กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี – บทที่ 375 ลูกและแม่จะต้องไม่เป็นไร

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

บทที่ 375 ลูกและแม่จะต้องไม่เป็นไร

บทที่ 375 ลูกและแม่จะต้องไม่เป็นไร

เมื่อเสิ่นอี้โจวไปทำงานในวันรุ่งขึ้น เขาเห็นเซี่ยชิงหยวนกำลังจัดข้าวของและดูเหมือนจะออกไปข้างนอกด้วย

เขาถามว่า “วันนี้คุณจะออกไปข้างนอกเหรอ?”

เซี่ยชิงหยวนพยักหน้า “ก่อนหน้านี้อาจารย์ค่งบอกฉันว่าการตกแต่งร้านน่าจะเสร็จสิ้นในวันนี้น่ะ ฉันเลยจะพาอาเซียงไปดูร้านสักหน่อย”

เสิ่นอี้โจวคิดอยู่ครู่หนึ่งเท่านั้นแล้วพูดว่า “งั้นผมจะไปส่งพวกคุณไปที่นั่นนะ”

เซี่ยชิงหยวน “แต่…นี่มันใกล้ถึงเวลาที่คุณจะเข้างานแล้วนะ”

เสิ่นอี้โจวหยิบเสื้อคลุมของเซี่ยชิงหยวนมาสวมให้เธอ “ไม่เป็นไร”

สิ่งที่เธอไม่รู้คือหลังจากที่ตัวเองหลับไปเมื่อคืนนี้ สามีของเธอกลับนอนไม่หลับเพราะสิ่งที่ป้าอู๋พูดเมื่อวาน

อายุครรภ์ยังน้อยอยู่เลย แต่เรื่องเด็กก็เป็นที่รู้กันและพูดคุยทั่วทั้งเขตที่พักอาศัยแล้ว เขาสงสัยว่าเด็กจะอยู่ในท้องแม่อย่างเงียบ ๆ ได้หรือไม่

เขาไม่เคยเป็นคนไม่กล้าตัดสินใจ ไม่เชื่อในทฤษฎีโชคลางหรือที่เกี่ยวกับวิญญาณและเทพเจ้า แต่เนื่องจากคนที่อาจมีปัญหาคือเซี่ยชิงหยวน เขาจึงอดไม่ได้ที่จะเป็นกังวล

ฝ่ามือใหญ่ของเขาวางลงบนหน้าท้องที่ยังไม่โตของภรรยาอย่างเงียบ ๆ และดวงตาของเขาก็เหมือนมีน้ำตาคลอ

“ลูกพ่อ ทั้งลูกและแม่จะต้องไม่เป็นไร”

เซี่ยชิงหยวนรู้ว่าเขากังวลเกี่ยวกับเธอ หญิงสาวจึงไม่ดื้อรั้นอีกต่อไปและตอบว่า “ตกลงค่ะ”

ถนนหลินไห่กว้างกว่าถนนคนเดินมาก เสิ่นอี้โจวขอให้คนขับ ขับรถตรงไปที่ประตูร้าน

เซี่ยชิงหยวนมองเห็นร้านของเธอจากระยะไกล ร้านค้าสองคูหาติดกันนั้นแม้ว่าจะยังไม่เปิด แต่การตกแต่งหน้าร้านระดับไฮเอนด์เพียงอย่างเดียวก็สะดุดตาเพียงพอแล้ว

อาเซียงรู้สึกทึ่งกับความจริงที่ว่าถนนสายนี้เต็มไปด้วยคนขายเสื้อผ้า และแต่ละร้านก็ดูไม่ได้ถูกเลย

เมื่อรถหยุดที่ประตูร้าน อาเซียงตกใจมากจนพูดไม่ออก “นี่คือ…นี่คือร้านของพี่เซี่ยเหรอ?”

เซี่ยชิงหยวนยิ้ม “ไม่เลวใช่ไหม?”

อาเซียงพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำอีก “มันดีมาก ๆ เลยค่ะ”

ไม่ใช่ดีอย่างเดียวนะ เพราะแค่การตกแต่งเพียงอย่างเดียวก็สามารถเอาชนะร้านต่าง ๆ ทั่วทั้งถนนได้แล้ว

เธอมีประสบการณ์ตามเซี่ยชิงหยวนไปดูธุรกิจเสื้อผ้าหลาย ๆ ที่ ร้านค้าที่เธอเคยเห็นมาไม่สามารถเทียบได้กับร้านที่เซี่ยชิงหยวนเพิ่งตกแต่งเสร็จในทุกด้านเลย โดยเฉพาะในแง่ของสไตล์และสีสัน ร้านของเซี่ยชิงหยวนชนะขาดลอย!

อาจารย์ค่งบังเอิญอยู่ในร้านเมื่อเห็นคนสองสามคนเดินมา จึงก้าวออกมาทักทายพวกเขาอย่างอบอุ่น

เซี่ยชิงหยวนดึงอาเซียงเข้ามา และแนะนำให้รู้จัก

อาจารย์ค่งยิ้มและพูดว่า “คนรอบตัวคุณนายเสิ่นล้วนดูเป็นคนที่มีความสามารถจริง ๆ”

อาเซียงยิ้มอย่างเขิน ๆ เป็นการตอบรับ

ส่วนเสิ่นอี้โจวนั้นกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของร้าน “อาจารย์ค่ง ตกแต่งเสร็จหมดแล้วเหรอครับ?”

อาจารย์ค่งพยักหน้า “ใช่ครับ เมื่อวานผมมาตรวจสอบงานแล้ว และวันนี้พวกคุณบังเอิญมาพอดี งั้นวันนี้เรามาทำการตรวจสอบร่วมกันอีกครั้งดีไหม?”

เซี่ยชิงหยวนพยักหน้า “ในเมื่ออาจารย์ค่งที่มีประสบการณ์ได้ทำการตรวจสอบแล้ว งั้นก็เพียงพอแล้วค่ะ เราเชื่อในอาจารย์ค่งอยู่แล้วค่ะ”

อาจารย์ค่งรู้สึกว่าทุกครั้งที่เขาพูดคุยกับเซี่ยชิงหยวน เธอมักจะทำให้ผู้คนรู้สึกสบายใจเสมอ ดังนั้นเขาจึงยิ้มกลับไป “ขอบคุณเลขาธิการเสิ่นและคุณนายเสิ่นที่ไว้ใจผมนะครับ เพราะแบบนี้ผมจึงไม่กล้าประมาทเลย”

หลังจากนั้น พวกเขาก็มองไปรอบ ๆ ร้าน และหลังจากการแนะนำของอาจารย์ค่ง พวกเขาก็พอใจมาก

หลังจากที่ร้านทั้งสองคูหาถูกทุบกำแพงเชื่อมต่อกัน มันก็ดูกว้างขวางมาก พื้นปูด้วยกระเบื้องขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถสะท้อนแสงวาววับได้ ส่วนผนังก็ทำจากวัสดุคุณภาพสูง นอกจากนี้ยังมีโคมไฟระย้าคริสตัลสูงเหนือศีรษะ กระจกแต่งตัวและไฟด้านข้าง…

อาเซียงไปซื้อสินค้ากับเซี่ยชิงหยวนในร้านขายเสื้อผ้าระดับไฮเอนด์ของเมืองกว่างโจวมาหลายร้าน เธอรู้สึกว่าร้านของเซี่ยชิงหยวนดูเหมือนจะสวยงามกว่าร้านเหล่านั้นเสียอีก

เธอยังสังเกตเห็นด้วยว่านอกจากห้องเก็บของหลังร้านแล้ว ยังมีห้องเล็ก ๆ ที่มีเตียงเดี่ยวด้วย ซึ่งมีพื้นที่มากมาย

เธอคิดว่าตัวเองจะอยู่ที่นี่ได้แน่นอนในอนาคต

หลังจากเสิ่นอี้โจวไปส่งพวกเธอเรียบร้อยแล้ว เขาก็กลับไปทำงาน

เซี่ยชิงหยวนพูดคุยกับอาเซียงเกี่ยวกับแผนการต่อไปของตัวเองอย่างสบาย ๆ

เซี่ยชิงหยวนพูดว่า “ร้านจะเปิดอีกสองวัน และเมื่อเสื้อผ้ามาถึง เราจะย้ายของเข้ามา และจากนั้นก็จะให้เสี่ยวเฉิงมาช่วยด้วย”

เสี่ยวเฉิงที่เซี่ยชิงหยวนพูดถึงคือคนที่เธอจ้างมาใหม่ ซึ่งได้รับการแนะนำให้รู้จักโดยหลิงหลิน ชื่อเต็มของอีกฝ่ายคือเฉิงสี่จวี๋

อาเซียงจดจำในใจแล้วพยักหน้า “ฉันเข้าใจแล้วพี่สาว”

เนื่องจากเซี่ยชิงหยวนกำลังตั้งครรภ์และยังอยู่ในช่วงระยะต้น เธอจึงยืนได้เพียงชั่วครู่ก่อนที่เธอจะรู้สึกเหนื่อย

เดิมทีเธออยากไปเดินเล่นที่ร้านตรอกเก่าด้วย แต่กลับรู้สึกแน่นหน้าอกโดยไม่ทราบสาเหตุ

เธอพูดกับอาเซียงว่า “กลับกันเถอะ”

อาเซียงรีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อช่วยประคองทันที “ได้ค่ะ”

เมื่อเห็นเซี่ยชิงหยวนเป็นแบบนี้อาเซียงก็ประหม่ามาก

แต่เซี่ยชิงหยวนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “เธอเป็นอะไรไปเนี่ย? พี่เพิ่งท้องได้ไม่นานเอง”

เธอพูดพลางจะให้อาเซียงเอามือที่ประคองอยู่ออก

อาเซียงส่ายหัวอย่างมั่นคง “ไม่ค่ะ ยังไงเราก็ควรสนใจมากกว่าเดิมนะ พี่เขยบอกเอาไว้ด้วยว่าเมื่อเขาไม่อยู่ ให้ฉันดูแลพี่อย่างดีที่สุด”

เซี่ยชิงหยวน “…”

เซี่ยชิงหยวนรู้ดีว่าเสิ่นอี้โจวกังวลเกี่ยวกับตัวเธอ เพราะงั้นจึงไม่ดึงดันอีกต่อไปและปล่อยให้อาเซียงช่วยเธอเดิน

อาเซียงดูแลเธอเป็นอย่างดีและรู้สึกประหม่าอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อผ่านสถานที่ที่มีผู้คนพลุกพล่าน อาเซียงจะรีบยื่นมือออกไปกันไว้อย่างประหม่าเพื่อปกป้องท้องของเธอ

เซี่ยชิงหยวนหรี่ตาลงเพื่อดูเหงื่อที่ปลายจมูกของหญิงสาว นี่เป็นฤดูหนาวที่หนาวเย็น แต่หัวใจของเธอก็ค่อย ๆ เต็มไปด้วยความอบอุ่น

ตั้งแต่ตั้งท้อง การดูแลเซี่ยชิงหยวนที่บ้านก็เปลี่ยนไปจนน่าตกใจ และทุกการเคลื่อนไหวของเธอก็ได้รับความสนใจอย่างมาก

เสิ่นอี้โจวยังไปพบแพทย์ด้านโภชนาการ เพื่อคอยให้คำแนะนำด้านโภชนาการประจำวันของเซี่ยชิงหยวนด้วย

โชคดีที่ตอนนี้การแพ้ท้องของเซี่ยชิงหยวนยังไม่รุนแรงเกินไป และเธอสามารถกินอาหารส่วนใหญ่ที่นักโภชนาการเตรียมไว้ได้

ไม่เพียงเท่านั้น เสิ่นอี้โจวยังขอให้ป้าอู๋ปูพรมหนา ๆ ให้ทั่วทุกพื้นในบ้าน และมุมที่แหลมคมของเฟอร์นิเจอร์ก็ถูกพันด้วยผ้าหนา ๆ หรือเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด

แม้แต่รองเท้าแตะก็ถูกแทนที่ด้วยรองเท้าผ้าฝ้ายเนื้อนุ่ม พร้อมส้นรองเท้าที่ถักโดยหลินตงซิ่ว

เซี่ยชิงหยวนบอกว่าจะไปที่ร้านเพื่อดูสักหน่อย แต่อาเซียงรีบหยุดเธอไว้ทันที “พี่สาวเซี่ย ไว้พอพี่สาวสี่จวี๋กับฉันจัดร้านเสร็จแล้ว พี่ก็แค่เข้าไปตรวจสอบทีเดียวในตอนท้ายก็พอ ตอนนี้พี่ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับมันหรอก”

“ก็ได้ๆ” เซี่ยชิงหยวนปล่อยวางและไปปอกแอปเปิลแทน

แต่เสิ่นอี้หลินกลับหยิบแอปเปิลและมีดออกจากมือของเธออย่างรวดเร็ว “พี่สะใภ้ พี่จับมีดได้ยังไง? อยากกินแอปเปิลใช่ไหม? มา ผมจะปลอกให้พี่เองนะ”

เซี่ยชิงหยวน “…”

เธอรู้สึกว่าแค่ผ่านไปสองสามวัน เธอก็กำลังจะกลายเป็นคนไร้ประโยชน์ซะแล้ว

ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ผู้คนมากมายได้มาที่บ้านเพื่อมอบของขวัญเนื่องในโอกาสการตั้งครรภ์ของเธอ

เสิ่นอี้โจวรับของขวัญเหล่านั้นไว้ เพียงแต่ว่าของขวัญจะยังไม่ได้แกะดู

จากคำพูดของเขาก็คือ “ผมยินดีให้พวกเขาอวยพรคุณและลูกแน่นอน แต่พวกของขวัญเหล่านั้นคุณอย่าเพิ่งแตะต้องมันเลยดีกว่า”

ช่วงนี้เซี่ยเจิ้งกำลังเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และหยวนหงหลี่กำลังจะเกษียณ ในช่วงเวลานี้งานหลายอย่างล้วนตกเป็นหน้าที่ของเสิ่นอี้โจว

บางคนชื่นชมเขามาก แต่ก็มีหลายคนที่รอดูให้เขาทำพลาดเช่นกัน

เขายังอายุน้อย แต่กลับปีนขึ้นมาได้สูงถึงระดับนี้ด้วยความสามารถของตัวเอง แน่นอนว่าต้องมีหลายคนที่อิจฉาและไม่พอใจ

ดังนั้นทุกวันนี้ไม่เพียงแต่เซี่ยชิงหยวนเท่านั้นที่เหนื่อยมาก เนื่องจากการทำงานหนัก แต่เสิ่นอี้โจวก็เหนื่อยมากเช่นกัน

ยกเว้นความเหนื่อยล้าเป็นครั้งคราวที่เผยให้เห็นที่หว่างคิ้วและดวงตาของเขา ชายคนนี้จะแสดงสีหน้าท่าทางมั่นคงต่อหน้าเธอเสมอ

หลิงเยี่ยกับฉู่ซิงอวี่มาเยี่ยมที่บ้านในตอนเช้า และเฟิงหว่านกับสามีของเธอพาเถาเหนียนซีมาที่บ้านในวันรุ่งขึ้น

สิ่งที่เซี่ยชิงหยวนไม่คาดคิดก็คือฉีจิ่นจือที่เธอไม่ได้เจอมาหลายวันก็มาด้วยเช่นกัน

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

Status: Ongoing
หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ประสบอุบัติตุจนเสียชีวิต และเธอก็ได้ย้อนไปตอนที่เธออายุ 21 ปี …ลับมาครั้งนี้เธอจะไม่ยอมหย่ากับเสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธออีกเด็ดขาด!หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ช่วยเด็กชายคนหนึ่งเอาไว้จนประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตปีแล้วปีเล่าผ่านไป เสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธอก็มักจะมายี่ยมหลุมศพของเธอประจำ เธอในร่างวิญญาณออกปากไล่เขาทุกครั้งต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้ยิน เขาจำไม่ได้เลยหรืออย่างไร ว่าเธอทำอะไรกับเขาไว้บ้าง แต่แล้วเธอก็ได้ย้อนกลับมาใน ในวันที่เธออายุ 21 ปี แลยังไม่ได้หย่าขาดกับเสิ่นอี้โจว ในเมื่อเธอได้โอกาสอีกครั้งนี้ เธอจะไม่ยอมหย่าเด็ดขาด ครั้งนี้เธอจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นกับเสิ่นอื้โจวได้จงได้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท