ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก – ตอนที่ 416 ความคับแค้นใจของตั่งเหวยหราน

ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก

ตอนที่ 416 ความคับแค้นใจของตั่งเหวยหราน

ตอนที่ 416 ความคับแค้นใจของตั่งเหวยหราน

หลังจากฝึกฝนมาทั้งวัน ตั่งเหวยหรานก็กลับไปพักผ่อนที่หอพัก นายทหารยศสูงจะมีห้องส่วนตัวแยกเป็นสัดส่วน มีห้องนอนส่วนตัว 1 ห้องและห้องนั่งเล่น 1 ห้อง พร้อมเครื่องใช้ครบครันและน้ำอุ่นตลอด 24 ชั่วโมง

ในสองวันแรกตั่งเหวยหรานดูถูกเหยียดหยาม เขายึดหลักการว่าจะไม่รับประโยชน์ใด ๆ จากเถาหยาง จะนอนบนพื้นแข็ง ๆ ตอนกลางคืนและซักผ้าด้วยน้ำเย็น

แต่เมื่อเข้าวันที่สาม อาจเป็นไปได้ว่าเขาแก่แล้ว สมรรถภาพร่างกายไม่ดีและเริ่มรู้สึกปวดเมื่อยได้ง่าย เขาจึงเริ่มขยับไปนอนบนพรมในห้องนั่งเล่น

พรมขนนุ่มนิ่มทำให้เขาหลับสบายตลอดคืน

และเมื่อฟ้าสว่างขึ้นในวันถัดไป ป้าแม่บ้านก็มาช่วยเขาทำความสะอาดห้องและซักผ้า ทำให้เขามีเวลาเพิ่มขึ้นหนึ่งชั่วโมงเพราะว่าไม่ต้องมานั่งขยี้ผ้าเอง

สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกได้ทันทีว่าเมื่อไม่มีเรื่องหยุมหยิมจุกจิก ชีวิตของเขาก็มีความสุขขึ้นมาก แม้ว่าปากจะตำหนิ แต่ก็ต้องยอมรับว่าเครื่องซักผ้าใช้งานง่ายจริง ๆ และเครื่องอบผ้าก็สะดวกมาก

ในอีกไม่กี่วันต่อมา เขาก็ค่อย ๆ เริ่มลองใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กต่าง ๆ

เริ่มจากการใช้กาน้ำร้อน เมื่ออยากดื่มน้ำร้อนก็สามารถทำได้โดยการกดสวิตช์ พร้อมแก้วอุ่นร้อนที่สามารถทำให้น้ำชาด้านในนั้นคงอุณหภูมิตลอดเวลา และเมื่อตะโกนขึ้นไปในอากาศ ม่านอัจฉริยะจะเปิดขึ้นเอง เป็นการเปิดปิดอัจฉริยะ

เมื่อเขาตื่นขึ้นตอนกลางดึก ไฟกลางคืนจะเปิดโดยอัตโนมัติเพื่อให้เขามองเห็นทางได้ชัดเจน

เมื่อทำแก้วตก หุ่นยนต์ทำความสะอาดก็จะเริ่มทำความสะอาดอัตโนมัติโดยที่เขาไม่ต้องกังวล

หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป เขาก็มีความชำนาญในการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้อย่างเต็มที่ บางครั้งในตอนกลางคืน เขาก็แอบคิดว่าถ้าได้อยู่ในเถาหยางยามเกษียณอย่างสงบสุขและมั่นคงก็คงดี

แต่แล้วเขาก็ต้องหยุดความคิดไว้แค่นั้น เพราะเมื่อตื่นขึ้นในวันรุ่งขึ้น ก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงฉางจิง ซึ่งอยู่ห่างออกไปทางเหนือ

เขาต่อสู้มากับที่นี่เกือบทั้งชีวิต เขารับไม่ได้ที่เขาต้องทิ้งทุกอย่างเอาไว้ข้างหลังและจากไป เขาไม่สามารถรับฟังเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ในเถาหยางได้

แต่เขาก็ไม่สามารถจากเถาหยางไปอย่างสิ้นหวังได้

ก่อนกลับฉางจิง เขาต้องทำให้สำเร็จและกลับไปอย่างภาคภูมิ

ตั่งเหวยหรานกำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ แต่ในขณะที่เขากำลังผลักประตูเปิดเข้าไป ข้อความจากเครื่องสื่อสารก็เด้งเแจ้งเตือน เมื่อเขาเปิดดูก็พบว่าเป็นอีเมลแจ้งเตือนที่ถูกส่งมาในชื่อบัญชีทางการของเถาหยาง ด้านในระบุไว้อย่างชัดเจนว่าเขาจำเป็นต้องส่งคืนปืนพลังงานนิวเคลียสสามกระบอก มิฉะนั้นเขาจะถูกรายงานไปยังฉางจิง!

เขาตกตะลึงไปครู่หนึ่ง

ตอนแรกเขาคิดว่าเป็นอีเมลปลอมที่ส่งมากลั่นแกล้ง แต่หลังจากทำการเช็คซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาก็เชื่อว่าเป็นบัญชีทางการของเถาหยางส่งอีเมลมาถึงเขาจริง ๆ!

เขาขโมยอาวุธของสหพันธ์ไปเมื่อไหร่กัน!

เป็นการปรักปรำเขาซึ่ง ๆ หน้า!

ตั่งเหวยหรานโมโหและกระโดดเตะเสาอย่างแรง ผู้หญิงก็คือผู้หญิง ชอบใช้อุบายน่าเกลียดแบบนี้!

เขาโทรหารองหัวหน้ากองทหารอย่างหัวเสีย พร้อมกับเรียกพวกเขามาตำหนิและด่าออกมาโดยไม่ได้ระบุชื่อ รองหัวหน้าจึงคิดว่าตั่งเหวยหรานกำลังตำหนิเขาอยู่

รองหัวหน้ากองทหารไม่ได้พูดอะไร ปล่อยให้ตั่งเหวยหรานชี้หน้าด่าจนพอใจ และรอให้เขาพักหายใจก่อนที่เขาจะสวนกลับ

“หัวหน้า ถ้าคุณรู้ข้อผิดพลาดก็แค่แก้ไข คุณควรนำของไปคืนโดยเร็วที่สุด”

“นายหมายความว่ายังไง ฉันผิดตรงไหน? พวกเขากำลังใส่ร้ายฉัน!” ตั่งเหวยหรานเงยหน้าขึ้นทันที

“ผมจำได้ว่าฉางจิงแจกจ่ายปืนพลังงานนิวเคลียสให้เถาหยางสามกระบอก ในเวลานั้นพวกเราไม่มีใครได้ปืนไปสักคน ทุกคนเป็นพยานได้ แล้วปืนหายไปไหนล่ะครับ” รองหัวหน้ากองทหารยิ้ม

เมื่อเป็นแบบนี้แล้วก็เห็นได้ชัดว่าต้องเป็นตั่งเหวยหรานแน่ ๆ ที่เป็นคนเอาปืนทั้งสามกระบอกไป และทุกคนก็สามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองได้

ตั่งเหวยหรานโกรธจัด

แต่เวลานี้รองหัวหน้ากองทหารไม่ได้เกรงกลัวเขาอีกต่อไป

ตั่งเหวยหรานยังต้องการเรียกผู้บังคับกองพันคนอื่น ๆ มาตำหนิ และต้องการให้พวกเขาหาทางแก้ไข เรื่องปืนสามกระบอกเขาไม่มีทางคืนอยู่แล้ว แต่เขาอยากจะยืนยันก่อนว่าซูเถาเป็นคนสร้างเรื่องใส่ร้ายเขาหรือเปล่า?

เขาจะไม่มีวันกระโดดลงไปในหลุมพรางนี้เด็ดขาด แต่ไม่ว่าจะโทรไปกี่ครั้ง คนเหล่านี้ก็ไม่รับสายใด ๆ ทั้งสิ้น ราวกับว่าพวกเขาพร้อมใจกันปิดโทรศัพท์ด้วยซ้ำ

หัวหน้ากองพลอิสระที่ยิ่งใหญ่อย่างเขา พลโทผู้ซึ่งครั้งหนึ่งเคยสร้างคุณูปการมากมายให้กับฉางจิงและสหพันธ์ กลับถูกเพิกเฉยแบบนี้เหรอ!

ทำไมคนเหล่านี้ถึงกล้าได้กล้าเสียและไม่เห็นหัวเขาแบบนี้?!

เห็นได้ชัดว่าเมื่อไม่กี่วันก่อนพวกเขาพยามยามอดกลั้น ไม่กล้าแสดงท่าทีร้ายกาจต่อหน้าเขา แต่วันนี้คนเหล่านั้นกล้าที่จะขู่เขาและต่อสู้กับเขาอย่างนั้นเหรอ?

ตั่งเหวยหรานเตะประตูห้องเข้าไป เขาต้องการอาบน้ำร้อนเพื่อผ่อนคลายและคิดเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้

ทว่าเมื่อเปิดประตู ไฟก็ไม่เปิดอัตโนมัติเหมือนเคย

เขาพยายามเรียกหาแม่บ้านอัจฉริยะหลายครั้งแต่ก็ไม่มีการตอบรับ จึงทำได้แค่เข้าไปหาสวิตช์เปิดอย่างฉุนเฉียว เนื่องจากการกินอาหารที่ไม่ได้โภชนาการ เขาจึงมีอาการตาบอดกลางคืนขั้นรุนแรง เขาจึงหาไม่เจอว่าสวิตช์ไฟอยู่ที่ไหนหลังจากคลำหาเป็นเวลานาน

เพราะโดยปกติแล้วเขาไม่จำเป็นต้องเปิดและปิดไฟด้วยตนเอง และเขาจำไม่ได้ว่าสวิตซ์ที่เปิดไฟในห้องนั่งเล่นอยู่ตรงไหน หลังจากคลำหาอยู่เกือบสิบนาที เขาก็ยอมแพ้และกลับไปที่โซฟาเพื่อนอนพักผ่อนสงบสติอารมณ์

จะทำยังไงกับปืนพลังงานนิวเคลียสสามกระบอกนี้? จะคืนหรือไม่คืนดี มันยังเป็นปัญหายุ่งยากที่เขาตีอยู่ในหัว แม้ว่าเขาจะยังไม่เผชิญหน้ากับซูเถาโดยตรง แต่มันก็ทำให้เขารู้สึกกังวลมาก

หลังจากคิดนานกว่าครึ่งชั่วโมงก็ยังไม่ได้คำตอบ และไม่นานเขาก็รู้สึกว่าร่างกายเขาเหงื่อท่วมตัว เขานึกถึงน้ำอุ่นที่มีให้ใช้ตลอดเวลาและความสะดวกสบายในห้องน้ำ จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนพยายามคลำทางไปห้องน้ำ

ในที่สุดตั่งเหวยหรานก็มาถึงห้องน้ำโดยอาศัยการคลำทางในความมืด และเข้าไปอาบน้ำในที่มืดมิด แต่คิดไม่ถึงว่าหลังจากที่เขาถอดเสื้อผ้าทั้งหมดของเขาออกและเปิดฝักบัว หยดน้ำหยดหนึ่งก็ตกลงมาบนศีรษะของเขา มันแห้งราวกับทะเลทรายซาฮาร่า

ตั่งเหวยหรานไม่เชื่อเรื่องความดวงซวยนี้ เขาพยายามเปิดสวิตช์ไปมาแต่ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น!

การหาสวิตซ์ไม่เจอ เปิดไฟไม่ได้ เป็นปัญหาของเขาเอง

แต่ทำไมน้ำถึงไม่ไหล?

เขารีบสวมเสื้อผ้ากลับเข้าร่างกายโดยไม่รู้ว่าสวมกลับด้านหรือเปล่า จากนั้นก็คลำออกจากห้องน้ำไปเปิดก๊อกน้ำและเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมดในบ้านและพบว่าน้ำและไฟฟ้าถูกตัด!

เถาหยางก็มีการตัดน้ำตัดไฟด้วยเหรอ???

ตั่งเหวยหรานวิ่งไปที่หน้าต่างแล้วเปิดผ้าม่าน และเห็นว่าอาคารหอพักอื่น ๆ ด้านนอกสว่างไสวมีเพียงห้องของเขาเท่านั้นที่มืด!

เขาเข้าใจทันทีว่าซูเถาที่เป็นคนทำ!

เขากัดฟันกรอด

ตอนกลางวันเขาหักหน้าเธอไปโดยการบอกว่าเขาไม่ต้องการจะคุยกับเธอ ดังนั้นในตอนกลางคืน เธอจึงจงใจตัดน้ำและไฟฟ้า!

เป็นผู้หญิงที่ใจแคบจริง ๆ

การพูดคุยในเรื่องการปรับปรุงประสิทธิภาพในด้านต่าง ๆ หญิงสาวตัวเล็ก ๆ อย่างเธอมีอะไรจะคุยกับเขางั้นเหรอ ลูกชายของเขายังอายุมากกว่าซูเถาเกือบสิบปี การให้เขาร่วมโต๊ะคุยกับซูเถา เขารู้สึกเหมือนกำลังเล่นเป็นเพื่อนลูกอยู่ที่บ้าน

หากอยากคุยก็ไปหาคนที่พูดคุยด้วยได้มา

ตั่งเหวยหรานโกรธมากจนรู้สึกว่าเขาทนไม่ไหวแล้ว เขาไม่สามารถอยู่ที่เถาหยางได้อีกต่อไป เพราะเมื่อเขาหันหน้าไปมองหอพักที่มืด แต่สะอาดและสะดวกสบายเขาก็รู้สึกขัดแย้งอีกครั้ง

ออกจากเถาหยางไป เขาอาจไม่มีสภาพความเป็นอยู่แบบนี้อีกเลยในชีวิต

ทันทีที่ความคิดนี้ผุดขึ้นมา เขาตกใจและโกรธมาก!

ไม่ เขาอยู่ที่เถาหยางไม่ได้ เขาจะกลายเป็นคนไม่เอาไหนและไร้ประโยชน์ มันทำให้เขาเสพติดความสะดวกสบาย!

มาดูกันว่าทหารจากฉางจิง หากไม่มีเขาแล้ว ความแข็งแกร่งของพวกเขาจะอ่อนแอลงแค่ไหน ถึงเวลาการต่อสู้ พวกเขาก็ย่อมเป็นเหยื่อให้ซอมบี้โดยง่าย

ตั่งเหวยหรานเอะอะโวยวายอยู่คนเดียวในหอพักมืด ๆ

เขายังไม่สามารถโทรไปขอคำอธิบาย และขอน้ำขอไฟฟ้าคืนได้ มันจะเหมือนกับว่าเขาได้กลืนน้ำลายตัวเอง!

หลังจากคิดฟุ้งซ่านอยู่สองชั่วโมง ในเวลากลางดึกนี้เขาก็ถูกความอ่อนล้าเข้าจู่โจม และตั่งเหวยหรานก็ผล็อยหลับไปด้วยความเดือดดาล

เมื่อเขาตื่นขึ้นเขาก็ยิ่งโกรธ! เพราะเมื่อคืนฝันว่าน้ำและไฟกลับมาแล้ว!

ในฝันเขายังอาบน้ำอย่างสบายใจ! ดื่มชาจากแก้วที่คงอุณหภูมิอยู่ที่ 45 องศา!

ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก

ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก

Status: Ongoing
คอยดูเถอะ…วันสิ้นโลกแบบนี้ฉันจะยืนด้วยด้วยลำแข้งของตัวเองให้ได้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท