บทที่ 804 ไม่ต้องมาเรียกข้าว่าท่านพ่อบุญธรรม เจ้าพาพ่อทูนหัวกลับมาให้ข้าชัด ๆ!
เจ้าหลวงไปแล้ว และกระทำการรัดกุมเป็นอย่างยิ่ง เขาในยามนี้มีระดับพลังไม่ธรรมดา มีกำลังรบที่ทัดเทียมจักรพรรดิเซียน
หากเป็นเขาในอดีต ไหนเลยจะทำตัวแนบเนียนไปกับฝูงชนเช่นนี้ ไม่มีทางเลย กำลังรบระดับจักรพรรดิเซียนพอให้เขาทะนงโอหัง ไม่เหลือความเกรงกลัวใด ๆ
ทว่า เขาประสบกับเรื่องสะเทือนใจมากเกินไป ไม่กล้ากระโตกกระตากอีก ประกอบกับแดนบรรพโกลาหลเชื่อมต่อกับอาณาจักรนี้แล้ว เขายิ่งไม่กล้าเอิกเกริก สงวนพลังปราณในตัว ไม่เปิดเผยออกไปแม้แต่น้อย!
ไม่นานนัก เขาก็พบเจอกับสิ่งมีชีวิตจำนวนหนึ่งและจับไว้ได้ง่ายดาย น่าเสียดาย สิ่งมีชีวิตกลุ่มนี้ขอบเขตพลังต่ำเกินไป ไม่รู้เรื่องรู้ราว ถึงคุมตัวกลับไปก็เปล่าประโยชน์
ทว่าเขายังได้ข้อมูลที่มีประโยชน์มาบ้าง
ในจุดที่ห่างออกไปไม่ไกล มีสถานศึกษาเทียนตี้อยู่แห่งหนึ่ง ก่อตั้งโดยกลุ่มอำนาจเก่าแก่ที่สุดในอาณาจักรนี้ และเป็นสถานศึกษาใหญ่โตที่สุดในอาณาจักรนี้ เรียกได้ว่ามียอดฝีมืออยู่ในนั้นนับไม่ถ้วน!
“เช่นนี้นับว่าเหมาะ…”
เจ้าหลวงหรี่ตา รุดหน้าไปยังสถานศึกษาเทียนตี้
หากเขาจับตัวยอดฝีมือในสถานศึกษาใหญ่โตที่สุดในอาณาจักรนี้ได้ ย่อมได้รับข้อมูลที่มีประโยชน์อีกมหาศาล
พริบตาต่อมา เขาก็มาถึงสถานศึกษาเทียนตี้ มือใหญ่โบกสะบัด คนจำนวนมากถูกม้วนเอาไปด้วย และคนทั้งหมดยังเป็นยอดฝีมือของสถานศึกษาแห่งนี้
ระหว่างนี้ เขาไม่ได้ก่อความอึกทึกครึกโครมแต่อย่างใด
พลังระดับจักรพรรดิเซียนเพียงพอให้เขาทำเช่นนี้ได้
“กลุ่มสิ่งมีชีวิตเหนือขอบเขตเซียนขึ้นไป นับเป็นสถานศึกษาใหญ่โตที่สุดได้จริง ๆ”
เขาพึงพอใจมาก รีบพาสิ่งมีชีวิตกลุ่มนี้กลับไป
“ท่านพ่อบุญธรรม ข้ากลับมาแล้ว!”
เพียงไม่นาน เขาก็กลับมาหาบิดาบุญธรรมของตนพร้อมสะบัดมือ มีพลังไหลเวียนออกมา บรรดายอดฝีมือในสถานศึกษาที่เขาพามาด้วยต่างปรากฏกาย ณ ที่นี่
“เกิดอันใดขึ้น”
“ที่นี่ที่ไหน”
แม้ว่าเหล่ายอดฝีมือจากสถานศึกษาจะงุนงงเป็นอย่างมาก อีกทั้งตกตะลึง เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้น เพียงรู้สึกถูกพลังบางอย่างม้วนตัวไปในชั่วพริบตา จากนั้น ก็มาปรากฏกายที่นี่!
ทว่า ในบรรดายอดฝีมือจากสถานศึกษา มีผู้เฒ่าชราท่าทางกระปรี้กระเปร่าท่านหนึ่งแสร้งทำทีเป็นวิตก แท้จริงแล้วหาได้เกรงกลัวไม่
เขาคือเมิ่งจี เคยติดตามข้างกายคุณชายมาระยะหนึ่ง แล้วยังเคยพำนักในลานเล็กของคุณชายด้วย ต่อมา เมื่อคราวต่อกรกับแดนต้องห้ามทั้งหลาย เขาเป็นกำลังสำคัญคนหนึ่ง
นับแต่นั้นมา เขาก็พำนักต่อในสถานศึกษา คอยชี้แนะปลูกฝังกองกำลังรุ่นใหม่
เมื่อครั้งเจ้าหลวงปรากฏกายที่สถานศึกษา เขาก็รู้ตัวแล้ว ทั้งยังตระหนักถึงฐานะของเจ้าหลวงอีกด้วย รู้ว่าเจ้าหลวงคือสิ่งมีชีวิตพิศวงลางร้าย
แม้ว่าเจ้าหลวงจะเป็นจักรพรรดิเซียน ทว่าขอบเขตของเขาสูงกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย เขาอยู่ในขอบเขตโกลาหลขั้นเก้า เจ้าหลวงอำพรางตนได้อย่างแนบเนียน ไม่เผยพลังปราณออกมาสักนิด แต่ขอบเขตของตนสูงกว่าเจ้าหลวงมากโข จึงสืบเสาะข้อมูลทุกอย่างของเจ้าหลวงได้อย่างง่ายดาย
เขาไม่ได้ลงมือทันที เพราะอยากดูว่าเจ้าหลวงคิดทำการใด
ขณะที่เจ้าหลวงใช้พลังม้วนเอายอดฝีมือในสถานศึกษาไป เขาจึงตามมาด้วย
ด้วยพลังของเขา เจ้าหลวงย่อมไม่อาจรับรู้
“ทำได้ไม่เลว!”
บรรพจารย์เหยียนเอ่ยชมเจ้าหลวง กำลังรบระดับจักรพรรดิเซียนไม่ถือว่าสูงส่งนัก กระนั้นก็มิได้ต่ำต้อย เมื่อพามาที่นี่จึงไม่เป็นที่เอิกเกริก และได้รู้เรื่องที่เขาอยากรู้ด้วย
“พวกเจ้าต้องการสิ่งใด”
เมิ่งจีเอ่ยพลางแสร้งทำทีเป็นผวา
“เปล่า แค่อยากรู้บางอย่างเท่านั้น”
บรรพจารย์เหยียนเอ่ยเสียงเบา
หลังเจ้าหลวงจากไป มันได้วางกำลังในสถานที่แห่งนี้โดยปิดผนึกพื้นที่ทั้งหมด มันไม่ต้องกังวลว่าจะเปิดเผยตัวตน เพียงคลี่แผ่พลังจิตออกไปก็ค้นวิญญาณเมิ่งจีได้เลย!
ทันใดนั้น สายตาเมิ่งจีเลื่อนลอยต่างจากเดิม
“ขอข้าดูหน่อยเถิดว่าเกิดเรื่องใดในอาณาจักรนี้บ้าง!”
บรรพจารย์เหยียนตาเป็นประกาย ไม่มีความจำเป็นต้องเอ่ยถาม หากแต่ค้นวิญญาณโดยตรงได้เลย ทำเช่นนี้ไม่เพียงแต่รวดเร็ว แต่ยังช่วยเลี่ยงคำโป้ปดได้ด้วย
ทว่าในไม่เช้า สีหน้ามันก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
มันเข้าไปถึงวิญญาณของเมิ่งจีได้ในการตั้งจิตเพียงครั้งเดียว เดิมต้องการสืบค้นว่าเกิดเรื่องใดในอาณาจักรนี้ ทว่ามันทำไม่สำเร็จ
หลังมันเข้าไป ก็ได้ยินเสียงก่นด่ามากมาย ร่างย่อวิญญาณของเมิ่งจีกำลังชี้หน้าด่ามัน!
“อ๊าก!”
มันส่งเสียงครวญคราง หน้าตาซีดเผือด เสี้ยวจิตที่เข้าไปในส่วนวิญญาณของเมิ่งจีถูกลบล้างไปอย่างน่าอนาถ
ยังดีที่มันมีปฏิภาณไหวพริบ ซ้ำยังเด็ดขาดฉะฉาน ตัดการเชื่อมต่อกับเสี้ยวจิตนั้นในทันที มิฉะนั้น มันคงบาดเจ็บหนักกว่านี้
“ท่านพ่อบุญธรรม ท่านเป็นอันใดไป!?”
เจ้าหลวงตกตะลึง รีบเข้าไปประคองบรรพจารย์เหยียน
“ไม่ต้องมาเรียกข้าว่าท่านพ่อบุญธรรม! ไอ้เวรนี่… เจ้าพาพ่อทูนหัวมาให้ข้าชัด ๆ!”
บรรพจารย์เหยียนโมโหจนเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน ตบเจ้าหลวงกระเด็นไปอีกด้าน
“ท้ายที่สุดข้าก็ไม่อาจต้านเจ้าได้ สุดท้ายก็ถูกเจ้าข่มดวงจนได้!”
อย่าให้เอ่ยเลยว่าบรรพจารย์เหยียนสำนึกเสียใจเพียงใด มันอวดดีเกินไป ทึกทักเอาเองว่าตนนั้นไม่ธรรมดา คิดว่ามันไม่มีทางถูกเจ้าหลวงข่มดวง
แต่ดูจากสถานการณ์ในยามนี้ มันพ่ายแพ้ให้กับเจ้าหลวงเสียแล้ว ต้องถูกเจ้าหลวงข่มดวงในที่สุด!
เมิ่งจีย่อมไม่ธรรมดา ต่อกรด้วยยากยิ่ง มันต้องจบเห่เพราะเจ้าหลวง!
“อ๊าก ๆๆ เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้”
ปากของเจ้าหลวงเต็มไปด้วยโลหิต ฝ่ามือของบรรพจารย์เหยียนเมื่อครู่เกือบตบเขาตายคาที่
ทว่าเทียบกับเรื่องนั้น สิ่งที่เขาชอกช้ำใจยิ่งกว่าคือเหตุใดเขาถึงโชคร้ายเยี่ยงนี้ ทั้งที่ระมัดระวังพอแล้วแท้ ๆ ไยจึงเกิดเรื่องได้อีก
หรือว่าเขาเป็นผู้ข่มดวงอย่างไม่อาจเลี่ยงจริง ๆ
ผู้ที่ใกล้ชิดกับเขาต้องถูกเขาข่มดวงทั้งหมด?!
“ถูกลิขิตให้โดดเดี่ยวจนถึงวันสุดท้ายอย่างนั้นหรือ”
เขาขบฟันด้วยความคับแค้น สวรรค์ช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย นี่คิดจะให้เขาต้องอยู่อย่างเดียวดายไปตลอดชีวิตเลยหรือ
“ได้ ข้ายอมแล้ว หากวันนี้ข้ารอดออกไปได้ วันหน้าข้าจักเป็นคนไร้ความรู้สึก!”
เขาลอบสาบานในใจ จากนี้ไป ไม่ขอตามหาบิดาบุญธรรมอีก เขายอมรับชะตากรรมแล้ว ต่อไป เขาจักอยู่ตัวคนเดียวจนถึงวันสุดท้าย
ตู้ม!
บรรพจารย์เหยียนเด็ดขาดมาก มิได้พูดพร่ำทำเพลงหรือเคลื่อนไหวให้มากความ ตรงดิ่งหมายจะไปจากที่นี่
เมิ่งจีต่อกรด้วยยากยิ่ง ซ้ำในอาณาจักรนี้ยังเปลี่ยนแปลงไปอย่างมหันต์ มันกลัวจะเกิดเรื่อง!
ส่วนเจ้าหลวงนั้น มันไม่แม้แต่จะแยแส!
มันเสียใจเหลือเกิน หากรู้แต่แรกว่าเจ้าหลวงดวงแข็งเยี่ยงนี้ มันควรต้องรีบฆ่าเจ้าหลวงไปเสียถึงจะถูก!
“เจ้าหนีไม่พ้นหรอก!”
เมิ่งจีตาลุกวาว ยกมือเรียกพู่กันออกมาหนึ่งด้าม เขียนอักษรสะกดอย่างรวดเร็วเพื่อปิดผนึกพื้นที่นี้
บรรพจารย์เหยียนสีหน้าเคร่งเครียด เมิ่งจีผู้นี้ไม่ธรรมดาตามคาด พู่กันในมือเขาเป็นภัยคุกคามต่อมันอย่างมาก
“พวกเราไม่จำเป็นต้องมุ่งมั่นเอาชีวิตกันเช่นนี้! เรื่องวันนี้เป็นเพียงการเข้าใจผิด ข้ามิได้คิดทำการใดต่อพวกเจ้า!”
มันมองเมิ่งจีพลางกล่าว “หากวันนี้เจ้ายอมให้โอกาสข้าหนี วันหน้า ข้าจักให้โอกาสเช่นนี้กับเจ้าเหมือนกัน ยอมให้เจ้าหนี!”
จากนั้น มันกล่าวต่อ “ข้าบอกเจ้าได้อย่างชัดเจนเลยว่า ความพิศวงลางร้ายในอาณาจักรนี้เป็นเพียงหน่วยย่อย มิใช่แดนกำเนิดอันแท้จริง! ลำพังหน่วยย่อยพวกเจ้ายังรับมือด้วยความลำบาก ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงแดนกำเนิดของเรา!”
ยามกล่าวมาถึงนี่ มันมีท่าทีภาคภูมิ
“บัดนี้เจ้าเข้าใจแล้วใช่หรือไม่ วันนี้เจ้าปล่อยข้าไป วันหน้า ข้าจะยอมปล่อยเจ้า!”
มันมองเมิ่งจีพลางกล่าว
“ยังคาดหวังในแดนกำเนิดของพวกเจ้าอีกหรือ พลังซึ่งอยู่เหนือต้นบรรพจารย์ของพวกเจ้าถูกเล่นงานไปหมดแล้ว!”
เมิ่งจีหัวเราะ
ดูท่า บรรพจารย์เหยียนผู้นี้จะไม่รู้เรื่องอันใดเลย…