เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ – บทที่ 642 ข้าเป็นเจ้านายคนใหม่ของเจ้า

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

บทที่ 642 ข้าเป็นเจ้านายคนใหม่ของเจ้า

หมอจางกล่าวถึงการระมัดระวังดูแลผู้ป่วย ซานเป่าตั้งใจฟังเป็นอย่างดี ดูเหมือนว่านางจะจดจำได้หมด

ทาสอู๋ซาน ยังคงนอนหลับหมดสติอยู่ ถังหลี่และซานเป่าไม่ได้รบกวนเขาแต่อย่างใด พวกนางออกจากห้องไปหลังจากเฝ้าดูอยู่ชั่วครู่

ในตอนเย็นวันนั้นเมื่อเว่ยฉิงกลับมาจากกรมอาญา ถังหลี่จึงได้เล่าให้เขาฟังถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ไม่ว่าจะเป็นการมาขอโทษและส่งของขวัญมีค่าหรือแม้กระทั่งส่งทาสอู๋ซานมาให้ก็ตาม

“นายน้อยของสกุลหลูเป็นสัตว์ร้ายดีๆ นี่เอง เขาทรมานคนจนสภาพแทบไม่เหลือชิ้นเนื้อดีๆ เลย บาดแผลเน่าเปื่อยเต็มตัวไปหมด ช่างโหดร้ายเหลือเกิน” ถังหลี่คันปากจนอดที่จะบ่นออกมาไม่ได้ พูดแล้วก็อยากทุบตีเจ้าสัตว์ร้ายตัวน้อยนั่นเหลือเกิน

“สามีข้าอยากให้ใครสักคนนำกระสอบคลุมเขาแล้วทุบตีเขาให้ตายจริงๆ”

เห็นได้ว่าภรรยาของเขาโกรธหลูเสวี่ยนมากจริงๆ

เว่ยฉิงอยากให้บทเรียนเด็กสารเลวผู้นี้ ระบายความโกรธแทนภรรยาของเขาจริงๆ เขาครุ่นคิดอยู่ในใจ โอบนางแนบไว้

“ฮูหยิน ข้าจะส่งคนไปสอบสวนหลูเสวี่ยนผู้นี้”

“เขายังข่มขู่ซานเป่าของเราอีกด้วย” ถังหลี่เล่าต่อ นางโอบเอวสามีเอาไว้ จากนั้นจึงแนบใบหน้าลงกับอ้อมอกของเขา

“ข่มขู่ซานเป่าด้วยหรือ?” เว่ยฉิงขมวดคิ้ว

“ใช่ เขาบอกซานเป่าว่าอย่าได้ตกเข้าไปอยู่ในกำมือของเขา” ความโกรธของเว่ยฉิงปะทุขึ้นทันที ให้ตายเถอะ เจ้าสารเลวตัวน้อยผู้นี้กล้ามาข่มขู่บุตรสาวของเขาเชียวหรือ?

“ภรรยา ข้าอยากเอาเขายัดใส่กระสอบเหมือนกัน!” ดวงตาของเว่ยฉิงทอประกายโกรธ ครอบครัวเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขา

“สามี ท่านอย่ากังวลไป หากท่านลงมือทำเช่นนั้นจะถือว่าเป็นเรื่องอยุติธรรม ไม่ช้าก็เร็วสัตว์ร้ายตัวนี้ย่อมได้รับผลกรรมที่ทำเอาไว้”

ถึงคราวที่ถังหลี่ต้องเกลี้ยกล่อมสามี ถังหลี่ลูบไล้หน้าอกของเขาอย่างปลอบประโลม เว่ยฉิงจุมพิตนางที่แก้ม ความเกลียดชังของเขาคลายลง

ไอ้เด็กสารเลวน้อยผู้นั้นมาจากสกุลหลู เป็นบุตรชายของผิงหยางโหวและองค์หญิง เป็นหลานชายของนายผู้เฒ่าหลูเกอ หากเขาลงมือเล่นงานมันจริงๆ ก็ต้องเผชิญหน้ากับสกุลหลู

พวกเขาไม่อาจจะเป็นตัวของตัวเองได้ เพราะยังมีหน้าตาและสถานะตำแหน่งค้ำคออยู่ ทุกการเคลื่อนไหวจะต้องมีความระมัดระวังเพื่อที่จะไม่ไปล่วงเกินหรือสร้างศัตรูกับผู้ใดได้ จนบางครั้งถังหลี่ก็คิดว่าคงจะดีถ้าหากนางและสามีเป็นแค่ผู้กล้าในยุทธภพ พวกนางสามีภรรยาจะลงมือเล่นงานหรือทุบตีผู้ใดที่ไม่ชอบหน้าก็ย่อมได้ ไม่ต้องคิดมาก และไม่มีข้อจำกัดใดๆ

แต่อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างก็ไม่ได้แย่ไปเสียทั้งหมด พวกเขายังมีโอกาสได้ทำบางอย่างที่ผู้กล้าไม่สามารถทำได้

“สามี พวกทาสเหล่านี้ น่าสงสารมากเหลือเกิน”

ถังหลี่เอ่ยสิ่งที่ติดอยู่ในใจออกมา

“กฎหมายของต้าโจวเข้มงวดกับทาสมากเกินไป” ตอนนี้นางได้ช่วยทางอู๋ซานไว้ได้คนหนึ่ง แต่ข้างนอกนั่นยังมีทาสอู๋ซานอีกหลายร้อยคนที่ยังต้องทนทุกข์ทรมานอยู่

ที่จริงแล้วสิ่งนี้ถือได้ว่าเป็นรากเหง้าของกฎหมายต้าโจว หากกฎหมายต้าโจวได้จำกัดการเลี้ยงทาสเอาไว้บ้าง ผู้คนจำนวนมากคงไม่กล้ากระทำเรื่องที่ไร้ยางอายเช่นนี้ได้ แต่คงจะดีกว่านี้หากไม่มีทาสเลย

“กฎของต้าโจวเป็นกฎเหล็กยากที่จะเปลี่ยนแปลงได้ง่าย แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ เพียงแค่รอเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น”

เว่ยฉิงพูดขึ้น อาทิเช่น หลังจากฮ่องเต้พระองค์ใหม่ขึ้นครองราชย์ บางอย่างก็อาจะเปลี่ยนแปลงไปได้ หากมีโอกาส เว่ฉิงจะรีบลงมือทำ

………………

หลังจากนั้นไม่กี่วัน

ภายในห้องมีเด็กหนุ่มผู้หนึ่งนอนอยู่บนเตียง แสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาจากหน้าต่าง ตกกระทบใบหน้าของเด็กหนุ่มจนดูเหมือนเขาปกคลุมไปด้วยลำแสงสีทอง

ทันใดนั้น ขนตาของเขาก็สั่นไหว ทาสอู๋ซานลืมตาขึ้นมาบนเตียงอย่างงุนงง เขานอนอยู่บนที่นอนนุ่มๆ ไม่มีกลิ่นเหม็นออกมากระทบจมูก ร่างกายของเขาเบาลง ไร้ซึ่งความเจ็บปวดที่เคยมีเหมือนเช่นเคย

สบายเหลือเกิน เขาไม่เคยรู้สึกสบายเช่นนี้มาก่อนเลย เขาตายไปแล้วหรือ?

เขาได้ขึ้นสวรรค์หลังจากที่เขาตายไปแล้วใช่หรือไม่?

เด็กหนุ่มกะพริบตามองไปรอบๆ หลังจากที่ตายไปแล้ว มันสบายขนาดนี้เลยหรือ? เขาคิดว่าตนเองจะต้องตกนรก ถูกไฟโลกันตร์เผาไหม้ เสียอีก

ในตอนนั้นเองที่ประตูเปิดออกดังเสียงดังเอี๊ยด เด็กหญิงผู้หนึ่งเดินเข้ามา นางเดินมาราวกับมีลำแสงสีทองพุ่งตรงเข้า เด็กหญิงสวยมาก สวยกว่าผู้หญิงทุกคนที่เขาเคยเห็นมา

“นางฟ้า..” เขาพึมพำเบาๆ

เสียงของเขาแหบแห้งมาก แต่ซานเป่าก็ยังได้ยินอย่างชัดเจน นางหัวเราะออกมาเบาๆ ด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล

“ข้าไม่ใช่นางฟ้า ข้าชื่อเว่ยหนิง เจ้าเรียกข้าว่าซานเป่าก็ได้ เจ้าหมดสติไปหกวัน ในที่สุดก็ฟื้นขึ้นมาได้”

ความสามารถในการฟื้นตัวได้เร็วของเขาช่างน่าอัศจรรย์มากจริงๆ ถ้าเทียบกับผู้อื่นที่ต้องใช้เวลาถึงสิบวันขึ้นไป

ทาสอู๋ซานเฝ้าดูเด็กหญิงที่เดินเข้ามาใกล้ จนกระทั่งเห็นใบหน้าของนางได้อย่างชัดเจน จู่ๆ เขาก็กลิ้งตัวลงจากเตียงอย่างกระทันหัน เขาคุกเข่าตัวสั่น หดตัวเป็นก้อนกลมๆ ราวกับลูกหนัง เขาใส่เสื้อผ้าเนื้อบาง ดูหลวมโพรก แม้ว่าเขาจะเป็นคนที่มีรูปร่างใหญ่โตก็ตาม แต่เขาผอมมาก ยามที่หดตัวลงสั่นเทาเช่นนี้ยิ่งดูเหมือนลูกสัตว์ที่กำลังหวาดกลัว ดูน่าสงสารยิ่งนัก

“ข้าทำผิดไปแล้ว ท่านอย่าตีข้าเลยนะ ..” เขากระซิบ

“เจ้าลงมานอนกับพื้นทำไม ขึ้นไปนอนบนเตียงเถอะ” ซานเป่าทำท่าจะเข้าไปช่วยพยุงเขาขึ้นมา แต่เด็กหนุ่มกลับหลบเลี่ยงนางเป็นพัลวัน

“ทาส…ทาสสกปรก…” เขาเอ่ยออกมาสองคำด้วยน้ำเสียงที่แห้งผาก ซานเป่ายังต้องการจะช่วยเขา ทว่าเด็กหนุ่มตัวสั่นมากขึ้นเรื่อยๆ ซานเป่าจึงได้แต่ดึงมือกลับ ทำอะไรไม่ถูกไปชั่วครู่

แม้ว่าทาสอู๋ซานผู้นี้จะมีความสามารถในการฟื้นตัวที่รวดเร็วกว่า แต่ร่างกายเขากลับเต็มไปด้วยบาดแผล เขาจะนอนลงไปกับพื้นแบบนี้ได้อย่างไร?

ซานเป่าคิดอยากอุ้มเขาไปที่เตียงจริงๆ แต่ดูเขายิ่งหวาดกลัวมากขึ้น หากนางแตะต้องเขา

“ท่าน..ท่านคือเจ้านายคนใหม่ของบ่าวหรือ?” เขาถามเสียงแหบ ซานเป่ากลอกตา

“ถ้าข้าเป็นเจ้านายใหม่ของเจ้า เจ้าจะเชื่อฟังข้าหรือไม่?” เด็กหนุ่มพยักหน้าอย่างรวดเร็ว

“ใช่! ข้าเป็นเจ้านายใหม่ของเจ้า ข้าขอสั่งให้เจ้าขึ้นไปนอนบนเตียงเดี๋ยวนี้!” ซานเป่าสั่งเขา เด็กหนุ่มรีบยืนแล้วปีนขึ้นเตียงตามคำสั่งในทันที แต่เขากลับไปซุกซ่อนตัวอยู่ที่มุมเตียง เพราะกลัวว่าจะทำให้เตียงสกปรก

“ข้าสั่งให้เจ้านอน เหตุใดเจ้าถึงไปนั่งยองๆ เล่า? นอนลงแล้วห่มผ้าเสีย!” ซานเป่าสั่งต่อ

เด็กหนุ่มตัวแข็งทื่อ แต่เขายังคงนอนลงอย่างเชื่อฟังใช้ผ้าห่มมาคลุมตัวเอาไว้ มือทั้งสองข้างจับมุมผ้าห่มแน่นไม่ไหวติง

ซานเป่ามองดูทาสอู๋ซานที่นอนลงอย่างเชื่อฟัง ขนตาของเขาขยับไหวไปมา ดวงตาของเขาน่าดูมีรูม่านตาเป็นสีดำลึก ดวงตาที่สวยงามเช่นนี้คู่ควรกับท่าทางที่มีชีวิตชีวา แต่ในความเป็นจริงแล้ว กลับเต็มไปด้วยความกลัวจนไม่อาจจะมองเห็นแสงสว่างใดๆ ได้เลย

มันไม่ควรจะเป็นเช่นนี้…

เด็กหนุ่มนอนลงบนเตียง เตียงนอนหนานุ่ม ผ้าห่มก็อบอุ่นสบายราวกับขนนก ทำให้เขาคิดถึงความทรงจำที่เนิ่นนานมาแล้ว เขาเคยนอนอยู่บนเตียงที่นุ่มสบายแบบนี้เช่นกัน มีมือหนึ่งลูบไล้ใบหน้าของเขา แต่เขาไม่อาจจะบอกได้ว่าเป็นความฝันหรือความจริง เขารู้สึกว่าเป็นความฝันเสมอ เขาจะไปนอนบนเตียงได้อย่างไร เขาเป็นทาสที่ต่ำต้อยเหมาะแต่จะซุกตัวอยู่ในมุมที่สกปรกเหมือนหนูเท่านั้น เมื่อนึกถึงบางอย่างขึ้นมาได้ ใบหน้าเขาก็ซีดลง เตียงไม่เหมาะกับเขา หากเขานอนบนเตียง ไม่ช้าจะถูกลากไปทุบตีอย่างแรง เขาเป็นแค่ทาสที่ต่ำต้อยย่อมไม่คู่ควรกับเตียงนอนดีๆ เช่นนี้!

ที่จริงแล้วเขาถูกเฆี่ยนตีเพราะหลายๆ เรื่อง ต่อให้เขาไม่ได้นอนบนเตียง หรือแม้แต่โดนตัวเจ้านายโดยไม่ตั้งใจ กระทั่งข้าวของเสียหายโดยที่เขาไม่ได้เป็นคนทำด้วยซ้ำ เขาก็ยังโดนทุบตี แม้ว่าเขาจะหลีกเลี่ยงแล้วก็ตาม เพื่อที่ตนเองจะได้โดนทุบตีให้น้อยที่สุด

ตอนนี้เขาอาจจะได้นอนอยู่บนเตียงนุ่มสบาย แต่แค่พริบตาเดียวเขาอาจจะถูกดึงลงทุบตีก็เป็นได้ เขากำลังรอ..รอที่ตนเองจะถูกโดนลากไปเฆี่ยน..

เขารออยู่นานแต่ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น

โคร่ก..เสียงท้องของเด็กหนุ่มส่งเสียงออกมา

“เจ้าหิวหรือ?” เสียงใสๆ ของเด็กหญิงดังขึ้น ร่างกายของเขาสั่นเทา ในความทรงจำของเขา เจ้านายก็ถามเขาด้วยน้ำเสียงและรอยยิ้มเช่นกัน จากนั้นก็โยนเขาเข้าไปในกรงสุนัขเพื่อให้เขาแย่งอาหารกับสุนัขที่อยู่ในกรง สุนัขเหล่านั้นหิวโหยมาก เขาพยายามเต็มที่ ที่จะแย่งอาหารจากปากของสุนัข แม้ว่าเขาจะมีพละกำลังมหาศาลก็ตาม ก็ยังไม่วายโดนสุนัขที่หิวโหยแย่งเนื้อชิ้นใหญ่กลับไป แต่เขาหิวมาก เขาจึงได้ต่อสู้เพื่อคว้าเนื้อแย่งคืนมา

เจ้านายเก่าของเขานั่งหัวเราะดูเขาอย่างมีความสุข ราวกับเป็นเรื่องสนุกขบขันเสียเหลือเกิน

ตอนนี้เจ้านายคนใหม่ของเขาอยากจะละเล่นแบบนี้ด้วยเช่นกันหรือ?

ร่างกายของเด็กหนุ่มสั่นแทบไม่หยุด

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

Status: Ongoing
เธอทะลุมิติเข้าไปในนิยายที่ตนเองเคยอ่าน ถูกขายให้เป็นภรรยาของหนุ่มชาวป่า กลายเป็นแม่เลี้ยงของเด็กน้อย 3 คน ซึ่งเป็นตัวร้ายสุดชั่วช้า จุดจบคือประหารอย่างน่าสังเวช เธอจะทำยังไงให้อนาคตของพวกเขาเปลี่ยนไป‘ถังหลี่’ ทะลุมิติไปเป็นตัวประกอบในนิยายที่ตนเองเคยอ่าน ถูกขายให้เป็นภรรยาของหนุ่มชาวป่า กลายเป็นแม่เลี้ยงของเด็กน้อย 3 คนแต่หนุ่มชาวป่าผู้นี้นั้น คือตัวร้ายหลักของนิยายเรื่องดังกล่าว เป็นตัวร้ายที่จิตใจอำมหิต สุดแสนจะชั่วช้าสามานย์ แถมลูกเลี้ยงทั้ง 3 ก็เป็นเหล่าวายร้าย เป็นตัวร้ายในเรื่องที่โฉดชั่วไม่ต่างกับบิดา จุดจบของพวกเขาคือถูกสั่งประหารอย่างน่าสังเวช แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ เด็กน้อยทั้ง 3 ยังคงเป็นเจ้าก้อนน่ารักนุบนิบ คอยเรียกนางอย่างแสนหวานว่า “ท่านแม่” เพียงแค่คำนี้ที่ออกมาจากปากของพวกเขา นางก็ใจอ่อนยวบ ตั้งใจว่าไม่ว่าอย่างไรก็ตาม นางจะต้องเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของเหล่าลูกเลี้ยงให้ได้!ภารกิจถัดมาคืออะไรน่ะหรือ ก็คือทำนา ทำการค้า ทำทุกอย่างเพื่อหาเงินทองมาเลี้ยงเด็กน้อยทั้ง 3 ให้มีชีวิตที่สุขสบาย กล่อมเกลาพวกเขาให้มีชีวิตดีๆต่อมา…เหล่าวายร้ายทั้ง 3 ได้เติบโตขึ้น คนหนึ่งเป็นผู้นำสูงสุดของสำนักปราชญ์ในใต้หล้า คนหนึ่งเป็นพ่อค้าผู้ยิ่งใหญ่ ร่ำรวยยิ่งกว่าฮ่องเต้ คนหนึ่งเป็นแม่ทัพหญิงผู้เก่งกาจสง่างาม…ทั้ง 3 ทั้งรักทั้งหวงถังหลี่เป็นอย่างมากผู้นำสูงสุดของสำนักปราชญ์ : บังอาจรังแกท่านแม่ของข้างั้นหรือ จับมันไปขังเดี๋ยวนี้!แม่ทัพหญิงผู้เก่งกาจสง่างาม : พี่ใหญ่ ฆ่ามันทิ้งเสียเลยง่ายกว่า!พ่อค้าผู้ยิ่งใหญ่ : น้องสาม ข้าจะยื่นดาบให้เจ้าเอง!พระปิตุลาผู้ทรงอำนาจคว้าตัวภรรยาของตนเข้าไปกอด : ภรรยาที่รักของข้า ข้าจะปกป้องเอง เจ้าพวกตัวเปี๊ยกน่ารำคาญ ถอยไปซะ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท