ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน – ตอนที่ 317-2 หล่อ แข็งแกร่งและนิสัยดี (2)

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

ตอนที่ 317 หล่อ แข็งแกร่งและนิสัยดี (2)

ฟู่ชางติ่งเอ่ยเสียงเบา “แบบนี้คงสร้างชื่อได้แล้ว มีชื่อเสียง มีความสามารถ…หมอนี่นับว่าสร้างชื่อสำเร็จแล้ว หากทำได้ต่อเนื่อง ฝีมือเพียงพอ ไม่ว่าจะกลับหนานเจียงรับตำแหน่งผู้ว่าหรือรั้งอยู่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ก็สามารถประสบความสำเร็จได้แน่ ทั้งยังมีฐานเสียงของทุกคนแล้ว”

ผู้ฝึกยุทธ์ในการแข่งขันครั้งนี้มาจากแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศ

หลังจากนี้ไม่กี่ปี หลายคนจะเข้าสู่ขั้นสองถึงกระทั่งขั้นสาม เป็นกำลังหลักของพื้นที่นั้น

เพราะผู้ฝึกยุทธ์ที่มาครั้งนี้แทบจะอยู่ขั้นหนึ่งตอนปลายทั้งสิ้น

มีพื้นฐานเรื่องนี้แล้ว หลายปีผ่านไป ชื่อเสียงของฟางผิงก็จะแตะถึงจุดสูงสุด

แม้ว่าจะอายุน้อย แต่หลังจากเรียนจบ ฝีมือเพียงพอ กลายเป็นระดับสูงย่อมไม่มีใครตั้งคำถามเช่นกัน

จ้าวเหล่ยกลับไม่ได้คิดมากมายขนาดนั้น เอ่ยว่า “ประเด็นอยู่ที่ความสามารถ!”

พวกฟู่ชางติ่งและหยางเสี่ยวม่านกลอกตาทันที แม่งเหอะ นายถูกต่อยจนสมองเลอะเลือนแล้วหรือไง!

พวกเรากำลังวิเคราะห์เรื่องสร้างชื่อเสียง นายกลับมาพูดเรื่องความสามารถ คิดอะไรอยู่กัน?

แค่ความสามารถ แสดงให้เห็นถึงพลังต่อสู้เท่านั้น ไม่ได้สื่อให้เห็นอย่างอื่น

มีปรมาจารย์หลายคนที่มีความสามารถ แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนทำงานเบื้องสูงของมนุษย์ได้ทั้งหมด เพราะอะไร ไม่ใช่เพราะชื่อเสียงและกลยุทธ์ไม่เพียงพอหรือไง

เรื่องที่เกิดหลังเวที ฟางผิงไม่รู้เรื่อง

ประกาศเรื่องยาบำรุงแล้ว ฟางผิงก็เอ่ยต่อว่า “ไม่พูดมากละกัน การแข่งขันรอบนี้สิ้นสุดลง ผู้ฝึกยุทธ์ที่เข้าสู่ร้อยอันดับแรก ฉันจะให้โอกาสทุกคนเป็นพิเศษ เข้าไปในสมาคมผู้ฝึกยุทธ์มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ เลือกเรียนเคล็ดวิชาต่อสู้ระดับกลางได้อย่างหนึ่ง! หวังว่าทุกคนจะพยายามต่อไป ปีนี้ขั้นหนึ่ง ปีหน้าขั้นสาม การแข่งขันผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสองขั้นสามครั้งหน้า หวังว่าจะสามารถเห็นทุกคนได้เหมือนกัน!”

พูดเรื่องพวกนี้จบแล้ว ฟางผิงก็เดินลงจากเวทีไป

ด้านล่างเต็มไปด้วยเสียงปรบมือกึกก้อง

ด้านหลังเวที

ฟางผิงมาถึง ผู้ฝึกยุทธ์หญิงที่เป็นนักศึกษาใหม่บางส่วนก็ทยอยเดินเข้ามาด้วยสีหน้านับถือ ไม่มีความกลัวและหวาดหวั่นเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว ประธานเป็นคนดีคนหนึ่ง

ส่วนข่าวลือ นั่นต้องมีคนอิจฉาประธานแล้วตั้งใจกุเรื่องขึ้นมาแน่

ฟางผิงทำตัวเป็นกันเองเช่นกัน ส่งรอยยิ้มให้อยู่ค่อนวันกว่าจะไล่คนพวกนี้ไปได้

รอพวกเธอไปแล้ว ฟางผิงก็ปั้นหน้าแข็งขึ้นมาทันที มองไปทางพวกฟู่ชางติ่ง “จ้าวเหล่ย ฉันให้นายไปแข่งขันแลกเปลี่ยนที่มหาวิทยาลัยครุศาสตร์หวาตง นึกไม่ถึงว่านายจะแพ้ นายรู้หรือเปล่าว่าขายหน้าแค่ไหน?”

“หยางเสี่ยวม่าน เธอไปแข่งที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีหวาหนานก็แพ้เหมือนกัน ฝึกวิชายังไงกัน?”

“พวกนายสู้ถังเหวินไม่ได้ด้วยซ้ำ ยังไงเธอก็ต่อสู้จนเข้าไปถึงสองร้อยอันดับแรก มีหวังเข้าสู่ร้อยอันดับแรก ครั้งต่อไปหากขายหน้าแบบนี้อีก พวกนายสองคนอย่ากลับมหาวิทยาลัยเลยดีกว่า!”

จ้าวเหล่ยไม่ปริปาก ทั้งไม่ประชดประชันอะไร เขาเพิ่งเข้าสู่ขั้นสามตอนกลางเจอเข้ากับขั้นสามตอนปลาย ถูกคนตีอยู่ฝ่ายเดียว

ฝีมือไม่เพียงพอ ถูกตีถูกด่านั้นสมควรแล้ว

หยางเสี่ยวม่านกลับเอ่ยอย่างขุ่นเคือง “ฉันเพิ่งจะเข้าขั้นสามได้ไม่นาน…”

“นั่นเป็นเพราะเธออ่อนแอ เธอลองดูจ้าวเหล่ยที่ฝึกมาระยะเวลาพอๆ กับเธอสิ ตอนนี้ขั้นสามตอนกลางแล้ว เฉินอวิ๋นซีขั้นสามตอนกลางเหมือนกัน กระทั่งฟู่ชางติ่งยังใกล้ขั้นสามตอนกลางแล้ว…”

ฟู่ชางติ่งเงยมองฟ้า ทำไมตอนพูดถึงฉัน ใช้คำว่า ‘กระทั่งฟู่ชางติ่ง’ ล่ะ?

หมายความยังไง?

“อีกอย่างจ้าวเสวี่ยเหมยไปกับเธอ ทำไมจ้าวเสวี่ยเหมยชนะ แต่เธอแพ้ล่ะ?”

จ้าวเสวี่ยเหมยที่อยู่ด้านข้างอยากจะพูดว่าคนที่ฉันสู้ด้วยคือผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามตอนต้น หยางเสี่ยวม่านสู้กับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามตอนกลาง

แต่ฟางผิงไม่เปิดโอกาสให้เธอได้พูด เอ่ยต่อเนื่องว่า “ทุกคน พวกเราเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน ฉันขั้นสี่ตอนปลายแล้ว พวกนายยังก้าวเดินช้าๆ แบบนี้ ฉันรู้สึกปวดใจ!”

เวลานี้ทุกคนจึงเข้าใจทันที!

ขั้นสี่ตอนปลาย!

ฟู่ชางติ่งรีบประจบทันที “เก่ง เจ๋งสุดๆ ยอดเยี่ยมมาก นึกไม่ถึงว่าจะขั้นสี่ตอนปลายแล้ว…”

ปากพูดไปแบบนั้น แต่ในใจกลับด่าถึงบรรพบุรุษ

ไอ้หมอนี่บ้าไปแล้วหรือไง?

ขั้นสี่ตอนปลาย!

นายเพิ่งจะขั้นสี่ไม่กี่วันนี้เอง?

นี่จะให้คนมีชีวิตต่อไปได้ยังไง?

ขั้นสี่ยังก้าวหน้าไวกว่าคนที่อยู่ขั้นหนึ่งอีก ใช้ชีวิตอยู่ต่อแล้วไม่ได้จริงๆ!

แม้จะเป็นหยางเสี่ยวม่านที่ชอบพูดเอาชนะเขา ตอนนี้ยังเงียบไปเช่นกัน

ขั้นสี่ตอนปลาย!

นี่หมายความว่าปลายปีฟางผิงอาจจะเข้าสู่ขั้นสี่สูงสุดได้แล้ว ขึ้นปีสามเกรงว่าจะทะลวงขั้นห้าเช่นกัน

แม้ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยปักกิ่งหรือมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ อันที่จริงแทบมีผู้ฝึกยุทธ์ขั้นห้าไม่กี่คน

สาเหตุที่ปีก่อนมีเพราะว่ารุ่นนั้นเป็นรุ่นที่แข็งแกร่งจริงๆ

แต่ฟางผิง หรือปีสี่จะทะลวงถึงขั้นหก?

อาจจะทำได้เช่นกัน

จบการศึกษาด้วยขั้นหก มีคุณสมบัติที่จะอวดตัว ดูแคลนคนอื่นได้แล้ว

ชั่วเวลานั้นพวกเขาแทบจะเกิดความรู้สึกที่ว่าฉันช่างไร้ประโยชน์จริงๆ

ในความเป็นจริงพวกเขาเพิ่งจะเข้าปีสอง โดยเฉพาะพวกจ้าวเหล่ยที่เป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามตอนกลาง บางทีอาจจะใช้เวลาไม่นานก็กลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามตอนปลาย นี่ถือว่าเป็นชนชั้นแนวหน้าอย่างแท้จริงแล้ว

แม้เซี่ยเหล่ยจะหลอมกระดูกสามครั้ง แต่ก็เข้าสู่ขั้นสามตอนกลางตอนใกล้จบปีสอง ช่วงเวลาฝึกวิชาถือว่าไม่ช้าแต่อย่างใด

พวกจ้าวเหล่ยและเฉินอวิ๋นซีอาจจะสามารถล้ำหน้าเซี่ยเหล่ยตอนปีสองได้ ความเร็วนี้น่าตกใจเช่นกัน

แต่เมื่อเพื่อนร่วมชั้นเรียนเดียวกันอยู่สูงกว่าพวกเขาไปหนึ่งขั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะไม่กระทบกระเทือนจิตใจ

ฟางผิงถอนหายใจ ส่ายหัวว่า “ไม่ต้องมาประจบฉัน ทุกคนพยายามให้มากหน่อย เวลาไม่รอใคร ทุกคนควรใส่ใจกับเส้นทางผู้ฝึกยุทธ์ เพื่อนนักศึกษาบางคนควรรีบคว้าโอกาสทำเรื่องสำคัญ เลียนแบบจ้าวเหล่ย มุ่งมั่นกับการฝึกวรยุทธ์ อย่าเอาแต่ปล่อยข่าวลือไร้สาระไปโลกภายนอก ถูกหรือผิดนั้นรู้อยู่แก่ใจดี ลองดูสิ มีคนเชื่อข่าวลือนั่นหรือไง?”

หยางเสี่ยวม่านเงยหน้ามองท้องฟ้า นายไม่ระบุชื่อไปเลยล่ะ ทำไมต้องใช้คำว่า ‘เพื่อนนักศึกษาบางคน’ ด้วย

“เสี่ยวม่าน ฉันฝากความหวังไว้ที่เธอ ในหมู่นักศึกษาหญิง ฉันเชื่อในตัวเธอ ชื่มชมเธอที่สุดแล้ว แต่เธอยังคงทำให้ฉันผิดหวังอยู่บ้าง อวิ๋นซีอยู่ขั้นสามตอนกลาง เสวี่ยเหมยก็ใกล้ขั้นสามตอนกลางแล้ว เธอหลอมกระดูกสองครั้งควรฉวยความได้เปรียบในขั้นสามพยายามฝึกวิชาหน่อย เพื่อนๆ ทุกคน พยายามกันเข้าล่ะ เส้นทางผู้ฝึกยุทธ์ยังอีกยาวไกล ฉันจะรอพวกนายอยู่ที่จุดสูงสุดละกัน!”

ฟางผิงกอดอกแล้วก็สาวเท้าจากไป

เขาไปแล้ว จ้าวเหล่ยจึงเอ่ยขึ้น “ฉันว่านะ ความสามารถยังคงสำคัญที่สุด ไร้ความสามารถ นายเสแสร้งยังเสแสร้งชนะเขาไม่ได้ จะมีประโยชน์อะไร?”

ทุกคนต่างพยักหน้า!

มีเหตุผล!

คนๆ นี้แข็งแกร่งมาก หน้าหนากว่าคนอื่นเยอะ

หยางเสี่ยวม่านประชดว่า “ตอนนี้เขาทำตัวเหมือนเป็นอธิการยิ่งกว่าอธิการซะอีก พวกนายว่าอธิการจะปล่อยเขาไว้หรือเปล่า? ตอนนี้เข้าไปยุ่งทั้งเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ในมหาวิทยาลัย เหลือแค่พวกอาจารย์ที่ยังไม่เข้าไปควบคุมเท่านั้น…”

ฟู่ชางติ่งเอ่ยด้วยยิ้มเฝื่อนๆ “ใครบอกว่ายังไม่ไปควบคุมอาจารย์? เมื่อวานเขายังไปห้องทำงานอธิการ ยื่นเรื่องให้การแจกจ่ายทรัพากรของอาจารย์หลังจากนี้ตกเป็นความรับผิดชอบของสมาคม ถูกอธิการเตะออกมาด้วยซ้ำ เขาคิดจะชิงอำนาจจนบ้าไปแล้ว ใจกล้าจริงๆ ฉันล่ะยอมเลย”

ชิงอำนาจกับยอดฝีมือร่างทองขั้นแปด!

นึกไม่ถึงว่าฟางผิงกล้าไปขออำนาจในการแบ่งทรัพยากรของอาจารย์ ฟู่ชางติ่งยังคิดว่าเขาบ้าไปแล้ว

อำนาจการแบ่งทรัพยากรอาจารย์มาอยู่ในมือ นั่นหมายถึงหลายสิ่งหลายอย่าง เป็นแบบนี้อำนาจของพวกอู๋ขุยซานคงถูกฟางผิงแย่งชิงมาหมดแล้ว

พวกเขามองหน้ากัน ต่างไร้คำจะพูด

ช่างเถอะ ช่วงนี้อย่าไปหาเรื่องเจ้าบ้านั่นดีกว่า เขาอวดดีจนถึงขั้นกล้าแหย่ขั้นแปด ยังจะมีใครกล้ากว่านี้อีก?

ตอนนี้ฟางผิงที่เดินออกมาจากสนามกีฬา ไม่คิดว่าตัวเองกำเริบเสิบสานแต่อย่างใด

จากคำพูดของฟางผิงนั้น เขากำลังฝึกความกล้าหาญอยู่

ราชาสัตว์ประหลาดขั้นแปดยังหาเรื่องมาแล้ว ผู้ฝึกยุทธ์มนุษย์ขั้นแปดยังไม่เคยหาเรื่องจริงๆ เมื่อวานยั่วโทสะอู๋ขุยซาน เหล่าอู๋ปล่อยพลังจนแทบจะกดดันฟางผิงตาย

นี่ทำให้ฟางผิงกระจ่างแจ้งขึ้นมา เจอกับขั้นแปด มีลูกหลานเยอะได้ก็ควรมีเยอะๆ หน่อย อย่าคิดว่าตัวเองจะสามารถเอาชนะขั้นแปดได้

“ไม่สิ ขั้นเจ็ดก็เหมือนกัน ยังไงก็เป็นระดับสูง เจอแล้วหนีเร็วได้เท่าไหร่ยิ่งดีเท่านั้น!”

ฟางผิงรับรู้ถึงความห่างชั้นแล้ว รู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองสมองปลอดโปร่งเป็นพิเศษ เรื่องที่เคยโม้กับข้างนอกว่าวิ่งเอาชนะขั้นแปดได้ อย่าได้คิดเป็นจริงเป็นจังเชียว

————————

—————————————————-

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน

Status: Ongoing
ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน ฟางผิงกลับมาเกิดใหม่ในวัย 18 ปีในโลกที่ไม่เหมือนเดิมพร้อมระบบประหลาด และที่นี่เองที่เขาได้ก้าวเข้าสู่โลกของการฝึกยุทธ์รายละเอียด อีกหนึ่งผลงานแฟนตาซี-กำลังภายในที่มาพร้อมระบบสุดโกง จากนักเขียนเดียวกับ STARGATE ปริศนาประตูแห่งดาราฟางผิงย้อนเวลามาอยู่ในร่างของตัวเองในวัย 18 ปีผู้คนรอบข้างยังคงเป็นเหมือนเดิม แต่ที่โลกนี้กลับยังมีการฝึกยุทธ์ และให้ความสำคัญกับผู้ฝึกยุทธ์ช่วงเวลาสั้นๆ ฟางผิงก็สัมผัสได้ถึงสิ่งหนึ่ง นั่นก็คือสังคมนี้โหดร้ายกับเขาเป็นอย่างยิ่ง!หากไม่เป็นผู้ฝึกยุทธ์ ไม่เป็นผู้ที่แข็งแกร่ง แม้ว่าตัวเองจะกลับมาเกิดใหม่เกรงว่าคงทำได้เพียงก้มหน้าก้มตาเป็นคนชนชั้นล่างเท่านั้นด้วยเหตุนั้นเขาจึงสอบเข้ามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ และกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์เพื่อให้ตนและครอบครัวสามารถใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในสังคมแห่งนี้แต่แน่นอนว่าเส้นทางของการเป็นผู้แข็งแกร่งย่อมไม่ง่ายดายขนาดนั้นแม้เขาจะมีระบบประหลาดคอยช่วยเหลืออยู่ก็ตามเรื่อง : ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนานผู้เขียน : เหล่าอิงชือเสี่ยวจี (老鹰吃小鸡)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท