อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] – ตอนพิเศษ 230 พี่ใหญ่ปรากฏตัว

ตอนพิเศษ 230 พี่ใหญ่ปรากฏตัว

ตอนพิเศษ 230 พี่ใหญ่ปรากฏตัว

ทันทีที่ไป๋หลิวอี้เข้าประตูมา เขาก็ยื่นมือไปกอดเนี่ยนเนี่ยนไว้แนบอก

อาเวินและเหวินหย่าที่อยู่ข้าง ๆ ต่างถอยออกไปสองสามก้าว มีเพียงโม่เพียวเท่านั้นที่ยืนเอียงคอด้วยความอยากรู้อยากเห็น นางจึงถูกเหวินหย่าผู้หงุดหงิดที่หลอมเหล็กแล้วไม่เป็นเหล็กกล้าลากตัวออกไป

เนี่ยนเนี่ยนตกตะลึงไปครู่หนึ่ง นางนึกอยากจะดิ้นหนีออกจากอ้อมแขนของเขา แต่เมื่อคิดว่าเขาไม่มั่นคงทางอารมณ์ นางจึงปล่อยให้เขากอดตนไว้เงียบ ๆ

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ไป๋หลิวอี้ก็ปล่อยนาง แต่สีหน้าของเขายังคงไม่ผ่อนคลาย เขาหันไปมองถงเวยหลินที่อยู่ไม่ไกล แล้วถามว่า “ดีขึ้นบ้างหรือเปล่า?”

“อืม” เนี่ยนเนี่ยนพยักหน้า ก่อนจะเปิดปากถามหลังจากนั้นสักครู่ “ตระกูลถง… เป็นอย่างไรบ้าง?”

“ตอนนี้มีทหารคอยคุ้มกันจวนหลายคน ฮ่องเต้สั่งให้สอบสวนเรื่องนี้อย่างละเอียด แต่ใจเราทราบดีอยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นตอนนี้เราจะมุ่งเน้นไปที่ตระกูลเจี่ยงและตระกูลหลิ่ว แต่ตอนนี้มีข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่ว ตระกูลลู่ ตระกูลหวงและตระกูลเจี่ยงต่างส่งคนออกไปจับตาดูอยู่ข้างนอก ถือได้ว่าเป็นการอารักขาฮ่องเต้”

ไป๋หลิวอี้รู้สึกเหนื่อยล้า เขาดึงนางให้นั่งลงข้าง ๆ แล้วลูบหว่างคิ้วตัวเอง

เนี่ยนเนี่ยนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง โดยคิดว่านี่เป็นช่วงเวลาที่ไม่ปกติ นางเป็นคนใจกว้างเสมอ จึงจะวางความคับข้องใจส่วนตัวไว้ก่อน

นางจึงเดินไปข้างหลังไป๋หลิวอี้ แล้วเอื้อมมือไปนวดหน้าผากให้เขา

ฝ่ายหลังชะงักไปเล็กน้อย ปากของเขาที่มักจะเม้มแน่นเพราะความตึงเครียด ในที่สุดก็เผยรอยยิ้มอ่อน เขาค่อย ๆ หลับตาลง แล้วเอนศีรษะไปด้านหลังเพื่อพิงร่างของเนี่ยนเนี่ยน

“ข้าคาดไม่ถึงเลยว่าตระกูลเจี่ยงจะลงมือเร็วถึงเพียงนี้ และเป้าหมายแรกที่โจมตีคือตระกูลถง”

เนี่ยนเนี่ยนพยักหน้า นางก็ไม่คาดคิดว่าตระกูลเจี่ยงจะเคลื่อนไหวรวดเร็วถึงเพียงนี้

แต่ก็เป็นเพราะเหตุนี้เช่นกัน ที่ทำให้เห็นว่าตระกูลเจี่ยงได้เตรียมการไว้แล้ว พวกเขาจงใจกวาดล้างตระกูลถง ทำให้ตระกูลเก่าแก่อายุร้อยปีล่มสลายเช่นนี้

“แล้วเจ้าได้พบกับเป่ยเป่ยหรือยัง? แผนของพวกเจ้าคืออะไร?” มือของเนี่ยนเนี่ยนหยุดชั่วขณะ

ไป๋หลิวอี้ขมวดคิ้ว แล้วจับมือนางเพื่อส่งสัญญาณให้นวดต่อ

มุมปากของเนี่ยนเนี่ยนกระตุก นางได้แต่นวดให้เขาเบา ๆ ต่อไป

ผ่านไปครู่หนึ่งก็ได้ยินเสียงของไป๋หลิวอี้ “ตระกูลจอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสี่ยืนหยัดมาเป็นเวลาร้อยปี และอุทิศตนเพื่อราชวงศ์ หากตระกูลเจี่ยงต้องการก่อกบฏ พวกเขาจะต้องกำจัดอีกสามตระกูลที่เหลือ ตระกูลถงเป็นตระกูลที่อ่อนแอที่สุดในสี่ตระกูล จึงเป็นที่เข้าใจได้ที่พวกเขาเลือกเป็นเป้าหมายโจมตีก่อน ทั้งยังจงใจโยนเหตุการณ์นี้ให้กับฮ่องเต้และไท่จื่อ ทำให้ตระกูลลู่ ตระกูลหวง และฮ่องเต้หมางเมินกัน บาดหมางและก่อให้เกิดความคลางแคลงใจกัน หากก่อกวนอีก ฮ่องเต้อาจตกเป็นเป้าวิจารณ์ของทุกคน”

เขาเงียบไปครู่หนึ่ง รอยยิ้มเย้ยหยันพลันปรากฏขึ้นที่มุมปาก เนี่ยนเนี่ยนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ชายผู้นี้มีรอยยิ้มอ่อนโยนเสมอ เขาแทบไม่เคยแสดงสีหน้าโหดร้ายเช่นนี้ต่อหน้านางเลย

แต่ไป๋หลิวอี้รีบยับยั้งการแสดงออกทางสีหน้าอย่างรวดเร็ว แล้วพูดต่อ “แต่โชคดีที่ตระกูลเจี่ยงไม่รู้ว่าเรากำลังสงสัยพวกเขาอยู่ ดังนั้นเรายังสามารถเตรียมตัวล่วงหน้าได้”

เนี่ยนเนี่ยนพยักหน้า “พี่ใหญ่กับคนตระกูลลู่คุ้นเคยกันดี ทั้งลู่อวี่กับเจ้าก็เป็นสหายกัน ดังนั้นจึงไม่น่ามีปัญหากับพวกเขา เพียงแต่ว่าตระกูลหวง… มีความสัมพันธ์ด้วยการแต่งงานกับตระกูลเจี่ยง… แต่เมื่อพูดเรื่องการแต่งงาน ข้าก็นึกถึงใครบางคนขึ้นมาได้”

“เรื่องความสัมพันธ์ทางการแต่งงาน ระหว่างตระกูลเจี่ยงและตระกูลหวงนั้นไม่มีอะไรต้องกลัว แม้ว่าทั้งสองตระกูลจะดูสนิทกัน แต่ก็เป็นเพียงผิวเผินเท่านั้น ได้ยินมาว่าหลังจากที่สตรีตระกูลหวงแต่งงานเข้าตระกูลเจี่ยง ชีวิตของนางไม่น่าพอใจนัก” เขาเงียบไปครู่หนึ่ง เมื่อเขานึกถึงคนที่เนี่ยนเนี่ยนพูดถึงขึ้นมาได้ เขาก็เลิกคิ้วแล้วยกยิ้ม “เจ้าบอกว่าเจ้านึกถึงใครบางคน เป็นคนจากดินแดนเหมิง…ที่แต่งงานกับคุณชายห้าแห่งตระกูลหวงใช่หรือไม่?”

เนี่ยนเนี่ยนตกตะลึง “เจ้ารู้ด้วยหรือ?”

คุณชายห้าของตระกูลหวงเป็นลูกชายคนสุดท้องของผู้เฒ่าหวง ซึ่งอายุมากกว่าหวงชิวผู่หนึ่งหรือสองปี พี่ชายทั้งสี่รักเขามาก และผู้เฒ่าสกุลหวงก็ตามใจน้องชายคนนี้แทบทุกอย่าง

ไม่กี่ปีที่ผ่านมาคุณชายห้าของตระกูลหวงเดินทางไปท่องเที่ยว และได้พบกับชายชาวเหมิง จึงไปเยี่ยมดินแดนเหมิง และได้พบกับเถี่ยชิวเอ๋อร์น้องสาวของเหมิงหลัวอวี้ที่เป็นผู้นำหญิงผู้มีอำนาจรองจากประมุขแห่งดินแดนเหมิง เขาตกหลุมรักนางตั้งแต่แรกพบ

เขาต้องใช้ความพยายามอย่างมาก ในที่สุดก็เอาชนะใจสาวงามได้ และพาเถี่ยชิวเอ๋อร์กลับมาแต่งงานเข้าตระกูลได้ในที่สุด

เนี่ยนเนี่ยนเคยพบกับเถี่ยชิวเอ๋อร์ตอนที่นางยังเด็ก แต่นางไม่ค่อยสนิทด้วย ทว่าพี่ใหญ่น่าจะเคยเป็นสหายกับเถี่ยชิวเอ๋อร์มาก่อน ว่ากันว่าแม่ของนางช่วยชีวิตของเถี่ยชิวเอ๋อร์ไว้ด้วย

เนื่องจากความสัมพันธ์ของคุณชายห้าแห่งตระกูลหวง สถานะของเถี่ยชิวเอ๋อร์ในตระกูลหวงจึงสูงเช่นกัน อีกทั้งนางยังเป็นคนใจดีและฉลาดมาก จึงถือได้ว่านางเป็นคนพิเศษของตระกูลหวง

เนี่ยนเนี่ยนรู้สึกว่าหากนางเป็นผู้พูดให้คนสกุลหวงฟัง ก็คงมีความน่าเชื่อถือมาก

“ฮูหยินห้า… มีสถานะสูงมากในตระกูลหวง” ไป๋หลิวอี้พูดแฝงความหมายบางอย่าง เมื่อเทียบกับเนี่ยนเนี่ยน เขาย่อมรู้เรื่องในอาณาจักรเทียนอวี่มากกว่า

เถี่ยชิวเอ๋อร์เคยเป็นผู้ช่วยหญิงข้างกายประมุขแห่งดินแดนเหมิง ไม่ว่าในแง่ของวรยุทธ์หรือความสามารถ นางย่อมดีกว่าคนทั่วไป

ผู้อาวุโสสกุลหวงเป็นคนที่ฉลาดมาก บางครั้งเขาไม่เพียงแต่เชิญลูกชายทั้งสี่ของเขา เพื่อหารือเรื่องต่าง ๆ ในครอบครัวเท่านั้น แต่ยังมักจะขอให้เถี่ยชิวเอ๋อร์แสดงความคิดเห็นด้วย ซึ่งนางสำคัญกว่าคุณชายห้าของตระกูลหวงเสียอีก

เนี่ยนเนี่ยนตาเป็นประกายเมื่อได้ยินเช่นนั้น “เช่นนั้น…”

“พี่ใหญ่ของเจ้าไปที่จวนหวงแล้ว” ไป๋หลิวอี้กล่าว “เป่ยเป่ยกำลังถูกใครบางคนจับตามองอยู่ ไม่ง่ายเลยที่ข้าจะไปหาได้ นอกจากจะแอบติดต่อกัน แต่หากพี่ใหญ่ของเจ้าไปปรากฏตัวขึ้นเองก็จะดีที่สุด”

ไม่ว่าจะเป็นตระกูลหวงหรือตระกูลลู่ หนานหนานก็มีมิตรภาพด้วยมาตั้งแต่เด็ก โดยเฉพาะตระกูลลู่ ผู้อาวุโสสกุลลู่ปฏิบัติต่อเขาดีกว่าหลานชายตัวเองเสียอีก

เนี่ยนเนี่ยนถอนหายใจเบา ๆ เมื่อพี่ใหญ่ของนางปรากฏตัว นางก็สามารถยกภูเขาออกจากอกได้

ตราบใดที่ทั้งตระกูลลู่และตระกูลหวงรู้ว่าใครคือฆาตกร ทั้งสองฝ่ายก็จะเข้าใจและระมัดระวังตัว แล้วเรื่องราวต่าง ๆ จะดีขึ้นมาก

เนี่ยนเนี่ยนเดาว่าตอนนี้ฮ่องเต้และไท่จื่อในวังหลวงคงจะตึงเครียดมาก

นางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “พรุ่งนี้ข้าจะไปพบพวกเขาในวังหลวง”

ไป๋หลิวอี้ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็พยักหน้า “ก็ได้… แต่ต้องกลับมาก่อนค่ำ วังหลวงตอนนี้ไม่ปลอดภัยยิ่งกว่าจวนซูกั๋วกงอีก เข้าใจหรือไม่?”

เป้าหมายสูงสุดของคนเหล่านั้นคือฮ่องเต้และไท่จื่อ อาจมีมือมืดอีกมากมายในวังหลวงก็เป็นได้

เนี่ยนเนี่ยนย่อมเข้าใจ นางตอบรับเบา ๆ

ไป๋หลิวอี้ถอนหายใจ วันคืนที่ผ่านมานี้ทำให้เขาเหนื่อยล้าทั้งกายใจจริงๆ

คนตระกูลถงเกือบถูกกวาดล้างจนหมดสิ้น แม้ว่าจะแตกเป็นสายตระกูลย่อยมากมาย แต่ก็ไร้ผู้นำ อีกทั้งยังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันมาก ตระกูลนี้จึงตกอยู่ในภาวะระส่ำระสาย

ตอนนี้ได้เพียงแค่หวังว่าถงเวยหลินจะฟื้นตัวดีขึ้นในไม่ช้า จะได้จัดระเบียบตระกูลถงใหม่

เขาหลุบตาลงครุ่นคิด เนี่ยนเนี่ยนเหนื่อยจากการนวดมาพักหนึ่งแล้ว นางจึงกำลังจะผละออกไป

ทันใดนั้นก็มีเสียงครวญครางเบา ๆ ดังมาจากเตียง เนี่ยนเนี่ยนสะดุ้ง ไป๋หลิวอี้ก็ลืมตาขึ้น แล้วหันหน้าไปมองพร้อมกันกับนาง

จากนั้นทั้งสองก็เดินไปที่เตียงพร้อมกัน เป็นไปตามคาด นิ้วของถงเวยหลินกระดิกเบา ๆ คิ้วขมวดแน่น จากนั้นเปลือกตาที่หนักอึ้งของเขาก็เปิดขึ้นด้วยความยากลำบาก

“เจ้าฟื้นแล้วหรือ?” เนี่ยนเนี่ยนพูดเสียงเบา

……………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

คอนเนคชั่นของหนานหนานแต่ละคนนี่ไม่ธรรมดาเลย มีหนานหนานช่วย เหตุการณ์น่าจะพลิกกลับมาดีขึ้น

ไหหม่า(海馬)