ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก – ตอนที่ 298 หลิวเสวียข่าย

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ตอนที่ 298 หลิวเสวียข่าย

ตอนที่ 298 หลิวเสวียข่าย

เสิ่นหรูฮวนได้ยินฉินมู่หลานพูด ก็รีบเอ่ยถาม “มู่หลาน เธอจะไปไหน?”

ฉินมู่หลานโบกมือให้เสิ่นหรูฮวน แล้วทำท่าบอกให้หล่อนเบาเสียง

เสิ่นหรูฮวนเห็นว่ามู่หลานไม่ยอมพูดอะไร ขณะเดียวกันก็มองดูฉินมู่หลานด้วยความกังวลใจ โชคดีที่ฉินมู่หลานนั่งอยู๋ในที่กำบังอย่างมิดชิด พวกเริ่นม่านลี่จึงไม่เห็นเธอ

ฉินมู่หลานที่เพิ่งนั่งลงก็ได้ยินเสียงของเริ่นม่านลี่ดังมา

“คุณหลิวคะ ฉันยังไม่ทราบเลยว่าคุณประทับใจฉันตรงไหน?”

เริ่นม่านลี่จ้องมองหลิวเสวียข่ายที่นั่งอยู่ตรงหน้า แววตาเต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน ต้องทราบว่าหลิวเสวียข่ายไม่เพียงแต่หน้าตาดีเท่านั้น แต่ยังมาจากตระกูลที่ดีอีกด้วย วันนี้ที่หล่อนมาดูตัวได้กับเขาต้องขอบคุณเซี่ยอวี่หรงจริง ๆ หากเรื่องครั้งนี้สำเร็จ หลังจากนี้หล่อนก็จะได้แต่งงานเข้าตระกูลหลิว

เมื่อคิดเรื่องนี้ได้ เริ่นม่านลี่ก็มองหลิวเสวียข่ายด้วยแววตาร้อนแรงมากขึ้น

แต่ถึงอย่างนั้น หลิวเสวียข่ายกลับมองเริ่นม่านลี่ด้วยสายตาเบาบางเหมือนคนทั่วไป ก่อนจะพูดขึ้น “ผมประทับใจในตัวคุณเริ่นอยู่ไม่น้อยเลยครับ แต่ว่าผมยังมีธุระต้องไปทำต่อ เพราะฉะนั้นวันนี้พวกเราพอกันเท่านี้ก่อนนะครับ”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าของเริ่นม่านลี่ก็แข็งทื่อขึ้นมาทันที

พวกเขาเพิ่งจะนั่งลงกินข้าวด้วยกันไปเกินครึ่งทางแล้ว แต่หลิวเสวียข่ายกำลังจะไป “แต่ว่า…ยังเหลืออาหารอีกจานที่ยังไม่ได้มาเสิร์ฟเลยนะคะ เรากินต่ออีกสักหน่อยดีกว่าค่ะ”

หลิวเสวียข่ายลุกขึ้นยืนเหยียดตัวตรง แล้วพูดพร้อมรอยยิ้ม “คุณเริ่น ผมยังมีเรื่องที่ต้องไปจัดการ ก่อนหน้านี้ผมก็เคยแจ้งแล้วว่าตารางงานของผมค่อนข้างแน่น”

เมื่อได้ยินแบบนี้ เริ่นม่านลี่ก็ไม่พูดขัดอะไรอีก ได้แต่ยิ้มเจื่อน “ค่ะ ถ้าอย่างนั้นคุณรีบไปเถอะ”

ถึงแม้ว่าหลิวเสวียข่ายจะเคยแจ้งมาก่อนแล้ว แต่หล่อนคิดว่าด้วยสเน่ห์ของตนเองแล้วจะไม่ทำให้อีกฝ่ายกลับเร็วอย่างแน่นอน สุดท้ายหลิวเสวียข่ายก็จากไปทั้งอย่างนี้

หลังจากหลิวเสวียข่ายไปแล้ว เริ่นม่านลี่ก็กระแทกส้อมจิ้มไปที่อาหารด้วยความโกรธ แต่เมื่อคิดได้ว่าอาหารมื้อนี้แพงขนาดไหน หล่อนก็รีบกินอย่างรวดเร็วอีกครั้ง เพราะปกติแล้วหล่อนไม่ค่อยมีโอกาสได้มากินมากนัก หลังจากกินอาหารจานสุดท้ายที่มาเสิร์ฟเสร็จแล้ว เริ่นม่านลี่ก็กลับไป

ฉินมู่หลานมองดูอยู่สักพัก ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินจากไปอย่างเงียบ ๆ

เมื่อกลับไปถึงที่นั่ง อาหารที่พวกเธอสั่งก็มาเสิร์ฟเรียบร้อยแล้ว

เสิ่นหรูฮวนเห็นว่าฉินมู่หลานกลับมาแล้ว จึงรีบเอ่ยถามทันที “มู่หลาน เธอกลับมาสักที ฉันหิวมากเลย พวกเรารีบกินกันเถอะ”

เมื่อเห็นว่าเสิ่นหรูฮวนยังรอเธอ ฉินมู่หลานก็อดพูดไม่ได้ “หรูฮวน เธอกินก่อนก็ได้นะ ไม่ต้องรอฉันหรอก”

“จะทำอย่างนั้นได้ยังไง พวกเราสองคนมาด้วยกัน ก็ต้องกินพร้อมกันสิ เร็วเข้า รีบกินเถอะ” หลังจากพูดจบ เสิ่นหรูฮวนก็หยิบช้อนขึ้นมา ก่อนจะลงมือกินซุปเห็ดที่อยากทานมาโดยตลอด “ว้าว…อร่อยจริง ๆ”

ขณะที่พูดก็รีบหั่นเนื้อเสต็กและลงมือกินอีกครั้ง

จนกระทั่งรู้สึกอิ่ม สุดท้ายจึงเอ่ยถามด้วยสีหน้าอยากรู้อยากเห็น “เป็นอย่างไรบ้างมู่หลาน เริ่นม่านลี่กับหลิวเสวียข่ายกำลังดูตัวกันเหรอ?”

ฉินมู่หลานพยักหน้าแล้วเอ่ย “ใช่ สองคนนั้นกำลังนัดดูตัวกัน”

ถึงแม้ว่าจะคาดเดาเอาไว้แล้ว แต่สีหน้าของเสิ่นหรูฮวนก็ดูประหลาดใจนิดหน่อย “ที่แท้ก็ดูตัวจริงด้วย เริ่นม่านลี่นี่สุดยอดมากเลยนะ หลังจากหย่าก็คิดจะจับหลิวเสวียข่าย”

หลังจากพูดจบหล่อนก็เอ่ยถาม “แล้วพวกเขาเข้ากันได้ไหมล่ะ?”

“จากที่ฉันเห็น ฝ่ายชายคงดูไม่ค่อยชอบพอเท่าไหร่ ถึงได้ลุกออกไประหว่างมื้ออาหาร แต่บางทีเขาก็อาจจะมีธุระจริง จึงขอกลับไปก่อน”

“ฮ่าๆๆ…”

เสิ่นหรูฮวนได้ยินแบบนี้ก็หัวเราะขึ้นมา ก่อนจะพูด “หลิวเสวียข่ายอาจจะไม่ชอบพอเริ่นม่านลี่ก็ได้ ไม่อย่างนั้นก็ควรกินข้าวให้เสร็จก่อนจะออกไปสิ”

“ฉันว่าแล้ว หลิวเสวียข่ายจะชอบพอเริ่นม่านลี่ได้ยังไง มีผู้หญิงตั้งเยอะแยะที่อยากแต่งงานกับเขา เริ่นม่านลี่ก็ไม่ได้ดูพิเศษเลย ความสามารถก็ไม่มี ไม่มีทางที่จะเข้าตาหลิวเสวียข่ายได้เลย”

ฉินมู่หลานเห็นเสิ่นหรูฮวนพูดจาบ่นเริ่นม่านลี่ ก็อดหัวเราะไม่ได้ก่อนจะพูด “หรูฮวน ดูเหมือนเธอจะดีใจมากเลยนะ”

เสิ่นหรูฮวนได้ยินแบบนี้ก็พยักหน้าแล้วบอกกล่าว “ใช่ เริ่นม่านลี่น่ารำคาญมาก ถ้าความตั้งใจของหล่อนพังไม่เป็นท่า ฉันก็ต้องดีใจอยู่แล้ว”

จากนั้นหล่อนก็พูดถึงหลิวเสวียข่าย “ฉันได้ยินมาว่าหลิวเสวียข่ายทรงอิทธิพลมากในกระทรวงพาณิชย์ ความสามารถของเขาเป็นที่ประจักษ์กับทุกคนเลย ไม่รู้ว่าเริ่นม่านลี่ไปได้โอกาสนี้มาจากไหน ถึงได้มาดูตัวกับหลิวเสวียข่ายได้ ไม่รู้ว่าพี่สาวหาโอกาสให้หล่อนหรือเปล่า”

ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ก็ส่ายหัว

“เรื่องนี้ไม่รู้หรอก เอาเถอะ พวกเราอย่าไปพูดถึงพวกเขาเลย รีบกินกันเถอะ”

“ได้”

ทั้งสองคนไม่พูดถึงเริ่นม่านลี่อีก แล้วกินอาหารตะวันตกแสนอร่อยแทน

ฉินมู่หลานไม่เคยกินอาหารที่นี่มาก่อน หลังจากได้กินวันนี้เป็นครั้งแรกก็รู้สึกว่ารสชาติค่อนข้างดี “ไม่คิดเลยว่าสเต็กที่นี่จะรสชาติดีมาก”

“ใช่ไหมล่ะ ต่อไปถ้ามีโอกาส พวกเราก็มากินกันอีกเถอะ”

“ได้สิ”

ฉินมู่หลานเห็นด้วยและยกยิ้ม หลังจากนั้นเธอก็ไปส่งหรูฮวนกลับอีกครั้ง แต่เธอไม่ได้เข้าไปข้างใน คิดจะกลับบ้านเลย แต่ถึงอย่างนั้นก็ได้ยินเสียงของถงทิงผิงเอ่ยเรียกเสียงดัง แล้วรีบเดินออกมา “มู่หลาน หรูฮวน พวกลูกกลับกันแล้วใช่ไหม”

เมื่อเห็นแม่ออกมา เสิ่นหรูฮวนก็อดยิ้มไม่ได้ “แม่ ฉันเข้าไปเองก็ได้ แม่ไม่ต้องออกมารับหรอก”

ถงทิงผิงเหลือบมองลูกสาวเมื่อได้ยินสิ่งนี้ ก่อนจะพูด “แม่ไม่ได้มาหาลูก แม่มาหามู่หลานหรอกเถอะ”

หล่อนหันมองฉินมู่หลานด้วยความตื่นเต้นก่อนจะเอ่ย “มู่หลาน น้าเพิ่งออกไปข้างนอกมา พวกเพื่อนของน้าเห็นการแต่งหน้าของน้าก็เอาแต่ถามกันใหญ่ว่าใครเป็นคนแต่งให้ น้าก็เลยเอาเครื่องสำอางออกมาให้พวกเขาลองดู สรุปว่าพวกหล่อนอยากได้กันหมดเลย”

ขณะพูดก็หันมองฉินมู่หลานด้วยความประหม่า “มู่หลาน นี่น้าอวดเกินไปหรือเปล่า”

ฉินมู่หลานเห็นท่าทางของถงทิงผิง ก็อดหัวเราะไม่ได้ “น้าถงคะ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เพียงแต่ว่าตอนนี้ฉันมีเหลือแค่สองชุด มากกว่านี้ไม่มีแล้วค่ะ น้าจะเอาไปให้เพื่อนคนไหน น้าก็ตัดสินใจได้เองเลย เดี๋ยวฉันจะเอาของมาส่งให้พรุ่งนี้นะคะ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ถงทิงผิงก็รีบเอ่ย “มู่หลาน ขอบคุณเธอมากจริง ๆ นะ แต่พวกเราจะปล่อยให้เธอลำบากได้อย่างไรกัน” ขณะที่พูดก็ขยิบตาให้ฉินมู่หลาน ถึงแม้ว่าคนตรงหน้าจะไม่อยากขาย แต่พวกหล่อนก็ให้ราคาที่เหมาะสมแก่ฉินมู่หลานได้ นอกจากนี้ วันนี้ยังมีเพื่อนอีกคนที่บอกว่าจะหาทางทุกวิถีทาง ก็หวังว่าจะคิดวิธีนี้ออก

ฉินมู่หลานพูดคุยกับถงทิงผิงอีกไม่กี่คำก่อนจะลากลับไป เมื่อกลับไปถึงก็เห็นว่าหลี่เสวี่ยเยี่ยนยังอยู่

“พี่สะใภ้ พี่อยู่ด้วยก็ดีเลยค่ะ ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย”

เธอเล่าเรื่องที่เริ่นม่านลี่นัดดูตัวกับชายตระกูลหลิวขึ้นทันที หลังจากนั้นจึงเอ่ยว่า “เริ่นม่านลี่ไม่ได้คิดจะแต่งงานกับเหยาอี้หนิงอีกรอบแน่นอน แต่ทำเหมือนว่าอยากจะแต่งงานใหม่เพื่อจะได้ใกล้ชิดกับคุณหญิงเหยา เรื่องนี้มันคงไม่ง่ายขนาดนั้น พี่สะใภ้ต้องใส่ใจให้มากกว่านี้นะคะ”

หลี่เสวี่ยเยี่ยนได้ยินเช่นนี้ ก็รีบพยักหน้าแล้วบอกกล่าวทันที “มู่หลาน เธอไม่ต้องห่วง ฉันจะคอยจับตามองเริ่นม่านลี่อย่างใกล้ชิด”

หล่อนรู้สึกสงสัยมากว่าเริ่นม่านลี่ต้องการทำอะไร “ตอนแรกฉันคิดว่าเริ่นม่านลี่อยากจะแต่งงานกับเหยาอี้หนิงใหม่จริง ๆ แต่กลับกลายเป็นว่าไม่ใช่อย่างที่คิด โชคดีที่เธอไปเห็นวันนี้ ไม่อย่างนั้นพวกเราทุกคนคงโดนหล่อนหลอก”

หลังจากพูดจบ หลี่เสวี่ยเยี่ยนก็เอ่ยถามอีกครั้ง “มู่หลาน แล้วเรื่องนี้เราต้องบอกให้คุณนายเหยารู้เรื่องไหม?”

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

ท่าทางผู้ชายเขาไม่สนใจเธอนะม่านลี่ ยัยอวี่หรงก็นะ เลือกผู้ชายแบบไหนให้เพื่อนเนี่ย

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Status: Ongoing
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก[嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住]ผู้แต่ง : 钰儿เรื่องย่อหลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน