บทที่ 650 เด็กๆพูดได้แล้ว
“ออกไป! ออกไปให้หมด!” หลูเสวี่ยนไล่คนรับใช้ออกไปอย่างโมโห หลังจากนั้นเขาก็รู้สึกถึงบางอย่างที่เย็นยะเยือกอยู่ด้านหลังของตน เมื่อหันไป เขาก็สบตาเข้ากับดวงตาที่เล็กเท่าเม็ดถั่วเขียวคู่หนึ่ง หากเป็นคนธรรมดาคงจะตกใจเมื่อเจองูพิษเข้าแต่ไม่ใช่หลูเสวี่ยน เขาเพียงแต่ประหลาดใจ
เมื่อไม่กี่วันนี้รังงูของเขาถูกบิดากำจัดออกไปจนหมด รวมถึงคนเพาะพันธุ์งูด้วยเช่นกัน นี่คงจะเป็น “ปลาที่เล็ดรอดออกจากกระชัง” สินะ! ลูกน้อยของเขาไม่ยอมที่จะแยกจากเขา
หลูเสวี่ยนยื่นมือออกไปหมายจะสัมผัสเจ้าสัตว์ตัวเล็กตรงหน้า.. แต่จู่ๆ ก็เหมือนกับมีลูกศรพุ่งทะลุเข้าที่หลังมือของเขา ความเจ็บปวดแล่นเข้ามาในโสตประสาทของหลูเสวี่ยน เด็กหนุ่มร้องออกออกมาอย่างเจ็บปวด
“อ๊าก!!!”
ที่บนหลังคา
เมื่อตู้เย่ได้ยินเสียงร้องดังขึ้น สีหน้าของเขาแสดงความพึงพอใจออกมาจากเปิดเผย เขาปิดกระเบื้องไว้เช่นเดิม กระโจนหายไปในความมืดราวกับว่าไม่เคยปรากฏตัวขึ้นมาก่อน
เสียงกรีดร้องของหลูเสวี่ยนเรียกความสนใจจากทุกคนในจวนได้ บ่าวรับใช้ต่างตกใจ พวกเขารีบไปรายงานองค์หญิงทันที ในไม่ช้าผิงหยางโหวและองค์หญิงอันเยว่ก็มาถึง เมื่อเห็นใบหน้าของหลูเสวี่ยนนางแทบหมดสติล้มทั้งยืน บุตรชายของนางมีใบหน้าคล้ำดำ เขานอนอยู่บนเตียงด้วยท่าทางผิดปกติ
“เสวี่ยนเอ๋อร์!”
ผิงหยางโหวมีท่าทีสุขุมกว่าหันไปสั่งบ่าวรับใช้
“รีบไปตามหมอมา!”
เมื่อหมอมาถึงเขารีบตรวจร่างกายของนายน้อยสกุลหลูทันที
“ท่านผิงหยางโหว องค์หญิง..ท่านโหวน้อยได้รับพิษจากงูพิษขอรับ เขาถูกงูกัดที่หลังฝ่ามือ”
“พิษงูหรือ..” องค์หญิงอันเยว่ตกตะลึง
“งูทุกตัวถูกกำจัดไปแล้วไม่ใช่หรือ?”
ผิงหยางโหวไม่พูดอะไรเขารู้ดีว่าถึงแม้งูจะถูกกำจัดออกไป แต่ย่อมมีงูที่เล็ดรอดไปได้
“ท่านโหว พิษที่คุณชายได้รับมีความซับซ้อนมาก ข้าสามารถควบคุมมันได้ แต่ไม่สามารถกำจัด..” หมอบอก
“งั้นตามหมอหลวง ไปที่พระราชวังแล้วตามหมอหลวงมา!” องค์หญิงอันเยว่พูดเสียงดัง นางรีบเดินไปที่เตียงของบุตรชายเมื่อเห็นสีหน้าเจ็บปวดของเขายิ่งทำให้หัวใจของนางกระตุก
“เสวี่ยนเอ๋อร์ เสวี่ยนเอ๋อร์ของข้า!” นางเจ็บในหัวใจจนยากจะแบกับไว้
ไม่นานหลังจากนั้นหมอหลวงก็มาถึง
“ท่านโหวน้อยมีบาดแผลที่หลังมือ งูพิษชนิดนี้ชอบกลิ่นเลือด ข้าจะล้างพิษให้ท่านโหวน้อยก่อน” หมอหลวงดูดพิษงูออกจากบาดแผลของเขา การดูดพิษนั้นเจ็บมาก หลูเสวี่ยนร้องเสียงดัง ในที่สุดก็เงียบเสียงไป องค์หญิงอันเยว่ถูกสามีโอบกอดไว้ หลังจากการดูดพิษที่ยาวนานจบลง แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างจะสิ้นสุด
“พิษที่อยู่ในร่างกายของท่านโหวน้อยยังไม่หมดไป ต้องทำการล้างพิษอีกสองครั้งขอรับ” หมอหลวงกล่าว
หลูเสวี่ยนต้องทนกับความทรมานเช่นนี้ไปอีกถึงสองครั้ง! องค์หญิงอันเยว่เดินไปที่เตียงมองบุตรชายของตัว เขาอ่อนแอกว่าคนทั่วไปอยู่แล้ว ทำให้นางเสียใจมาก
แม้บุตรชายของนางจะถูกงูที่เขาเลี้ยงไว้ทำร้าย แต่ทุกอย่างไม่ใช่ความผิดของเขา ตอนนี้องค์หญิงอันเยว่เกลียดชังคนสกุลอู่เป็นที่สุด!
หากไม่ใช่เพราะพวกมัน บุตรชายของนางคงไม่ได้รับบาดเจ็บถึงเพียงนี้!บราวนี่ออนไลน์
ถ้าถังหลี่ไม่มาที่จวนหลูเพื่อทวงความยุติธรรม หลูเสวี่ยนคงไม่ต้องโดนลงโทษ! เพราะการบาดเจ็บของเขาถึงดึงดูดไอ้งูกระหายเลือดตัวนี้! ทั้งหมดมันเป็นความผิดของสองแม่ลูกสกุลอู่!
…..
ถังหลี่ได้ยินข่าวเรื่องที่หลูเสวี่ยนถูกงูกัด แต่เมื่อนึกถึงความชั่วร้ายของเขา ก็สมควรแล้ว! เขาเลี้ยงงูเหล่านี้เอาไว้ ทั้งๆ ที่มันอันตราย สุดท้ายเขาก็ได้รับบาดเจ็บเพราะพวกมัน นี่คือบทลงโทษจากสวรรค์จริงๆ
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว หนึ่งเดือนต่อมา หวังหยูและซานเป่าฝึกศิลปะการต่อสู้กับตู้เย่ หวังหยูมีพื้นฐานที่ดีมากขึ้น ความแข็งแกร่งที่ยอดเยี่ยมของเขาและความขยันหมั่นเพียรทำให้เขาเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว แม้แต่ตู้เย่ที่ไม่ค่อยเอ่ยปากชมใครยังอดไม่ได้ที่จะมองเขาแล้วพูด
“ไม่เลว”
เมื่อเห็นว่าอาจารย์ของตัวเองชื่นชมหวังหยู ซานเป่ารีบถามตู้เย่ทันที
“ท่านอาจารย์ แล้วข้าเล่า?” นางมองไปที่ตู้เย่ด้วยความกระตือรือร้นรอคำชมเชย
“เจ้า…” ตู้เย่พูดด้วยน้ำเสียงยานคางพลางขมวดคิ้ว เมื่อเห็นสีหน้าของอาจารย์นางเริ่มสงสัย
นางทำได้ไม่ดีหรือ?
หัวใจของซานเป่าห่อเหี่ยว นางคิดทบทวนถึงสิ่งที่ตัวเองน่าจะทำผิดพลาดไป
“ดีมาก” สุดท้ายตู้เย่ก็ชมเชยออกมา ทำให้นางรู้ว่าอาจารย์กลั่นแกล้งนางเล่น ซานเป่าโมโห
“อาจารย์!!”
แต่เมื่อนึกถึงคำชมจากเขาอารมณ์หงุดหงิดที่มีก็หายไป หางของนางกระดิกไปมา
อาจารย์ชมว่านางทำได้ดีมาก!
ข้าคือจอมยุทธ์น้อยที่เก่งกล้า
ช่วงเดือนที่ผ่านมาหวังหยูมีความก้าวหน้ามากขึ้น อาจเป็นเพราะเขามีสหายร่วมเรียน ซานเป่าเองก็รู้สึกว่าการฝึกน่าสนใจขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก
…
เดือนนี้ถังหลี่เฝ้ามองเด็กน้อยทั้งสองที่กำลังหัดคลาน มู่เป่าคลานไปทั่วห้องราวกับมีพลังงานมากมายไม่รู้จบ ส่วนถังเป่าเป็นเจ้าตัวน้อยที่แสนขี้เกียจ นางพลิกตัวเป็นครั้งคราวบนเตียงเท่านั้นแต่เมื่อก็ได้รับคำชมจากพี่เลี้ยง ชมเชยว่านางเก่ง นางกลับมองคนเหล่านั้นราวกับว่าพวกเขาโง่งม คล้ายจะพูดว่า “แค่พลิกตัวได้ก็เก่งมาแล้วหรือ?”
ความสุขอย่างหนึ่งของถังหลี่ คือการเฝ้ามองถังเป่า แม้ว่านางจะขี้เกียจ ทั้งยังมีท่าทีราวกับฮองเฮาตัวน้อย แต่การแสดงออกช่างดูน่าขัน นางแสดงท่าที “รังเกียจ” และ “มนุษย์พวกนี้มันโง่” ได้เป็นอย่างดีทีเดียว
เมื่อพิจารณาจากท่าทีแก่แดดเหมือนผู้ใหญ่ตัวน้อยของบุตรสาวแล้ว ถังหลี่คิดว่าบุตรสาวของนางอาจจะเป็นคนที่เดินทางข้ามมิติมาก็เป็นได้
นางเคยได้อ่านหนังสือมามาก พบว่าคนเหล่านี้มักจะมีท่าทางแปลกๆ บุตรสาวของนางเฉลียวฉลาดเกินเด็กวัยเดียวกันมาก
เด็กน้อยเป็นปลาหลี่นำโชค คนสกุลหลี่จะมีช่วงเวลาในวัยเด็กสั้นกว่าปกติ จิตใจของนางเติบโตเร็วมาก ดูเหมือนว่ามู่เป่าจะได้รับพละกำลังที่แข็งแรง ส่วนถังเป่าได้มันสมองที่ชาญฉลาดไป แน่นอนว่าความแข็งแกร่งของมู่เป่าคงมาจากสามีของนางด้วยเช่นกัน
มู่เป่าคลานไปหาถังหลี่หญิงสาวอ้าแขนกอดเขาไว้ นางคลี่ยิ้มเมื่อเห็นฟันน้ำนมซี่เล็กๆ ของเขา
“แ..ม่..” เสียงที่น่าเอ็นดูของเด็กน้อยดังขึ้น ถังหลี่ชะงัก นางเบิกตากว้าง ลูกเรียกนางว่าแม่!
เสียงเล็กๆ ทำให้หัวใจถังหลี่แทบละลาย
“มู่เป่า พูดอีกครั้งสิลูก” ถังหลี่บอก
เด็กน้อยรีบพูดเสียงดัง
“แม่ แม่ แม่!”
ถังหลี่มีความสุขมากนางกอดเด็กน้อยไว้ในอ้อมแขนแน่น
“มู่เป่าของแม่เก่งมาก” ถังเป่าที่นั่งขี้เกียจอยู่มองไปที่ทั้งสอง
“แม่..” ทันใดนั้นเองถังหลี่ก็ได้ยินเสียงน่ารักอีกเสียงหนึ่ง เมื่อมองไปยังต้นเสียงนางเห็นถังเป่าที่กำลังนั่งเกียจคร้านมองนางด้วยแววตาเปล่งประกาย