อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร – ตอนที่ 419 ห้ามเลี้ยงไว้ในบ้าน

อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร

ตอนที่ 419 ห้ามเลี้ยงไว้ในบ้าน

นับถอยหลังก่อนสิ้นสุดปิดเทอมหน้าร้อนหนึ่งสัปดาห์ มู่เถาเยาไปป่าพิษหมาป่าพร้อมลู่จือฉิน ปาอิน ลู่หันซู และถังถัง เพื่อเก็บสมุนไพรกับดอกจื่อตัน

ถังถังมองหมาป่าที่ยืนกันละลานตาอยู่ตรงหน้า แอบขนลุกเล็กน้อย

“เสี่ยวเยาเยา ป่าพิษหมาป่ามีหมาป่าอยู่เท่าไรกันแน่”

“ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ ไม่เคยมีใครนับ”

“ไม่มีคนดูแลโดยเฉพาะเหรอ”

“ที่นี่ปล่อยไปตามธรรมชาติ ไม่จำเป็นต้องมีคนดูแลค่ะ”

“ยังดีที่ในเผ่าไม่มีคนแอบล่า ไม่อย่างนั้นถ้าหมาป่าจำนวนมากถูกถลกหนังทำเสื้อผ้า…แค่คิดก็น่ากลัวแล้ว”

ปาอินยิ้มหวาน “คนเผ่าหมาป่าพระจันทร์ศรัทธาในหมาป่า เลยไม่มีใครล่าหมาป่า หมาป่าเป็นเพื่อนของเรา การฆ่าหมาป่าก็เท่ากับฆ่าคน มีโทษหนักอาจถึงขั้นประหารชีวิตได้เลยนะคะ”

ถังถัง “นั่นเป็นเพราะที่นี่ดูแลดีด้วย พวกนักล่าสัตว์จากประเทศอื่นเข้ามาไม่ได้”

ถ้าพวกคนแอบล่าสัตว์เกรงกลัวกฎหมายจริงก็คงไม่มีใครทำผิดกฎหมายหรอก แต่สังคมสมัยนี้ คนที่ยอมเสี่ยงอันตรายเพื่อผลประโยชน์มีถมเถไป

ปาอินเลิกคิ้ว พูดด้วยความภูมิใจ “คนนอกอยากเข้ามาในเผ่าไม่ง่ายหรอกค่ะ! ไม่ต้องพูดถึงสิบแปดชั่วโคตร เอาแค่สามชั่วรุ่นก็ต้องถูกสืบอย่างชัดเจน ต่อให้มีหลุดปล่อยนักล่าสัตว์เข้ามา นักล่าสัตว์คนนั้นก็หาอาวุธไม่ได้หรอก แล้วมีเหรอจะกล้าไปล่าด้วยมือเปล่า ใช่ว่าทุกคนจะมีวิทยายุทธ์ ต่อให้มี ล่าได้ก็เอาออกจากเผ่าไม่ได้หรอก! ยกเว้นพวกที่อยู่ในข้อกำหนด ไม่อย่างนั้นอย่าคิดจะเอาแม้แต่สมุนไพรต้นเดียวออกจากเผ่าเลย!”

“ก็จริงนะ!”

“เผ่าของเราให้ความสำคัญต่อระบบนิเวศ ดำรงชีวิตกับพืชและสัตว์อย่างเป็นมิตร ทุกคนดูแลตัวเองดีและช่วยกันเป็นหูเป็นตา”

ลู่หันซู “นี่ก็ต้องอาศัยจิตสำนึกของคนในเผ่าด้วย”

“คนเผ่าหมาป่าพระจันทร์มีความสามัคคีกันมาแต่โบราณ เมื่อถึงคราวจำเป็น พลเมืองอย่างพวกเราก็สามารถเป็นทหารร่วมต่อต้านคนนอกได้ มีบ้างที่จะทะเลาะกันเองเล็กๆ น้อยๆ ขอแค่ไม่ถึงขั้นเอาชีวิต ไม่ทำผิดกฎหมาย ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบอันเลวร้าย โดยทั่วไปจะจัดการกันเองได้ในครอบครัว ไม่ถึงกับต้องไปพึ่งหน่วยงานของทางการ”

ถังถังพูดด้วยความอิจฉา “จิตสำนึกแบบนี้ใช่ว่าจะปลูกฝังได้ในเวลาสั้นๆ แต่ตอนนี้เผ่าหมาป่าพระจันทร์ดีมากอยู่แล้ว วันหน้าเสี่ยวเยาเยาขึ้นเป็นหัวหน้าเผ่า ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรให้เปลี่ยนแปลงแล้วหรือเปล่า…”

มู่เถาเยายิ้มดวงตาโค้งมน “ยุคสมัยมีการพัฒนา ย่อมไม่มีทางไม่เปลี่ยนแปลงเลย นี่เวลาก็ล่วงเลยแล้ว ทุกคนช่วยกันเก็บดอกจื่อตันที่โตเต็มที่กันก่อนดีกว่าค่ะ”

ทุกคนขานรับ เก็บดอกจื่อตันในโซนเล็กๆ เกือบหมด

“เสี่ยวเยาเยา เหลือต้นเล็กๆ อีกหน่อย”

“ค่ะ ปล่อยไว้ก่อน”

ลู่หันซูดวงตาเปล่งประกายถามขึ้น “ศิษย์พี่คะ ฉันกินมันได้หรือยัง”

“ยังไม่ได้ แต่ศิษย์พี่จะเก็บไว้ให้เธอหนึ่งเม็ด ไว้เธอกินได้เมื่อไรจะเอาให้”

พรสวรรค์ด้านฝึกยุทธ์ของศิษย์น้องธรรมดาค่อนไปทางดีหน่อย

ซึ่งค่อนไปทางดีที่ว่านี้เป็นเพราะน้าเหมียวถ่ายทอดพันธุกรรมสุขภาพร่างกายที่ดีกว่าคนทั่วไปมาให้ ยังมีเรื่องความเร็วของคนเผ่าหมาป่าพระจันทร์ ไม่ใช่เพราะว่าเธอมีพรสวรรค์ด้านการฝึกยุทธ์

ต่อมาเป็นเพราะเพิ่งมาเริ่มเรียนตอนอายุสิบแปด ฝีมือของศิษย์น้องในตอนนี้ก็เลย…จากมุมมองของเธอที่เห็นคนมีพรสวรรค์มามากมาย รู้สึกว่าออกจะ…ไม่โดดเด่น…

อันที่จริงศิษย์น้องก็ฝีมือธรรมดาเหมือนเฉิงอันนั่ว ยกเว้นเรื่องความเร็ว

แต่อาศัยความขยันฝึก ก็เลยดีกว่าคนทั่วไปมาก เพียงแต่ไม่สามารถเทียบกับพวกเธอที่ฝึกกันมาแต่เด็กได้

“ขอบคุณค่ะศิษย์พี่ ฉันจะพยายามให้มากขึ้นค่ะ” ลู่หันซูไม่รู้เลยสักนิดว่ากำลังถูกศิษย์พี่ตัวเองรังเกียจฝีมืออยู่

มู่เถาเยาพยักหน้า แสร้งทำเป็นดูดอกจื่อตันในเข่งแบบเนียนๆ

เธอกลัวว่าถ้ายังมองศิษย์น้องต่อไปอาจจะหลุดขำได้ กลัวทำลายความมั่นใจของศิษย์น้อง

ลู่จือฉินกระแอม ก็กลั้นขำเช่นกัน

สองสาวที่เหลือกลับไม่สังเกต เพราะความสนใจของพวกเธออยู่ที่ดอกจื่อตัน

ถังถัง “เสี่ยวเยาเยา ดอกจื่อตันรอบนี้น่าจะทำยาออกมาได้ไม่น้อย เธอกะจะแบ่งหมดเลยไหม”

“ไม่หมดค่ะ ต้องแบ่งเอาไว้สำรองด้วย”

“งั้นพี่ขอซื้อนิดหน่อยเก็บเป็นสมบัติตระกูลได้ไหม”

“อย่างมากเก็บได้แค่ยี่สิบปี นานกว่านั้นจะหมดประสิทธิภาพ ตกทอดให้คนอื่นก็ไม่มีประโยชน์ค่ะ”

“นั่นสิ! งั้นพี่ต้องรีบแต่งงานมีลูกแล้ว จับฝึกแต่เด็ก เอาให้เก่งถึงขั้นกินยาจื่อตันได้ก่อนที่มันจะหมดประสิทธิภาพ”

มู่เถาเยา “…เหตุผลของพี่มีแค่นี้เหรอคะ ฝึกแต่เด็กก็ต้องสิบปีกว่าถึงจะอยู่ในระดับที่กินยาจื่อตันได้”

ถังถังผายมือด้วยความจนปัญญา “ตอนนี้พี่ไม่มีแม้แต่คนคุย แถมคนตระกูลถังก็ใช่ว่าจะมีลูกง่าย ถ้านับตั้งแต่ตอนนี้ ใช่ว่าสิบปีจะมีลูกออกมา…เธอดูปู่ทวดของพี่กับกับปู่เทียดของเธอสิ อายุเท่ากันแต่ต่างตรงความอาวุโส…”

ปาอินยิ้ม “พี่ถังถัง ไม่งั้นลองหาแฟนเป็นคนเผ่าหมาป่าพระจันทร์สิคะ คนเผ่าหมาป่าพระจันทร์มีลูกง่ายนะ ร่างกายก็แข็งแรง ฉันว่าพี่ชายฉันเหมาะกับพี่จริงๆ ตอนนี้การคมนาคมสะดวก ระยะทางไม่ใช่ปัญหา…พี่เองก็เคยเจอพ่อแม่ฉันแล้ว พวกเขาจะเป็นพ่อแม่สามีที่ดีได้แน่…”

ปาอินขายพี่ชายตัวเองที่อายุเกินสามสิบอย่างไม่หยุดหย่อน

ลู่จือฉินพูดด้วยความรู้สึกขำ “เสี่ยวอิน เราน่ะกลุ้มใจเยอะเกินไปแล้วนะ”

“ไม่กลุ้มไม่ได้หรอกค่ะ พี่ชายหนูเล่นไม่หาแฟนเลย”

“เมื่อวาสนามาถึงยังไงก็มีได้แน่จ้ะ”

“เฮ้อ…”

สีหน้ากลุ้มใจของปาอินทำเอาทุกคนรู้สึกขำ

ถังถัง “พี่ว่าพี่เหลียงจีเหมาะสมกับพี่ชายเธอที่สุดนะ ไม่ว่าด้านไหนก็ดูเหมาะกันยกเว้นเรื่องที่ไม่ใช่หมอ ไม่ใช่แค่ตัวบุคคลที่เหมาะสม ฐานะทางครอบครัวด้วย ครอบครัวพี่เหลียงจีกับครอบครัวเธอใกล้ชิดกับตระกูลเย่ว์ทั้งคู่”

เรียกได้ว่าพ่อของเหลียงจีเป็นลูกศิษย์ของตาเป่ย

“เฮ้อ เรื่องของพรหมลิขิตมันพูดยาก เขาชอบใครฉันก็สนับสนุน ขอแค่มีทัศนคติไม่บิดเบี้ยว ไม่ก่อความวุ่นวายในครอบครัวเป็นพอค่ะ”

ทุกคนพากันหลุดหัวเราะ

มู่เถาเยายิ้มตาโค้ง “เสี่ยวอิน ท่าทางกลุ้มใจของเธอเหมือนน้องสาวที่เด็กกว่าสิบปีที่ไหนกัน เหมือนพี่สาวที่แก่กว่าสิบปีมากกว่า”

“แท้จริงแล้วฉันก็แค่จุ้นไม่เข้าเรื่อง”

ทุกคนหัวเราะท้องคัดท้องแข็ง

ปาอินส่ายมือ “ช่างเถอะๆ ไม่สนแล้ว”

ลู่จือฉินหยุดหัวเราะแล้วพูด “พวกเราต้องกลับกันแล้วล่ะ”

มู่เถาเยา “ค่ะ ไปตัดเถาวัลย์น้ำหวานหน่อย เอากลับไปปั่นกับผลนมหมาป่ากิน”

ทุกคนพยักหน้าพร้อมกัน

สะพายเข่งใบเล็ก มู่เถาเยาหยิบนกหวีดหมาป่าออกมาเป่าไล่หมาป่าไป ให้เหลือแค่ครอบครัวของราชาหมาป่าขาว

ลูบหัวของเทาน้อยที่โตขึ้นมากพลางพูด “ครั้งนี้ฉันจะไปเรียนที่เมืองหลวงแล้ว ที่นั่นไม่มีที่ให้พวกนายเที่ยวเล่นเลยพาพวกนายไปด้วยไม่ได้”

สองเทาน้อยอาลัยอาวรณ์ งับขากางเกงของมู่เถาเยาไม่ยอมปล่อย

ปาอินมองท่าทางน่าสงสารของสองหมาป่า พูดด้วยความปวดใจ “เสี่ยวเยาเยา ไม่งั้นเอาพวกมันกลับตำหนักพระจันทร์ก่อนดีไหม อยู่กับเธอได้อีกหลายวันหน่อยก็ยังดี”

มู่เถาเยาลูบหัวพวกมัน พยักหน้าแล้วพูด “งั้นก็กลับตำหนักพระจันทร์ก่อนแล้วกัน กลับไปค่อยลองถามย่าตี้ว่าพาพวกมันไปวังตระกูลตี้ด้วยได้ไหม คนตระกูลตี้ก็คุ้นเคยกับพวกมันดี”

เดิมทีเคยคิดจะพาพวกมันไปอยู่ที่ฟาร์ม แต่ม้า วัว แพะในฟาร์มจะต้องกลัวแน่นอน

ทุกวันต้องใช้ชีวิตอยู่ในความหวาดกลัวย่อมส่งผลต่อร่างกายและจิตใจของม้า วัว แพะ

ถังถัง “นั่นสิ เลี้ยงไว้ในวังตระกูลตี้ก็ได้”

สองเทาน้อยเชื่องมาก คนตระกูลตี้น่าจะยินดี

ลู่จือฉิน “งั้นก็พากลับไปก่อน ถ้าทางวังตระกูลตี้ไม่สะดวกเลี้ยงก็ให้พี่ชายทั้งสองคนของเสี่ยวเยาเยาพากลับมาที่นี่”

มู่เถาเยา “ค่ะ พากลับไปก่อน”

เรื่องที่เธอคำนึงก็คือ หมาป่าเป็นสัตว์ป่า สำหรับประเทศเหยียนหวงห้ามเลี้ยงไว้ในบ้าน ถึงแม้สองเทาน้อยจะเป็นหมาป่าของเผ่าหมาป่าพระจันทร์ แต่เลี้ยงไว้ในวังตระกูลตี้ก็ถือเป็นการเลี้ยงไว้ในบ้าน

อีกอย่างคือ สัตว์ป่าถ้าเลี้ยงไว้ในบ้านนานเข้าจะสูญเสียสัญชาตญาณสัตว์ป่า

ก่อนหน้านี้พาพวกมันกลับมาด้วยเพราะสุขภาพไม่แข็งแรง ตอนนี้แข็งแรงพอแล้วก็ไม่ควรเลี้ยงไว้ในบ้านจริงๆ…

อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร

อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร

Status: Ongoing
มองจากภายนอกเธอคือหญิงสาวจากหมู่บ้านชนทบทที่ห่างไกล แม้รูปโฉมไม่ธรรมดาแต่จะมีอะไรมากไปกว่านั้น แต่ใครเลยจะรู้ว่าเบื้องหลังของเธอนั้นคือ ‘หมอเทวดา’ ผู้มีฝีมือไม่เป็นสองรองใคร!นิยายโรแมนติก-แฟนตาซีในเมืองใหญ่ นางเอกเก่งทั้งรักษาโรคและวรยุทธ์โคจรมาเจอกับพระเอกขี้โรคสุดหลงตัวเอง!โลกของอดีตจักรพรรดินีอย่าง มู่เถาเยา ถึงคราวกลับตาลปัตรเมื่อต้องมากลายเป็นเด็กทารกที่ยังมีความทรงจำเดิมในชาติก่อน?! อีกทั้งโลกใหม่นี้ยังแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงหลายปีผันผ่านเธอหลอมรวมเข้ากับโลกใหม่ใบนี้ได้อย่างสมบูรณ์พร้อมได้รับวาสนาเป็นศิษย์ของหมอเทวดาผู้เก่งกาจประสบการณ์และพรสวรรค์มากมายในชาติก่อนแล้วทำให้เธอเก่งกาจเหนือกว่าผู้ใดพร้อมก้าวเข้าสู่เมืองหลวงเพื่อร่ำเรียนและฝึกฝนหาประสบการณ์ชีวิตในโลกใหม่แปลกหน้าใบนี้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท