บทที่ 774 สานสัมพันธ์
จางจ้าวหมิงไม่อาจห้ามสายตาตัวเองไม่ให้มองตู้เยี่ยนได้ เขารู้ว่าการจ้องมองหญิงสาวเช่นนี้ถือว่าไร้มารยาทและหยาบคายมาก แต่เมื่อคิดว่าหลังจากนี้จะไม่มีโอกาสได้พบนางอีกแล้ว เขาจึงอดไม่ได้ที่จะมองนางอีก ตู้เยี่ยนเองก็มองเขาเช่นกัน ราวกับว่านางกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่
“พี่จาง ท่านช่วยอะไรข้าหน่อยได้หรือไม่?”
“อะไรหรือ?” จางจ้าวหมิงถามทันที ตู้เยี่ยนรู้สึกขัดเขิน
“แค่..สุขภาพของท่านพ่อข้าไม่ค่อยดีนัก เขาต้องนอนอยู่บนเตียงเสมอ หมอซูเลยสอนวิธีนวดตัวให้ท่าน แต่ข้าควบคุมแรงไม่ค่อยได้เกรงว่าจะทำให้ท่านพ่อเจ็บ ข้าเลยอยากลองกับผู้อื่นดูก่อน…” จริงๆ แล้วนางสามารถทดลองกับสาวใช้ได้ แต่ตอนนี้ตู้เยี่ยนรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดแปลกออกไป
จางจ้าวหมิงใจดีกับนางมาก นางจึงอยากลองดู
หลังจากที่เอ่ยไปแล้ว นางก็เขินอายมากขึ้น แม้ว่าหมอซูจะกล่าวว่าในทางการแพทย์แล้ว ชายหญิงล้วนไม่แตกต่าง แต่กับจางจ้าวหมิงนางยังไม่คุ้นเคยขนาดนั้น.. แต่ในตอนที่นางคิดจะถอนคำพูดจางจ้าวหมิงก็ตอบตกลง
“ได้สิ ข้าเองก็ปวดเอวเหมือนกัน หลังจากที่เจ้าลองนวดให้ข้าแล้วบางทีอาการของข้าอาจจะดีขึ้น” ตู้เยี่ยนจะได้ช่วยเขา นางจะได้ไม่รู้สึกติดหนี้อะไรกับเขาอีก
ดวงตาของจางจ้าวหมิงเป็นประกายเกินกว่าที่ตู้เยี่ยนจะถอนคำพูด หญิงสาวพยักหน้า
“ตอนนี้ข้าว่างพอดี เจ้าอยากลองดูเลยหรือไม่?” จางจ้าวหมิงกล่าว ตอนนี้แม่ทัพให้เขาหยุดงานได้ อีกทั้งตู้เยี่ยนก็ใจร้อนอยากทดสอบฝีมือของตนจึงกล่าวว่า
“เอาสิ ท่านเข้ามาในบ้านข้าก่อน”
“อืม”
ตู้เยี่ยนจึงพาจางจ้าวหมิงเข้ามาในบ้านและบังเอิญได้พบกับตู้เว่ย ดวงตาของนางมองไปที่คนทั้งสอง นางรู้จักจางจ้าวหมิงเพราะเขาคือคนสนิทของคุณชายรองกู้ แต่สงสัยว่าเหตุใดทั้งคู่จึงอยู่ด้วยกันได้…
เมื่อโดนน้องสาวมอง ตู้เยี่ยนอดรู้สึกเขินอายอีกครั้งไม่ได้
“ข้าเรียนวิธีนวดมาจากหมอซู รองแม่ทัพจางไม่ค่อยสบายตัว ข้าเลยอยากลองวิชา” นางรีบอธิบายราวกับกังวลว่าน้องสาวจะเข้าใจผิด
“ข้ายังไม่ได้คิดอะไรเป็นอย่างอื่นเลย” ตู้เว่ยว่า ทำให้คำอธิบายของตู้เยี่ยนดูไร้ประโยชน์ทันที
ตู้เยี่ยนหน้าแดง ตู้เว่ยไม่ได้ถามต่อ แต่พูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม
“พี่สาวลองดูเถอะ พอเชี่ยวชาญแล้วจะได้นวดให้ท่านลุง”
หลังจากที่ตู้เว่ยรู้ว่าตัวเองไม่ใช่บุตรสาวของตู้จาง นางก็ไม่ได้เรียกเขาว่าท่านพ่ออีก
ก่อนหน้านี้ตู้เว่ยเคยคิดว่าตู้จางเป็นบิดาผู้ให้กำเนิดนาง คิดว่าเขาไม่เคยสนใจตัวเองเลย นางจึงเกิดความไม่พอใจอยู่ลึกๆ แต่หลังจากได้รู้เรื่องราวของตน ตู้เว่ยจึงคิดได้ว่าท่านลุงตู้ได้เสียสละเพื่อนางมากเพียงใด เขาดีกับนางมาก ตู้เว่ยรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณของเขา ดังนั้นหลังจากที่หมอซูรักษานางจนพูดได้แล้ว นางและพี่สาวจึงพาลุงตู้ไปหาหมอซูเพื่อรักษา ท่านหมอซูบอกว่าอาการป่วยของท่านลุงตู้อยู่ที่กระดูกไม่อาจจะรักษาให้หายขาด ทำได้เพียงบรรเทาอาการเท่านั้น
หลังจากที่ใช้วิธีบรรเทาอาการตามที่หมอซูสอน สุขภาพของท่านลุงก็ดีขึ้นตามลำดับ วิธีนวดที่ตู้เยี่ยนพูดถึง น่าจะเป็นการรักษาท่านลุงเช่นกัน
ตู้เยี่ยนพยักหน้า นางพาจางจ้าวหมิงไปยังห้องด้านในที่มีตั่งตัวใหญ่ตั้งอยู่
“พี่จางนอนลงบนตั่งตัวนี้ก่อน” จางจ้าวหมิงถอดรองเท้านอนลงบนตั่งทันที
“ข้าจะเริ่มนวดท่านล่ะนะ” ตู้เยี่ยนว่า
“มาสิ ข้าพร้อมแล้ว”
ตู้เยี่ยนวางมือลงบนเอวของเขา นางสัมผัสได้ถึงกล้ามเนื้อบริเวณเอวของจางหมิงจ้าว ด้วยเหตุนี้จึงจินตนาการได้ว่าเอวและกล้ามเนื้อที่หน้าท้องของเขาจะแข็งแรงสักเพียงไหน
ตู้เยี่ยนรีบหยุดความคิดของตนเอง นางกำลังฝึกนวดอยู่จะมาคิดเหลวไหลเช่นนี้ได้อย่างไร หมอซูพูดว่าหญิงชายไม่มีการแบ่งแยกเพศ นางไม่ควรคิดเลยเถิด
“พี่จาง ท่านร่างกายแข็งแกร่งมากเลย” นางกดที่ลำตัวเขาสองครั้ง
“กดให้แรงกว่านี้สิ” จางจ้าวหมิงว่า ตู้เยี่ยนเพิ่มแรงกดลงไปแต่ก็รู้สึกยังไม่แรงพอ
“ใจเย็นๆ..” จางจ้าวหมิงว่า
“มันเบามากจนข้าไม่รู้สึกอะไรเลย”
ตู้เยี่ยนรู้สึกหงุดหงิดที่ตัวเองไร้ประโยชน์
“ขั้นแรกเจ้าต้องทำตัวให้คุ้นเคยก่อน ถึงจะเพิ่มน้ำหนักให้แรงขึ้นมาได้” จางจ้าวหมิงสอน เมื่อได้ยินคำพูดของเขา นางก็มีกำลังใจเพิ่มขึ้น หญิงสาวใช้วิธิที่หมอซูสอนลงมือนวดให้เขาต่อ
จางจ้าวหมิงหลับตา รู้สึกได้ถึงฝ่ามือเล็กๆ อ่อนนุ่มที่บริเวณแผ่นหลังของเขา เป็นสัมผัสที่อบอุ่นมาก ชายหนุ่มเม้มริมฝีปาก สีหน้าเริ่มจริงจังราวกับพยายามระงับอารมณ์ การนวดในครั้งนี้ให้ทั้งความสุขสันต์และทรมานจิตใจเขาเหลือเกิน…
เขาหวังว่ามันจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่อีกใจก็อยากให้ผ่านไปช้าๆ
“เอาล่ะ” เสียงโล่งใจดังขึ้นมา
จางจ้าวหมิงหันไปมอง ใบหน้าของหญิงสาวแดงระเรื่อ หน้าผากและจมูกของนางมีเหงื่อซึมออกมาก ริมฝีปากมีสีแดงสด ดวงตาของจางจ้าวหมิงวูบไหว ขณะที่ลูกกระเดือกของเขาขยับ ชายหนุ่มลอบกลืนน้ำลาย
“พี่จาง? จ้าวหมิง?”
ตู้เยี่ยนเรียกหลายครั้ง จนเขาได้สติ
“เป็นอย่างไรบ้าง?” นางกระพริบตาอย่างคาดหวัง
“ดีเลย ข้ารู้สึกสบายขึ้นมาก” จางจ้าวหมิงกล่าว ทำให้ตู้เยี่ยนมีความสุขขึ้นมา
“ดูเหมือนว่าวิธีของหมอซูจะดี แต่ว่ายังเบาไปหน่อย ข้าคงต้องฝึกฝนอีก” นางยกแขนเล็กๆ ของตนเองขึ้นมาดู
ไม่เป็นไร แค่ฝึกเพิ่ม!
“พี่จาง ท่านช่วยสอนวิธีทำให้ข้าเพิ่มความแข็งแกร่งมากขึ้นกว่านี้ได้หรือไม่?”
“ได้สิ” จางจ้าวหมิงตอบรับอย่างเร็ว “ข้าจะเริ่มสอนเจ้าตั้งแต่พรุ่งนี้”
“แล้ว..ท่านแม่ทัพ ”
“ข้าจะพูดกับกับเขาเอง”
“เอาล่ะ ข้าจะรอฟังข่าวจากท่าน งานของท่านมีความสำคัญเช่นกัน อย่าทำให้ท่านแม่ทัพไม่พอใจล่ะ”
“ไม่ต้องห่วง ไม่มีอะไรมากหรอก”
แม้ว่าจางจ้าวหมิงจะไม่อยากจากไปแต่จะอยู่ต่อก็คงเป็นเรื่องไม่ดี
จางจ้าวหมิงกลับไปที่จวนกู้เพื่อพบกับกู้หวนอวี้ คุณชายรองกู้เพิ่งเล่นหมากกับเหล่าจ้านเสร็จ เหล่าจ้านพ่ายแพ้อีกครั้ง
“เหตุใดถึงแพ้อีกแล้ว? ครั้งต่อไปข้าต้องชนะแน่”
กู้หวนอวี้ยิ้มไม่พูดอะไร เหล่าจ้านเดินไปมาสองครั้ง “พรุ่งนี้เล่นใหม่!” เขาทิ้งคำพูดไว้พร้อมกับเดินจากไป
กู้หวนอวี้หันไปมองรองแม่ทัพจ้าว
“จ้าวหมิง มีอะไรหรือ?” จางจ้าวหมิงเขินอาย ยกมือขึ้นเกาหัวของตน
“ท่านแม่ทัพ ข้าขอออกไปข้างนอกหนึ่งชั่วยามตอนเที่ยงทุกวันได้หรือไม่ขอรับ”
กู้หวนอวี้เห็นใบหน้าที่แดงซ่านของเขาก็รู้ได้โดยไม่ต้องถาม เขาจึงตอบตกลงทันที ทำให้จ้าวหมิงแปลกใจ ด้วยไม่คิดว่าจะราบรื่นเช่นนี้
“เจ้าเป็นหนุ่มแล้ว ได้เวลาหาภรรยาแล้วสิ” กู้หวนอวี้ตบบ่าเขาแล้วเดินจากไป จางจ้าวหมิงยืนเบิกตากว้าง
ท่านแม่ทัพรู้อะไรหรือ!?