เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ – บทที่ 706 คำสั่งของธิดาเทพ

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

บทที่ 706 คำสั่งของธิดาเทพ

อาฮวาและอามู่ถูกนำตัวเข้าไปในวิหาร ทั้งสองพี่น้องต่างประหม่าเมื่อได้เข้ามาเหยียบในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้ พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะมองไปรอบๆ ด้วยซ้ำ ทั้งสองคนเดินตามบ่าวรับใช้ไปอย่างใกล้ชิดจนกระทั่งถึงห้องห้องหนึ่ง มีคนสองคนที่อาฮวาและอามู่ต่างรู้จักดีอยู่ในห้องนั้น

ธิดาเทพหรือซานเป่านั่งขัดสมาธิอยู่ข้างกายถังหลี่ เอนศีรษะพิงมารดาอย่างออดอ้อน ท่าทางดูเกียจคร้านและมีเสน่ห์ไม่เหมือนธิดาเทพที่เห็นอยู่บนแท่นสูงคนนั้นเลย นี่เป็นซานเป่าที่พี่น้องสองคนล้วนคุ้นเคยดี ส่วนถังหลี่ก็กำลังเอามือลูบหัวซานเป่า สายตามองพวกเขาด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน

“ข้าอยากพบพวกเจ้ามาก่อนหน้าแล้ว ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอกันในพิธีแต่งตั้งพ่อมดศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้”

ถังหลี่กล่าว ก่อนจะถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเห็นว่าอาฮวาและอามู่ปลอดภัยดี หลังจากเสร็จพิธีแล้วนางจึงให้บ่าวไปตามตัวเด็กทั้งสองมา

“พี่สาว” อาฮวาร้องเรียก คิ้วของนางขมวดเต็มไปด้วยความสงสัย

“เหตุใดท่านถึงได้มายังเมืองเยว่เฉิงเล่า แล้วธิดา..” นางเหลือบมองซานเป่า เด็กหญิงตัวน้อยที่ได้คลุกคลีกันมาทั้งวันทั้งคืนกลับกลายเป็นธิดาเทพไปได้อย่างไร ..ไม่น่าเชื่อ

“เรื่องมันยาว เริ่มจากที่พวกเราผ่านไปยังเมืองอวิ๋นเฟิง…”

ถังหลี่เล่าให้พวกเขาฟังถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเมืองอวิ๋นเฟิง และเหตุใดพวกนางจึงต้องเดินทางมาถึงเมืองเยว่เฉิง การเปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริงของเหยาเจี๋ย จากนั้นซานเป่าจึงได้เล่าถึงการที่นางหยิบคทาจันทราขึ้นมาได้ สาเหตุที่ซานเป่ากลายเป็นธิดาเทพเพราะแต่เดิมนางเป็นธิดาเทพอยู่ก่อนแล้ว

อาฮวากับอามู่ตกตะลึงจนพูดแทบไม่ออกเมื่อได้ยินเรื่องราวในที่สุดถึงได้เอ่ยปากพูดขึ้นได้

“ธิดาเทพองค์จริงกลับมาแล้ว คนในเผ่าอู๋ซานจะได้ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานอีกต่อไป” อาฮวาพูดขึ้นด้วยความดีใจ

“พี่สาว ธิดาเทพ ท่านเป็นผู้ช่วยเผ่าอู๋ซานให้รอดจากหายนะ”

ถังหลี่ยิ้มรับ

กล่าวได้ว่าการกระทำของพวกนางได้เปลี่ยนชะตาชีวิตของเผ่าอู๋ซานไปอย่างสิ้นเชิง มิฉะนั้นแล้วหากเหยาเจี๋ยผู้โหดร้ายยังคงปกครองต่อไป ก็ไม่รู้ว่าจะมีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตไปอีกกี่คน

ทั้งหมดนี้เป็นไปตามที่อู๋โม่ไป๋ได้ทำนาย ทุกอย่างคือโชคชะตาที่ได้ถูกกำหนดเอาไว้

“แล้วพวกเจ้าเล่า เหตุใดจึงได้มาอยู่กับผู้เฒ่าเยว่ได้ พวกเจ้าได้พบบิดามารดาหรือยัง?”

อาฮวาพยักหน้าแต่สีหน้ากลับไร้ซึ่งความยินดี

“มารดาของข้าคือเยว่โหรว บุตรสาวคนโตของสกุลเยว่ พวกเราได้พบนางแล้ว แต่นางเสียสติจำข้ากับพี่ชายไม่ได้ ข้ายังไม่ได้พบกับบิดาที่ถูกขังไว้ที่สกุลเหยาเลย ท่านยายปฏิเสธไม่อนุญาตให้พวกข้าไปพบท่านพ่อ” อาฮวาถอนหายใจ “ท่านแม่จำพวกข้าไม่ได้ ซ้ำบิดายัง…”

ถังหลี่อดประหลาดใจไม่ได้ว่า หญิงเสียสติที่ซานเป่าได้พบในจวนสกุลเยว่คือมารดาของอาฮวาและอามู่อย่างนั้นหรือ?

อาฮวาและอามู่เป็นลูกหลานของสกุลเยว่กับสกุลเหยา!

พ่อแม่ของอาฮวาและอามู่แอบหนีไปตั้งรกรากอยู่ในหมู่บ้านอาวา ใช้ชีวิตธรรมดาสามัญอยู่ด้วยกัน แต่เมื่อคนในสกุลพบเบาะแส พวกเขาจึงได้ถูกจับตัวกลับมายังเมื่องเยว่เฉิง โดยทิ้งเด็กเล็กๆ สองคนเอาไว้!

ท่านลุงอาหวังกลัวว่าสกุลเหยาจะสร้างปัญหาให้สองพี่น้องจึงได้แอบบอกทางเข้าออกลับให้สองพี่น้องเอาไว้เพราะรู้เบื้องหลังครอบครัวของเด็กทั้งสองคน

“ข้าอยากให้ท่านแม่ได้พบกับท่านพ่อ บางทีนางอาจจะจำเรื่องราวในอดีตได้ แต่ท่านยายไม่ยินดี นางเกลียดท่านพ่อและสกุลเหยามาก…” อาฮวาเสียงแผ่วเบาลง

เดิมทีสกุลเหยาและสกุลเยว่ก็ขัดแย้งกันมากอยู่แล้ว เพราะเหยาเจี๋ยทำให้คนสกุลเยว่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตลงไปมาก แล้วผู้เฒ่าเยว่จะไม่เกลียดชังคนสกุลเหยาได้อย่างไร?

เพื่อเห็นแก่เผ่าอู๋ซานผู้เฒ่าเยว่จึงได้ยอมให้ธิดาเทพปล่อยสกุลเหยาไป แต่ด้วยเหตุผลส่วนตัวนางไม่มีวันให้อภัยคนสกุลเหยาได้ นางไม่อยากมีส่วนเกี่ยวข้องกับคนสกุลนี้อีก

“อาฮวาให้ข้าช่วยเจ้าเถิด” เสียงเด็กหญิงดังขึ้น อาฮวามองไปยังผู้พูด

“ท่านธิดาเทพ…”

“ข้าจะช่วยโน้มน้าวท่านผู้เฒ่าเยว่เอง ข้าหวังว่าครอบครัวของพวกเจ้าจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขอีกครั้ง”

“ขอบคุณท่านมาก ธิดาเทพ” อามู่รีบพูดขอบคุณ เขาคุกเข่าก้มหัวให้ซานเป่า นางไม่อาจห้ามเขาได้ทัน

หลังจากได้คุยกันอีกสักพัก ทั้งสองจึงได้ออกจากวิหารไป

“พี่ชาย ท่านคิดว่าท่านยายจะเชื่อฟังธิดาเทพหรือไม่? ” อาฮวาอดไม่ได้ที่จะถาม น้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

“อืม”

“เมื่อท่านแม่เห็นท่านพ่อ นางอาจจะฟื้นคืนสติจำพวกเราได้”

“แล้วเราจะได้อยู่กันพร้อมหน้าอีกครั้ง” อามู่พยักหน้ารับ พี่น้องทั้งสองคนเดินเร็วขึ้น

ในขณะเดียวกันผู้เฒ่าเยว่ก็ได้รับสารว่าธิดาเทพต้องการพบนาง ทำให้นางรีบไปที่วิหารก่อนที่จะได้ถามอาฮวาและอามู่ว่ามีเรื่องอะไร

ที่วิหารศักดิ์สิทธิ์ ธิดาเทพสวมชุดสีขาวนั่งอยู่บนบัลลังก์สูงสุดบรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยความสง่างาม

“ผู้อาวุโสเยว่ ข้าเคยพบ อาฮวา และอามู่ มาก่อนหน้านี้ที่หมู่บ้านอาวา พวกเขาช่วยเหลือสหายของข้าไว้” ซานเป่าเริ่มพูด

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าเยว่ก็เข้าใจแล้วว่าหลานของนางทั้งสองคนมีความเกี่ยวข้องอย่างไรกับธิดาเทพ

“สกุลเยว่รู้สึกเป็นเกียรติที่อาฮวาและอามู่ได้ช่วยเหลือธิดาเทพ” นางเยว่กล่าวด้วยความจริงใจ

“อาฮวาและอามู่ต้องยืนหยัดเคียงข้างกันมาตั้งแต่ยังเด็กเพราะไม่มีพ่อแม่คอยปกป้อง พวกเขาถูกชาวบ้านรังแก ทั้งที่ทั้งสองเป็นคนดีแต่เหตุใดความเป็นอยู่ถึงได้ยากลำบากเช่นนั้น…ตอนนั้นข้าคิดว่าหากพ่อแม่ของพวกเขายังมีชีวิตอยู่ ข้าปรารถนาจะให้พวกเขากลับมาอยู่พร้อมหน้ากัน”

ซานเป่ามองท่านผู้เฒ่าเยว่อย่างจริงจัง

“ผู้อาวุโส ท่านเป็นมารดา ท่านย่อมเสียใจเรื่องบุตรสาวของท่าน ความผิดของสกุลเหยาและความบาดหมางระหว่างสกุลเริ่มต้นมาจากเหยาเจี๋ย หากผู้อาวุโสจะโกรธเหยาเซินข้าย่อมเข้าใจได้ แต่การที่ท่านทำให้บุตรสาวของตัวเองต้องเจ็บปวดและหลานทั้งสองไม่ได้พบหน้าบิดา เช่นนี้แล้วจะมิเป็นการทรมานพวกเขาหรอกหรือ?”

ในหัวใจของนางเยว่มีภาพของลูกสาวที่กำลังอ้อนวอนร้องขอ รวมถึงความปรารถนาของหลานสาวผุดขึ้นมา นางเคยเป็นคนที่มีจิตใจอ่อนโยน แต่เมื่อคนสกุลเหยาเข้ามาข้องเกี่ยวทำให้นางต้องเสียใจที่บรรพบุรุษและบุตรสาวมาเสียชีวิตไป ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป

“ผู้อาวุโสเยว่ ข้าหวังว่าครอบครัวของเขาจะได้กลับมาพร้อมหน้ากันอีกครั้ง” ซานเป่ากล่าวถึงจุดประสงค์

“เมื่อเป็นประสงค์ของธิดาเทพ ข้าจะให้พวกเขาได้พบหน้ากัน” ในที่สุดนางเยว่ก็ยอมถอย

ซานเป่าคลี่ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข แต่เมื่อคิดได้ถึงสถานะของตนที่ยังสวมอยู่นางจึงทำหน้านิ่ง หลังจากที่นางเยว่กลับไปซานเป่ารีบวิ่งไปหาถังหลี่ทันที

“ท่านแม่ ท่านผู้เฒ่าเยว่รับปากข้าว่าจะให้อาฮวาและอามู่ได้อยู่กับบิดาของพวกเขา” ซานเป่าพูดอย่างมีความสุข “พวกเขาจะได้กลับมาเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว”

หลังจากที่ถังหลี่ได้ยิน นางก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจมากนัก สกุลเยว่และสกุลเหยาขัดแย้งกันมานาน พวกเขาไม่ยอมรับการแต่งงานของบุตรชายและบุตรสาวของตน สกุลเหยาเจริญขึ้นในขณะที่สกุลเยว่โดนตราหน้า ท่านผู้เฒ่าเหยาจึงไม่มีวันปล่อยให้เหยาเซินและเยว่โหรวรักกันได้

ในทางกลับกัน ตอนนี้สกุลเยว่เข้มแข็งขึ้น ในขณะที่สกุลเหยาต้องปรับตัว อำนาจการตัดสินใจทุกอย่างย่อมกลับมาอยู่ในมือสกุลเยว่ ท่านผู้เฒ่าเยว่ย่อมไม่มีวันปล่อยให้พวกเขาได้พบกัน

โชคดีที่ทั้งอาฮวาและอามู่ได้พบกันซานเป่ามาก่อน ฐานะธิดาเทพของซานเป่าจึงสามารถกอบกู้สถานการณ์ได้

————————————————

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

Status: Ongoing
เธอทะลุมิติเข้าไปในนิยายที่ตนเองเคยอ่าน ถูกขายให้เป็นภรรยาของหนุ่มชาวป่า กลายเป็นแม่เลี้ยงของเด็กน้อย 3 คน ซึ่งเป็นตัวร้ายสุดชั่วช้า จุดจบคือประหารอย่างน่าสังเวช เธอจะทำยังไงให้อนาคตของพวกเขาเปลี่ยนไป‘ถังหลี่’ ทะลุมิติไปเป็นตัวประกอบในนิยายที่ตนเองเคยอ่าน ถูกขายให้เป็นภรรยาของหนุ่มชาวป่า กลายเป็นแม่เลี้ยงของเด็กน้อย 3 คนแต่หนุ่มชาวป่าผู้นี้นั้น คือตัวร้ายหลักของนิยายเรื่องดังกล่าว เป็นตัวร้ายที่จิตใจอำมหิต สุดแสนจะชั่วช้าสามานย์ แถมลูกเลี้ยงทั้ง 3 ก็เป็นเหล่าวายร้าย เป็นตัวร้ายในเรื่องที่โฉดชั่วไม่ต่างกับบิดา จุดจบของพวกเขาคือถูกสั่งประหารอย่างน่าสังเวช แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ เด็กน้อยทั้ง 3 ยังคงเป็นเจ้าก้อนน่ารักนุบนิบ คอยเรียกนางอย่างแสนหวานว่า “ท่านแม่” เพียงแค่คำนี้ที่ออกมาจากปากของพวกเขา นางก็ใจอ่อนยวบ ตั้งใจว่าไม่ว่าอย่างไรก็ตาม นางจะต้องเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของเหล่าลูกเลี้ยงให้ได้!ภารกิจถัดมาคืออะไรน่ะหรือ ก็คือทำนา ทำการค้า ทำทุกอย่างเพื่อหาเงินทองมาเลี้ยงเด็กน้อยทั้ง 3 ให้มีชีวิตที่สุขสบาย กล่อมเกลาพวกเขาให้มีชีวิตดีๆต่อมา…เหล่าวายร้ายทั้ง 3 ได้เติบโตขึ้น คนหนึ่งเป็นผู้นำสูงสุดของสำนักปราชญ์ในใต้หล้า คนหนึ่งเป็นพ่อค้าผู้ยิ่งใหญ่ ร่ำรวยยิ่งกว่าฮ่องเต้ คนหนึ่งเป็นแม่ทัพหญิงผู้เก่งกาจสง่างาม…ทั้ง 3 ทั้งรักทั้งหวงถังหลี่เป็นอย่างมากผู้นำสูงสุดของสำนักปราชญ์ : บังอาจรังแกท่านแม่ของข้างั้นหรือ จับมันไปขังเดี๋ยวนี้!แม่ทัพหญิงผู้เก่งกาจสง่างาม : พี่ใหญ่ ฆ่ามันทิ้งเสียเลยง่ายกว่า!พ่อค้าผู้ยิ่งใหญ่ : น้องสาม ข้าจะยื่นดาบให้เจ้าเอง!พระปิตุลาผู้ทรงอำนาจคว้าตัวภรรยาของตนเข้าไปกอด : ภรรยาที่รักของข้า ข้าจะปกป้องเอง เจ้าพวกตัวเปี๊ยกน่ารำคาญ ถอยไปซะ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท