การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย – บทที่ 419 มัดเขา

การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย

บทที่ 419 มัดเขา

บทที่ 419 มัดเขา

เฮ่อหลานที่นั่งอยู่ในสวนเห็นว่าถังซวงและถังเซวี่ยเข้ามาพร้อมกับคนกลุ่มใหญ่ จึงรู้สึกประหลาดใจมาก “ซวงเอ๋อร์ เสี่ยวเซวี่ย ทำไมกลับมาด้วยกันล่ะจ๊ะ” อีกทั้งหันไปหาถังเซวี่ยแล้วถามต่อว่า “เสี่ยวเซวี่ย บ่ายนี้ลูกไม่มีเรียนหรือ?”

ถังเซวี่ยไม่คิดว่าจะได้พบกับแม่ทันทีที่เปิดประตู เมื่อได้ยินอย่างนั้นร่างกายของเธอชะงักค้างไม่รู้จะพูดอะไรไปชั่วขณะ

แต่เป็นถังซวงที่ยกยิ้มแล้วตอบแทน “แม่คะ นาน ๆ ทีเฟิงเยี่ยหานจะมาเมืองหลวง วันนี้เสี่ยวเซวี่ยเลยขอลาหยุดและจะไปเดินเล่นในเมืองหลวงกับเขาน่ะค่ะ”

เฮ่อหลานขมวดคิ้วก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชากับเฟิงเยี่ยหาน “ถ้าสหายเฟิงมาถึงเมืองหลวง เขาคงไม่ต้องการให้เสี่ยวเซวี่ยไปกับเขาหรอกใช่ไหม? ถ้าคุณอยากจะเดินเที่ยวในเมือง คงมีคนมากมายที่พร้อมจะดูแลอยู่แล้วนี่”

เฟิงเยี่ยหานก้มหน้าลงอย่างรู้สึกผิด “ผมขอโทษครับที่ให้เสี่ยวเซวี่ยลาหยุดเพราะผม”

ถังซวงและโม่เจ๋อหยวนหันมองเฟิงเยี่ยหานอีกครั้ง เขาสัมผัสได้ว่าผู้นำตระกูลเฟิงคนนี้ค่อนข้างเป็นมิตร เมื่อพบกับเฮ่อหลานก็ยังสุภาพไม่เปลี่ยน

เพราะเฟิงเยี่ยหานยอมรับผิดแทน มันจึงทำให้ถังซวงรู้สึกประทับใจเขาขึ้นมาเล็กน้อย

“ไม่ใช่นะคะ เราเข้าไปข้างในกันก่อนเถอะ สหายเฟิงไม่ค่อยได้มาที่เมืองหลวงเท่าไหร่ ถ้าเสี่ยวเซวี่ยจะลาหยุดสักวันก็ไม่เป็นไรหรอกมั้งคะ เสี่ยวเซวี่ยฉลาดอยู่แล้ว”

เห็นลูกสาวคนโตไม่คัดค้านอะไร เฮ่อหลานจึงไม่ได้พูดอะไรต่อก่อนจะพาทุกคนเข้ามาด้านในและต้อนรับพวกเขาด้วยน้ำชาและขนม

“แม่คะ พ่อไม่ได้กลับมาหรือคะ?”

เฮ่อหลานส่ายศีรษะเมื่อได้ยินอย่างนั้นก่อนตอบ “ไม่จ้ะ พ่อมีประชุมตอนเที่ยง แต่ช่วงบ่ายเขาน่าจะกลับมานะ”

ถังซวงพยักหน้ารับ

เฮ่อหลานอดไม่ได้ที่จะหันมองลูกสาวคนโตก่อนจะถามว่า “มีเรื่องอะไรจะคุยกับพ่อหรือจ๊ะ?”

“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ หนูแค่มีอะไรจะถามพ่อนิดหน่อย”

เฮ่อหลานไม่ได้สนใจจะถามต่อ ก่อนจะหันไปหาโม่เจ๋อหยวนกับเฟิงเยี่ยหาน “พักทานมื้อเที่ยงที่นี่แล้วกันนะทั้งสองคน ฉันจะให้ในครัวเตรียมอาหารให้ พวกเธอน่าจะชอบ”

“ขอบคุณครับป้าหลาน รบกวนด้วยครับ”

โม่เจ๋อหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้ม

เฟิงเยี่ยหานกล่าวขอบคุณอย่างสุภาพก่อนจะหันมองถังเซวี่ยอย่างเป็นห่วง เพราะกลัวว่าเธอจะยังเหนื่อยจากเรื่องก่อนหน้านี้ และอยากให้เธอได้พักผ่อนสักหน่อย

เวลานี้ถังเซวี่ยยังรู้สึกกลัวอยู่และรู้สึกว่าวันนี้เธอประมาทมากเกินไป จนหมดสติ แต่ความหวาดกลัวยังไม่หาย

ถังซวงชำเลืองมองถังเซวี่ยก่อนจะหันมองเฮ่อหลานแล้วยกยิ้ม “แม่คะ หนูเพิ่งไปเดินเล่นและทานอาหารมาจากด้านนอกแล้วน่ะ ตอนนี้เราเหนื่อยนิดหน่อย ขอตัวไปพักก่อนนะคะ เดี๋ยวหลังจากงีบหลับสักหน่อยแล้วเราจะกลับมาค่ะ”

เฮ่อหลานพยักหน้ารับ “จ้ะ ลูกไปพักผ่อนกันเถอะ”

แต่เธอก็ไม่ลืมโม่เจ๋อหยวนและเฟิงเยี่ยหานด้วยเหมือนกัน ก่อนจะจัดห้องพักให้พวกเขาแล้วกลับไปพักผ่อนหลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อย

ถังซวงเดินตามถังเซวี่ยกลับไปที่ห้องก่อนจะถามด้วยความเป็นห่วง “เสี่ยวเซวี่ย ยังเวียนหัวอยู่ไหม? เดี๋ยวฉันไปทำยาสมุนไพรมาให้ดื่มสักหน่อย จะได้หลับสบายนะ”

“ฉันสบายดีค่ะ”

ถังเซวี่ยสบายดี มีเพียงความกลัวเท่านั้นที่ยังคงอยู่ แต่เธอไม่คิดจะสร้างความกังวลให้กับพี่สาว

ถังซวงยืนขึ้นก่อนจะพูดว่า “จ้ะ งั้นพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวฉันปรุงยาคลายเครียดให้นะ”

แต่ก่อนที่ถังซวงจะจากไป ถังชุนหยานก็เข้ามาพอดี เมื่อเห็นถังงซวงกำลังจะปรุงยาเธอจึงรีบพูดขึ้นว่า “พี่สาวซวงคะ ให้ฉันปรุงให้เถอะค่ะ เขียนสูตรยามาให้ฉัน แล้วพี่ไปอยู่เป็นเพื่อนเสี่ยวเซวี่ยเถอะ”

ถังซวงเป็นห่วงถังเซวี่ยมาก เธอจึงให้สูตรยากับถังชุนหยาน

หลังจากถังชุนหยานอออกไป ถังเซวี่ยกล่าวอย่างสับสน “พี่คะ พี่ชุนหยานกำลังเริ่มต้นความสัมพันธ์กับตู้จ้งเหว่ย ถ้าเราทะเลาะกับตระกูลตู้ มันจะส่งผลกระทบกับพี่ชายตู้และเธอไหมคะ”

ถังซวงตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ต่อให้ตู้จ้งเหว่ยจะขอร้องก็ไม่มีประโยชน์ ตู้จ้งเหลียนกับตระกูลตู้ต้องชดใช้ แต่ฉันจะบอกเรื่องทั้งหมดกับชุนหยานก่อนให้เธอตั้งตัวรับสถานการณ์”

ถังเซวี่ยเห็นอย่างนั้นจึงไม่ได้พูดอะไรต่อ เพราะเธอก็ไม่ต้องการปล่อยตู้จ้งเหลียนไปจริง ๆ

เมื่อถังชุนหยานกลับมาจากปรุงยาเสร็จแล้ว เธอก็รีบส่งยาให้กับถังเซวี่ยทันที

“ขอบคุณค่ะพี่ชุนหยาน”

ถังเซวี่ยยกยาดื่มอย่างว่าง่าย

ถังซวงหันมองถังเซวี่ยพร้อมยกยิ้ม “เอาล่ะเสี่ยวเซวี่ย ถ้าทานยาเสร็จแล้วก็นอนพักสักหน่อยแล้วกัน”

“ค่ะ”

ถังเซวี่ยล้มตัวลงนอนหลังจากดื่มยาเสร็จ ส่วนถังซวงและถังชุนหยานออกไปพร้อมกัน

ถังชุนหยานสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น ไม่อย่างนั้นถังเซวี่ยจะดื่มยาทำไม เธอรีบหันมองถังซวงแล้วถามออกไปอย่างกังวลว่า “พี่สาวซวงคะ เสี่ยวเซวี่ยเป็นอะไรหรือ? เธอสบายดีไหม?”

“ไม่ต้องกังวลหรอก เสี่ยวเซวี่ยสบายดี แต่มีบางอย่างเกิดขึ้นและมันเกี่ยวข้องกับตระกูลตู้ด้วย ไปที่ลานของเธอดีกว่าเดี๋ยวฉันเล่าให้ฟัง”

ถังชุนหยานหัวใจเต้นระส่ำ เธอไม่คิดว่าตระกูลตู้จะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย แต่ถึงแม้จะเป็นตระกูลตู้เธอก็ยังอยู่ข้างถังซวงแน่นอน “งั้นเราไปกันเถอะค่ะ”

หลังจากที่ถังซวงและถังชุนหยานมาถึง ถังซวงเล่าเรื่องทั้งหมดแล้วพูดเสริมว่า “คราวนี้เราคิดจะจัดการตู้จ้งเหลียน แม้เราจะสนิทกับตู้จ้งเหว่ย แต่ฉันก็ไม่ได้ตั้งใจจะลดหย่อน ถ้าไม่ใช่เพราะมีใครคอยปกป้องเสี่ยวเซวี่ยอย่างลับ ๆ เสี่ยวเซวี่ยคงจะถูกทำลายศักดิ์ศรีไปแล้ว”

“อะไรกัน… มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นด้วยหรือ”

หลังจากที่ถังชุนหยานได้ยินเรื่องราวทั้งหมดจากถังซวง เธอโกรธจัดจนนั่งแทบไม่อยู่

“ตู้จ้งเหลียนกล้าเกินไปแล้ว พี่สาวซวงอย่าปล่อยเขาไปนะคะ ไม่อย่างนั้นเสี่ยวเซวี่ยต้องหวาดกลัวไปตลอดชีวิตแน่”

เธอให้ความสำคัญกับความบริสุทธิ์ของหญิงสาวมาก และแน่นอนว่าเธอโกรธตู้จ้งเหลียนมากที่เขาคิดใช้วิธีนี้เพื่อข่มเหงถังเซวี่ย

ถังซวงพยักหน้าเมื่อได้ยินที่ถังชุนหยานพูด “อืม ดีแล้วที่เธอเข้าใจ ฉันกังวลว่าเธอจะลำบากใจเพราะว่ากำลังสร้างความสัมพันธ์กับตู้จ้งเหว่ย”

“พี่สาวซวง ฉันยอมรับนะคะว่าฉันก็ค่อนข้างประทับใจตู้จ้งเหว่ยเหมือนกัน และชอบเขามากด้วย แต่ถ้าเทียบกับคุณและเสี่ยวเซวี่ย พวกคุณยังเป็นที่หนึ่งเสมอและยังเป็นพี่น้องของฉันด้วย ถ้าตู้จ้งเหว่ยจะมีความบาดหมางกับคุณเพราะเรื่องนี้ ทัศนคติของเขาก็ไม่ถูกต้อง เขากำลังปกป้องครอบครัวตัวเองอย่างผิด ๆ ถ้าเป็นอย่างนั้นความสัมพันธ์ของเราสองคนควรจะจบลง”

เมื่อได้ยินอย่างนั้นแล้ว ถังซวงยกยิ้มก่อนจะหันมองถังชุนหยาน

“ชุนหยาน ไม่คิดเลยว่าเธอจะมีความคิดอย่างนี้ ฉันดีใจนะที่เธอยืนข้างเสี่ยวเซวี่ยของเรา”

“ฉันอยู่ข้างเสี่ยวเซวี่ยแน่นอนค่ะ”

ถังชุนหยานกล่าวอย่างหนักแน่น และเธอคิดว่ามันควรจะดีกว่าถ้าหากบอกกล่าวกับตู้จ้งเหว่ย เพื่อเขาจะได้เตรียมใจไว้ล่วงหน้า “พี่สาวซวงคะ ฉันบอกเรื่องนี้กับตู้จ้งเหว่ยได้ไหม ฉันสัญญาว่าจะไม่พูดอะไรเกี่ยวกับเราเลยค่ะ เพียงแค่อยากบอกว่าตู้จ้งเหลียนทำอะไรบ้าง”

“ได้สิ”

ถังซวงพยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดของถังชุนหยาน

“พี่สาวซวง อย่างนั้นฉันจะออกไปเดี๋ยวนี้เลยค่ะ”

“อื้ม”

ถังซวงรู้ว่าถังชุนหยานจะไปพบเจอกับตู้จ้งเหว่ย จึงไม่คิดรั้งเธอไว้

หลังจากถังชุนหยานออกไปแล้ว ถังซวงกลับไปที่ลานของตัวเองและเห็นว่าโม่เจ๋อหยวนยืนรออยู่ตรงนั้น

“อาหยวน… คุณไม่ได้พักผ่อนในห้องรับแขกหรือคะ?”

เมื่อความสัมพันธ์มาถึงจุดหนึ่ง การเรียกชื่อของถังซวงและโม่เจ๋อหยวนก็เปลี่ยนไป พวกเขาใช้ถ้อยคำที่แสดงถึงความสนิทสนมที่มากขึ้น

โม่เจ๋อหยวนก้าวไปโอบเอวของถังซวงอย่างอ่อนโยน

“ฉันนอนไม่หลับเลยมาหาเธอน่ะ เสี่ยวเซวี่ยพักผ่อนแล้วหรือ เป็นยังไงบ้าง?”

“หลังดื่มยาคลายเครียด เธอหลับไปแล้วค่ะ”

“อื้ม ดีแล้วแหละ”

โม่เจ๋อหยวนดึงให้ถังซวงนั่งลง และพูดถึงเรื่องที่ไปจัดการมาอย่างเรียบง่าย “ฉันให้คนไปตรวจสอบตู้หรงหมิงแล้ว คงจะใช้เวลาสองสามวันกว่าจะได้ข้อมูล เธออยากจะจับกุมตู้จ้งเหลียนไว้ก่อนไหม?”

“ฉันให้คนจับตาดูตู้จ้งเหลียนเอาไว้แล้ว เราสามารถจับตัวเขาทันที ที่เฟิงอีต้องปล่อยตู้จ้งเหลียนไปแบบนั้นเพราะต้องรีบช่วยเหลือเสี่ยวเซวี่ย แต่ฉันจะไม่ปล่อยเขาไปแน่นอน”

โม่เจ๋อหยวนพยักหน้าหลังได้ยินอย่างนั้น “อื้ม ไม่ว่ายังไงตู้จ้งเหลียนต้องชดใช้อย่างสาสม”

อีกด้านหนึ่ง เฟิงเยี่ยหานไม่ได้หยุดพัก เขาส่งคนไปตรวจสอบกิจการภายในของตระกูลตู้เช่นกัน และตัดสินใจลับ ๆ ว่าตู้จ้งเหลียนจะต้องชดใช้อย่างสาสม และเวลานี้เขาส่งคนไปติดตามตู้จ้งเหลียนเช่นกัน

ส่วนตู้จ้งเหลียนที่อยู่ที่บ้าน ไม่รู้เลยว่ามีคนมากมายกำลังคิดจับตัวเขา เวลานี้เขากำลังขอให้โหยวอี้หงช่วยทายาให้

แต่โหยวอี้หงเผยสีหน้าทุกข์ใจ

“จ้งเหลียน บอกแม่มาว่าเกิดอะไรขึ้น ใครทำกับลูกแบบนี้? เดี๋ยวแม่จะส่งคนไปจัดการพวกมันให้”

ตู้จ้งเหลียนจดจำหน้าของเฟิงอีได้ เขากล่าวผ่านไรฟัน “เป็นผู้หญิงครับ เธอทำกับผมถึงขนาดนี้ ผมจะกลับไปจัดการเธอแน่”

“อะไร… ผู้หญิงงั้นหรือ”

โหยวอี้หงประหลาดใจ “มันชื่ออะไร อยู่ที่ไหน เราจะตามหาคน ๆ นั้น” เวลานี้โหยวอี้หงถามต่อว่า “แล้วทำไมหล่อนถึงทำกับลูกขนาดนี้ล่ะ?”

แต่ตู้จ้งเหลียนลังเลที่จะพูด

เขารู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาทำให้ถังเซวี่ยกลายเป็นของตนไม่สำเร็จ หลังจากนี้ตระกูลจิงต้องมาจัดการกับเขาแน่

นึกถึงเรื่องนี้แล้ว ตู้จ้งเหลียนหน้าซีดเซียว

ยิ่งเห็นลูกชายอย่างนั้น โหยวอี้หงขมวดคิ้วก่อนจะถามต่อ “มีอะไรหรือเปล่า? ลูกอายที่ถูกผู้หญิงซ้อมหรือ? ระหว่างแม่ลูกจะมีอะไรที่เราไม่คุยกันอีก บอกแม่มาเถอะ”

“แม่ครับ… เรื่องวันนี้เป็นเพราะผมไม่คิดให้รอบคอบ ผม…”

ก่อนที่ตู้จ้งเหลียนจะพูดจบ กลับมีคนเข้ามาในห้อง

เห็นคนแปลกหน้ามากมายเข้ามา โหยวอี้หงและตู้จ้งเหลียนหันมองอย่างหวาดระแวงแล้วพูดขึ้นทันทีว่า “พวกแกเป็นใคร? เข้ามาที่นี่ได้ยังไง รู้ไหมว่าที่นี่คือบ้านของใคร? กล้าดียังไงที่เข้ามาในนี้?”

เฟิงเอ้อร์มองตู้จ้งเหลียนที่มีใบหน้าฟกช้ำ ก็ไม่ได้พูดอะไรก่อนจะกล่าวเย็นชา “มัดเขา”

การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย

การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนีผู้มั่งคั่งร่ำรวย

Status: Ongoing
การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนี่ผู้มั่งคั่งร่ำรวยเธอตื่นขึ้นมาในร่าง ‘ถังชวง’ เด็กสาวในยุค 70 ที่มีชีวิตแสนลำบากในตระกูลที่กขี่ทั้งเธอ แม่กับน้องสาว… แต่จากนี้เธอจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ เธอจะเป็นเศรษฐีนี่ให้ได้เลย! นิยายแปลเรื่อง การหวนคืนสู่ยุค 70 ของเศรษฐีนี่ผู้มั่งคั่งร่ำรวย [重返七零之空间小辣]ผู้แต่ง:钰儿เรื่องย่อ: เธอเกิดใหม่มาในร่งของ ถังซวง’ เด็กสาวที่ถูกกใน ยุค 70!! แถมยังต้องมาเจอกับพ่อใจร้ายที่วัน ๆ เาแต่ทุบตี เธอเลยต้องวางแผนให้แม่หย่ากับพ่อเฮงซวยแบบนี้แล้วพาแม่กับน้องสาว ออกไปจากตระกูลปรสิตนี่ และหลังออกจากระกูล เธอก็มุ่งมั่นตั้งใจพาครอบครัวไปสู่เส้นทางเศรษฐีนี่ให้ได้ในสักวัน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท