บทที่ 403 อนุญาต
บทที่ 403 อนุญาต
ถังซวงชำเลืองมองตู้จ้งเหว่ยแล้วตอบกลับว่า “เสี่ยวเซวี่ยกับฉันยังถูกไล่ให้มาโรงเรียน นายเองก็ไม่จำเป็นต้องไปหรอก ที่นั่นมีคนช่วยเยอะแยะ ชุนหยานเองก็ด้วย”
“อืม งั้นฉันค่อยไปเยี่ยมหลังจากที่ปู่หลี่กับย่าซูย้ายไปดีกว่า”
เขาได้ทานมื้อเย็นที่บ้านตระกูลจิง และยังได้อยู่ยินดีกับคุณหลี่และคนอื่น ๆ ตู้จ้งเหว่ยเลยรู้สึกว่าเขาได้ใกล้ชิดกับทุกคนมากขึ้น มันคงไม่แปลกหากว่าเขาจะไปเยี่ยมอีกฝ่ายบ้าง เพราะยังไงเขาก็ถูกเชิญไปร่วมงานแต่งงานในสุดสัปดาห์นี้ด้วยเช่นกัน
“อื้ม งั้นเดี๋ยวเราไปด้วยกัน”
ตอนนี้ถังชุนหยานกำลังคบกับตู้จ้งเหว่ย แน่นอนว่าถังซวงและเขาค่อนข้างสนิทสนมกันมากขึ้น อีกอย่างเธอก็ยังพูดคุยอย่างเป็นกันเองกับเขาเสมอ และบอกกล่าวให้เขาช่วยเหลือบางอย่างได้
“ได้เดี๋ยวเราไปด้วยกัน”
ตู้จ้งเหว่ยพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
จู้เจินเจินได้ยินบทสนทนาของถังซวงและตู้จ้งเหว่ย และได้ยินชื่อของใครคนหนึ่งที่ดูไม่คุ้นเคยนัก แต่รู้สึกว่าตู้จ้งเหว่ยกำลังสนใจผู้หญิงที่ชื่อชุนหยานมาก มันทำให้เธออยากรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นมีความสัมพันธ์กับตู้จ้งเหว่ยยังไงกันแน่?
แต่ก่อนที่จู้เจินเจินจะทันได้นึกอะไร เสียงกริ่งของชั้นเรียนดังขึ้น
คาบแรกในวันนี้คือชั้นเรียนของอาจารย์ใหญ่เหมาจื้อหลาง นักเรียนทุกคนหยุดพูดคุยอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นว่าอาจารย์กำลังเดินเข้ามา
หลังจากเลิกเรียนแล้ว เหมาจื้อหลางสั่งการบ้านก่อนจะเก็บข้าวของเพื่อออกจากห้อง
เห็นอย่างนั้นแล้ว ถังซวงเดินตามไปด้วย “อาจารย์เหมาคะ ฉันมีเรื่องจะคุยด้วยนิดหนึ่งค่ะ”
อาจารย์เหมาที่เห็นว่าเป็นถังซวง ก็ยกยิ้มก่อนจะตอบกลับ “นักเรียนถังซวง มีอะไรหรือเปล่า?”
“อาจารย์คะ ฉันอยากจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยค่ะ”
“อะ… อะไรนะ…”
เหมาจื้อหลางไม่คิดว่าถังซวงจะพูดเรื่องนี้กับตน เขาหยุดชะงักไปชั่วขณะ “เธอ… ตัดสินใจแล้วหรือ?”
ถังซวงพยักหน้า “ฉันตัดสินใจแล้วค่ะ”
แน่นอนว่าเหมาจื้อหลางทราบถึงเรื่องการสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่กำลังจะเปิดขึ้นในไม่ช้า ทุกคนในเมืองหลวงเองก็รู้เรื่องนี้ดีเช่นกัน แต่คราวแรกเขาคิดว่าเรื่องนี้มันไม่เกี่ยวข้องกับเขา เพราะไม่คิดว่านักเรียนของตนจะอยากเข้าร่วมการสอบคราวนี้ด้วย
“ถังซวง รอบนี้มีผู้เข้าสอบจำนวนมาก แต่เธอยังเรียนไม่จบมัธยมปลาย มันน่าจะเร็วเกินไปสำหรับเธอนะ” แม้เขาจะรู้ดีว่าถังซวงมีผลการเรียนที่ยอดเยี่ยม และก็พอใจในความฉลาดของเธอมาก แต่สุดท้ายเขาก็ยังรู้สึกว่ามันเร็วเกินไป
ได้ยินอย่างนั้น ถังซวงยกยิ้มก่อนจะพูดว่า “อาจารย์เหมาคะ ฉันอ่านหนังสือของชั้นมัธยมปลายหมดแล้ว อาจารย์ไม่ต้องห่วงค่ะ”
“อย่างนั้นหรือ?”
เหมาจื้อหลางขมวดคิ้วก่อนจะพูดว่า “งั้นไปที่ห้องพักครูตอนเที่ยงแล้วกัน ฉันจะลองให้เธอทำข้อสอบดู ถ้าเธอทำได้ ฉันจะอนุญาตให้เธอไปสอบเข้ามหาวิทยาลัย”
ถังซวงพยักหน้าทันทีเมื่อได้ยินอย่างนั้น ก่อนจะตอบกลับ “ค่ะอาจารย์เหมา”
เหมาจื้อหลางไม่พูดอะไรต่อก่อนจะตรงกลับไปที่ห้องพักครูเพื่อเตรียมตัว เขาคิดว่าจะเตรียมข้อสอบที่ยากขึ้นสักเล็กน้อย เพื่อให้ถังซวงได้เข้าใจว่ามีเรื่องอีกมากมายที่ต้องเรียนรู้ในโรงเรียนมัธยมปลายนี้
ทว่าในเที่ยงวันนี้ เหมาจื้อหลางกลับถูกตบอีกครั้ง
เขามองกระดาษข้อสอบตรงหน้าด้วยความตกตะลึงเพราะมันไม่มีข้อใดผิดพลาดแม้แต่น้อย “เธอ… เธอเรียนรู้ทุกอย่างในโรงเรียนมัธยมปลายแล้วจริง ๆ และยังรู้มันอย่างลึกซึ้งเลยแหละ”
“ค่ะ อย่างที่ฉันบอกกับอาจารย์เหมาก่อนหน้านี้ว่าฉันอ่านทุกอย่างหมดแล้วค่ะ”
ได้ยินถังซวงพูดอย่างนั้น มุมปากของเหมาจื้อหลางกระตุกเล็กน้อย เขาเคยได้ยินถังซวงพูดอย่างนั้นจริง ๆ แต่ใครจะทราบเล่าว่าอีกฝ่ายไม่ได้พูดจาโอ้อวด? เธอเก่งเกินไปต่างหาก แม้แต่นักเรียนที่จบมัธยมปลายไปแล้วยังเทียบถังซวงไม่ได้ด้วยซ้ำ
“อาจารย์คะ อย่างนี้หมายความว่าฉันสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้แล้วใช่ไหม”
“แน่นอน”
เหมาจื้อหลางพยักหน้ารับทันทีก่อนจะตอบว่า “เดี๋ยวฉันจะลงทะเบียนให้ ช่วงนี้ฝึกฝนทำข้อสอบให้ดีแล้วกันนะ”
“ขอบคุณค่ะอาจารย์”
หลังจากได้รับคำยินยอมจากเหมาจื้อหลางแล้ว ถังซวงเดินกลับไปห้องเรียนโดยไม่พูดอะไรต่อ
ตู้จ้งเหว่ยเห็นถังซวงกลับมาแล้ว เขาถามขึ้นอย่างอดไม่ได้ว่า “เธอไปทำอะไรที่ห้องพักครูหรือ? เห็นเมื่อเช้าเธอไปหาอาจารย์ใหญ่ แล้วก็ยังไปที่ห้องของอาจารย์ตอนเที่ยงอีก”
“ไม่มีอะไร”
เวลานี้มีคนมากมายอยู่ในห้องเรียนด้วย ถังซวงเลยไม่เล่ารายละเอียดให้ตู้จ้งเหว่ยฟัง
หลังจากตู้จ้งเหว่ยได้ยินอย่างนั้น เขาก็ไม่ได้ตื๊อต่อ
หลังเลิกเรียนในตอนเย็น ถังซวงและถังเซวี่ยกลับบ้านพร้อมกัน แต่เพราะหลี่จงอี้ ซูเหนียนอวิ๋น เกอชิงเหม่ยออกจากบ้านไปแล้ว เวลานี้บ้านจึงกลับมาเงียบเหงาอีกครั้ง
ถังชุนหยานที่เห็นทุกคนกลับมาแล้วก็ยื่นที่อยู่ของหลี่จงอี้ให้ “พี่สาวซวง เสี่ยวเซวี่ย เราไปกันเถอะ พรุ่งนี้ป้าเกอบอกว่าจะทำอาหารอร่อย ๆ รอพวกเราด้วย”
“จ้ะ”
ถังซวงยกยิ้มก่อนจะพยักหน้ารับ เวลานี้เธอนึกถึงตู้จ้งเหว่ยขึ้นได้จึงเอ่ยปากขึ้นว่า “วันนี้ตู้จ้งเหว่ยบอกว่าจะไปหาคุณปู่กับคุณย่าซูด้วย ไว้พรุ่งนี้ฉันจะบอกเขาอีกที”
“ค่ะ”
ถังซวงมาโรงเรียนในเช้าวันถัดมา และพูดเรื่องนี้กับตู้จ้งเหว่ยทันที
ตู้จ้งเหว่ยตอบรับโดยไม่ต้องคิด “ได้ เราจะไปที่นั่นพร้อมกันหลังเลิกเรียน”
จู้เจินเจินที่นั่งอยู่ด้านหน้า ทว่าใบหูกลับจดจ่ออยู่ที่คนสองคนที่พูดคุยกัน หลังจากได้ยิน เธออยากจะถามพวกเขา แต่ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไร และนึกถึงเมิ่งซือเซี่ยขึ้นมา เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเมิ่งซือเซี่ยก่อนหน้านี้ เพราะว่าไม่ได้คิดสนใจจะถามไถ่หล่อนด้วยซ้ำ
“ซือเซี่ย… มีอะไรหรือเปล่า ดูเหมือนเธอจะอารมณ์ไม่ค่อยดีเลยล่ะ”
เมิ่งซือเซี่ยได้ยินอย่างนั้นก็ส่ายศีรษะ “ไม่หรอก ฉันไม่เป็นไร”
“ซือเซี่ย เธอไม่เป็นไรแน่นะ?”
เห็นเมิ่งซือเซี่ยเป็นอย่างนี้ จู้เจินเจินงุนงงมาก เธอไม่เคยสังเกตเรื่องนี้มาก่อน และสัมผัสได้ว่าเมิ่งซือเซี่ยไม่สนิทใจกับตนเช่นเดิม แต่ไม่รู้ว่าสิ่งเหล่านี้เธอคิดไปเองหรือไม่
ซึ่งความจริงแล้วจู้เจินเจินไม่ได้คิดไปเอง แต่เพราะเมิ่งซือเซี่ยไม่มีอารมณ์จะพูดคุยกับจู้เจินเจินจริง ๆ เวลานี้ที่บ้านของเธอเกิดเรื่องมากมาย และมันทำให้เธออารมณ์ไม่ดี แต่จู้เจินเจินไม่ได้พูดอะไรต่อหลังจากกล่าวถามเช่นนั้น เมิ่งซือเซี่ยจึงเข้าใจว่าอีกฝ่ายไม่ได้ห่วงใยเธอจริง ๆ
ถังซวงชำเลืองมองทั้งสองคน แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เธอเปิดหนังสือและอ่านมันเพื่อรอชั้นเรียนเริ่ม และหลังจากเลิกเรียนแล้ว เธอตรงไปหาถังเซวี่ยพร้อมกับตู้จ้งเหว่ย
ถังเซวี่ยยืนรออยู่
“พี่คะ พี่ตู้ ไปกันเถอะ”
เมื่อทั้งสามมาถึงประตูโรงเรียน ก็เห็นว่าโม่เจ๋อหยวนยืนรออยู่ จึงตรงไปรับถังชุนหยานเป็นสถานที่สุดท้าย
“พี่สาวซวง ฉันมาแล้วค่ะ”
ถังชุนหยานเห็นถังซวงจึงรีบโบกมือให้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะวิ่งเหยาะ ๆ มา “งั้นฉันจะนำทางไปเองค่ะ”
“ไปกันเถอะ”
ทุกคนเดินเกาะกลุ่มกันสักพักหนึ่ง จนกระทั่งมาถึงลานเล็กตรงหน้า
“ถึงแล้วค่ะ”
ถังซวงรู้ได้ทันทีว่าลานเล็กแห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากบ้านตระกูลจิงมากนัก และมันง่ายมากหากจะเดินมาเยี่ยมเยียนกัน
“ซวงเอ๋อร์ มาแล้วหรือจ๊ะ”
เกอชิงเหม่ยได้ยินเสียงของหนุ่มสาว จึงเปิดประตูออกมาด้วยรอยยิ้ม “เข้ามาเร็ว ๆ อาหารเย็นพร้อมแล้วจ้ะ”