ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 – ตอนที่ 341 ต้องการกำจัดเด็ก

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

ตอนที่ 341 ต้องการกำจัดเด็ก

ตอนที่ 341 ต้องการกำจัดเด็ก

หลิวจื้อหมิงส่งเสียงกระแอมไอและพยักหน้าด้วยท่าทางอึดอัดใจ “เคยครั้งหนึ่งครับ”

ได้ยินคำพูดของลูกชาย แม่ของเขาก็ปรบมืออย่างตื่นเต้น “เช่นนั้นก็หนีไปไหนไม่ได้แล้ว รีบไปถามอวี้อิ๋งเร็วว่าใช่เรื่องจริงหรือเปล่า? รีบพาหล่อนไปตรวจที่โรงพยาบาล แกจะต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบผู้หญิงนะ”

ตราบใดที่เสิ่นอวี้อิ๋งตั้งครรภ์ เช่นนั้นก็ไม่จำเป็นต้องรอให้หล่อนเรียนจบมหาวิทยาลัย สามารถแต่งงานตั้งแต่ตอนนี้ได้เลย

ตราบใดที่แต่งงานกันแล้ว เช่นนั้นก็ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าอนาคตของลูกชายจะไร้คนดูแล

ถ้าเสิ่นอวี้อิ๋งเข้าเรียนมหาวิทยาลัย เช่นนั้นตัวแปรก็จะมีมากขึ้น

แต่หากว่าหล่อนตั้งครรภ์จริง เช่นนั้นพระเจ้าก็เข้าข้างตระกูลหลิวของพวกเขาแล้ว

พวกเขาจะเกี่ยวดองเป็นญาติของผู้อำนวยการเสิ่นได้หรือไม่ ลูกชายของหล่อนจะมีหน้าที่การงานหรือไม่ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับผลตรวจครรภ์แล้ว

หลิวจื้อหมิงถูกแม่ของเขาเร่งเร้าให้ไปหาเสิ่นอวี้อิ๋งที่โรงเรียนอีกครั้งหนึ่ง

เมื่อมาถึงหน้าประตูโรงเรียนก็ให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไปเรียกเสิ่นอวี้อิ๋งออกมา

เสิ่นอวี้อิ๋งเห็นหลิวจื้อหมิงปรากฏตัวขึ้นบริเวณหน้าประตูโรงเรียนอีกครั้ง จึงเอ่ยถาม “พี่จื้อหมิง คุณกลับมาทำไมคะ? มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”

“อวี้อิ๋ง คุณรู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?” หลิวจื้อหมิงมองหล่อนพลางเอ่ยถาม

เสิ่นอวี้อิ๋งมีท่าทางไม่เข้าใจ “รู้สึกไม่สบายตรงไหนเหรอ?”

“ช่วงนี้คุณรู้สึกคลื่นไส้อาเจียนอยู่เสมอใช่หรือเปล่า?” หลิวจื้อหมิงมองหล่อนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง

เสิ่นอวี้อิ๋งตอบตามความจริง “ใช่ค่ะ เป็นมาประมาณสองเดือนแล้ว ฉันต้องซื้อยาลดอาการระคายเคืองกระเพาะมากินถึงรู้สึกดีขึ้น ตอนนี้บางครั้งก็ยังรู้สึกคลื่นไส้เวลาเห็นอาหารมันเยิ้ม”

“ประจำเดือนของคุณมาเป็นปกติหรือเปล่า?”

เมื่อผู้ชายอย่างหลิวจื้อหมิงเอ่ยถามคำถามเช่นนี้ เสิ่นอวี้อิ๋งก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย หล่อนครุ่นคิดและตอบด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ “เหมือนว่าจะไม่มานานแล้ว”

“จริงเหรอ?”

เสิ่นอวี้อิ๋งอธิบาย “ลูกพี่ลูกน้องของฉันบอกว่าสิ่งนี้มาไม่ตรงตามเวลาถือว่าเป็นเรื่องปกติ ครั้งก่อนของหล่อนเองก็ไม่มาติดกันสองเดือนจนคิดว่าตัวเองท้อง ผลสุดท้ายหล่อนก็เข้าใจผิดครั้งใหญ่”

“แล้วของคุณไม่มากี่เดือนแล้ว?” น้ำเสียงของหลิวจื้อหมิงสั่นเครือด้วยความตื่นเต้น

เมื่อสบสายตากระตือรือร้นของหลิวจื้อหมิง เสิ่นอวี้อิ๋งก็ส่ายศีรษะ

“ฉันเองก็ลืมไปแล้ว เพราะหลังจากกลับมาเมืองไห่เฉิง ฉันยังปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมไม่ได้ ทำให้มันมาไม่ตรงเวลา เหมือนกับว่าจะมาเพียงครั้งเดียว แถมช่วงนี้ก็กดดันเรื่องเรียนมาก ฉันได้ยินเพื่อนร่วมชั้นเรียนผู้หญิงกล่าวว่าของพวกหล่อนเองก็มาไม่ปกติ ฉันเองก็เลยไม่ได้นับ”

ถ้าหลิวจื้อหมิงไม่กล่าวเรื่องนี้ หล่อนก็ลืมคำนวณวันที่มีประจำเดือนแล้ว

หลิวจื้อหมิงได้ยินเสิ่นอวี้อิ๋งอธิบายเช่นนี้ก็ยิ่งเป็นการยืนยันสมมติฐานของแม่เขา

ประสบการณ์ของเหล่าผู้อาวุโสนั้นแม่นยำอย่างแน่นอน

เขาจับมือของเสิ่นอวี้อิ๋งและเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม “อวี้อิ๋ง คุณท้องหรือเปล่า?”

“หา?” เสิ่นอวี้อิ๋งพลันมีสีหน้าตะลึงงัน “คุณพูดว่าอะไรนะคะ?”

“อวี้อิ๋ง คุณลืมไปแล้วเหรอ? เมื่อสามเดือนก่อนพวกเรา……. คุณทำเรื่องขอลา ผมจะพาคุณไปตรวจดีไหม?”

เมื่อหลิวจื้อหมิงกล่าวเช่นนี้ เสิ่นอวี้อิ๋งพลันครุ่นคิดถึงอะไรบางอย่าง จากนั้นก็ตื่นตกใจและแสดงสีหน้าหวาดกลัว

“เป็นไปไม่ได้หรอกมั้งคะ? เพื่อนผู้หญิงที่เรียนแย่ที่สุดของชั้นเรียนก็ประจำเดือนมาไม่ตรงตามเวลากันตั้งเยอะแยะเพราะกดดันเรื่องเรียน”

หลิวจื้อหมิงอธิบายด้วยเสียงอ่อนหวาน “พวกหล่อนไม่มีแฟน ประจำเดือนจะมาตรงตามเวลาหรือไม่นั้นไม่สำคัญ แต่คุณไม่เหมือนกับหล่อน”

ในที่สุดเสิ่นอวี้อิ๋งก็โอนอ่อนตามคำพูดของหลิวจื้อหมิง หล่อนวิ่งไปทำเรื่องขอลาครึ่งวัน

ขณะหลิวจื้อหมิงกำลังจะพาเสิ่นอวี้อิ๋งไปยังโรงพยาบาล ชายร่างใหญ่กำยำคนหนึ่งเห็นพวกเขาเข้าและวิ่งออกมาจากร้านซ่อมจักรยานทางทิศใต้ของประตูโรงเรียน

“อวี้อิ๋ง เธอกำลังจะไปไหน ไม่เข้าเรียนเหรอ?” สายตาของเจิ้งต้าหมิงจับจ้องไปยังร่างกายของหลิวจื้อหมิงและมองสำรวจเขาพลางเอ่ยถาม “เขาเป็นใคร?”

เสิ่นอวี้อิ๋งโกหกด้วยท่าทางไม่ใส่ใจ “ลูกพี่ลูกน้องของฉันเองน่ะ”

“พวกเธอกำลังจะไปไหน?” เจิ้งต้าหมิงถาม

“พอดีที่บ้านมีปัญหา ฉันต้องกลับไป”

เสิ่นอวี้อิ๋งส่งสัญญาณให้หลิวจื้อหมิงรีบปั่นจักรยาน

เมื่อผ่านประตูโรงเรียนมาแล้ว หลิวจื้อหมิงเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ “อวี้อิ๋ง เขาเป็นใคร?”

เสิ่นอวี้อิ๋งรีบอธิบาย “เขาเป็นพี่ชายของอดีตเพื่อนร่วมชั้นของฉันตอนอยู่ที่ชนบท ตอนฉันเรียนอยู่ที่นั่น เขาดูแลฉันเป็นอย่างดี ช่วงนี้บังเอิญว่าเขาได้งานทำอยู่หน้าโรงเรียนของฉันน่ะค่ะ”

หลิวจื้อหมิงไม่ได้คิดอะไรมาก เอ่ยกับเสิ่นอวี้อิ๋งด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเป็นอย่างมาก “อ้อ หลังจากนี้พยายามอย่าไปมาหาสู่กับคนเหล่านั้นแล้วกัน คุณเริ่มต้นชีวิตใหม่แล้ว ต้องบอกลาผู้คนและเรื่องราวภายในอดีตแล้ว”

“ฉันเข้าใจแล้วค่ะ”

หลิวจื้อหมิงพาเสิ่นอวี้อิ๋งมาถึงโรงพยาบาลแล้ว

เมื่อเห็นแผนกสูตินรีเวช จากนั้นพวกเขาเดินเข้าไปและทำการตรวจสอบ

“คุณตั้งครรภ์ได้สิบห้าสัปดาห์แล้วนะคะ”

แพทย์หญิงวัยกลางคนฟังคำอธิบายของเสิ่นอวี้อิ๋ง ก่อนกล่าวขึ้นขณะมองดูผลตรวจอัลตราซาวนด์บี

“อะไรนะคะ?” เสิ่นอวี้อิ๋งเหม่อลอยอยู่อย่างนั้น ภายในสมองพลันเกิดเสียงอื้ออึง ไม่รู้ว่าจะตอบสนองอย่างไร

ใบหน้าของหลิวจื้อหมิงปรากฏความปีติยินดีและให้แพทย์ยืนยันอีกครั้ง “หมอครับ สิบห้าสัปดาห์ก็คือสามเดือนใช่ไหมครับ?”

“ใช่ค่ะ”

เสิ่นอวี้อิ๋งใช้เวลาแยกแยะคำพูดของแพทย์อยู่เนิ่นนาน ใบหน้าพลันซีดเผือด หล่อนจ้องมองแพทย์และเอ่ยถามอย่างไม่ยอมแพ้ “ตรวจผิดหรือเปล่าคะ?”

แพทย์มองพวกเขาด้วยรอยยิ้ม “คุณผู้หญิงคะ ไม่ผิดพลาดหรอกค่ะ จากสถานการณ์ประจำเดือนรอบล่าสุดที่คุณกล่าวอธิบายมานั้นสามารถยืนยันได้ว่าคุณตั้งครรภ์มาสามเดือนแล้ว”

“ฉันท้องได้ยังไง?” ข่าวนี้เหมือนกับฟ้าผ่าตอนกลางวันแสกๆ ร่างกายของเสิ่นอวี้อิ๋งแข็งทื่อราวกับหินและทำอะไรไม่ถูก

หล่อนไม่อยากเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นความจริง

ไม่สิ หล่อนไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อนเลย

หล่อนเคยมีพฤติกรรมแบบนั้นก็จริง แต่ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะตั้งครรภ์ได้ง่ายดายขนาดนั้น

ประจำเดือนของหล่อนไม่มาอาจเป็นเหมือนเรื่องตั้งครรภ์ปลอมที่เข้าใจผิดของเสิ่นเสี่ยวเหมย หล่อนคิดว่าการที่ประจำเดือนคลาดเคลื่อนนั้นเป็นเรื่องปกติ ไม่เคยนึกถึงเรื่องการตั้งครรภ์เลย

เมื่อคิดได้เช่นนี้ก็พบว่าตัวเองประมาทเกินไป อีกทั้งยังถูกเรื่องเข้าใจผิดของเสิ่นเสี่ยวเหมยทำให้ไม่ทันได้ฉุกคิดอย่างรอบคอบ

อันที่จริงหากคิดอย่างรอบคอบ สัญญาณการตั้งครรภ์ได้ปรากฏชัดเจนตั้งนานแล้ว

อาการคลื่นไส้อาเจียนนั้นไม่ใช่สาเหตุจากกระเพาะอาหาร

เมื่อออกมาจากโรงพยาบาล สมองของเสิ่นอวี้อิ๋งพลันหยุดประมวลผล หล่อนเดินตามหลิวจื้อหมิงราวกับซากศพเดินได้อย่างไรอย่างนั้น

ส่วนหลิวจื้อหมิงตื่นเต้นมาก และรู้สึกเหลือเชื่อเล็กน้อย

เขากับเสิ่นอวี้อิ๋งมีความสัมพันธ์กันเพียงครั้งเดียวก็ตั้งครรภ์เลยเหรอ?

เมื่อลองคำนวณก็พบว่าเป็นเรื่องเมื่อสามเดือนก่อนพอดี

ตอนนั้นเป็นเพราะว่าทะเลาะกับหลินเซี่ย เสิ่นอวี้อิ๋งอารมณ์ไม่ดี เขาพาหล่อนมาที่บ้านและทำอาหารเพื่อปลอบโยนหล่อน

สุดท้ายก็ไม่สามารถควบคุมได้……

หลิวจื้อหมิงคิดว่าเสิ่นอวี้อิ๋งมอบครั้งแรกให้กับเขาและยังตั้งท้องลูกของเขา เขารู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก

ขณะเดียวกันก็รู้สึกโชคดีมาก โชคดีที่เสิ่นอวี้อิ๋งตรวจพบว่าตั้งครรภ์ในตอนนี้

นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับการเกี่ยวดองกับตระกูลเสิ่น

“อวี้อิ๋ง ผมขอโทษนะ” หลิวจื้อหมิงโอบกอดหล่อน “ผมขอโทษ ผมไม่ดีเอง ผมไม่รู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ เป็นผมเองที่ให้ความสนใจคุณไม่มากพอ เป็นผมเองที่ประมาทเกินไป”

“หลิวจื้อหมิง พวกเราไปตรวจที่โรงพยาบาลอื่นอีกสักครั้งดีไหมคะ?”

เสิ่นอวี้อิ๋งไม่สามารถยอมรับความจริงเรื่องที่ตนเองตั้งครรภ์ได้ หล่อนต้องการไปโรงพยาบาลอื่นเพื่อทำการยืนยันอีกครั้ง

“ตกลง”

หลิวจื้อหมิงเอาใจใส่และให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จากนั้นพาหล่อนไปยังโรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่ง

แน่นอนว่าต้องเลี่ยงโรงพยาบาลเมืองไห่เฉิงที่เซี่ยหลานอยู่

และผลตรวจที่ออกมาก็เหมือนกับโรงพยาบาลก่อนหน้านี้

ขาทั้งสองข้างของเสิ่นอวี้อิ๋งสั่นสะท้านอย่างหมดหวังและทรุดนั่งลงบนพื้น ก่อนเอ่ยออกมาว่าต้องการกำจัดเด็ก

หลิวจื้อหมิงพลันร้อนรน

ท่าทางของเสิ่นอวี้อิ๋งเด็ดขาดเป็นอย่างมาก หล่อนไม่สามารถเก็บเด็กคนนี้ไว้ได้ และยิ่งไม่สามารถให้พ่อแม่รู้เรื่องการตั้งครรภ์ของหล่อนได้

ไม่อย่างนั้นหล่อนจะต้องตายอย่างแน่นอน

ชีวิตของหล่อนจะต้องพังทลาย

แต่หลิวจื้อหมิงจะปล่อยให้หล่อนทำเช่นนั้นได้อย่างไร?

“อวี้อิ๋ง คุณจะไร้ความรับผิดชอบแบบนี้ไม่ได้นะ คุณกำลังโอบอุ้มชีวิตเล็กๆ ชีวิตหนึ่งอยู่ในท้อง คุณวางใจเถอะ ผมจะรับผิดชอบคุณและลูกเอง พวกเราแต่งงานกันดีไหม?”

………………………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

ยัยเหมยท้องลม แต่เธอน่ะท้องจริงยัยอวี้อิ๋ง

รอลุ้นนะคะว่าเด็กคนนี้จะได้เกิดมาหรือเปล่า แต่ถ้าเกิดมาจริงก็สงสารเด็กค่ะที่มีแม่แบบยัยอวี้อิ๋ง

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

Status: Ongoing
เมื่อสวรรค์ได้ให้โอกาสเธอย้อนกลับมาแก้ขในสิ่งที่ผิดพลาด เธอจะใช้โอกาสนี้เป็นช่างเสริมสวยยอดฝีมือให้ได้ตามฝันอย่างไรกันนะ?เรื่องย่อ : ในชาติก่อน หลินเ เป็นสไตสต์คนโง่ผู้ร้ความคิดป็นของตัวเอง จึงถูกดาราดาวรุ่งผู้เป็นเพื่อนสนิทวางแผนทำลายชีวิตจนพังพินาศ ไร้ซึ่งเครดิต ไร้ซึ่งอำนาจ และหน้ามืดตามัวทิ้งสามีพ่อม่ายลูกติดที่คอยสนับสนุนมาตลอดได้ลงค แต่เหมือนสวรรค์ยังคงเห็นใจต่ชะตาชีวิตอันรันทดของเธอ จึงทำให้เธอได้ย้อนกลับมาเกิดใหม่ในปี 1988 อันเป็นปีที่ทุกอย่างยังไม่สายเกินกว่าแก้ หลินเชี่ยจะใช้โอกาสที่ได้มีชีวิตครั้งที่สองเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของตัวเองอย่างไรบ้าง?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท