บทที่ 759 เมื่อทั้งสองพบกัน
ตู้เยี่ยนพูดต่อ
“เสี่ยวเว่ย เจ้าแลกเปลี่ยนจดหมายกับเว่ยจื่ออี้มาเป็นเวลานาน แต่ก็ยังไม่ไปร่วมงานวันเกิดของเขา ข้าเดาว่าเจ้าคงไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวเขาเลย เหตุใดจึงไม่มอบเขาให้ข้าล่ะ?”
ตู้เว่ยกัดฟันจ้องพี่สาวเขม็ง ตู่เยี่ยนรู้ถึงความสัมพันธ์ของนางและเว่ยจื่ออี้วันนี้พี่สาวไปพบเขา เป็นไปได้หรือไม่ว่า…
“ใช่แล้ว ข้าไปพบเขาในนามของเว่ยอวี๋ เพราะชื่อนี้ทำให้เขาปฏิบัติกับข้าเป็นอย่างดี”
“เสี่ยวเว่ย ข้าถือว่าเจ้าเป็นแม่สื่อให้ข้า ในเมื่อเจ้าดีกับข้าถึงเพียงนี้ วันใดที่ข้าแต่งงาน ข้าจะให้อั่งเป่าซองใหญ่แก่เจ้านะ”
ใบหน้าของตู้เยี่ยนเต็มไปด้วยความสุข แต่ดวงตาของตู้เว่ยกลับแดงก่ำ ฉายแววโทสะออกมา
ตู้เว่ยเหมือนสัตว์ตัวเล็กๆ ที่ถูกทิ้งอย่างน่าเวทนา
ตู้เยี่ยนทำใจแข็ง เมินเฉย แสร้งทำเป็นนางร้ายที่ได้รับชัยชนะแล้วเดินจากไปอย่างภาคภูมิ
หัวใจของตู้เว่ยร้อนรุ่มด้วยความเกลียดชัง นางจ้องมองไปที่แผ่นหลังของตู้เยี่ยน
เหตุใดต้องแอบอ้างเป็นนางด้วย? ความอ่อนโยนที่เว่ยจื่ออี้มอบให้ตู้เยี่ยน สมควรเป็นของนางไม่ใช่หรือ?
หลังจากที่ความโกรธลดลง เหลือทิ้งไว้แต่ความกังวล ที่จริงต้องโทษตัวนางเอง หากวันนั้น นางไปที่งานวันเกิดของเว่ยจื่ออี้ มีหรือตู้เยี่ยนจะมีโอกาส!
เป็นเพราะความขี้ขลาดของนางทั้งหมด แม้จะรักชอบเขามากแต่ก็ไม่กล้าที่จะทำอะไรเลย เหตุใดนางถึงได้ไร้ประโยชน์เช่นนี้นะ!
ตู้เว่ยนั่งอยู่บนเก้าอี้เต็มไปด้วยความคับข้องใจ
“คุณหนูใหญ่มาหาหรือเจ้าคะ?”เมื่อแม่นมจ้าวเข้ามาในห้องก็เห็นตู้เว่ยกำลังร้องไห้อยู่เงียบๆ นางตกใจมาก
“คุณหนู เกิดอะไรขึ้น? คุณหนูใหญ่รังแกท่านหรือ? ข้าจะไปคุยกับนางให้รู้เรื่อง” ในขณะที่แม่นมจ้าวเตรียมจะออกไป ตู้เว่ยรั้งนางไว้
เด็กสาวส่ายศีรษะปฏิเสธ
ตู้เว่ยคิดถึงการแก้ปัญหา ถ้าหากนางไปหาเว่ยจื่ออี้แล้วบอกเรื่องที่ตู้เยี่ยนแอบอ้างได้ล่ะก็…
นางจะต้องไปเจอเฟยจู!
…
ท้องฟ้ามีฝนตกปรอยๆ ลงมาไม่ขาดสาย รถม้าหยุดลงพร้อมกับเด็กหนุ่มคนหนึ่งก้าวลงมา บ่าวรับใช้รีบกางร่มให้เขาทันที
เว่ยจื่ออี้เข้าไปในจวน เห็นว่ามีคนผู้หนึ่งกำลังนั่งรอเขาอยู่ เขาเดินไปหานาง เรียกนางด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความรักและความเคารพ
“ท่านแม่”
ถังหลี่พิจารณาใบหน้าของบุตรชายที่ไร้ความโศกเศร้า
เป็นไปได้หรือไม่ว่า การพบปะพูดคุยกับคุณหนูเว่ยอวี๋ผ่านไปด้วยดี ? แต่ดูแล้วกลับไม่เหมือนเด็กหนุ่มที่ได้พบกับคนรักเลย ใบหน้าของบุตรชายสงบนิ่งมากเกินไป
“ได้เจอคุณหนูเว่ยอวี๋หรือไม่?” ถังหลี่ถาม เว่ยจื่ออี้ส่ายศีรษะ
“ข้าได้พบกับพี่สาวของนาง ชื่อตู้เยี่ยน”
ตู้เยี่ยน? เว่ยอวี๋สกุลตู้ จะใช่สกุลตู้ในเมืองหลวงหรือไม่? แม้ว่าตระกูลนี้จะไม่ได้มีชื่อเสียง เป็นเพียงตระกูลเล็กๆ แต่พวกเขามีความบริสุทธิ์และยุติธรรมมาก
“ตู้เยี่ยนบอกว่าเว่ยอวี๋ป่วย” เว่ยจื่ออี้เล่าให้มารดาฟัง
“นางไม่มาพบข้าเพราะเหตุนี้ นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ? ข้าจะดูแลนางเอง หมอซูจะรักษานางได้อย่างแน่นอน”
เว่ยจื่ออี้คิดว่าเว่ยอวี๋ยังไม่มั่นใจในตัวเขา เด็กหนุ่มจึงเขียนจดหมายบอกนางว่าเขาไม่สนใจอาการป่วยของนาง ถังหลี่ไม่ได้พูดอะไร
น้องสาวของตู้เยี่ยน..สกุลตู้…
ถังหลี่ครุ่นคิดเกี่ยวกับตัวตนของเว่ยอวี๋ นางส่งคนไปตรวจสอบข้อมูลทันที ในฐานะบิดามารดา นางย่อมอดไม่ได้ที่อยากจะให้บุตรชายได้แต่งงานกับหญิงสาวที่ดี
ชื่อจริงของเว่ยอวี๋คือตู้เว่ย เกิดมาในสกุลตู้ เป็นบุตรสาวของภรรยารองของนายท่านตู้ เมื่อถังหลี่เห็นใบหน้าของนางก็ตกตะลึงไปอีกครั้ง
นางคือเด็กสาวที่เกือบจะโดนหมอต้มตุ๋นหลอกไม่ใช่หรือ?
เด็กสาวผู้นั้นงดงามจนถังหลี่แปลกใจว่านางจะได้เป็นลูกสะใภ้ของสกุลไหน? แต่กลับกลายเป็นเว่ยจื่ออี้ที่ชอบนาง นางเป็นเด็กดีมีน้ำใจ เพียงแต่นางเป็นใบ้!
ที่จริงแล้วก็เป็นเช่นเว่ยจื่ออี้เอ่ยปาก หมอซูต้องรักษานางได้แน่นอน หลังจากที่ถังหลี่รู้เรื่องของเว่ยอวี๋นางก็เลิกสนใจ ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นโชคชะตาของพวกเขาเอง
….
เว่ยจื่ออี้กลับมาเขียนจดหมายหาเว่ยอวี๋ทุกวันเช่นเดิม เขาทิ้งจดหมายไว้ใต้กระถางต้นไม้ตรงขอบหน้าต่าง แต่จดหมายยังคงอยู่เช่นนั้นไม่เคยหายไป เว่ยจื่ออี้รู้สึกผิดหวังแต่ก็ยังเขียนต่อ เมื่อเขาวางจดหมายทิ้งไว้ ในที่สุดมันก็หายไปในวันที่สาม หัวใจของเขาเต้นแรงราวกับมีใครมาตีกลองกระหน่ำก็ไม่ปาน
ไม่กี่วันต่อมาเว่ยจื่ออี้ก็เห็นว่ามีจดหมายวางอยู่ เนื้อหาในจดหมายเรียบง่าย
นางอยากพบเขา
เด็กหนุ่มหยิบขึ้นมาอ่านหลายครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าครั้งนี้เป็นลายมือของเว่ยอวี๋ไม่ผิดแน่
เขาเต็มไปด้วยความสุขจนไม่รู้จะระบายอย่างไร เว่ยจื่ออี้วิ่งกลับไปที่จวนอย่างเร็ว ก่อนจะถึงประตูจวนเขาก็ปะทะเข้ากับแผ่นอกที่แข็งแกร่งจนเกือบล้มลง หากอีกฝ่ายไม่ยื่นมือมาคว้าตัวเขาไว้ เว่ยจื่ออี้รู้สึกอับอาย
“ขออภัยท่านพ่อ” เว่ยฉิงมองบุตรชายพลางเลิกคิ้ว
“อะไรทำให้เจ้ามีความสุขมากเช่นนี้”
“ท่านพ่อ เว่ยอวี๋อยากพบข้า” เว่ยจื่ออี้มีความสุขมาก ตอนนี้เขาตื่นเต้นที่จะบอกข่าวดีแก่คนในครอบครัว
“ดูเขาสิ” เว่ยฉิงหันไปหาภรรยา หวังว่าภรรยาจะหัวเราะเยาะท่าทีของลูกชาย
“ตอนนั้นท่านก็เป็นแบบนี้ไม่ใช่หรือ? เวลามีความสุขก็กระโดดโลดเต้นไปทั่ว” ถังหลี่แฉเขาอย่างไร้ความปราณี เว่ยฉิงอึ้งไป เขาไม่ได้เขินอาย กลับคว้าภรรยามากอด
“ฮูหยิน ตอนนี้ข้าก็เป็นนะ หากเจ้าจูบข้าตอนนี้ข้าคงมีความสุขจนอดไม่ได้ที่จะวิ่งรอบจวนสองสามรอบ”
“กะล่อน” มุมปากของนางอดไม่ได้ที่จะยกขึ้น แม้คำพูดของเขาจะไม่หวานหู แต่ถังหลี่คิดว่ามันน่าฟัง
หลังจากที่เว่ยจื่ออี้ได้รับจดหมายเขามีความสุขแทบล้นออกมา
เช้าวันรุ่งขึ้น เขาตื่นมาเปลี่ยนเสื้อผ้า และส่องกระจกอยู่พักใหญ่ ก่อนจะออกไปข้างออก
เว่ยจื่ออี้มาถึงเวลานัดก่อนครึ่งชั่วยาม สถานที่นัดเป็นร้านหนังสือเก่าแก่ที่นี่มีนิยายอ่านเล่นมากมาย ซึ่งเว่ยจื่ออี้เป็นคนแนะนำที่นี่ให้กับเว่ยอวี๋ นางก็ชอบที่นี่เช่นกัน
เด็กหนุ่มเปิดประตูเข้าไปด้านใน เช้านี้อากาศหนาว ที่ร้านหนังสือจึงร้างผู้คน เขากำลังจะหาที่นั่งเพื่อสั่งชาร้อน แต่แล้วสายตากลับเหลือบไปเห็นใครบางคนที่กำลังยืนอ่านหนังสืออยู่
มีคนมาเร็วกว่าเขาอีกหรือ? เว่ยจื่ออี้เดาว่าต้องเป็นคนที่รักในการอ่านมากเป็นแน่ คนผู้นั้นเมื่อได้ยินเสียงก็หันหน้ามามอง
เว่ยจื่ออี้มองนางเช่นกัน
แว่บแรกที่เขาคิดคือเด็กสาวผู้นี้สวยมาก แต่คงเสียมารยาทหากจะจ้องมองนางมากเกินไป เขาจึงหันหลังให้
เด็กสาวเดินมาหาเว่ยจื่ออี้พร้อมหนังสือ
พลันเขานึกบางอย่างขึ้นมาได้ เขาหันไปมองเด็กสาวอีกครั้ง
“เจ้าคือเว่ยอวี๋หรือ? ”
เด็กสาวพยักหน้า
“เจ้าคือเว่ยอวี๋จริงๆ ข้าคือเฟยจู ชื่อจริงว่าเว่ยจื่ออี้” เว่ยจื่ออี้พูดอย่างตื่นเต้น
เขาวาดภาพยามที่พบกับนางเป็นครั้งแรกว่าตนเองต้องมีความสุขุมสงบนิ่งจะได้ดูน่าเชื่อถือ แต่พอได้เห็นนางเข้าจริงๆ เขากลับลืมทุกอย่างไปจนหมด
เว่ยจื่ออี้กลายเป็นเด็กหนุ่มที่มีความสุขและร่าเริงเช่นเดิม รอยยิ้มบนใบหน้าของเว่ยอวี๋ ทำให้นางดูสวยราวกับดอกไม้ที่กำลังแย้มบานกลางฤดูหนาว
พวกเขามองหน้ากันด้วยความดีใจ ในไม่ช้าเขาก็ตระหนักถึงบางอย่างที่ผิดปกติเพราะเว่ยอวี๋เอาแต่มองเขาโดยไม่พูดอะไร ทำให้เด็กหนุ่มนึกถึงคำพูดของตู้เยี่ยนขึ้นมาได้ หรือที่นางป่วยจะเป็นเพราะนางเป็นใบ้!
“เว่ยอวี๋เจ้าพูดไม่ได้หรือ?” เว่ยจื่ออี้ถามเบาๆ ตู้เว่ยพยักหน้า นางไม่กล้ามองหน้าเฟยจูเพราะกลัวจะเห็นความรังเกียจบนใบหน้าของเขา