เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] – บทที่ 869 หากฉลาดก็คงไม่ต้องทนทุกข์

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 869 หากฉลาดก็คงไม่ต้องทนทุกข์

บทที่ 869 หากฉลาดก็คงไม่ต้องทนทุกข์

“กระหม่อมไม่ยอมรับข้อกล่าวหาที่ไร้เหตุผลนะพะย่ะค่ะ!” ซูอันตะโกนออกมา

“ข้าเป็นจักรพรรดิ” คำตอบเย็นชา “ข้าต้องได้รับอนุญาตจากเจ้างั้นหรือถ้าข้าต้องการทำอะไร?”

ซูอันกลอกตา

ขณะที่ถูกลากออกไป เขาตะโกนอย่างรวดเร็วว่า “นี่หมายความว่าพระองค์ไม่ต้องการความเป็นอมตะหรือพะย่ะค่ะ?”

“ความเป็นอมตะ?” จักรพรรดิมองลงไปที่ตัวอักษรที่เขาเขียนเอาไว้ รอยยิ้มเยาะปรากฏที่ริมฝีปาก เขาโบกมือและแผ่นกระดาษสลายเป็นผงทันทีโดยที่โต๊ะไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน ใครเห็นก็นึกภาพออกว่าการควบคุมพลังของเขานั้นยอดเยี่ยมเพียงใด

“ความเป็นอมตะเป็นเพียงอุดมคติลวงตา ราชวงศ์ยิ่งใหญ่ได้ล่มสลายไปแล้วมากมาย แล้วมีจักรพรรดิก่อนหน้าข้าองค์ใดบ้างที่เป็นอมตะอย่างแท้จริง? จักรพรรดิอย่างข้าไม่สนใจภาพลวงตาของความเป็นอมตะ ตรงกันข้ามข้าจะนำมนุษย์ไปปราบเผ่ามารทั้งหลายและรวมเอาแผ่นดินที่เหลืออยู่ผนึกรวมกับต้าโจวของข้าให้เป็นหนึ่งเดียวกัน เมื่อนั้นทุกคนจะจดจำความสำเร็จอันรุ่งโรจน์ของข้าและนั่นคือความเป็นอมตะที่แท้จริง!”

ในที่สุดความรู้สึกก็ปรากฏผ่านหน้าอันไร้อารมณ์ของจักรพรรดิ ร่างกายทั้งหมดของเขาเต็มไปด้วยกลิ่นอายกระตือรือร้นที่แปลกประหลาด

ซูอันเริ่มด่าจักรพรรดิในใจทันที แล้วทำไมก่อนหน้านี้เจ้าถึงส่งคนไปตามหาวิชาวัฏจักรหงส์อมตะถ้าเจ้าไม่สนใจเรื่องอมตะ? แล้วทำไมเจ้าถึงสั่งให้ทหารจับตัวข้าเข้าวังมา?

เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องของชีวิตและความตาย หัวสมองของเขาจึงแล่นได้เร็วยิ่งกว่าความเร็วแสง “ถึงจะเป็นอย่างนั้น หลังจากหนึ่งหมื่นปี จะไม่มีใครจดจำความสำเร็จของพระองค์ได้อีกต่อไป! ทุกคนอาจจะลืมพระองค์ไปด้วยซ้ำหลังจากผ่านไปไม่กี่ศตวรรษ!”

“เป็นไปไม่ได้!” จักรพรรดิโกรธจัด สิ่งที่เขาห่วงใยมากที่สุดคือความเป็นอมตะ จะทนให้คนอื่นลืมชื่อเขาไปได้อย่างไร?

ท่านยั่วยุจ้าวฮั่นสำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 999!

แรงกดดันที่ไม่มีใครเทียบได้แผ่ออกมา และทหารสองคนที่จับตัวซูอันไว้ก็คุกเข่าลงทันที

แม้ว่าแรงกดดันจะทำให้ซูอันรู้สึกแย่ แต่เขาก็ยังถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ในที่สุดเขาก็ได้รับคะแนนความโกรธแค้นจากบุคคลนี้ จักรพรรดิยังคงเป็นมนุษย์ ไม่ใช่เทพผู้สูงส่งที่ไร้อารมณ์ต่อมนุษย์

ชายหนุ่มคว้าโอกาสชั่วขณะนี้ไว้อย่างไม่ยอมเสียเวลา “กระหม่อมไม่อยากให้ใครได้ยินสิ่งที่กระหม่อมจะเอ่ยต่อจากนี้”

จักรพรรดิมองเขาอย่างเย็นชา จากนั้นจึงโบกมือให้ทหารถอยออกไป จากการบ่มเพาะของเขาไม่จำเป็นต้องกลัวผู้แอบฟังใด ๆ

เมื่อทหารออกไปแล้ว จักรพรรดิกล่าวว่า “เจ้าพูดได้แล้ว แต่ถ้าเจ้ากล้าเล่นตลกกับข้า…” ภัยคุกคามในน้ำเสียงของเขาชัดเจน

“ฝ่าบาท” ซูอันตอบ “แนวพระดำริของพระองค์ฟังดูดี พงศาวดารจะถูกส่งต่อเป็นเวลาหลายปี รูปแบบของความเป็นอมตะเช่นนี้มีความหมายมากกว่าผู้ที่ดำเนินชีวิตอมตะในที่สันโดษอย่างเช่นภูเขา อย่างไรก็ตามความปรารถนาของพระองค์จะไม่มีวันเป็นจริง ท้ายที่สุดถ้าพระองค์ต้องการให้ความสำเร็จถูกส่งต่อไปชั่วนิรันดร์ พระองค์ต้องให้อาลักษณ์บันทึกรายละเอียดทั้งหมด อย่างไรก็ตามเมื่อเปลี่ยนราชวงศ์ เป็นเรื่องปกติที่ราชวงศ์ใหม่จะสร้างชื่อเสียงให้กับพวกตัวเองแทนราชวงศ์ก่อนหน้า และแม้ว่าราชวงศ์จะไม่เปลี่ยนแปลง แต่บัลลังก์อาจส่งผ่านไปยังคนที่ไม่เห็นด้วยกับพระองค์ซึ่งคนพวกนั้นอาจหาทางบิดเบือนประวัติศาสตร์ คนในยุคปัจจุบันอาจไม่ถูกหลอก แต่ผู้คนในหลายศตวรรษหรือนับพันปีให้หลังจะถูกชักนำให้เชื่อตามประวัติศาสตร์ที่ถูกแก้ไข ความสำเร็จของพระองค์จะถูกพัดพาไปโดยสายธารแห่งกาลเวลา และคนรุ่นหลังจะไม่มีวันรู้ความจริง หากเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น พระองค์จะไม่ได้รับความเป็นอมตะที่ทรงแสวงหา”

จักรพรรดิหรี่ตาลง “เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”

ซูอันยิ้ม “ฝ่าบาททรงทราบดีว่า ข้าพระองค์หมายความว่าอะไร เหตุใดถึงตรัสถามคำถามที่พระองค์ทรงรู้คำตอบอยู่แล้วล่ะพะย่ะค่ะ?”

ขอโทษด้วยราชันลมปราณ ข้าต้องใช้เจ้าเป็นโล่ของข้า!

จักรพรรดิตกอยู่ในห้วงความคิด ปกติแล้วถ้ามีคนกล้าพูดกับเขาแบบนี้ เขาคงสั่งให้ลากมันออกไปโบยให้ตาย อย่างไรก็ตาม คำพูดของซูอันได้สะกิดถึงความกังวลส่วนลึกที่สุดในใจของเขา

เพราะนี่คือสิ่งที่หลอกหลอนเขามาตลอดหลายปีที่ผ่านมา!

เขามองกลับไปที่ซูอันด้วยท่าทางครุ่นคิด “แล้วเจ้ามีคำแนะนำอย่างไร?”

ซูอันกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เขาสังเกตเห็นการแสดงออกของอีกฝ่ายเสียก่อน “ฝ่าบาทอาจมีแผนในใจอยู่แล้ว แต่ถ้าหากฝ่าบาททรงประสงค์จะทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนเป็นดั่งการเล่นหมากรุก กระหม่อมยินดีเสนอตัวให้ใช้เป็นเบี้ย”

เขารู้ว่าจักรพรรดิได้ใช้ทรัพยากรและวิธีการนับไม่ถ้วนเพื่อนำตัวเขามายังเมืองหลวง ไม่มีทางที่อีกฝ่ายจะทำเช่นนั้นเพียงเพื่อฆ่าเขาเอาง่าย ๆ ในภายหลัง

การกระทำก่อนหน้านี้ของจักรพรรดิอาจเป็นเพียงการแสดงให้เห็นถึงความเหนือกว่า

จักรพรรดิประหลาดใจกับคำตอบของเขา “เจ้าค่อนข้างพิเศษจริง ๆ ไม่น่าแปลกใจที่นางเอ่ยปากขอร้องเพื่อเจ้า”

“ห้ะ?” ซูอันตกตะลึง มีคนขอร้องอะไรเพื่อเขาด้วยเหรอ? เขาคาดเดาไม่ถูกว่าใครคือคนที่จักรพรรดิที่กำลังพูดถึง ฉู่ชูเหยียนงั้นเหรอ? แต่นางคงไม่มีวันได้เฝ้าองค์จักรพรรดิเป็นการส่วนตัวใช่ไหม?

จักรพรรดิเดินไปที่หน้าต่างและมองเส้นขอบฟ้าอันไกลโพ้น ท่าทางที่ดุร้ายในตอนแรกของเขาอ่อนลงเล็กน้อย “ในตอนนั้น ข้าเป็นหนี้บุญคุณนาง…”

เสียงของเขาขาดช่วงไป…

ซูอันตกตะลึงกับท่าทีของจักรพรรดิ นี่จักรพรรดิกำลังคิดถึงถ่านไฟเก่าอย่างนั้นหรือ? ทำไมตอนนี้จักรพรรดิถึงดูคร่ำครวญเหมือนไอ้พวกขี้แพ้?

มีผู้หญิงบางคนที่แม้แต่จักรพรรดิก็ยังรู้สึกไกลเกินเอื้อมงั้นเหรอ?

ว่าแต่ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร? และที่แปลกกว่านั้น ทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงพูดแทนข้า?

ข้าเคยเจอผู้หญิงแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไร?

เขาคิดถึงผู้หญิงที่เขารู้จักและนึกไม่ออกว่าใครกันแน่

ทันใดนั้นจักรพรรดิก็หันกลับมา “หว่านหรูเป็นอย่างไรบ้าง?”

“หว่านหรู?” ซูอันตกตะลึง ใช้เวลาสักพักกว่าจะรู้ว่าจักรพรรดิกำลังพูดถึงใคร “แต่ละวันไม่ได้ง่ายสำหรับท่านแม่ยาย อันตรายทั้งหมดพากันกลุ้มรุมตระกูลฉู่อย่างไม่หยุดหย่อนในระยะหลัง”

ขณะที่ตอบในใจเขาก็เริ่มฟุ้งซ่าน ฉินหว่านหรูมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งอะไรกับจักรพรรดิหรือไม่? ทำไมจู่ ๆ เขาก็เห็นหมวกสีเขียวขจีเหนือหัวพ่อตา?

หรือเป็นแม่ยายของเขาที่เป็นคนพูดแทนเขางั้นเหรอ?

ไม่สิ มันไม่น่าจะเป็นไปได้ ตัวนางเองยังไม่สามารถช่วยตระกูลฉู่ได้ด้วยซ้ำ แล้วนางจะปกป้องข้าได้อย่างไร?

“เจ้าพยายามพูดให้ข้าเห็นใจนางงั้นหรือ?” จักรพรรดิขมวดคิ้ว “ตอนนั้นใครใช้ให้นางเลือกฉู่จงเทียนเป็นสามี! ถ้านางฉลาดมากกว่านั้นสักหน่อย นางก็คงจะเป็นสนมของข้าไปนานแล้ว และสิ่งที่ทำให้นางทุกข์ในตอนนี้จะไม่เกิดขึ้น!”

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

Status: Ongoing
ซูอัน หนุ่มสายเกรียนเซียนปั่นประสาทที่ทะลุมิติมาพร้อมระบบคีย์บอร์ดสุดยียวนคู่ใจ ความโกลาหลครั้งมโหฬารยิ่งกว่าเดิมจึงอุบัติขึ้นจนทุกคนในโลกแห่งการบ่มเพาะไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้าซูอัน ชายหนุ่มที่วันๆใช้ชีวิตคลุกตัวอยู่แต่ในโลกออนไลน์ เที่ยวยั่วยุ ปั่นประสาทผู้คนในโลกออนไลน์ให้ไม่เป็นสุขอยู่ทุกวี่วัน เป็นนักเลงคีย์บอร์ดที่ใครๆต่างก็ต้องเข็ดขยาด แต่แล้ววันหนึ่ง ไม่รู้ว่าฟ้าลงทัณฑ์หรือสวรรค์บัญชา ให้เขาคนนี้ต้องพบจุดจบชีวิตที่น่าอนาถโดนฟ้าผ่าตายในขณะที่กำลังเปิดศึกคีย์บอร์ดกับคนบนโลกออนไลน์อยู่ในห้องของตัวเอง หากแต่นี่ไม่ใช่จุดจบ!ชายหนุ่มรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาในร่างใหม่ที่มีตำแหน่งเป็นถึงเขยใหญ่ตระกูลอ๋องฉู่ที่แสนมั่งคั่งแถมยังมีภรรยาที่สวยหยาดเยิ้มเป็นอันดับหนึ่งของมณฑลที่ใครๆต่างก็หมายปองดูเหมือนว่าเส้นทางชีวิตใหม่ของเขาจะโรยด้วยกลีบกุหลาบสินะ?ไม่เลย!บนโลกใบใหม่ที่เขาฟื้นขึ้นมานั้นเต็มไปด้วยผู้บ่มเพาะพลังเหนือมนุษย์มากมายแถมตำแหน่งลูกเขยอ๋องฉู่กลับทำให้เขาต้องคอยเผชิญจากการถูกลอบสังหารซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยที่เขาก็ไม่เข้าใจว่าไอ้เจ้าของร่างคนก่อนไปสร้างศัตรูเอาไว้มากมายขนาดนี้ได้ยังไง? ซ้ำร้ายร่างที่เขามาสิงสู่กลับเป็นแค่ร่างที่ไม่ได้ดีเด่ไม่มีพรสวรรค์เป็นเลิศเหมือนใครเขา ทุกคนในโลกนี้จึงต่างมองเขาเป็นแค่ไอ้คนไร้ค่าที่โชคดีถูกคุณหนูใหญ่ลูกสาวคนโตของอ๋องฉู่เลือกให้เป็นสามี อย่างเดียวที่พอจะภูมิใจได้ก็มีแต่หน้าตาที่หล่อเหลาและไอเทมสุดล้ำที่ติดตัวเขามาด้วย ซึ่งมันคือ “คีย์บอร์ดเซียน!!” ระบบสุดโกงตัวช่วยที่จะทำให้เขาใช้ชีวิตยียวนผู้คนในโลกใบใหม่แห่งนี้ได้โดยที่ไม่ตายก่อนวัยอันควร!ขอเชิญติดตามเรื่องราวการผจญภัยสุดป่วนในโลกที่ไม่ค่อยจะสงบสุขเท่าไหร่อยู่แล้ว โดยเฉพาะเมื่อ ซูอัน หนุ่มสายเกรียนเซียนปั่นประสาทที่ทะลุมิติมาพร้อมระบบคีย์บอร์ดสุดยียวนคู่ใจ ความโกลาหลครั้งมโหฬารยิ่งกว่าเดิมจึงอุบัติขึ้นจนทุกคนในโลกแห่งการบ่มเพาะไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้าหรือแม้แต่ขอทานยังต้องอุทานเป็นเสียงเดียวกัน“ซูอัน! แกมันไอ้ตัวบัดซบ!!”**เนื้อหาบางส่วนของนิยายแปลเรื่องนี้ อาจมีเนื้อหาเกี่ยวกับเพศ และความรุนแรง**(ผู้อ่านที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี ควรได้รับคำแนะนำ)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท