ตอนที่ 396 คำแนะนำของท่านผู้นำสูงสุด
ตอนที่ 396 คำแนะนำของท่านผู้นำสูงสุด
“ปีหน้าเหรอคะ?” ซูเถาตกตะลึง
ก่อนที่ท่านผู้นำสูงสุดจะพูดต่อ อดีตผู้นำกองทัพที่อยู่ข้าง ๆ ก็ดันเอกสารมาตรงหน้าเธอ
ซูเถาเพียงแค่เหลือบมองอย่างคร่าว ๆ และหายใจเข้าลึก ๆ
ด้านหน้าคือข้อมูลบันทึกรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงของประชากรในประเทศ อาหาร พลังงาน ฯลฯ ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ถูกจัดทำเป็นแผนภูมิข้อมูล
การได้เห็นกราฟเส้นที่สูงชันทำให้หัวใจของเธอเต้นแรง
กระดาษบางเบานั้นแสดงถึงเหตุการณ์นองเลือดที่หนักหน่วง
สถานการณ์ข้างนอกรุนแรงถึงขนาดนี้เชียวเหรอ?
แน่นอนว่าความสะดวกของเถาหยางทำให้การมองเห็นของเธอค่อนข้างจำกัด
น้ำเสียงที่แข็งแกร่งของผู้นำสูงสุดอ่อนลง “ใช่ การขาดแคลนอาหาร พลังงาน และวิกฤตการณ์อื่น ๆ รวมถึงซอมบี้กลายพันธุ์ก็จะมีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ มันจะเกิดขึ้นในฤดูหนาวอันหนาวเหน็บนี้ ซึ่งในฤดูใบไม้ผลิปีหน้า มนุษยชาติอาจไม่ได้เจอแสงแดดอันอบอุ่น แต่เป็นพายุนองเลือดแทน ผมแค่บอกคุณไว้ก่อนว่าตอนนี้นอกจากโบนวิงส์ เหยียนจ่ง และฮว่าผีแล้ว ยังมีซอมบี้กลายพันธุ์อย่างน้อยสามตัวที่ซุ่มซ่อนอยู่ในฐานของมนุษย์ ฤดูใบไม้ผลิหน้าจำนวนของพวกมันจะเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ”
“คุณต้องเข้าใจในเรื่องการโจมตีของซอมบี้กลายพันธุ์ มันเพียงตัวเดียวสามารถทำลายทั้งฐานทัพได้ ยกตัวอย่างฐานเหอคังที่ถูกทำลาย นอกจากนี้ยังมีซอมบี้กลายพันธุ์ชื่อ ‘ไซเรน’ ที่เพิ่งถูกค้นพบด้วย คุณพอจะคุ้นชื่อไหม”
ซูเถาผู้ไม่รู้ตำนานและเรื่องเล่าของตะวันตกก็ต้องส่ายหัวด้วยความสับสน
“อ้อ ผมลืมไปว่าคุณเป็นเด็กที่เกิดหลังวันสิ้นโลก เป็นเรื่องปกติถ้าคุณจะไม่เคยได้ยินเรื่องนี้ ไซเรนเป็นสัตว์ประหลาดในตำนานกรีกโบราณ ว่ากันว่าเธอจะใช้เสียงเพลงอันไพเราะเพื่อสะกดจิตให้กับบรรดานักเดินเรือและลากพวกเขาลงไปในน้ำ ตอนแรกนักวิจัยของเราก็ไม่ค่อยเข้าใจความหมายของชื่อนี้นัก จนกระทั่งมีคนถูก ‘ไซเรน’ ฆ่าตายมากขึ้นเรื่อย ๆ และเราก็พบว่าเหยื่อเหล่านั้นมีบางอย่างที่เหมือนกัน”
ซูเถากลั้นหายใจ “เป็นอะไรเหรอคะ”
ตัวอย่างเช่นโบนวิงส์ ก่อนที่มันจะเสียชีวิต มันเป็นผู้ป่วยโรคทางกระดูกหรือมะเร็งกระดูกก่อนเสียชีวิต จากนั้นก็จะมีกระดูกของปีกงอกขึ้นมาอย่างประหลาดหลังจากที่กลายเป็นศพ
เจียงถง หรือเหยียนจ่งเป็นผู้ป่วยที่มีอาการตาพร่ามัวอย่างรุนแรงในขณะที่เธอยังมีชีวิต ความสามารถของเธอหลังจากที่มีการกลายพันธุ์แล้วก็จะเกี่ยวกับดวงตา
สำหรับฮว่าผี เดาว่าน่าจะมีบางอย่างเกี่ยวกับโรคผิวหนังหรือมะเร็งผิวหนัง
ส่วนไซเรนนี้…เดาอะไรจากชื่อไม่ได้เลย
“เหยื่อทั้งหมดมีท้องโต มีน้ำสะสมในช่องท้อง และตับของพวกเขาก็ได้หายไป ในตอนแรกนักวิจัยของเราระบุว่าซอมบี้กลายพันธุ์ตัวนี้เป็นผู้ป่วยโรคตับแข็งก่อนที่จะเสียชีวิต เมื่อสูญเสียตับที่มีหน้าที่ในการล้างสารพิษต่าง ๆ สารพิษในเลือดที่ไม่ได้กรองก็จะไหลเข้าสู่สมอง และผู้ป่วยก็จะได้ยินเสียงแว่วในหูราวกับได้ยินเสียงไซเรน และภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ก็จะตามมา ผู้ป่วยตับแข็งจะหายใจลำบาก ความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดจะลดลง ซึ่งดูเหมือนว่าผู้ป่วยเหล่านั้นจะถูกไซเรนลากลงไปในน้ำ จนน้ำทะเลเต็มท้อง…”
ซูเถาพูดไม่ออกเป็นเวลานาน
เหยื่อเหล่านี้เจ็บปวดมากแค่ไหนก่อนที่พวกเขาจะตาย
ท่านผู้นำสูงสุดถอนหายใจ “ก่อนที่พวกเขาจะตาย สีหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ลูกตาของพวกเขาแทบจะถลนออกมาจากเบ้า นอกจากนี้ ‘ไซเรน’ จะไม่เลือกเหยื่อ มันจะทรมานและฆ่ามนุษย์ทุกคนที่พบเห็น แต่ตามที่ฉางจิงได้รับข้อมูลจนถึงตอนนี้ มันเป็นเพียงบันทึกในคดีนี้เท่านั้นว่ามีคนมากกว่า 30,000 รายเสียชีวิตด้วยน้ำมือของมัน และสถานที่ชุมชนเล็ก ๆ สองแห่งที่มันผ่านนั้น น่ากลัวยิ่งกว่าเหอคังที่ถูกทำลายในตอนแรก”
“นอกจากไซเรนแล้ว ยังมีซอมบี้กลายพันธุ์ที่ไม่รู้จักในบริเวณชายฝั่งด้วย ไม่นับรวมซอมบี้ต่างถิ่นต่าง ๆ อีก พวกมันทั้งหมดกำลังรอโอกาส”
“ดังนั้น…”
เมื่อซูเถาได้ยินเช่นนี้ก็มีลางสังหรณ์เกิดขึ้นในใจ จากนั้นเธอก็ได้ยินท่านผู้นำสูงสุดพูดในวินาทีถัดมา
“ดังนั้น ภารกิจหลักของเราในปัจจุบันคือการควบคุมจำนวนซอมบี้กลายพันธุ์และพัฒนายาเพื่อจัดการกับพวกมัน ผมได้ยินมาว่าฐานการวิจัยของคุณในเถาหยางได้พัฒนาแล้วใช่ไหม”
แน่นอนว่าทีมวิจัยของเธอกำลังพัฒนาอยู่
ซูเถายิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า “คุณได้ส่งนักวิจัยมาให้เถาหยางจำนวนมาก อีกทั้งสนับสนุนอุปกรณ์และเครื่องมือมากมาย คุณน่าจะรู้แล้วว่าทีมของเสิ่นเวิ่นเฉิงต้องการตัวอย่างซอมบี้กลายพันธุ์เพิ่มอีกหนึ่งตัว ก็จะสามารถไขกุญแจสำคัญในการพัฒนายา คุณต้องการให้เราหาซอมบี้ตัวที่สองให้ได้โดยไวใช่ไหม?”
เธอรู้ว่าไม่สามารถปกปิดเรื่องนี้กับทางฉางจิงได้
การพัฒนายาและวัคซีนป้องกันไม่ได้เป็นเรื่องของเถาหยางเท่านั้น แต่ยังรวมถึงฉางจิง และมนุษย์ทุกคน
เนื่องจากท่านผู้นำสูงสุดรู้ว่าเจียงถงเป็นน้องสาวของเจียงอวี่ หากจะจับซอมบี้กลายพันธุ์ เจียงถงน่าจะเป็นตัวเลือกที่ง่ายที่สุด
บางครั้งกฎของโลกก็เป็นเช่นนี้ ซูเถาต้องค่อย ๆ ทำเพื่อให้บรรลุเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและลดความสูญเสียให้มากที่สุด เพราะกว่าจะจับซอมบี้กลายพันธุ์ตัวอื่น ๆ ได้นั้น ทั้งกำลังคน เสบียง และทรัพยากรทางการเงินที่ต้องใช้นั้นมหาศาลมาก
ซูเถาทนไม่ได้ที่จะต้องเสียสละเพื่อนร่วมชาติมากขึ้นเพื่อ ‘เผ่าพันธุ์ที่แตกต่าง’ และฉางจิงก็คงไม่เห็นด้วยเช่นเดียวกัน
ท่านผู้นำสูงสุดนั่งตัวตรง “ในเมื่อคุณเข้าใจทุกอย่างแล้ว ผมก็จะไม่โยกโย้กับคุณอีกต่อไป ตอนนี้เถาหยางต้องร่วมมือกับการจับกุมเหยียนจ่งและส่งไปยังฐานทดลองโดยเร็วที่สุด ผมหวังว่าคุณจะเข้าใจ”
ซูเถาพยักหน้าด้วยความยากลำบาก
ท่านผู้นำสูงสุดถอนหายใจอีกครั้งและพูดว่า “ผมพอจะรู้เรื่องของเหยียนจ่งมาบ้าง เธอเป็นเด็กที่น่าสงสารและได้กลายเป็นซอมบี้ที่หายากที่ยังมีจิตสำนึกของมนุษย์อยู่ เพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่เราจะเสียสละชีวิตของทหารนับพันนายเพื่อจับฮว่าผี หรือแม้แต่ไซเรน”
หลังจากวางสาย ซูเถาก็ครุ่นคิดอยู่ตามลำพังเป็นเวลานาน
ในที่สุดความคิดทั้งหมดก็กลายเป็นเสียงถอนหายใจยาว