เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ – บทที่ 709 ออกจากเผ่าอู๋ซาน

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

บทที่ 709 ออกจากเผ่าอู๋ซาน

ซานเป่ามีลางสังหรณ์บางอย่าง

ในช่วงสองวันมานี้ท่านแม่ของนางใช้เวลาอยู่กับนางตลอดเวลา ให้ความสำคัญกับนางมาก หากนางต้องการทำอะไร ท่านแม่ก็จะเห็นด้วย ตอนนี้ท่านแม่คงตัดสินใจแล้วว่าจะกลับไป จึงอยากใช้เวลาอยู่กับนางให้มากที่สุด แต่ซานเป่าทนไม่ได้ที่จะแยกจากมารดา

“ท่านแม่ ข้าอยากกลับต้าโจว ข้าคิดถึงพี่ชาย คิดถึงท่านพ่อ คิดถึงน้องๆ” ซานเป่าพูด

“จะกลับไปกับแม่แล้วทิ้งอู๋หลี่ไว้หรือ?” ถังหลี่พูดด้วยรอยยิ้ม เด็กหญิงลังเล

“เจ้าไม่สนใจคนเผ่าอู๋ซานแล้วหรือ?” ถังหลี่ถามต่อ ซานเป่ากลั้นลมหายใจก่อนจะถอนหายใจออกมา

ถังหลี่โอบบ่าของซานเป่าเอาไว้ แม้ซานเป่าจะยังเป็นเด็กแต่ฉลาดและมีความรับผิดชอบสูง

ธิดาเทพและพ่อมดศักดิ์สิทธิ์เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเมืองเยว่เฉิง พวกเขาเคารพบูชานาง หากซานเป่าจากไปก็จำเป็นต้องหาธิดาเทพคนใหม่ แต่การกำเนิดของธิดาเทพใช่ว่าจะถือกำเนิดขึ้นได้ง่ายๆ ไม่มีใครรู้ล่วงหน้าว่าธิดาเทพองค์ใหม่จะถือกำเนิดขึ้นเมื่อใด

เมื่อธิดาเทพองค์ใหม่ถือกำเนิดขึ้น ธิดาเทพองค์เก่าจะสัมผัสได้ถึงลิขิตของสวรรค์เพื่อค้นหานางและพากลับมาที่วิหารเพื่อฝึกฝนให้นางเป็นผู้สืบทอด

แล้วเมื่อใดถึงจะได้พบธิดาเทพองค์ใหม่เล่า?

อาจจะเป็นวัน เป็นเดือนหรือปีไม่ก็สิบปีไม่มีวันเวลาที่แน่นอน ไม่มีใครหยั่งรู้ได้

ซานเป่าออกจากเผ่าอู๋ซานไม่ได้ ทั้งบิดามารดาของนางยังอยู่ที่แคว้นต้าโจว แล้วเช่นนี้กว่าพวกเขาจะได้เจอกันจะไม่เป็นเวลาหลายสิบปีหรอกหรือ?

พอคิดแล้วซานเป่าก็เกิดอารมณ์หดหู่และไม่สบายใจมากขึ้น

ถังหลี่มองบุตรสาว นางไม่อยากแยกจากซานเป่าเลย นางอยากแบ่งตัวเองเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งอยู่กับซานเป่าและอีกส่วนกลับไปที่ต้าโจวเพื่อหาเว่ยฉิงและลูกๆ

“เมื่อเรื่องในต้าโจวคลี่คลาย พ่อกับแม่จะมาหาเจ้าที่เผ่าอู๋ซาน” ถังหลี่กล่าว

“ถ้าเร็วสุดก็หนึ่งปีอย่างช้าก็สามปี ไม่เกินนี้”

ช่วง 1 – 3 ปีที่ว่านี้ย่อมมีอันตรายแอบแฝงอยู่แน่ เป็นการดีที่ซานเป่าจะอยู่กับแคว้นอู๋ อย่างน้อยจะได้ไกลจากวังวนของอำนาจ หากราวต่างๆ คลี่คลายลงแล้ว ถังหลี่กับเว่ยฉิงอาจจะได้ปลีกตัวมาอยู่ที่เผ่าอู๋ซานกับซานเป่าก็เป็นได้ รอจนกว่าเผ่าอู๋ซานจะพบธิดาเทพองค์ใหม่จากนั้นพวกเขาจะหาทางโยกย้ายไปที่อื่นต่อ

นี่เป็นทางออกที่ดีที่สุดเท่าที่ถังหลี่จะคิดได้

ซานเป่ากอดแขนของมารดาไว้ นางรู้สึกดีขึ้น อย่างน้อยก็ยังมีกำหนดเวลาที่แน่นอนไม่ใช่ว่าจะพลัดพรากจากกันตลอดไป

“ในช่วงเวลานี้ ลูกในฐานะธิดาเทพ จะต้องไม่ย่อหย่อนต่อการปฏิบัติหน้าที่ แล้วอย่าลืมฝึกซ้อมกับอาจารย์ให้หนักด้วย” ถังหลี่กำชับกับซานเป่า

แน่นอนว่าไม่ว่าซานเป่าจะอยู่ที่ไหน ตู้เย่ผู้เป็นอาจารย์จะต้องอยู่กับนางด้วย ทั้งตู้เย่และอู๋หลี่ให้ความสำคัญกับซานเป่ามาก ทำให้ถังหลี่รู้สึกสบายใจหายกังวล

“ท่านแม่ไม่ต้องเป็นห่วงข้า เมื่อท่านพ่อกับท่านแม่มาหาข้าในครั้งหน้า จะได้เห็นว่าข้าเก่งขึ้นมากเพียงใด” ซานเป่าพูดพลางตบอกเล็กๆ ของตัวเอง นางจะฝึกฝนให้เก่งจนเหมือนอาจารย์ของนาง เพื่อให้บิดามารดาภูมิใจ สองแม่ลูกเดินออกมาจากบ่อฮัวหลงไปทางวิหาร

“ดอกไม้ลดราคาเจ้าค่ะ ดอกไม้ลดราคา” เสียงใสๆ ของเด็กสาวที่ขายดอกไม้ดังขึ้น เด็กสาวคนนั้นมองไปรอบๆ จนเกือบจะชนเข้ากับถังหลี่

นางจำได้ว่าเด็กสาวคนนี้คือธิดาเทพตัวปลอมที่เหยาเจี๋ยเป็นคนเลือกมา

เหยาเจี๋ยถูกตัดสินให้เผาทั้งเป็น แต่ธิดาเทพตัวปลอมไม่ได้มีส่วนรู้เห็นในแผนการ นางไม่รู้ตัวว่าตัวเองเป็นตัวปลอมด้วยซ้ำ จึงได้ถูกลงโทษเพียงแค่ปลดออกจากวิหารแล้วกลายเป็นสามัญชนเท่านั้น

ถังหลี่อดคิดไม่ได้ว่าธิดาเทพตัวปลอมที่คุ้นชินกับชีวิตหรูหราสุขสบาย เมื่อกลายเป็นคนธรรมดาจะปรับตัวได้หรือ ตอนนี้นางเริ่มมาขายดอกไม้แล้ว เห็นได้ชัดว่านางปรับตัวได้เป็นอย่างดี

เด็กสาวมองถังหลี่แล้วจึงได้หันไปมองซานเป่า นางจำได้ทันทีว่าซานเป่าคือใคร น้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและเคารพ

“ธิดาเทพ” นางพูดทำท่าจะคุกเข่า

“ไม่ต้อง” ซานเป่าห้าม ธิดาเทพตัวปลอมลอบมองซานเป่าก่อนจะเบือนหน้าหนี ซานเป่าเห็นว่านางต้องการพูดบางอย่างจึงถามว่า

“มีอะไรจะพูดกับข้าหรือ?”

“ซื้อดอกไม้หรือไม่?” ธิดาเทพตัวปลอมกล่าวอย่างกล้าหาญ สายตาของนางดูคาดหวังมากเพราะขายมาทั้งวันแล้วแต่ยังขายไม่ได้เลย

“…”

ซานเป่าคิดว่านางอาจต้องการพูดเรื่องใหญ่โต แต่กลายเป็นว่าต้องการให้ซื้อดอกไม้

ซานเป่าตัดสินใจซื้อดอกไม้หนึ่งช่อ ธิดาเทพตัวปลอมจึงมอบดอกไม้แถมให้นางอีกช่อหนึ่ง

เมื่อมอบดอกไม้ให้ซานเป่าแล้ว นางก็จากไปอย่างมีความสุข ตอนนี้มีเงินซื้ออาหารอร่อยๆ แล้ว

“ท่านแม่ ข้าขอมอบให้ท่าน” ซานเป่ายื่นช่อดอกไม้ให้กับถังหลี่ จากนั้นพวกนางเดินทางต่อไปยังวิหาร

“ท่านแม่มีแผนจะกลับต้าโจวเมื่อใดหรือ?” ซานเป่าถาม

“แม่จะออกเดินทางพรุ่งนี้” ถังหลี่กล่าว

ซานเป่ารู้ว่ามารดาอยู่ที่เยว่เฉิงเพื่อตนเอง เมื่อทุกอย่างได้คลี่คลายลงแล้วท่านแม่ยังใช้เวลาอยู่กับซานเป่าอีกถึงสามวัน

แต่ซานเป่ายังไม่สบายใจที่จะต้องแยกกับมารดาของตน

“ท่านแม่ คืนนี้ข้าจะนอนกับท่าน” ซานเป่าพูด

“ได้สิ”

ในตอนกลางคืนสองแม่ลูกนอนพูดคุยกันทั้งคืนไม่ยอมหลับ ซานเป่าไม่อาจข่มตาหลับได้เมื่อคิดว่าต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะได้เจอกับมารดาอีกครั้ง

วันรุ่งขึ้นในยามที่ท้องฟ้าเริ่มสว่าง

ซานเป่าลุกขึ้นมาเขียนจดหมายสองสามฉบับ

“ท่านแม่ ข้าเขียนจดหมายให้ท่านพ่อ พี่ชาย แล้วก็น้องๆ ได้โปรดมอบให้พวกเขาแทนข้าด้วย” ตอนแรกซานเป่าอยากเตรียมของขวัญแต่นางกลัวว่ามารดาจะเหนื่อยกับการเดินทางหลายพันลี้เช่นนี้

ถังหลี่หยิบจดหมายไป ดวงตาของนางอดไม่ได้ที่จะจ้องมองใบหน้าอ่อนเยาว์ของบุตรสาวให้นานอีกสักหน่อย

จากนั้น ถังหลี่จึงไปหาตู้เย่

ตอนนี้อาการบาดเจ็บของเขาเริ่มจะหายดีแล้ว เขาสวมเสื้อคลุม ท่าทางที่จริงจังเข้มงวดกลบรูปลักษณ์ที่หล่อเหลาไปจนหมด

ทั้งสองนั่งลงที่โต๊ะ หญิงสาวรินน้ำชาให้กับตู้เย่

“ลองดูสิ” ถังหลี่พูดด้วยรอยยิ้ม

“กลิ่นหอม.. แต่จะดีกว่านี้ถ้าเป็นสุรา” ตู้เย่จิบชาก่อนจะพูด ถังหลี่รู้ว่าเขาเป็นนักดื่มตัวยง

“เจ้ามีบาดแผล ตอนนี้ยังดื่มไม่ได้หรอก” ตู้เย่ส่ายศีรษะแบบช่วยไม่ได้ ถังหลี่และซานเป่าเข้มงวดมากจนไม่ให้ตู้เย่แตะต้องสุรา

“ข้าจะกลับต้าโจว” ถังหลี่กล่าวขึ้น

ตู้เย่มองนางเงียบๆ เขาไม่รู้ว่าควรคิดอย่างไรดี แต่ถังหลี่รู้จักอีกฝ่าย นางรู้ว่าเขารู้สึกใจหายเช่นกัน

“ข้าขอฝากซานเป่าไว้กับเจ้าด้วย แม้ว่านางจะเป็นธิดาเทพ แต่ศิลปะการต่อสู้ก็ไม่ควรหย่อนยาน”

“ไม่ต้องเป็นห่วง” ตู้เย่พูดก่อนจะหยุด “ซานเป่าคงคิดถึงท่าน”

“หลังจากนี้อาจจะหนึ่งหรือสองปี เมื่อสถานการณ์ทุกอย่างในเมืองหลวงคลี่คลายแล้ว เว่ยฉิงกับข้าจะมาที่เผ่าอู๋ซาน” ถังหลี่กล่าว

“ข้าขออำลาเจ้าด้วยน้ำชาจอกนี้”

“ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ”

หลังจากที่ถังหลี่กล่าวอำลากับตู้เย่ นางก็ไปหาอู๋หลี่อีกครั้ง

อู๋หลี่ตื่นมาพร้อมกับกองงานที่อยู่ตรงหน้า เขาสวมเสื้อคลุมของตัวเอง ท่าทีเดิมๆ ของเขาหายไป ตอนนี้อู๋หลี่เป็นพ่อมดศักดิ์สิทธิ์อย่างสมบูรณ์ แต่เมื่อเห็นถังหลี่เขาก็ยิ้มออกมาทันที

“ฮูหยิน”

แม้ว่าเขาจะกลายเป็นพ่อมดศักดิ์สิทธิ์แล้วแต่ซานเป่าก็ยังคงเป็นเจ้านายของเขา และถังหลี่ก็เป็นฮูหยินอู่เช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เมื่อถังหลี่บอกว่าตัวเองกำลังจะกลับไปยังต้าโจว อู๋หลี่จึงมีท่าทีอาลัยเช่นกัน

“เมื่อใดหวังหยูจะได้เจอฮูหยินอีกขอรับ”

ถังหลี่บอกแผนการของนาง อู๋ลี่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เวลาปีหรือสองปีย่อมดีกว่าจะไม่ได้เจอกันตลอดไป

ตอนนี้พระอาทิตย์กำลังขึ้นแล้ว

ถังหลี่ถือสัมภาระทั้งหมดของนางแล้วออกเดินทาง โดยมีองครักษ์เงาฉื่อซื่อคอยปกป้อง การเดินทางกลับไปยังต้าโจวจึงไม่มีปัญหาอะไร

ซานเป่าส่งพ่อมดรับใช้มานำทางถังหลี่ ในขณะที่นางกำลังจะขึ้นม้าจึงได้เห็นใบหน้าของพ่อมดรับใช้ผู้หนึ่งดูคุ้นตา

ซานเป่านั่นเอง

“ท่านแม่ ข้าจะพาท่านออกจากอู๋ซานเอง”

ซานเป่าอยากจะอยู่กับมารดาให้นานกว่านี้อีกหน่อย ไม่ว่านางจะหลบออกมาจากวิหารนานสักเพียงใดแต่อู๋หลี่จะจัดการทุกอย่างให้นางได้

ถังหลี่กวาดตามองพ่อมดรับใช้คนอื่น เมื่อเห็นใบหน้าของตู้เย่ทำให้นางรู้สึกเบาใจ

….

ที่ต้าโจวฝนตกต่อเนื่องมาหลายเดือนแล้ว คืนนี้ทั้งมืดมิดและไร้ซึ่งดวงดาว

“นายท่าน พักผ่อนเถิดขอรับ”

“ข้าจะทำงานต่อสักพัก เจ้าออกไปก่อน” ชายคนนั้นส่ายหน้า

“ขอรับ” บ่าวรับใช้เปลี่ยนถ้วยน้ำชาให้เขาก่อนจะล่าถอยกลับไป เหลือเพียงชายหนุ่มคนหนึ่งในห้องทำงานเท่านั้น แสงเทียนที่ส่องสว่างทำให้เห็นเรือนร่างสูง เขาใส่ชุดสีดำมีผ้าคาดเอวทำให้ดูเอวสอบเพรียวบาง

ใบหน้าคมคายหล่อเหลา ทว่าดวงตาคู่นั้นของเว่ยฉิงกลับดูเศร้าเหงา

หลังจากที่เว่ยฉิงเสร็จสิ้นจากงานราชการแล้วเขาก็ยังคงนอนไม่หลับ ชายหนุ่มลุกไปที่หน้าต่าง สองเดือนกว่าแล้วตั้งแต่ภรรยาของเขาออกเดินทางไป เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับนางบ้าง ในช่วงระยะเวลาสองเดือนสั้นๆ นี้ สถานการณ์ในเมืองหลวงเหมือนสภาพของบรรยากาศ เต็มไปด้วยเมฆมืดครึ้ม

ไม่มีใครทราบถึงชะตากรรมของจ้าวจิ่งซวน

เมื่อผ่านไปสองเดือนอย่างไร้วี่แวว ทุกคนจึงคิดว่าจ้าวจิ่งซวนเสียชีวิตไปแล้ว

ฮ่องเต้โจวทรงโศกเศร้าในขณะที่พระสนมเหลียงตรอมใจจนป่วยหนัก

ตอนนี้ฝ่ายของจ้าวชูในราชสำนักเริ่มตื่นตัวมากขึ้น บางคนทนไม่ไหวรีบทูลขอให้ฮ่องเต้แต่งตั้งองค์ชายสามเป็นรัชทายาทโดยเร็ว ตอนนี้สถานการณ์ทุกอย่างไม่เอื้อกับองค์ชายหกและคนทางฝ่ายเขาเป็นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตามท่าทีของเว่ยฉิงยังคงสงบ…

เขาได้รับจดหมายจากกลุ่มองครักษ์เงาว่าได้พบกับจ้าวจิ่งซวนแล้วและกำลังพาตัวเขากลับมาที่เมืองหลวง

หากนับจากวันที่ระบุไว้ในจดหมาย ตอนนี้ก็เหลืออีกเพียงสองวันเท่านั้นที่จ้าวจิ่งซวนจะกลับมาถึง

ถ้าหากคนเหล่านั้นรู้ว่าจ้าวจิ่งซวนยังมีชีวิตอยู่พวกเขาจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อขัดขวางไม่ให้จ้าวจิ่งซวนได้กลับมายังเมืองหลวงแน่นอน

เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาพวกนี้เว่ยฉิงจึงไม่บอกใครเรื่องข่าวสำคัญนี้เลยแม้กระทั่งกับสกุลเหลียงก็ตาม

หากจู่ๆ จ้าวจิ่งซวนปรากฏตัวขึ้นในเมืองหลวงคงทำให้พรรคพวกของจ้าวชู “ประหลาดใจ” ครั้งใหญ่อย่างแน่นอน เว่ยฉิงจึงรู้สึกรำคาญเมื่อเห็นว่ากลุ่มของจ้าวชูหยิ่งผยองมากเพียงใด

แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เขากังวล

จากจดหมายที่องครักษ์เงาส่งมาเขารู้ว่าภรรยาของเขากับซานเป่าไปที่เมืองเยว่เฉิงของเผ่าอู๋ซาน และไม่ได้กลับมาพร้อมกับจ้าวจิ่งซวน เขาไม่รู้ว่าถังหลี่จะกลับมาเมื่อใด

ตอนนี้เขาคิดถึงนางเหลือเกิน…

————————————————

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

Status: Ongoing
เธอทะลุมิติเข้าไปในนิยายที่ตนเองเคยอ่าน ถูกขายให้เป็นภรรยาของหนุ่มชาวป่า กลายเป็นแม่เลี้ยงของเด็กน้อย 3 คน ซึ่งเป็นตัวร้ายสุดชั่วช้า จุดจบคือประหารอย่างน่าสังเวช เธอจะทำยังไงให้อนาคตของพวกเขาเปลี่ยนไป‘ถังหลี่’ ทะลุมิติไปเป็นตัวประกอบในนิยายที่ตนเองเคยอ่าน ถูกขายให้เป็นภรรยาของหนุ่มชาวป่า กลายเป็นแม่เลี้ยงของเด็กน้อย 3 คนแต่หนุ่มชาวป่าผู้นี้นั้น คือตัวร้ายหลักของนิยายเรื่องดังกล่าว เป็นตัวร้ายที่จิตใจอำมหิต สุดแสนจะชั่วช้าสามานย์ แถมลูกเลี้ยงทั้ง 3 ก็เป็นเหล่าวายร้าย เป็นตัวร้ายในเรื่องที่โฉดชั่วไม่ต่างกับบิดา จุดจบของพวกเขาคือถูกสั่งประหารอย่างน่าสังเวช แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ เด็กน้อยทั้ง 3 ยังคงเป็นเจ้าก้อนน่ารักนุบนิบ คอยเรียกนางอย่างแสนหวานว่า “ท่านแม่” เพียงแค่คำนี้ที่ออกมาจากปากของพวกเขา นางก็ใจอ่อนยวบ ตั้งใจว่าไม่ว่าอย่างไรก็ตาม นางจะต้องเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของเหล่าลูกเลี้ยงให้ได้!ภารกิจถัดมาคืออะไรน่ะหรือ ก็คือทำนา ทำการค้า ทำทุกอย่างเพื่อหาเงินทองมาเลี้ยงเด็กน้อยทั้ง 3 ให้มีชีวิตที่สุขสบาย กล่อมเกลาพวกเขาให้มีชีวิตดีๆต่อมา…เหล่าวายร้ายทั้ง 3 ได้เติบโตขึ้น คนหนึ่งเป็นผู้นำสูงสุดของสำนักปราชญ์ในใต้หล้า คนหนึ่งเป็นพ่อค้าผู้ยิ่งใหญ่ ร่ำรวยยิ่งกว่าฮ่องเต้ คนหนึ่งเป็นแม่ทัพหญิงผู้เก่งกาจสง่างาม…ทั้ง 3 ทั้งรักทั้งหวงถังหลี่เป็นอย่างมากผู้นำสูงสุดของสำนักปราชญ์ : บังอาจรังแกท่านแม่ของข้างั้นหรือ จับมันไปขังเดี๋ยวนี้!แม่ทัพหญิงผู้เก่งกาจสง่างาม : พี่ใหญ่ ฆ่ามันทิ้งเสียเลยง่ายกว่า!พ่อค้าผู้ยิ่งใหญ่ : น้องสาม ข้าจะยื่นดาบให้เจ้าเอง!พระปิตุลาผู้ทรงอำนาจคว้าตัวภรรยาของตนเข้าไปกอด : ภรรยาที่รักของข้า ข้าจะปกป้องเอง เจ้าพวกตัวเปี๊ยกน่ารำคาญ ถอยไปซะ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท