บทที่ 579 ฉัน…ภูมิใจ!
“จริงด้วย คุณว่าเฉินชางแต่งตัวดีขนาดนี้ พาฉินเยว่ไปทำอะไรล่ะ”
เหล่าฉินเอ่ยถามคล้ายคิดอะไรอยู่ “จะมี…การแสดงโรแมนติกอะไรหรือเปล่า อย่างเช่นประดับเทียนสารภาพรักอะไรแบบนั้น”
พอพูดแบบนี้ จี้หรูอวิ๋นก็กระตือรือร้นทันที รีบเอ่ยว่า “ใช่แล้ว! รอให้เยว่เยว่มาแล้วถามให้ชัดดูว่าวันนี้ทั้งสองคนไปทำอะไรมา”
ระหว่างที่พูดประตูก็เปิดออกแล้ว ฉินเยว่ยิ้มกอดไวน์ขวดหนึ่งเดินเข้ามา “แม่ขา ของขวัญให้แม่ค่ะ!” เธอพูดพลางส่งไวน์แดงให้
เหล่าฉินสูดหายใจแรงๆ “ลูกดื่มเหล้ามาเหรอ”
ฉินเยว่พยักหน้า “ค่ะ ไปกินอาหารฝรั่งมาก็ต้องดื่มไวน์แดงอยู่แล้ว! คืนนี้พวกเรากินข้าวกันที่ร้านคริสค่ะ!”
“ลูกบอกว่าจะพาเราไป ป่านนี้แล้วยังไม่ได้ไปเลย” ฉินเยว่มองเหล่าฉินแล้วกลอกตา
“แม่คะ อาหารฝรั่งที่นั่นดีมากจริงๆ! วันหลังหนูจะพาแม่ไปกิน ถ้าหนูพาแม่ไปได้ลดราคาด้วย!”
วันนี้ฉินเยว่ถึงกับได้ดื่มด่ำชีวิตหรูหราของลัทธิทุนนิยม ก่อนออกไปจากร้าน ทางร้านยังให้บัตรสมาชิกไพรเวทมาใบหนึ่งด้วย บัตรลดได้ห้าเปอร์เซ็นต์ ที่สำคัญที่สุดคือจองที่นั่งล่วงหน้าได้
พอฉินเสี้ยวยวนได้ยินก็หัวเราะขึ้นมาทันที “ทำไมพ่อไม่ยักรู้ว่าร้านคริสยังลดราคาด้วย”
ฉินเยว่พลันพูดหน้าระรื่น “เพราะเฉินชางกับเจ้าของร้านนั้นเป็นเพื่อนกัน นี่ยังไม่หมดนะคะ ยังให้ไวน์แดงมาด้วยขวดหนึ่ง”
ฉินเสี้ยวยวนอึ้งไปทันที
เฉินชางกับเจ้าของร้านคริสเป็นเพื่อนกันเหรอ
หรือเด็กนี่…จะแกล้งทำตัวไร้น้ำยา ปิดบังชื่อแซ่ซุ่มตัวอยู่ในห้องฉุกเฉินสามปีเพื่อจีบฉินเยว่ของพวกเรา
ทันใดนั้น ในสมองฉินเสี้ยวยวนก็เต็มไปด้วยภาพยนตร์เรื่อง ‘ถังไป่หู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศ’ ทั้งเรื่อง
จี้หรูอวิ๋นเอาไวน์แดงออกมาดูดีๆ ยิ้มขึ้นมาทันที “โอ้โห เป็นของโรมาเน กงติด้วยเหรอ เสี่ยวเฉินตั้งใจนะเนี่ย…ตอนนี้แม่ยิ่งชอบเด็กคนนี้ซะแล้วสิ”
เหล่าฉินมองจี้หรูอวิ๋นอย่างหมั่นไส้ ไวน์ขวดเดียวก็ซื้อคุณได้แล้วหรือ
เหล่าฉินเอ่ยถาม “เยว่เยว่ วันนี้พวกลูกสองคนไปทำอะไรมา”
ฉินเยว่หน้าแดงขึ้น “วันนี้เฉินชางขอหนูแต่งงานแล้วค่ะ”
ประโยคเดียว จี้หรูอวิ๋นกับเหล่าฉินตื่นเต้นขึ้นมาทันที “เร็วเข้า รีบเล่าให้แม่ฟังเลย เขาขอยังไง แม่ว่าแล้ว วันนี้เขาใส่สูทแต่งตัวทางการขนาดนี้”
ฉินเยว่ก็อยากเห็นเนื้อหาข้างในยูเอสบี จึงลุกขึ้นเอายูเอสบีเสียบเข้ากับโทรทัศน์ กดปุ่มแสดงภาพทันที
จี้หรูอวิ๋นผงะไป “ลูกให้แม่ดูนี่ทำไม”
ฉินเยว่ยิ้มมีเลศนัย “สิ่งที่แม่อยากเห็นก็อยู่ในนี้ไงคะ หนูเองยังไม่รู้เลยว่าถูกถ่ายไว้”
หลังจากพูดจบ ภาพในโทรทัศน์ก็เปลี่ยนไป ถึงกับมีเสียงประกอบ ต้องบอกว่ามืออาชีพมาก
เริ่มจากฉินเยว่เพิ่งจากรถแท็กซี่ หน้าตื่นเข้าไปในลิฟต์ รายละเอียดสอดรับกับเสียงประกอบได้ดีนัก
ต่อมาฉากก็เปลี่ยนไป ฉินเยว่ปรากฏตัวในร้านคริสอันหรูหรา ตอนนี้เอง เสียงเปียโนดังขึ้น…ชายหนุ่มในชุดสูทสีขาวคนหนึ่งกำลังเล่นเปียโน มุมมองเปลี่ยนไป เห็นใบหน้าด้านข้างอันคมเข้มได้พอดี เฉินชางนั่นเอง!
จี้หรูอวิ๋นอึ้งไปทันที “โอ้โห นี่เสี่ยวเฉินใช่ไหม หล่อจริงๆ เลย หล่อกว่าดาราอีก…แถมยังเล่นเปียโนเก่งขนาดนี้ด้วย!”
เหล่าฉินก็งงเหมือนกัน! ยิ่งมั่นใจในความคิดของตัวเอง
ไอ้หนูนี่ต้องวางแผนเรื่องลูกสาวเรามานานแล้ว ดูแบบนี้มันสไตล์ท่านประธานจอมเผด็จการจากตระกูลใหญ่…
ถัดมาเสียงเปียโนจบลง วงไวโอลินปรากฏตัว เฉินชางถือดอกไม้สดออกมาคุกเข่าลงเริ่มขอแต่งงาน
การสารภาพรักอันโรแมนติกทำให้ฉินเยว่น้ำตาคลอจริงๆ ขนาดจี้หรูอวิ๋นได้เห็นแล้วยังจิตใจหวั่นไหว!
เมื่อเพชรสีชมพูออกโรง เธอถึงกับรู้สึกว่ามันเปล่งประกายเจิดจ้าเพราะความพิเศษของแววแสง งดงามเป็นที่สุด!
จี้หรูอวิ๋นถึงขนาดหยุดหายใจ!
แหวนเพชรสวยจังเลย!
เฉินชางสวมแหวนให้ฉินเยว่เอง ฝูงชนที่อยู่รอบๆ มอบดอกไม้ให้…
เป็นภาพที่สวยงามจริงๆ!
ชั่วขณะหนึ่ง จี้หรูอวิ๋นก็ยกยอเฉินชางไม่หยุดปาก และย่อมขาดการตำหนิเหล่าฉินไปไม่ได้เช่นกัน
“คุณดูเขาสิ ดูเขาขอแต่งงาน…โรแมนติกมากเลย! ไหนจะการตัดต่อคลิปนี่อีก…ชาตินี้ทั้งชาติก็ลืมไม่ลง!”
“แล้วดูคุณสิ ตอนนั้นไม่ขอแต่งงานด้วยซ้ำ…น่าโมโหเป็นบ้า…”
……
จี้หรูอวิ๋นเดาะลิ้นด้วยความตกตะลึง เอ่ยทอดถอนใจว่า “อย่างกับในทีวี จริงสิ เยว่เยว่ ทำไมลูกใส่ชุดวอร์มเสื้อฮู้ดล่ะ นี่มัน….ไม่เข้ากับบรรยากาศเกินไปแล้ว!”
ฉินเยว่จึงโมโหเต็มที “อีตานี่ไม่บอกหนู ทำให้หนูปล่อยไก่เลย!”
จู่ๆ จี้หรูอวิ๋นก็เอ่ยขึ้น “ใช่แล้ว…แหวนเพชรนั่นล่ะ?”
ฉินเยว่ล้วงกล่องจากกระเป๋ากางเกง แล้วเอาแหวนเพชรออกมา “แม่ดูสิ นี่เป็นสิ่งที่เพื่อนชาวต่างชาติคนหนึ่งของเฉินชางมอบให้เขา แถมยังหาดีไซเนอร์ของทิฟฟานี่มาออกแบบให้ด้วย!”
คำพูดเดียวทำให้จี้หรูอวิ๋นอึ้งทันที หยิบมือถือขึ้นมาดูประวัติย้อนหลัง แล้วเปิดเว็บเพจเว็บหนึ่ง
“เพชรชมพู 5.20 กะรัตถูกยักษ์ใหญ่นักลงทุนเลน่าคอร์น ซิตตันประมูลไปในราคาห้าล้านสองแสนดอลลาร์!”
สิ่งที่แนบมามีภาพของเพชรชมพูเม็ดนี้!
พอเทียบกันดีๆ ดันเหมือนกันเป๊ะ!
คราวนี้งงกันไปทั้งบ้านแล้ว…
ฉินเยว่ก็คิดไม่ถึงว่าเฉินชางจะถึงขนาดมอบแหวนเพชรที่แพงขนาดนี้ให้ตน…
ชั่วขณะนั้นเธอถึงกับปรับตัวไม่ทัน
ฉินเยว่อึ้งไปครู่หนึ่งแล้วเอ่ยว่า “เพื่อนของเฉินชางคนนั้น…เหมือนจะเป็นเลน่าคอร์น ซิตตัน…”
“เพื่อนอีกคนหนึ่งคือเจิ้งกั๋วถาน ก็เป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งในเมืองอันหยางของเรา…”
เหล่าฉินตื่นตะลึงไปพักหนึ่ง!
เดิมทียังกังวลว่าเสี่ยวเฉินจะทำให้เสี่ยวฉินมีความสุขได้ไหมอยู่เลย ตอนนี้มาคิดดู เขาแค่ซื้อแหวนทีหนึ่งยังรวยกว่าตัวเองอีก!
หรือเราเดาถูก
เฉินชางแสร้งทำเป็นไร้น้ำยาจริงๆ หรือ!
คืนนี้บ้านเหล่าฉินย่อมนอนไม่ค่อยหลับ
ถึงอย่างไรสิ่งนี้ก็ล้ำค่าเกินไปแล้ว
แต่นี่เป็นสิ่งยืนยันความรัก!
นี่เป็นถึงมรดกตกทอดได้เลยนะ…
ไอ้เศรษฐีใหม่นี่ไม่ขาดเงินจริงๆ ใช่ไหม
เพชรชมพูล้ำค่าเม็ดโตขนาดนี้ให้คนอื่นได้ง่ายๆ เลยเหรอ
แม้ฉินเยว่ออกจะตื่นเต้น แต่ประหลาดใจเสียมากกว่า ถึงอย่างไรเธอก็รู้สึกว่าตนกลายเป็นเจ้าหญิงในเทพนิยาย ส่วนเฉินชางก็เป็นเจ้าชายขี่ม้าขาว!
ฉินเยว่เล่าใส่สีตีไข่วีรกรรมอันทรงเกียรติของเฉินชางว่าเจ๋งกว่าผู้ก่อตั้งคลินิกศัลยกรรม CIS ชั้นยอดที่เก่งกาจที่สุดในโลกอะไรนั่น อวยว่าเหนือฟ้าใต้หล้าเฉินชางเก่งที่สุดแล้ว!
ถึงอย่างไรจากถ้อยคำปากหวานของฉินเยว่ เฉินชางก็มีรัศมีล้อมรอบ
จี้หรูอวิ๋นได้ฟังก็รู้สึกเหมือนฟังนิทานอยู่
“เสี่ยวเฉินเก่งจริงๆ นะ!”
“เฮ้อ…เหล่าฉินเอ๋ยเหล่าฉิน คุณดูเสี่ยวเฉินเขาแล้วดูคุณสิ คุณยังพูดว่าคนเราจะดูแต่ภายนอกไม่ได้ต้องดูเนื้อใน คุณดูเนื้อในของเสี่ยวเฉินเขาสิ สู้คุณไปเปรียบเทียบรูปลักษณ์ภายนอกดีกว่า…”
“ดูสิเขายังเล่นเปียโนเป็นด้วย นี่เล่นดีมากเลย มากความสามารถ ครบเครื่องทั้งเก่งทั้งหล่อ ผ่าตัดก็ยิ่งเก่ง เก่งกว่าคนนั้น…คนไหนนะเสียอีก!”
“เฮ้อ…ความต่างของคนเรานี่นะ…”
……
เหล่าฉินขมขื่นใจนัก!
ฉันไปยั่วใครเข้านี่ ทำไมฉันต้องถูกทรมานแบบนี้ด้วย
ยิ่งคิด เหล่าฉินก็ยิ่งรู้สึกคับข้องใจ
แต่…พอฉินเสี้ยวยวนเปลี่ยนความคิด ไอ้หนูเฉินชางนี่เป็นลูกเขยเรา… ถ้าเขามีอนาคต ไม่ได้หมายความว่าตนจะมีอนาคตด้วยหรือ
พอคิดถึงตรงนี้ จู่ๆ ฉินเสี้ยวยวนก็ดีใจขึ้นมา
ลูกเขยฉันเก่งจังนะ! ฉันภูมิใจ!
อืม…ไม่เลว