ยมทูตแห่งความมืด ผู้รับใช้สตรีศักดิ์สิทธิ์แสนขี้เกียจจอมโลภมาก – ตอนที่ 11.5

ยมทูตแห่งความมืด ผู้รับใช้สตรีศักดิ์สิทธิ์แสนขี้เกียจจอมโลภมาก

TN: ตอนนี้จะเป็นตอนต่อมาจาก ตอนที่ 3 “ บทที่ 0  การเกิดใหม่ของสีดำ – ยมทูตและเจ้าหญิงอำมหิต” นะครับ

 

“…มันก็เป็นแบบนี้แหละ”

“หืม”

 

ระหว่างที่ฉันตรวจดูอาวุธกับสิ่งของติดตัวจากกองศพ เผื่อว่าจะเอากลับไปเป็นสินสงครามด้วย สแตก็ขอให้ฉันเล่าตอนที่ฉันเจอกับท่านโนอะครั้งแรกให้ฟังหน่อย ก็พวกเราว่างกันนี่นา

 

“คุโระ”

“อะไรเหรอ?”

“ตอนที่เจอคุณหนูครั้งแรก คิดว่าเห็นราชาเลย”

“ดันเผลอพูดเยอะเกินไปซะแล้ว!”

“แถมยังเป็นรักแรกพบด้วย”

“ฉันไม่ได้พูดแบบนั้นเลยนะ!?”

 

พลาดไปซะแล้ว เผลอย้อนนึกถึงเรื่องเก่าๆ จนหลุดปากออกไปเฉยเลย

 

“แต่ว่า คุณหนูดูโหดจัง”

“ถ้าท่านมีเสน่ห์เหมือนกับภาพจำของฉันเมื่อตอนนั้นจะดีแค่ไหนกันนะ…”

 

ในตอนนั้น นายท่านของฉันดูเปล่งประกายมากๆ เลยนะ แต่ตอนนี้ พอชินแล้ว จะว่ายังไงดีล่ะ นั่นแหละ

 

“แต่ ท่านก็มีข้อบกพร่องอยู่บ้าง”

“ทั้งเห็นแก่ตัว ทั้งเอาใจยาก แต่กลับกระหายต้องการความรู้อย่างมหาศาล แถมเพื่อจะได้องค์ความรู้นั่นมา ท่านก็จะลงมือโดยไม่เลือกวิธีการเลยอีก ไหนจะนิสัยเลือกกินที่ยุ่งยาก ไหนจะไม่มีทักษะในการใช้ชีวิตอะไรซักอย่างอีก…”

“อันนี้ บอกคุณหนู?”

“หยุดเลยนะ”

 

ตอนที่ฉันเจอกับท่าน ฉันก็คิดว่าจะติดตามท่านไปอยู่แล้ว ไม่ว่าท่านจะเป็นคนที่มีนิสัยชวนให้ทุกคนเคารพยกย่อง หรือเป็นจอมพลผู้ชั่วร้ายก็ตาม

แต่ข้อเท็จจริงก็คือเรื่องที่อยู่ในนั้นนั่นแหละ ส่วนหัวเรื่องตรงหน้าปกจะซับซ้อนยังไงมันก็อีกเรื่องนึง

 

“แล้ว เกลียดคุณหนู?”

“ฮะ?”

“ว่าไงเหรอ?”

“…เฮ้อ ไม่ต้องห่วง ไม่มีทางเกลียดหรอก ออกจะชอบด้วยซ้ำ เพื่อท่านผู้นั้นแล้ว ฉันพร้อมทำได้ทุกอย่างนั่นแหละ ฉันไม่ได้ใจเหลาะแหละขนาดที่จะบิดคำถวายสัตย์ปฏิญาณของตัวเองหรอกนะ”

 

ฉันตอบสแตที่ตอนนี้มีสีหน้าไม่สบายใจนิดหน่อยกลับไป

เธอเป็นเด็กเงียบๆ แล้วก็ดูเย็นชานะ แต่จริงๆ เธอเป็นห่วงคนอื่นมากกว่าคนส่วนใหญ่ซะอีก

คงจะมีแวบนึงที่คิดว่าจริงๆ แล้วฉันเกลียดท่านโนอะก็ได้ล่ะมั้ง

 

“อืม โล่งอกไปที”

 

เป็นเด็กดีที่น่ารักจริงๆ เลยนะ

ถึง จะดีกว่านี้อีกก็เถอะถ้าเกิดเธอทำอะไรเรื่องนิสัยที่สติหลุดเวลาท่านโนอะหรือโกราสึเกะโดนพูดจาไม่ดีใส่นั่นซักหน่อยน่ะ

 

“เอาล่ะ เรื่องไร้สาระนี่เอาไว้แค่นี้แล้วกัน ถ้าเจอเสบียงหรืออาวุธหน้าตาดูดีก็เก็บมาด้วยนะ”

“อื้อ”

 

ฉันลงมือทำงานต่อ เก็บดาบของชายคนนั้นที่โดนเรียกว่าหัวหน้าขึ้นมา เอาไปกองกับอาวุธข้างหลังฉัน พร้อมๆ กับพวกอาวุธ แล้วก็อุปกรณ์อื่นๆ

 

“สแต เธอรู้สึกยัง-… อะไรล่ะนั่นน่ะ?”

“รูปภาพ”

 

เป็นรูปถ่ายของเจ้าหัวหน้านั่นน่ะ แล้วก็มีรอยขีดฆ่า กับคำก่นด่าเต็มรูปเลย

 

“เอามาจากตรงไหนน่ะ?”

“หล่นอยู่”

“เจาะจงกว่านี้หน่อยสิ”

“ตรงศพแรก”

“คงจะเกลียดมากเลยสินะเนี่ย ขนาดที่ทำเรื่องที่เหมือนเด็กประถมแกล้งกันแบบนี้น่ะ…”

“เด็กปลาถมนี่อะไรน่ะ?”

 

ไม่อยากให้ท่านโนอะของพวกเราเป็นหัวหน้าของใครที่มันทำแบบนี้เลยแฮะ

 

“ยังไงก็เถอะ ไม่ได้เอาไปใช้ทำอะไรอยู่แล้วล่ะ โยนทิ้งไปได้เลย”

“ถ้าเอารูปนั้นให้ดูนี่ ต่อให้ฉันไม่อยู่ก็ทำร้ายจิตใจได้แล้วนะ”

“ไม่หรอก ก็เป้าหมายของการทำร้ายจิตใจที่ว่านั่น นอนตายอยู่นู่นแล้วไง”

 

ถึงเธอจะทำหน้าเหมือนอยากจะพูดอะไรซักอย่างแบบนั้นอยู่แล้วก็เถอะ

 

“มีอะไรอีกหรือเปล่า?”

“ให้พวกนั้นดูอยู่”

“อ๋า พวกทหารที่เธอควบคุมจิตใจอยู่สินะ ให้ตายสิ ถ้ายังเอามาใช้ประโยชน์ได้ ฉันน่าจะเหลือให้รอดอยู่อีกนานกว่านี้ซักหน่อยดีกว่า”

“ไม่เป็นไร เรียบร้อย”

 

ท้ายที่สุด ของที่ดูเป็นชิ้นเป็นอันที่เราได้มาก็มีแค่ดาบ 20 เล่ม, เสบียง แล้วก็ของอีกนิดๆ หน่อยๆ เท่านั้นเอง

 

“ก็ คงจะประมาณนี้น่ะนะ สแต ฆ่าพวกทหารพวกนั้นหน่อยสิ”

“อือ ‘ฟันกันเองซะ’ ”

 

คนทั้งหมดที่สแตควบคุมเอาไว้ก็ตายหมดแล้ว เท่านี้ ทัพแยก 500 คนก็โดนกวาดล้างจริงๆ ซักที

 

“เฮ้อ เหนื่อยจังเลย… รีบๆ กลับกันเถอะ”

“อือ แต่ว่า จะแบกยังไง?”

“แค่ขี่ม้าก็พอแล้วนี่ มันถูกเตรียมไว้พร้อมอยู่แล้วล่ะ”

“แต่ว่าคุณม้า โดนเวทมนตร์ของคุโระไปด้วย―――”

 

พอฉันมองไปตามนิ้วของสแตที่ชี้ไป ตรงนั้นก็มีม้าตัวนึงนอนนิ่งไม่ไหวติงอยู่บนพื้น

 

“ตายซะแล้ว”

 

ฝีมือฉันเองนี่นา

 

“แบกกันไป 2 คน?”

“ล้อเล่นได้ไม่ขำเลยนะ อยากให้เด็กสาวอ่อนแอ 2 คนแบกของขนาดนี้กลับไปน่ะเหรอ? เฮ้อ ช่วยไม่ได้นะ เราคนนึงกลับไปที่ค่าย แล้วก็พาพวกทหารกับทหารรับจ้างมาตรงนี้ก็แล้วกัน”

“คุโระทำ คุโระไปสิ”

“ไม่ล่ะ ถ้าสแตไปเรียก เจ้าโลลิคอนพวกนั้นต้องทำตามแน่”

 

 

“เป่า ยิ้ง”

“ใครจะไปเล่นเป่ายิ้งฉุบกับเธอที่อ่านใจได้กันล่ะ?”

“……มู่ว งั้น ใช้เจ้านี่”

“รูปที่โดนขีดเขียนเมื่อกี้น่ะเหรอ? จะทำยังไงล่ะ?”

“ปล่อยลงพื้น ออกหัว ฉันไป ออกก้อย คุโระไป”

“ไม่เคยคิดเลยแฮะว่าจะได้เอามาใช้ประโยชน์จริงๆ”

 

ผลจากการที่ปล่อยรูปลงมาจากคน 2 คน เพื่อจะได้ไม่มีการโกงกันเกิดขึ้น ฉันก็ได้สิทธิในการนั่งพักอยู่ตรงนี้ไป

 

TN: เจ้าตัวไม่รู้ แต่คนอื่นเข้ารู้กันหมดน้า~ ^^ (ผู้แปลอยากเล่าเรื่องของน้องสแตเร็วๆ จัง)

ตอนนี้ “โนอะ” ก็ได้เจอกับ “เด็กสาวผมดำไร้ชื่อ” แล้วนะครับ งั้นในบทหน้า เราก็มุ่งหน้ากลับไปที่คฤหาสน์ของตระกูลเทียไลท์ บ้านขุนนางตำแหน่งใหญ่ที่กุมความลับสำคัญมากบางอย่างเอาไว้กันเลยดีกว่า~

ยมทูตแห่งความมืด ผู้รับใช้สตรีศักดิ์สิทธิ์แสนขี้เกียจจอมโลภมาก

ยมทูตแห่งความมืด ผู้รับใช้สตรีศักดิ์สิทธิ์แสนขี้เกียจจอมโลภมาก

Status: Ongoing
ฉันถูกพ่อแม่ทำร้ายทารุณ แล้วกำลังจะเอาฉันไปขายอยู่แล้ว ฉันก็เลยชิงฆ่าตัวตายก่อนซะเลย ตื่นขึ้นมาอีกที ฉันก็มาอยู่ที่ต่างโลกแล้ว ที่นี่ เวทมนตร์ที่ใช้ได้จะถูกตัดสินด้วยสีผม นอกจากสีที่มีแล้วก็จะไม่สามารถใช้เวทมนตร์อื่นได้เลย แล้วฉันดันเกิดใหม่มามีผมสีดำ สีผมชั้นต่ำที่เลวร้ายที่สุด แถมยังโดนดูถูกเหยียดหยามอยู่ตลอดอีกต่างหาก ฉันเหนื่อยกับความอับโชคจากชาติก่อนเต็มทนแล้ว ฉันยอมแพ้กับทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ตอนนี้ ฉันก็ต้องมามีชีวิตแบบนี้อีกเนี่ยนะ “ถ้าหากไม่ว่ายังไง เธอก็จะทิ้งขว้างชีวิตของตัวเองอยู่แล้ว แบบนั้นมันเสียของออก เพราะฉะนั้น ใช้มันเพื่อฉันซะสิ” ฉันได้พบกับเจ้านายของฉันที่พูดเอาไว้แบบนั้น แล้วชีวิตของฉันก็เปลี่ยนไป ฉันกล่าวคำสาบาน จะขออุทิศทั้งชีวิตให้บุคคลคนนี้ ท่านโนอะ แม้จะเป็นเส้นทางสู่ความเป็นใหญ่สูงสุดที่ท่านเดินมุ่งไปนั่นก็ตาม ฉันหวังแต่ขอให้ท่านอยู่กับฉันจนถึงที่สุดก็พอ เพราะงั้นนะคะ ท่านโนอะ ได้โปรดยับยั้งเรื่องความเอาแต่ใจนั่นของท่านด้วยเถอะนะคะ! ※ตัวละครเอกเรื่องนี้ไม่ได้เป็นคนดี ใครต้องการเรื่องแนวแฟนตาซีโลกสวยล่ะก็ ขอเชิญเรื่องอื่นนะ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท