในปริมาณมาก
คุณย่าฟางยิ่งดูก็ยิ่งมีความสุข ไม่ว่ามองอย่างไรหลินม่ายก็ดูเหมือนคนท้อง
ม่ายจื่อชอบกินถั่วฝักยาวดองผัดพริกมาก ลูกในท้องของเธอจะต้องแข็งแรงอย่างแน่นอน
หลังอาหารเย็น คุณย่าฟางกระตุ้นให้ฟางจั๋วหรานพาม่ายจื่อไปโรงพยาบาลเพื่อขอให้เพื่อนร่วมงานช่วยตรวจสุขภาพเธออย่างเร่งด่วน
นางไม่ลืมที่จะบอกฟางจั๋วหรานให้ซื้อผลไม้รสเปรี้ยวอมหวานเช่นลูกไหนให้หลินม่ายกิน
หญิงมีครรภ์ชอบกินผลไม้รสเปรี้ยวอมหวาน
ฟางจั๋วหรานขับรถพาหลินม่ายไปที่โรงพยาบาลและตรงไปยังแผนกผู้ป่วยใน
หลินม่ายเดินตามหลังเขาและถามอย่างเขินอาย “คุณไม่ได้ตั้งใจจะพาฉันมาตรวจครรภ์หรอกเหรอ? คุณพาฉันไปทำอะไรในแผนกผู้ป่วยใน?”
ฟางจั๋วหรานจับมือเล็ก ๆ เดินไปพลางอธิบายอย่างนุ่มนวล “ผมจะพาคุณไปตรวจครรภ์แน่นอน แต่ก่อนอื่นผมต้องแน่ใจว่าคุณสบายดี ผมไม่อยากรบกวนแผนกฉุกเฉินซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยที่มาพบแพทย์ ผมจึงพาคุณมาที่แผนกผู้ป่วยในเพื่อหาเพื่อนร่วมงานมาช่วยตรวจคุณ ช่วงนี้หมอแผนกผู้ป่วยในไม่ค่อยยุ่งเท่าไหร่
ฟางจั๋วหรานพาหลินม่ายไปยังห้องทำงานของหมออายุรศาสตร์หญิงในแผนกผู้ป่วยใน
แม้ว่าแพทย์อายุรศาสตร์จะเก่งด้านระบบทางเดินอาหาร แต่หล่อนก็เชี่ยวชาญด้านอายุรศาสตร์อื่น ๆ ด้วย
แพทย์อายุรศาสตร์ได้ทำการตรวจเบื้องต้นให้กับหลินม่ายด้วยหูฟังของแพทย์ และไม่พบความผิดปกติใดๆ
หลังจากซักถามหลินม่ายอย่างรอบคอบ ก็พบว่ามีความเป็นไปได้ของการตั้งครรภ์สูงมาก
ฟางจั๋วหรานชะงักไปครู่หนึ่ง “คุณแน่ใจหรือว่าหล่อนกำลังตั้งครรภ์? ก่อนวันที่ 1 พฤษภาคม เราป้องกันอยู่ตลอดเลยนะ ต่อให้หล่อนจะตั้งครรภ์ในวันที่ 1 พฤษภาคม ขณะนี้ก็เป็นเวลาเพียงสี่สัปดาห์ เป็นไปไม่ได้ที่จะมีอาการแพ้ท้องเร็วขนาดนี้
อาจารย์แพทย์หญิงผมสีดอกเลากลอกตามองเขา “แน่ใจเหรอว่าการป้องกันของเธอจะป้องกันได้หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์? นอกจากนี้สรีระแต่ละคนยังแตกต่างกัน โดยทั่วไป ผู้หญิงส่วนใหญ่อาจมีอาการแพ้ท้องหลังจากตั้งครรภ์ได้หกสัปดาห์ แต่มันก็มีกรณีพิเศษ และภรรยาของเธอก็เป็นกรณีพิเศษ เธอเองก็เป็นหมอ ไม่เข้าใจเรื่องนี้ได้ยังไง?”
ฟางจั๋วหรานไม่ได้คาดหวัง
เป็นเรื่องจริงที่ว่าสรีระแต่ละคนมีความแตกต่างและมีอาการแพ้ท้องเกิดขึ้นภายในสี่สัปดาห์ได้ ดังนั้นเขาจึงรู้สึกสบายใจ
เขากลัวว่าภรรยาของเขาจะไม่สบาย จึงต้องค้นหาและรักษาเธอแต่เนิ่น ๆ
สิ่งนี้เรียกว่าความกังวลที่นำไปสู่ความโกลาหล แม้แต่แพทย์เองก็ไม่อาจหลบหนีความตื่นตระหนกได้
ฟางจั๋วหรานมักเป็นเช่นนี้ ทุกครั้งที่หลินม่ายไม่สบาย เขาก็จะรู้สึกกระวนกระวายอยู่เสมอ
เนื่องจากอาจารย์หมอบอกว่าไม่มีปัญหาอะไร ดังนั้นเขาจึงสบายใจ
ฟางจั๋วหรานจับมือหลินม่ายอีกครั้ง และไปที่ห้องทดลองเพื่อไปขอให้เพื่อนร่วมงานทำการทดสอบการตั้งครรภ์ให้เธอ
เพื่อนร่วมงานในแผนกห้องปฏิบัติการกำลังเจาะเลือดให้กับหลินม่ายพลางเอ่ยเย้าฟางจั๋วหราน “กังวลเหรอว่าภรรยาของนายจะท้อง?”
ฟางจั๋วหรานพยักหน้า “ใช่”
การตรวจเลือดสำหรับการตั้งครรภ์ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง
หนึ่งชั่วโมงในการรอคอยราวกับหนึ่งปีของฟางจั๋วหราน แต่ในที่สุดผลก็ออกมาว่าหลินม่ายกำลังตั้งครรภ์
เขามีความสุขมาก กอดและจูบหลินม่ายทันทีที่เดินออกมาจากห้องปฏิบัติการ
หลินม่ายตกตะลึงในอ้อมกอดของเขา แต่เมื่อตั้งสติได้เธอก็ผลักเขาออกทันที “ฉันท้องอยู่ แล้วคุณทำแบบนี้ได้ยังไง ไม่กลัวลูกในท้องจะเจ็บเหรอ?”
ฟางจั๋วหรานปล่อยมือจากเธอทันที “ผมมีความสุขมาก ผมต้องใส่ใจกับอนาคตให้มากกว่านี้แล้ว”
หลินม่ายลูบท้องของเธอ “ฉันอยากรู้ว่าลูกอายุเท่าไหร่ แต่น่าเสียดายที่ฉันไม่รู้จนกว่าจะถึงวันพรุ่งนี้ ฉันจะมาโรงพยาบาลเพื่อรับการตรวจอีกครั้ง”
การแพทย์ตะวันตกใช้ B-ultrasound ในการคำนวณอายุครรภ์โดยพิจารณาจากขนาดของถุงทารกในครรภ์หรือขนาดของทารกในครรภ์
แต่ตอนนี้แพทย์ที่ทำ B-ultrasound ได้ออกจากงานไปแล้ว และไม่มีแพทย์ที่ทำงานล่วงเวลา
ทันใดนั้นฟางจั๋วหรานก็นึกถึงการแพทย์แผนจีนซึ่งสามารถบอกระยะเวลาการตั้งครรภ์ได้ด้วยการจับชีพจร
โรงพยาบาลโหย่วเหอมีแผนกการแพทย์แผนจีน
พื้นที่ครอบครัวของพนักงานอยู่ติดกับโรงพยาบาล และผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์แผนจีนหลายคนจากโรงพยาบาลก็อาศัยอยู่ในพื้นที่ครอบครัวนั้น
ฟางจั๋วหรานพาหลินม่ายไปที่บ้านของอาจารย์แพทย์แผนจีนทันที
อาจารย์แพทย์จีนผู้นี้กำลังรับประทานอาหารเย็น ดื่มชา และดูทีวีกับครอบครัวของเขาอย่างสบายใจ
เมื่อเห็นว่าฟางจั๋วหรานพาภรรยาคนสวยมาหาอย่างกระทันหัน เขาก็ตกตะลึง
หลังจากถามเหตุผลแล้ว อาจารย์แพทย์แผนจีนวัยชราก็ยิ้มให้กับภรรยาของเขา
เขาจับชีพจรของหลินม่ายอย่างระมัดระวังแล้วบอกฟางจั๋วหรานด้วยรอยยิ้มว่า หลินม่ายตั้งครรภ์ได้เดือนกว่าแล้ว
หลินม่ายกรามแทบหลุดด้วยความตกใจ “ฉันท้องได้เดือนกว่าแล้ว? แต่เดือนก่อนประจำเดือนของฉันยังมาอยู่เลย!”
อาจารย์แพทย์แผนจีนวัยชรายิ้ม “แต่ปริมาณน้อยมากใช่ไหมล่ะ บางคนจะเกิดปรากฏการณ์ประจำเดือนหลอกในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ และนี่คือกรณีของเธอ”
หลินม่ายรู้สึกโล่งใจ
ฟางจั๋วหรานพึมพำ “แสดงว่าการป้องกันมีข้อผิดพลาด”
เขานึกเสียดายอยู่ในใจที่ประมาทเลินเล่อเกินไปจนไม่ใส่ใจกับร่างกายที่ผิดปกติของหลินม่าย เพราะในช่วงเดือนที่หลินม่ายตั้งท้อง เขากับเธอยัง…
ช่างเป็นสามีที่น่าสมเพช โชคดีที่หลินม่ายแข็งแรงดีและเขาไม่เผลอทำสิ่งใดรุนแรงกินไปจนเป็นอันตรายต่อลูกในท้อง ไม่อย่างนั้นเขาจะต้องเสียใจมากแน่…
ฟางจั๋วหรานขอบคุณอาจารย์แพทย์แผนจีนวัยชราและพาหลินม่ายกลับไป
หลังออกจากบริเวณบ้าน หลินม่ายก็พึมพำอย่างเขินอาย “แสดงว่าการป้องกันเกิดผิดพลาด หากคนอื่นมาได้ยินเค้าคงคิดว่าฉันวางแผนจับคุณให้อยู่เป็นคู่ชีวิตของฉันตลอดไป คนอาจคิดว่าฉันจงใจทำลายการป้องกันทุกวิถีทางเพื่อให้ตัวเองท้องแน่”
ฟางจั๋วหรานมองไปยังภรรยาของเขาด้วยความประหลาดใจ ‘วงจรสมองของเธอคิดไปไกลถึงขนาดนี้เชียวเหรอ? เขายังคิดไม่ถึงเลย’
เขาเอาแขนโอบเธอพลางกล่าว “ผมต่างหากที่อยากทำลายการป้องกัน ผมอยากทำให้ชีวิตคู่ของเราแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น”
หลินม่ายยิ้มอย่างมีความสุขในอ้อมแขนของเขา
ฟางจั๋วหรานเชื่อฟังคำสั่งของคุณย่าฟาง ระหว่างทางกลับบ้าน เขาซื้อลูกไหนเปรี้ยวหลายลูกให้กับหลินม่าย
ก่อนที่เขาจะกลับถึงบ้าน หลินม่ายเช็ดลูกไหนสีเขียวด้วยผ้าเช็ดหน้าและก่อนจะเอนกายบนพนักเก้าอี้อย่างพึงพอใจ
ทันทีที่ทั้งสองกลับถึงบ้าน คุณปู่ฟางและคุณย่าฟางต่างก็เข้ามาหาพวกเขา ถามอย่างกระวนกระวายใจ “ผลการตรวจเป็นอย่างไรบ้าง?”
ฟางจั๋วหรานยิ้มพร้อมตอบกลับ “หล่อนกินลูกไหนเขียวไปมากกว่าครึ่ง แน่นอนว่าท้องครับ”
เมื่อโต้วโต้วได้ยินว่ามีลูกไหนสีเขียวให้กิน หล่อนก็กลืนน้ำลายและบอกว่าอยากกินเหมือนกัน
หลินม่ายให้ลูกไหนที่เหลือทั้งหมดแก่หล่อน
คุณปู่ฟางและคุณย่าฟางมีความสุขมาก พวกเขาบอกโต้วโต้วว่าแม่ของหล่อนกำลังตั้งครรภ์ เพื่อป้องกันไม่ให้น้องในท้องบาดเจ็บ แม่อาจไม่ได้อุ้มอีกหล่อนสักพัก
โต้วโต้วพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
หลินม่ายคุกเข่าลงและถาม “ลูกอยากมีน้องไหมจ๊ะ?”
โต้วโต้วพยักหน้า “อยากค่ะ!”
หลินม่ายยิ้มและถามอีกครั้ง “ทำไมถึงอยากมีล่ะ?”
โต้วโต้วตอบกลับอย่างแผ่วเบา “อยากมีน้องมาเล่นกับโต้วโต้ว!”
สิ่งที่หล่อนพูดทำให้ทุกคนหัวเราะ
คุณย่าฟางพูดกับหลินม่าย “นี่ หลานท้องแล้ว พรุ่งนี้อย่าไปเจียงเฉิงเลยนะ ให้จั๋วหรานไปคนเดียวเถอะ”
หลินม่ายส่ายศีรษะ “ไม่ได้ค่ะ หากจั๋วเยวี่ยปฏิเสธ ฉันต้องเป็นคนจัดการเขา จั๋วหรานทำไม่ได้ โรงงานทีวีจะพังไม่ได้ ไม่ใช่แค่เพราะการลงทุนของฉัน แต่เพราะพนักงานในโรงงานด้วย หากโรงงานล้ม พนักงานเหล่านั้นก็ตกงาน แล้วพวกเขาจะหางานได้จากที่ไหนล่ะคะ?”
คุณย่าฟางถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ “ทั้งหมดเป็นเพราะจั๋วเยวี่ยขาดความรับผิดชอบ ปล่อยให้เขาจัดการเองสิ ทำไมหลานต้องทำงานหนักขนาดนี้ พรุ่งนี้ย่าจะกลับไปเจียงเฉิงกับหลานด้วย ย่าจะจัดการเด็กคนนั้นเอง!”
ฟางจั๋วหรานกล่าว “คุณย่า คุณย่าอายุเยอะแล้ว อย่าใจร้อนไปหน่อยเลยครับ แค่จัดการจั๋วเยวี่ย ผมทำได้ครับ”
คุณปู่ฟางโบกมือ “หากเธอทั้งสองจะกลับไปเจียงเฉิงในวันพรุ่งนี้ ก็ควรจะพักผ่อนตั้งแต่หัววันนะ”
เมื่อทั้งคู่กลับมาที่ห้อง หลินม่ายก็หยิบชุดนอนจากตู้เสื้อผ้าและกำลังจะไปอาบน้ำ
ฟางจั๋วหรานกอดภรรยาจากด้านหลังและลากเธอไปยังห้องน้ำ “ผมจะอาบน้ำให้คุณเอง”
หลินม่ายลูบหน้าผากของตน “คุณก็เกินไป ฉันแค่ท้อง ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ลูกอาจจะตัวโตกว่าลูกอ๊อดแค่เล็กน้อย และไม่ใช่ว่าฉันจะดูแลตัวเองไม่ได้”
ฟางจั๋วหรานใช้ความรู้ทางการแพทย์ของเขาตอบกลับ “ทารกในครรภ์อายุเกือบสองเดือน มีขนาดสี่เซนติเมตรแล้ว ตัวอ่อนกำลังถูกสร้างขึ้น สามารถแยกความแตกต่างของส่วนหัว ลำตัว และแขนขาได้แล้ว ส่วนหัวของทารกในครรภ์จะมีขนาดใหญ่กว่าลำตัว แล้วลูกจะโตกว่าลูกอ๊อดแค่เล็กน้อยได้ยังไง? คุณเคยเห็นลูกอ๊อดขนาดใหญ่เท่านี้เหรอ?”
หลินม่ายรู้สึกประหลาดใจ “ถ้าลูกตัวโตแล้ว ทำไมท้องของฉันยังเล็กอยู่เลยล่ะ?”
“เพราะคุณผอมไง ดังนั้นตั้งแต่พรุ่งนี้ คุณควรกินให้มากขึ้นและขุนตัวเองให้อ้วนเข้าไว้”
ฟางจั๋วหรานอาบน้ำให้หลินม่ายอย่างระมัดระวัง และกอดเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาเมื่อเข้านอนในตอนกลางคืน
คืนนั้นหลินม่ายนอนหลับสนิทมาก
ฟางจั๋วหรานตื่นเต้นมากจนเผลอหลับไป
เมื่อนึกถึงการมีลูกกับหลินม่าย แม้จะยังอยู่ในท้องของหลินม่ายเท่านั้น เขาก็ยิ้มในขณะหลับ
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ถุงยางอาจจะรั่วก็ได้นะ ลูกเลยมาเร็ว
มีลูกแล้ว อะไรๆ ที่ไม่เหลือบ่ากว่าแรงก็ให้คนอื่นทำมั่งเถอะม่ายจื่อ เกิดแท้งไปทำไง
ไหหม่า(海馬)