บทที่ 771 ถุงหอม
หลังจากที่ตู้เยี่ยนกลับบ้าน นางก็เข้าไปหามารดา
ฮูหยินตู้ประหลาดใจมาก เมื่อเห็นว่าใบหน้าเล็กๆ ของบุตรสาวแดงก่ำ เหมือนดอกไม้ที่กำลังผลิบาน
“เกิดอะไรขึ้น?” นางถามด้วยความสงสัย
“ท่านแม่ ส่งรูปวาดของข้าไปที่จวนสกุลกู้ได้หรือไม่?” ตู้เยี่ยนถาม หากครอบครัวไหนมีบุตรสาวที่กำลังจะออกเรือน ทางครอบครัวจะส่งมอบรูปวาดให้แก่ครอบครัวของฝ่ายชาย หากชายหนุ่มถูกใจจะได้นัดหมายพบปะดูตัวกัน
ที่ผ่านมาตู้เยี่ยนไม่เคยให้มารดาของนางส่งรูปวาดไปที่ไหนเลย นี่เป็นครั้งแรก
“เจ้ามีคุณชายที่ชอบแล้วหรือ?” ฮูหยินตู้มีความสุขมากเมื่อได้ยินเรื่องนี้
“ว่าแต่สกุลกู้นี่ สกุลกู้ไหน?”
ฮูหยินตู้คิดถึงความเป็นไปได้ จากนั้นรอยยิ้มของนางจึงได้ชะงักค้างแข็งทื่อไป
“คงไม่ใช่จวนแม่ทัพกู้ใช่หรือไม่?”
“ใช่แล้ว เป็นสกุลกู้ สกุลทางฝ่ายมารดาของพระชายาท่านผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เจ้าค่ะ” ตู้เยี่ยนกล่าว
ฮูหยินตู้ตกใจ สกุลของผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์และสกุลกู้เป็นตระกูลที่นางไม่กล้าอาจเอื้อม
ในกรณีของเสี่ยวเว่ยและเว่ยจื่ออี้นั้น ความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งของทั้งสองได้ทลายช่องว่างระหว่างชนชั้นไปได้ แต่สำหรับเสี่ยวเยี่ยนแล้วนางกับสกุลกู้ไม่ได้มีความสัมพันธ์กันมาก่อน นับว่าสถานะทางครอบครัวมีความแตกต่างกันมากเกินไป
ภาพวาดของบุตรสาวนางอาจจะส่งไปไม่ถึงมือคุณชายผู้นั้นเลยด้วยซ้ำ
“เยี่ยนเอ๋อร์ แม่ว่าสกุลกู้สูงส่งเกินเอื้อมมากเกินไปหรือไม่?” ฮูหยินตู้พูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“ผู้ที่เจ้านิยมชมชอบคือคุณชายรองสกุลกู้หรือ? คุณชายรองออกไปรบแทบทั้งปี ต่อให้เจ้าได้แต่งงานกับเขา พวกเจ้าก็จะมีเวลาอยู่ด้วยกันน้อยมาก หนำซ้ำต้องอยู่ห่างไกลกันอีก”
แต่เมื่อตู้เยี่ยนนึกถึงใบหน้าที่หล่อเหลาของกู้หวนอวี้ หัวใจของนางก็เต้นแรงขึ้น
นางไม่สนใจความแตกต่างระหว่างชนชั้น นางแค่อยากจะลองดูสักครั้งเท่านั้น ไม่เช่นนั้นอาจจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต
“ท่านแม่แค่ส่งรูปของข้าไปก็พอเจ้าค่ะ” ตู้เยี่ยนยังคงมุ่งมั่น
เมื่อเห็นถึงความตั้งใจของบุตรสาว ฮูหยินตู้จึงไร้ทางเลือกอื่น นอกจากยอมส่งภาพวาดไปให้สกุลกู้
แต่ทุกอย่างกลับเงียบหาย ไม่ได้ยินข่าวคราวติดต่อกลับมาเลย
…
การกลับมาด้วยชัยชนะของสองพ่อลูกสกุลกู้คู่ควรแก่การค่าเฉลิมฉลองไปทั้งเมืองหลวงและราชสำนัก ขุนนางทั้งหลายต่างมาร่วมแสดงความยินดี ทว่าก็ยังมีเสียงที่ไม่ลงรอยกันอยู่บ้าง
“พี่สามีคนโตของท่านผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เป็นตุลาการศาลต้าหลี่ ส่วนคนรองนี่ยิ่งน่าทึ่งเป็นถึงเทพเจ้าสงครามของแคว้นต้าโจว ด้วยอำนาจทางการทหารเช่นนี้…”
ประโยคนี้มีความหมายที่ลึกซึ้ง แสดงให้เห็นถึงอำนาจที่ล้นหลามของผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ที่ควบคุมบัลลังก์มังกรอยู่
บทสนทนาเหล่านี้ลอยเข้าหูของเว่ยฉิง
องครักษ์ของเว่ยฉิงไม่พอใจที่เจ้านายต้องทนแบกรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากคนกลุ่มนี้ ทั้งๆ ที่เจ้านายต้องอดหลับอดนอนด้วยงานราชการที่มีมากมาย ทว่าท่าทีของเว่ยฉิงกลับเรียบเฉย ไม่มีความโกรธแม้แต่น้อย ราวกับว่าคำพูดพวกนี้ไร้สาระ ทุกวันหลังทำงานเสร็จ เขากลับไปหาภรรยาของเขาอย่างไม่สะทกสะท้าน
นอกเหนือจากงานเลี้ยงที่ฮ่องเต้ทรงจัดขึ้นแล้ว สกุลกู้ก็มีงานเฉลิมฉลองภายในครอบครัวอีกด้วย เนื่องจากการเตรียมงานที่ว่านี้ ทำให้ถังหลี่อยู่ที่จวนสกุลกู้มากกว่าสกุลอู่
เย็นวันหนึ่ง นางพาบุตรทั้งสองกลับไปยังจวนสกุลอู่ด้วยรถม้า แต่เมื่อลงจากรถม้าก็มีคนผู้หนึ่งมาหยุดรถม้าของนางไว้
“พระชายา” ถังหลี่มองไปที่หญิงที่ผมเผ้ายุ่งเหยิง น่าจะเป็นเพราะนางมารออยู่นานมากแล้ว
“ตู้เยี่ยน เจ้ามาหาข้ามีเรื่องอะไรหรือ?” ถังหลี่ถาม
แม้ว่าถังหลี่จะไม่ได้สนิทกับตู้เยี่ยนมากนัก แต่นางประทับใจความสดใสและตรงไปตรงมาของหญิงสาวผู้นี้
“พระชายา ข้าอยากขอความช่วยเหลือจากท่านเพคะ”
“เรื่องอะไรหรือ?”
“ฮูหยิน ได้โปรดให้ข้าไปงานเลี้ยงของสกุลกู้ได้หรือไม่เพคะ?”
ตู้เยี่ยนกระพริบตาถี่ๆใส่ถังหลี่อย่างอ้อนวอน
ภาพวาดที่นางส่งไปให้สกุลกู้เงียบหาย ทำให้นางเคว้งคว้างไปพักใหญ่ จากนั้นจึงพยายามหาโอกาสอื่นที่จะเข้าพบคุณชายกู้
ถังหลี่มองท่าทีเขินอายของสาวน้อย เห็นได้ชัดว่านางไม่ได้สนใจงานเลี้ยงอย่างที่นางได้เอ่ยปาก เมื่อถังหลี่หวนนึกถึงใบหน้าที่ตกตะลึงของตู้เยี่ยนในวันที่พี่ชายของนางกลับมาเมืองหลวงแล้ว ก็เข้าใจจุดประสงค์ของนางทันที
พี่รองของนางเป็นเหมือนก้อนน้ำแข็งเดินได้ บางทีเด็กสาวที่มีความร่าเริงสดใสเช่นนี้อาจจะละลายน้ำแข็งก้อนนี้ได้…หรือไม่ความเย็นยะเยือกจากก้อนน้ำแข็งอาจจะทำให้เด็กสาวเจ็บปวด
ถังหลี่กลัวว่าจะเป็นสาเหตุหลังเสียมากกว่า
“พี่รองของข้าเป็นคนดี นิสัยอ่อนโยน แต่เขามีนิสัยเย็นชา..” ถังหลี่ว่า
เมื่อตู้เยี่ยนได้ยินที่ถังหลี่พูดถึงกู้หวนอวี้ นางยิ่งชื่นชอบ เพราะถ้าหากเขาไม่ได้มีนิสัยเช่นนี้ ป่านนี้เขาคงแต่งงานมีภรรยาไปนานแล้ว โอกาสงามๆ เช่นนี้จะตกมาถึงนางได้อย่างไร เมื่อเห็นว่าตู้เยี่ยนยังคงกระตือรือร้น ถังหลี่จึงพูดว่า
“ข้าจะบอกบ่าวรับใช้ของสกุลกู้ไว้ เจ้าเข้าไปได้เลยไม่ต้องมีเทียบเชิญหรอก”
“ขอบพระทัยเพคะพระชายา”
ตู้เยี่ยนยิ้มพลางขอบคุณนางซ้ำแล้วซ้ำเล่า
วันถัดมา
เมื่อนางไปถึงจวนสกุลกู้ ถังหลี่ได้ถามถึงการแต่งงานของกู้หวนอวี้
“ไม่กี่วันก่อนแม่ส่งภาพวาดหญิงสาวหลายคนไปที่ห้องพี่ชายเจ้า เขาเอาแต่อ่านรายงานทหารทั้งวันไม่เปิดดูภาพวาดของพวกนางเลย ” ฮูหยินกู้ถอนหายใจ
“เหมี่ยวเหมี่ยว บอกให้หวนเนี่ยนกำชับน้องชายหน่อยเถอะ” นางพูดกับฝางเหมี่ยว
“เจ้าค่ะ ข้าจะบอกหวนเนี่ยนให้เจ้าค่ะ ท่านแม่” ฝางเหมี่ยวว่า
ถังหลี่แอบคิดภาพพี่ใหญ่ที่มีหน้าตาเย็นชาเรียบเฉยไปเกลี้ยกล่อมกู้หวนอวี้ให้มีภรรยาแล้วก็คิดไม่ออกเอาเสียเลยว่าจะสำเร็จได้อย่างไร มารดาของนางอาจจะต้องไปพบแพทย์ดูบ้างเสียแล้ว
ชั่วพริบตาก็ถึงวันงานเลี้ยง
งานนี้เป็นงานที่ต้องมีเทียบเชิญจึงมีแค่สหายสนิทจำนวนไม่มากเท่านั้น ถังหลี่จึงเห็นตู้เยี่ยนท่ามกลางผู้คนได้อย่างรวดเร็ว นางสวมชุดสีสันสดใสดูงดงามมากกว่าปกติ จนทำให้ดูโดดเด่นไม่น้อย แม้แต่ฮูหยินกู้ก็ยังสังเกตเห็นได้เช่นกัน จึงถามถังหลี่ว่าหญิงสาวผู้นั้นเป็นใคร?
“พี่สาวของเสี่ยวเว่ยเจ้าค่ะ” ถังหลี่กล่าว
ตู้เว่ยเป็นคู่หมั้นของหลานชาย ฮูหยินกู้จึงคุ้นเคยกับเด็กสาวเป็นอย่างดี จึงอดไม่ได้ที่จะมองอีกสองสามครั้ง
ตู้เว่ยและเว่ยจื่ออี้เพิ่งหมั้นกันได้ไม่นานและยังไม่แต่งงานกัน ตู้เว่ยจึงไม่ได้มาร่วมในงานเลี้ยงครั้งนี้ แต่เหตุใดพี่สาวของนางถึงมาร่วมงานได้เล่า
ถังหลี่จึงเล่าเรื่องของตู้เยี่ยน ให้มารดาฟัง ฮูหยินกู้มองหญิงสาวสองสามครั้ง ภายในใจก็คิดวาดภาพนางเป็นสะใภ้สกุลกู้ไปเสียแล้ว นางเอ่ยปากกับบุตรสาวทำให้ถังหลี่ถึงกับหัวเราะขบขันมารดา
“ท่านแม่ ท่านหลงสะใภ้มากไปแล้วเจ้าค่ะ”
ฮูหยินกู้ถอนหายใจ
“แม่คิดเรื่องนี้มาตลอดจนไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว”
แต่นางยังคงไม่สิ้นหวัง หญิงสาวนางหนึ่งตกหลุมรักกู้หวนอวี้จนเริ่มแสดงออกก่อน แต่ไม่นานนักนางคงจะถอดใจเพราะความอ่อนโยนแต่ไม่แยแสใครของเขา
ตู้เยี่ยนเริ่มคุ้นเคยกับผู้คนในงานมากขึ้น นางคุยกับคนชายหนุ่มคนหนึ่ง ที่เป็นรองแม่ทัพและทหารคนสนิทของกู้หวนอวี้ ชื่อจางจ้าวหมิง เขารู้จักกู้หวนอวี้เป็นอย่างดี เขาเป็นเด็กหนุ่มยังไม่เข้าวัยฉกรรจ์เหมือนกู้หวนอวี้ แต่เมื่อพิจารณาจากฝ่ามือที่หยาบกร้านก็ได้รู้ว่าเขาจับดาบสังหารศัตรูมาอย่างโชกโชน
เมื่อมีหญิงสาวมาพูดคุยด้วยชายหนุ่มก็หน้าแดง แต่ไม่นานนักเขาก็จับได้ว่าแท้จริงแล้วนางสนใจท่านแม่ทัพกู้มากกว่า
“ท่านแม่ทัพชอบอ่านหนังสือ เล่นหมากและฝึกศิลปะการต่อสู้ เรื่องอาหารเขากินได้หมดเลย ไม่ค่อยจุกจิกเรื่องการกินสักเท่าไหร่” จางจ้าวหมิงบอกข้อมูล
“หากเขาไม่ชอบใคร เขาจะปฏิเสธ เคยมีองค์หญิงของแคว้นศัตรูมาชอบพอ แต่ท่านแม่ทัพได้บอกปัดไป” ตู้เยี่ยนจดจำรายละเอียดเอาไว้ ตอนที่นางได้ยินว่ามีองค์หญิงของแคว้นศัตรูมาชอบแต่โดนปฏิเสธ นางยิ่งคิดว่ากู้หวนอวี้ดูน่าหลงใหลอย่างบอกไม่ถูก
ขณะที่ตู้เยี่ยนถามจางจ้าวหมิงเรื่องกู้หวนอวี้ สายตาของนางก็จับจ้องอยู่ที่เขา วันนี้กู้หวนอวี้สวมชุดสีขาวดูสง่างามและหล่อเหลามาก เมื่อเห็นว่ากู้หวนอวี้เดินออกมาจากโต๊ะนางจึงเดินไปหาเขาและยื่นถุงหอมที่ตัวเองทำให้
ตู้เยี่ยนรู้สึกเขินอาย เพราะฝีมือในการเย็บปักของนางไม่ค่อยดีนัก แม้ถุงหอมนี้จะดูงดงามน้อยกว่าที่ขายตามท้องถนน นางก็อยากจะมอบสิ่งของแทนใจให้เขา
ตู้เยี่ยนลังเลว่าเขาจะไม่ชอบถุงหอมของตนเอง
“ให้ข้าหรือ?” กู้หวนอวี้รับถุงหอมไปพร้อมกับใบหน้ายิ้มแย้มและน้ำเสียงที่อ่อนโยน
“งดงามมาก ขอบคุณ”
ตู้เยี่ยนมีความสุขมากจนไม่ทันสังเกตว่ารอยยิ้มของเขาวาดไปไม่ถึงดวงตา