บทที่ 649 วันหยุดของตู้เย่
เช้าวันต่อมาเมื่อหวังหยูตื่นขึ้น มองไปรอบๆ ห้องแล้วกะพริบตา เขาเห็นห้อง เห็นข้าวของต่างๆ เช่น หมวกหรือดาบไม้ที่เจ้านายมอบให้ เด็กหนุ่มก็อดไม่ได้ที่จะลุกขึ้นไปสัมผัสของเหล่านั้นอย่างชื่นชอบ
ก่อนที่เขาจะได้พบเจ้านาย เขาเป็นเพียงทาสต่ำต้อยไม่มีแม้แต่เสื้อผ้าคลุมกาย ได้แต่ซุกตัวอยู่ในมุมมืดสกปรก ใช้ชีวิตไปวันๆ หากไม่ใช่ความรู้สึกบางอย่างที่ติดค้างอยู่ในใจ เขาคงจะปลิดชีวิตตัวเองไปแล้ว จะได้ไม่ต้องถูกทรมาน หลังจากที่เขาได้พบกับเจ้านายคนนี้ หวังหยูได้ทั้งเสื้อผ้ารองเท้าใหม่ นางให้ของขวัญแก่เขามากมาย เขาโอบกอดของเหล่านั้นไว้อย่างหวงแหน เสียงเคาะประตูดังขึ้น
“หวังหยู ตื่นหรือยัง?”
“ตื่นแล้วขอรับ” เขาพูด
“ฮูหยินกำลังตามหาเจ้าอยู่ อาบน้ำแต่งตัวแล้วไปพบท่านด้วย”
หวังหยูขานรับ เจ้านายกับฮูหยินอู่เป็นคนที่ช่วยให้เขารอดตายมาได้ แต่ลำดับน้ำหนักในใจนั้นย่อมเป็นเจ้านายมาก่อนและฮูหยินเป็นที่สอง พวกนางมีความสำคัญมากกว่าชีวิตของเขาเอง
หวังหยูเข้าไปในเรือนเห็นฮูหยินยืนอยู่ในลานบ้าน ฮูหยินอู่มีรอยยิ้มบนใบหน้า นางทั้งงดงามและอ่อนโยน หวังหยูเหลือบมองนาง ก้มหน้าทักทายด้วยความเคารพ
“ฮูหยินขอรับ” ถังหลี่หันไปมองเขา
จริงๆ แล้วเด็กหนุ่มผู้นี้อายุพอๆ กับเว่ยจื่ออี้ แต่เขามีรูปร่างสูงใหญ่กว่าเว่ยจื่ออี้มาก แม้ใบหน้าของเขายังโตไม่เต็มที่แต่ก็มีเค้าโครงที่คมคาย แสดงให้เห็นว่าบรรพบุรุษของเขาคงเป็นคนต่างแคว้น เขาผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมามากตอนนี้ชีวิตของเขากำลังดีขึ้น
“ขอบคุณมากที่เจ้าช่วยซานเป่าเอาไว้”
“การปกป้องเจ้านายเป็นสิ่งที่ข้าสมควรทำขอรับ” หวังหยูเขินอาย
ถังหลี่ยิ้ม ส่งของบางอย่างให้เขา
“รับไปสิ” หวังหยูหยิบขึ้นมาอย่างเกรงใจ พบว่าเป็นมีดสั้น
“ลองดู ชอบหรือไม่?” ถังหลี่ถาม
ฮูหยินถามว่าชอบหรือไม่?
ก่อนหน้านี้เจ้านายบอกว่าเขาไม่ใช่ทาสแต่เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ในตอนแรกเขาสับสน แต่ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว ว่าการเป็นมนุษย์เป็นอย่างไร พวกเขาจะคอยถามหวังหยูเสมอว่าชอบหรือไม่? อยากทำหรือไม่? ทุกคนเคารพความคิดของเขา ให้เกียรติเขา เขาชอบตระกูลอู่มาก หวังหยูดึงมีดสั้นออกมา ใบมีดแกะสลักด้วยลวดลายสวยงามและคมกริบ เห็นก็รู้ว่าเป็นของไม่ธรรมดา ดวงตาของเขาสดใสเด็กหนุ่มพยักหน้า
“ชอบมากขอรับ”
“พกติดตัวเอาไว้เพื่อป้องกันตัวนะ”
ถังหลี่หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งขึ้นมา ส่งให้เด็กหนุ่ม
“เอานี่” เขารับไป หวังหยูอ่านหนังสือไม่ออก เขาจึงงุนงง
“ฮูหยิน นี่คือ…”
“มันคือทะเบียนบ้านของเจ้า เมื่อเจ้ามีทะเบียน เจ้าย่อมไม่ใช่ทาสอีกต่อไป”บราวนี่ออนไลน์
หวังหยูถือกระดาษแผ่นนั้นไว้ในมือ เขาตกตะลึง
ฮูหยินให้อิสระแก่เขาหรือ?
หวังหยูจำได้ว่าเมื่อนานมาแล้วมีเจ้านายคนหนึ่งที่ใจดีที่สุดในบรรดาเจ้านายของเขา ไม่แม้แต่จะทุบตีหรือดุด่าตามใจชอบ เขามีทาสมากมาย ในบรรดาทาสที่อาศัยอยู่กับหวังหยู มีคนหนึ่งที่ภักดีกับเจ้านายเป็นพิเศษ เขาทุ่มเทแม้กระทั่งเอาชีวิตไปเสี่ยงเพื่อเจ้านาย ต่อมาชายคนนั้นเคยบอกหวังหยูว่าที่เขาทำทั้งหมดนี้เพื่อให้เจ้านายมอบอิสระให้เขาเป็นการตอบแทน แต่ยามที่เขาเอาตัวเข้าไปขวางรับธนูแทนเจ้านาย จนบาดแผลได้กลายเป็นหนอง เจ้านายยังไม่ตามหมอมาดูแลเขาเลย สุดท้ายชายผู้นั้นก็ตายไปโดยที่ไม่ได้เห็นหน้าเจ้านายของตนด้วยซ้ำ ก่อนที่เขาจะตายเขาจับมือหวังหยูไว้ด้วยสายตาเศร้าสร้อย
“พวกเราเป็นทาสก็เหมือนกับสัตว์ คาดหวังถึงอิสระแต่ก็เป็นแค่ความฝัน เมื่อเจ้าเป็นทาสครั้งหนึ่งเจ้าย่อมเป็นทาสตลอดไป..หนียังไงก็ไม่พ้น..”
ตามกฎหมายของต้าโจว ทาสสามารถมีอิสระได้หลายวิธีและเป็นเรื่องง่ายมาก ที่เจ้านายของพวกเขาต้องทำคือไปที่กรมทะเบียนราษฎร์ และคัดลอกชื่อเขาเข้าไปในทะเบียนบ้าน
แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เพราะในสายตาคนทั่วไปแล้วทาสไม่ใช่แม้แต่มนุษย์ด้วยซ้ำ ไม่ว่าทาสจะเป็นอย่างไรเจ้านายก็มองข้าม เป็นไปได้ยากที่จะมีชื่อเขาในทะเบียนบ้าน กระดาษในมือของเขาคือสิ่งที่ทาสไม่กี่คนเท่านั้นจะได้รับ
“ขอบคุณขอรับฮูหยิน”
หวังหยูคุกเข่าและก้มหัวคำนับให้ถังหลี่
วันรุ่งขึ้น
หวังหยู เดินตามหาถังหลี่ เขายื่นกระดาษสองใบให้แก่นาง เป็นทะเบียนบ้านที่ถังหลี่มอบให้และใบขายตัวยอมเป็นทาสที่หวังหยูประทับลายนิ้วมือลงไป เขายอมขายตัวเป็นทาสแก่สกุลอู่
หวังหยูกังวล เขาอ่านหนังสือไม่ออกไม่รู้ว่าต้องเขียนอะไรลงไปบ้าง เขาขอให้บ่าวรับใช้บอกเกี่ยวกับเนื้อหาที่ควรเขียนลงไป จากนั้นจึงวานให้คนอ่านให้เขาฟัง แล้วให้บ่าวรู้หนังสือเขียนสัญญาขึ้นมา
เขาไม่รู้ว่าสิ่งเขียนลงไปถูกต้องหรือไม่? นอกจากนี้เขายังกำกับไว้ด้วยว่า เขาต้องการรับใช้เว่ยหนิงและต้องการเป็นองครักษ์ให้แก่นาง
“หวังหยู แม้ว่าเจ้าเป็นอิสระแล้วแต่เจ้าก็ยังเป็นองครักษ์ของซานเป่าได้ เจ้าไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้” ถังหลี่กล่าว
หวังหยูไม่พูดอะไรออกไป เขาดื้อรั้นและเด็ดเดี่ยว การที่เขาทำเช่นนี้เขาจะพ้นจากฐานะทาสทั่วไปกลายเป็นทาสมีสังกัด ทาสรับใช้ในบ้านจะมีสถานะที่ดีกว่าทาสทั่วไปมากเพราะมีเพียงเจ้านายเท่านั้นที่จะลงโทษเขาได้ อีกทั้งยังมีกฎหมายในการปฏิบัติตัวของเจ้านายอีกด้วย เมื่อหวังหยูยืนกรานถังหลี่จึงยอมจำนน
หากวันไหนที่หวังหยูอยากเป็นอิสระนางจะคืนทุกสถานะให้เขา
“ตกลง” ถังหลี่กล่าว
หวังหยูฉีกยิ้มกว้างจนเห็นเขี้ยวน้อยๆ สองซี่ ทำให้เขาดูน่ารักน่าชังมากขึ้น
……
ตู้เย่ได้รู้ว่าซานเป่านเกือบได้รับบาดเจ็บเพราะฝีมือของหลูเสวี่ยน ดวงตาของเขาแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา รังสีฆ่าฟันระเบิดออกมา แม้เขาจะดูสงบมากก็ตามที เขายังคงทำทุกอย่างปกติทั้งสอนซานเป่าและฝึกหวังหยู
วันนี้เป็นวันหยุดของเด็กน้อย ตู้เย่ออกไปจากจวนสกุลอู่ปกปิดตัวตนของเขาไว้ ทำให้คนธรรมดาไม่สามารถจำได้ เขาปรากฎตัวในตรอกที่เงียบเชียบซื้อของบางอย่างจากพ่อค้า
“พิษชนิดนี้ไม่ทำให้ถึงตาย แต่มันจะทำให้เจ็บปวดยิ่งกว่าความตาย ตรงตามความต้องการของเจ้าหรือไม่?” พ่อค้าพูดกับชายอัปลักษณ์ตรงหน้า
ตู้เย่จงใจเปลี่ยนรูปร่างหน้าตาของตน อย่างระมัดระวัง
ด้วยนิสัยนักฆ่าของเขา เขาไม่ต้องการทำให้สกุลอู่มีปัญหา เขาจ่ายเงินแล้วคว้ากล่องจากไป จากนั้นจึงไปปรากฎตัวอยู่ที่ด้านนอกของผิงหยางโหว ในฐานะอดีตนักฆ่า เรื่องที่เขาชำนาญที่สุดคือการซุ่มรอคอยอย่างเงียบเชียบ
เมื่อตะวันตกดินเขาย่องเข้าไปในผิงหยางโหวอย่างเงียบเชียบ ตรงไปยังเรือนของหลูเสวี่ยน เขาร่อนตัวลงไปบนหลังคา เปิดกระเบื้องด้านบนมองลงไปข้างล่าง หลู่เสวี่่ยนนอนบนเตียงท่าทางอ่อนแอ เพราะหลังจากที่เขาตื่นไม่นาน เขาก็ถูกโบยทั้งหมดยี่สิบไม้ แม้ว่าเขาจะได้รับยาบำรุงรักษาบาดแผลเป็นอย่างดี แต่ก็ยังเจ็บปวดมาก ดวงตาของเด็กหนุ่มแดงฉาน เขารู้สึกคลุ้มคลั่ง
ท่านแม่เล่าว่าเป็นความผิดของคนสกุลอู่ที่เอาความไปฟ้องท่านปู่ของเขา เขาต้องการฆ่าสตรีสกุลอู่ทั้งสองคนนั่น!
ตู้เย่ไม่รู้ถึงความเกลียดชังของหลู่เสวี่ยน เขาไม่สนใจด้วยซ้ำ เขาเปิดกล่อง เทของบางอย่างลงไป จากนั้นจึงได้พลิกตัวนอนหงายบนหลังคา ดวงตาปรืออย่างเกียจคร้าน เขากำลังรออยู่เงียบๆ