ตอนที่ 823 ลูกสาวค้นหาความจริง
เรื่องดีไม่แพร่งพราย เรื่องร้ายแพร่สะพัดไกลพันลี้
ไม่นานเสียงซุบซิบเกี่ยวกับป้าฝูที่เลี้ยงดูเด็กหนุ่มก็ไปถึงหูลูกสาวของนาง
ลูกสาวของนางจึงมาหาเพื่อค้นหาความจริงว่าเกิดอะไรขึ้น
ในเวลานั้นป้าฝูเสร็จจากการกวาดถนนมาตลอดทั้งวัน และกำลังกลับบ้านด้วยความเหนื่อยล้า
นางต้องการถามไถ่อู๋เสี่ยวเจี๋ยนว่าเขาออกไปหางานทุกวัน แต่ยังไม่มีเงื่อนงำว่าจะได้งานเลยหรือ
หากยังหางานไม่ได้ เขาควรมากวาดถนนกับนางเพื่อช่วยบรรเทาความตึงเครียดเรื่องเงิน
แต่เมื่อกลับมาถึงบ้าน ก็พบว่าอู๋เสี่ยวเจี๋ยนไม่อยู่
นางนึกเสียใจเล็กน้อย แต่เมื่อเสียงเคาะประตูดังขึ้น นางก็คิดว่าจะต้องเป็นอู๋เสี่ยวเจี๋ยนที่กลับมา
ทันทีที่ป้าฝูเปิดประตู นางก็ก่นด่าใส่อีกฝ่าย แต่หลังจากพูดออกไปไม่กี่คำ นางพลันตระหนักได้ว่าผู้ที่ยืนอยู่หน้าประตูคือลูกสาวเพียงคนเดียวที่กำลังท้องแก่
ใบหน้าของป้าฝูเจื่อนไปชั่วขณะ
นางบอกให้ลูกสาวเข้ามาในบ้านก่อน และถามด้วยรอยยิ้มว่า “วันนี้ลูกว่างหรือถึงมาหา?”
ลูกสาวของนางขมวดคิ้วมุ่น แทนที่จะตอบคำถาม หล่อนกลับถามไปว่า “เมื่อกี้แม่ด่าใคร? เจ้าเด็กหนุ่มแซ่อู๋นั่นใช่ไหม?”
ป้าฝูมีลูกสาวเพียงคนเดียว และหล่อนก็เป็นเด็กกตัญญูมาก
เนื่องจากป้าฝูอาศัยอยู่ตัวคนเดียว ลูกสาวจึงแวะมาเยี่ยมเยียนอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง แม้ว่าหล่อนจะกำลังตั้งครรภ์ ฝนจะเทหนักหน่วง หรือแดดส่องแสงเจิดจ้าก็ตาม
อู๋เสี่ยวเจี๋ยนอาศัยอยู่ที่บ้านของป้าฝูระยะหนึ่งแล้ว เมื่อลูกสาวของป้าฝูมาเยี่ยมเยียน หล่อนจึงได้เจอกับอู๋เสี่ยวเจี๋ยนและได้รู้ชื่อของเขา
หล่อนวิเคราะห์คำสบถของผู้เป็นแม่ และคาดเดาได้ว่าอีกฝ่ายกำลังด่าอู๋เสี่ยวเจี๋ยน
ป้าฝูเลี้ยงดูอู๋เสี่ยวเจี๋ยนโดยไม่ขอสิ่งใดตอบแทน ลูกสาวของนางจึงไม่พอใจอย่างมาก และขอให้ป้าฝูไล่อู๋เสี่ยวเจี๋ยนออกจากบ้านหลายครั้ง
แม้ว่าหล่อนจะเห็นใจและต้องการช่วยเหลืออู๋เสี่ยวเจี๋ยน แต่แม่ของหล่อนก็พยายามทำให้เขามาเยอะแล้ว
หากอู๋เสี่ยวเจี๋ยนเป็นชายหนุ่มที่พึ่งพาตัวเองได้ เขาควรหางานทำเพื่อหาเลี้ยงตัวเองภายในหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่ป้าฝูจัดหาที่พักให้ จากนั้นก็ควรย้ายออกไป
แต่กลับกลายเป็นว่าแม่ของหล่อนต้องไปทำงานกวาดถนนเพื่อนำเงินมาเลี้ยงดูเขา
ในสายตาของลูกสาวป้าฝู อู๋เสี่ยวเจี๋ยนเป็นเพียงปลิงที่เกาะร่างกายและดูดเลือดแม่ของหล่อน
ชายหนุ่มเช่นนี้ไม่มีทางเป็นคนดี
แต่แม่ของหล่อนยืนกรานที่จะเลี้ยงดูเขาไว้ในบ้านโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ
หล่อนไม่เข้าใจว่าทำไมผู้เป็นแม่ถึงยืนกรานที่จะเลี้ยงดูชายหนุ่มแซ่อู๋โดยเปล่าประโยชน์
ในที่สุดหล่อนก็ได้รู้คำตอบ ปรากฏว่าแม่ของหล่อนมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับชายหนุ่มแซ่อู๋คนนี้
ต้องเป็นเพราะชายหนุ่มแซ่อู๋ที่ล่อลวงแม่ของหล่อน กระทั่งทำให้ป้าฝูชีวิตตกต่ำในบั้นปลายของชีวิตเช่นนี้
ป้าฝูรู้ดีว่าลูกสาวของนางไม่ชอบใจอู๋เสียวเจี๋ยน และต้องการให้ตนไล่เขาออกจากบ้านในทุกวัน
หากนางยอมรับว่าเมื่อครู่ตนดุด่าอู๋เสี่ยวเจี๋ยน ลูกสาวจะต้องบังคับให้ขับไล่อู๋เสี่ยวเจี๋ยนออกจากบ้านเป็นแน่ไม่ใช่หรือ?
ป้าฝูรีบปฏิเสธอย่างรวดเร็ว “ไม่ใช่เขาหรอก จะเป็นเขาไปได้ยังไง แม่กำลังด่าคนอื่นอยู่”
เมื่อเห็นว่าผู้เป็นแม่ปฏิเสธข้างๆ คูๆ หล่อนก็โกรธเคืองจนแทบทำอะไรไม่ถูก
หล่อนเล่าเรื่องซุบซิบนินทาที่ได้ยินกับผู้เป็นแม่โดยตรง ก่อนถามป้าฝูด้วยสีหน้าจริงจังว่าข่าวลือเหล่านั้นเป็นความจริงหรือไม่
ป้าฝูตกตะลึงไปชั่วขณะ ราวกับถูกสายฟ้าฟาดผ่ากลางตัว
กระทั่งวินาทีนี้เอง นางจึงตระหนักรู้ว่าเรื่องอื้อฉาวไม่อาจปกปิดไว้ได้ เพื่อนบ้านในละแวกที่อยู่อาศัยล้วนรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้ว
นางทำได้เพียงกัดฟันกล่าวปฏิเสธที่จะยอมรับ โดยพูดหลายต่อหลายครั้งว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ
ลูกสาวจับไหล่ของผู้เป็นแม่แน่น และถามว่าที่นางยืมเงินไปกว่าพันหยวนนั้นนำไปใช้ทำอะไร?
นางเอาเงินไปเลี้ยงดูอู๋เสี่ยวเจี๋ยนใช่หรือไม่?
เรื่องที่แม่ของหล่อนนำเงินไปจ่ายค่าชดเชยให้กับอู๋เสี่ยวเจี๋ยน ลูกสาวป้าฝูไม่เคยรับรู้เรื่องนี้เลย
หากหล่อนรับรู้เรื่องนี้ นางคงยืนกรานห้ามปรามอีกฝ่ายอย่างเอาเป็นเอาตาย และแทบไม่ต้องพูดถึงการให้แม่ของตัวเองยืมเงินเพื่อนำไปช่วยเหลืออู๋เสี่ยวเจี๋ยน
ก่อนหน้าที่หล่อนมาถึงชุมชนที่ป้าฝูอาศัยอยู่ ป้าใหญ่สองคนได้หยุดหล่อนไว้
บอกกับหล่อนว่าป้าฝูเป็นคนจ่ายค่าชดเชยเป็นจำนวน 10,000 หยวนแทนอู๋เสี่ยวเจี๋ยน ไม่เช่นนั้นอู๋เสี่ยวเจี๋ยนคงต้องติดคุกไปแล้ว
ลูกสาวป้าฝูโกรธเคืองอย่างหนักจนรู้สึกเจ็บท้องชั่วขณะ
ป้าฝูยังคงกัดฟันปฏิเสธที่จะยอมรับ ตอบกลับลูกสาวไปว่า “มันไม่ได้เป็นแบบนั้น อย่าฟังคำไร้สาระจากคนอื่น บางคนเขาก็แต่งเรื่องขึ้นมา”
ลูกสาวระงับความโกรธและพูดไปว่า “เอาล่ะ ถ้างั้นแม่ก็นำสมุดบัญชีเงินฝากมาให้หนูดูสิว่าเงินในนั้นยังอยู่ไหม”
แน่นอนว่านางไม่มี
ในสมุดบัญชีเงินฝากปกติไม่เหลือเงินแม้แต่เฟินเดียว เช่นเดียวกับในสมุดบัญชีเงินฝากปัจจุบัน
นั่นเป็นเพราะธนาคารมีระเบียบว่าไม่สามารถถอนสมุดคู่ฝากปัจจุบันออกได้ทั้งหมด มิฉะนั้นจะไม่มีเงินในสมุดบัญชี
แล้วป้าฝูจะกล้าเอาสมุดบัญชีให้ลูกสาวดูได้อย่างไร หากทำเช่นนั้นจะไม่เป็นการยอมรับหรอกหรือ?
นางตอบกลับสีหน้าเรียบเฉย “แม่ยังไม่ตาย แต่ลูกกลับคิดถึงเงินออมในบัญชีเสียแล้ว”
ลูกสาวเห็นว่าป้าฝูกลายเป็นคนไม่มีเหตุผลเพราะอู๋เสี่ยวเจี๋ยน หล่อนก็แทบอยากตีอีกฝ่ายให้รู้แล้วรู้รอด ขณะที่รู้สึกเจ็บท้องเพราะความโมโหอีกครั้ง
หล่อนปรับลมหายใจให้คงที่ ก่อนพยักหน้าและพูดว่า “แม่กำลังพยายามแก้ตัวน้ำขุ่นๆ แม้ว่าจะถูกจับได้คาหนังคาเขาใช่ไหม ป้าใหญ่โหลวบอกหนูเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว เพราะลูกชายของหล่อนทำงานในศาล แม่ไปศาลเพื่อขอประกันตัวชายหนุ่มแซ่อู๋ ลูกชายของหล่อนจึงรับรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ ลูกชายป้าใหญ่โหลวบอกหล่อนว่าแม่เสียเงิน 10,000 หยวนให้กับนักศึกษาหญิงชื่อหลินม่ายที่มหาวิทยาลัยชิงหวา หนูจะไปที่มหาวิทยาลัยชิงต้าและถามนักศึกษาหญิงที่ชื่อหลินม่ายคนนั้น ว่าแม่จ่ายเงินให้หล่อน 10,000 หยวนแทนเจ้าคนแซ่อู๋ใช่หรือไม่ ถ้าใช่ แสดงว่าแม่มีความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนกับเจ้าคนแซ่อู๋ จากนั้นเราก็ควรตัดขาดความสัมพันธ์แม่ลูกกัน เพราะหนูยอมรับไม่ได้!”
สิ้นเสียงกล่าว หล่อนหันหลังกลับและหอบท้องโตเดินออกไป
ป้าฝูตื่นตระหนก ถ้าลูกสาวของนางไปถามหลินม่าย มันจะกลายเป็นปัญหาใหญ่เกินกว่าจะแก้ไข
บางทีลูกสาวอาจถึงกับตัดความสัมพันธ์แม่ลูกกับตัวเอง
ด้วยไหวพริบอันฉับไว นางก็ยกมือจับหน้าอกพร้อมร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด
เมื่อเห็นท่าทางทรมานของมารดา ลูกสาวท้องโตตื่นตระหนักและรีบถามว่า “แม่ เป็นอะไรไป?”
ป้าฝูขมวดคิ้วมุ่น “แม่เจ็บหน้าอก หายใจไม่ออก”
ลูกสาวยิ่งตื่นตระหนกเมื่อได้ยินเช่นนี้ หล่อนทำท่าจะออกไปขอให้เพื่อนบ้านช่วยพาป้าฝูไปโรงพยาบาล
แต่ป้าฝูคว้าหล่อนไว้ก่อน “แม่ไม่อยากให้มันเป็นปัญหาใหญ่ อย่าไปรบกวนเพื่อนบ้านเลย ไปที่โต๊ะข้างเตียงและหยิบยาโรคหัวใจมาให้ที เดี๋ยวแม่ก็ไม่เป็นไรแล้ว”
ลูกสาวของป้าฝูรู้ว่าแม่ของตัวเองเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งพบได้บ่อยในผู้สูงอายุ
แต่มันหายาก และเป็นครั้งแรกที่ป้าฝูมีอาการร้ายแรงเหมือนวันนี้
หล่อนรีบไปยังโต๊ะข้างเตียงของป้าฝูเพื่อค้นหามัน แต่กลับไม่พบสิ่งใด
ลูกสาวป้าฝูรีบออกมาและถามว่า “แม่คะ แม่จำผิดหรือเปล่า หนูหาตั้งหลายรอบแล้ว แต่กลับหายาโรคหัวใจไม่เจอเลย”
ป้าฝูใส่ยาโรคหัวใจไว้ในลิ้นชักด้านล่างของตู้เสื้อผ้าใหญ่ แน่นอนว่าลูกสาวของเธอจึงหามันไม่เจอ
“ถ้าหาไม่เจอก็ไม่ต้องหาแล้ว ไปโรงพยาบาลเพื่อขอยาฉุกเฉินมาให้แม่ที” ป้าฝูเร่งรัดอีกฝ่าย
เวลานี้ลูกสาวของป้าฝูอยู่ในความกังวลและสับสน จึงไม่ทันได้คิดหน้าคิดหลัง รีบตรงไปยังโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุดเพื่อขอยาฉุกเฉินให้กับป้าฝู
ทันทีที่ลูกสาวออกจากบ้าน สีหน้าทรมานของป้าฝูพลันหายไป นางรีบออกไปที่ประตูเรียกรถแท็กซี่เพื่อตรงไปหาหลินม่ายที่มหาวิทยาลัยชิงหวา
ร้องขอหลินม่ายด้วยความขมขื่น หากลูกสาวของนางมาถามเรื่องเงินชดเชย 10,000 หยวน ขอให้หลินม่ายปฏิเสธไป
หลินม่ายมองป้าใหญ่ร่างท้วมตรงหน้าด้วยสายตาอันซับซ้อน
หลินม่ายคิดไม่ออกเลยว่า ป้าฝูเอาความกล้ามาจากไหนถึงได้มาขอให้เธอช่วยโกหก หลังจากที่ถ่อมาใส่ร้ายเธอที่มหาวิทยาลัยโดยไม่มีเหตุผล
เธอไม่สนใจป้าฝูและเดินจากไป
ลูกสาวป้าฝูไปสั่งยาที่โรงพยาบาล เมื่อกลับมาก็พบว่าผู้เป็นแม่ไม่อยู่บ้าน
เมื่อรู้ว่าตัวเองตกหลุมพรางล่อเสือออกจากถ้ำของแม่แล้ว หล่อนจึงรีบตรงไปยังมหาวิทยาลัยชิงต้าทันทีเพื่อไปพบกับหลินม่าย ก่อนถามว่าแม่ของหล่อนได้จ่ายเงินชดเชยแทนอู๋เสี่ยวเจี๋ยนเป็นจำนวน 10,000 หยวนใช่หรือไม่
“ใช่ค่ะ” หลินม่ายพยักหน้าบอกไปโดยตรง “แม่ของคุณใจดีกับอู๋เสี่ยวเจี๋ยนมากจริงๆ!”
หลังจากนั้นหลินม่ายก็เดินจากไปด้วยรอยยิ้มมุมปาก
ลูกสาวป้าฝูได้รับการยืนยันจากหลินม่าย จึงกลับไปหาแม่ที่บ้านด้วยความโกรธ โดยวางแผนที่จะบังคับให้ป้าฝูขับไล่อู๋เสี่ยวเจี๋ยนออกจากบ้านให้ได้
ทันทีที่หล่อนเข้าประตูไป สายตาพลันเห็นอู๋เสี่ยวเจี๋ยนนั่งบนโซฟาอย่างสง่าผ่าเผยในห้องนั่งเล่น ขณะพูดคุยและหัวเราะกับแม่ของหล่อน
แม่ของหล่อนถูกอู๋เสี่ยวเจี๋ยนพ่นคำหวานใส่ ใบหน้าของป้าใหญ่เต็มไปด้วยความสุข ซึ่งทำให้ผู้คนที่พบเห็นแทบอยากอาเจียน
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
เพื่อนบ้านคนไหนก็ได้มาช่วยลูกสาวป้าฝูที กลัวว่าท้องแก่ขนาดนั้นแล้วต้องจัดการเรื่องของแม่คนเดียวแล้วจะเกิดอะไรกับลูกในท้องมากเลย
ไหหม่า(海馬)