เซียนคนนั้นไม่เคยได้ยินตี้จวินใช้เสียงราวกับกำลังสะอื้นไห้เช่นนี้พูดกับใครมาก่อน
เขาเหลือบมองชายหนุ่มอย่างเผลอตัว แต่นอกจากนิ้วมือสีซีดของอีกฝ่ายแล้ว เขาก็ไม่เห็นอะไรอีก
ตี้จวินแทบไม่ต่างจากปกติ บนใบหน้าของเขายังมีรอยยิ้มที่เหมือนไม่ใช่รอยยิ้มประดับอยู่ในระหว่างงานเลี้ยงของภพสวรรค์ ทั้งยังรับชมการขับร้องและการเต้นรำเฉลิมฉลองนี้อย่างเพลิดเพลินอีกด้วย
ทุกอย่างดูจะกลับคืนสู่สภาวะปกติ ตี้จวินมักพาคนไปฟังสวดมนต์ที่ดินแดนพระพุทธศาสนาด้วยทุกครั้งเพื่อที่เขาจะได้ไม่เบื่อ
คนที่ไปกับเขาบ่อยที่สุดเห็นจะเป็นแม่มดที่เพิ่งได้รับการเลื่อนฐานะขึ้นเป็นเซียนนางนั้นนั่นเอง
เซียนคนอื่นๆ ไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น ดังนั้นพวกเขาจึงกลัวอย่างมากว่าอรหันต์หงส์เพลิงจะไม่พอใจเมื่อนางเห็นพวกเขา
แต่ตี้จวินกลับจงใจเดินผ่านทางเส้นนั้นทั้งที่มีทางเส้นอื่นอีกมากมาย
ความจริงแล้ว ทุกครั้งที่พวกเขาเดินผ่านประตูอารามของหงส์เพลิง มันมักจะปิดอยู่เสมอ แต่ในวันที่สาม พวกเขาก็เผชิญหน้ากันจนได้
แต่อรหันต์หงส์เพลิงกลับไร้ซึ่งความเปลี่ยนแปลง นางยังคงดูเกียจคร้านและไม่สนใจไยดีอะไรเหมือนดังปกติ แม้นางจะไม่พูดจาอะไรกับใคร แต่นางก็ไม่ได้ทำตัวเสียมารยาทแต่อย่างใด ไม่ว่าคนที่ปรากฏตัวขึ้นจะเป็นใคร มันก็ไม่มีผลกระทบอันใดต่อนาง
นางใช้เวลาส่วนมากไปกับการนั่งอยู่ใต้ต้นโพธิ์โดยมีพระไตรปิฎกวางอยู่บนหน้าขา บางครั้งนางจะหันหน้าไปตรวจสอบดูการเจริญเติบโตของต้นโพธิ์ด้วยสีหน้าเย็นชา บางครั้งก็เอ่ยขึ้นเสียงเบาราวกับกำลังพูดคุยกับต้นโพธิ์ หรือไม่ก็คุยกับตัวเอง
พวกเขาไม่ได้อยู่ห่างกันถึงเพียงนั้น เซียนคนนั้นรู้สึกว่าอรหันต์หงส์เพลิงต้องเห็นตี้จวินและแม่มดสาวอย่างแน่นอน เขารู้สึกแปลกใจที่นางไม่แสดงปฏิกิริยาอะไรออกมาแต่อย่างใด
แม่มดสาวยิ้มพลางเอ่ยว่า ”ข้าเคยได้ยินคนลือกันว่าอรหันต์หงส์เพลิงไม่เคยเห็นใครอยู่ในสายตานอกจากต้นโพธิ์ เวลานี้เมื่อข้าได้มาพบนาง ในที่สุดถึงได้เข้าใจว่าข่าวลือนั้นเป็นเรื่องจริง น้อยคนนักที่จะตั้งใจรดน้ำต้นโพธิ์ด้วยน้ำศักดิ์สิทธิ์ น่าเสียดายที่ต้นโพธิ์ต้นนั้นไม่สามารถกลายร่างเป็นมนุษย์ได้ ถ้ามันทำได้ เวลาหลายร้อยปีที่พวกเขาใช้ร่วมกันคงนับว่าเป็นโชคชะตาของอรหันต์หงส์เพลิง แต่ดูจากท่าทางของอรหันต์หงส์เพลิงแล้ว นางดูไม่สนใจเลยว่าต้นโพธิ์จะกลายเป็นมนุษย์ได้หรือไม่ ทั้งหมดที่นางต้องการก็คือการได้อยู่ข้างๆ มัน นับว่าเป็นเรื่องน่าอิจฉายิ่งนัก โชคร้ายที่อรหันต์หงส์เพลิงเป็นผู้นำของพระพุทธศาสนา ดังนั้นหัวใจและจิตใจของนางจึงปรารถนาเพียงพระพุทธศาสนา และนางไม่มีทางมีความรักได้ ไม่อย่างนั้นหากดูจากท่าทางที่นางมีต่อมันแล้ว นางจะต้องตกหลุมรักต้นโพธิ์ต้นนั้นแน่”
ชายหนุ่มไม่ได้พูดอะไร รอยยิ้มของเขาลึกล้ำยิ่งกว่าปกติ มันดูเย็นชาจนไม่หน้ามอง ”หัวใจและจิตใจของนางปรารถนาเพียงพระพุทธศาสนาหรือ นางไม่ได้อยู่ในกรอบเหมือนอย่างที่นางแสดงให้คนอื่นเห็นหรอก”
ชายหนุ่มเดินจากไปทันทีหลังจากพูดประโยคนั้นจบ สายลมที่ก่อตัวขึ้นด้วยฝีมือของเขาทิ้งความรู้สึกเจ็บแปลบราวกับถูกเข็มทิ่มแทงเอาไว้บนใบหน้า
เซียนคนนั้นสัมผัสได้ว่ามีอะไรแปลกๆ เกิดขึ้นกับตี้จวินและอรหันต์หงส์เพลิง แต่เขาคิดไม่ออกว่ามันคืออะไรกันแน่
ตรงกันข้าม แม่มดสาวที่ยืนอยู่ข้างๆ กลับเผยรอยยิ้มบางออกมา ความอ่อนโยนแล่นผ่านดวงตาของนางทันทีที่นางเคลื่อนสายตาขึ้น ตัวจริงของนางคือดอกบัวทองคำจริงๆ
ดอกบัวทองคำมีสัมผัสที่หกและจิตทั้งเจ็ดอยู่แล้วตั้งแต่ก่อนที่นางจะได้ร่างมนุษย์
จิตดวงหนึ่งของนางปรากฏขึ้นได้เพราะตี้จวิน ทำให้สุดท้ายนางต้องร่วงหล่นลงสู่แดนปีศาจ
เนื่องจากวิญญาณดั้งเดิมของนางคือดอกบัวทองคำ ดังนั้นการบำเพ็ญเพียรเพียงหนึ่งร้อยปี นางก็สามารถเบ่งบาน และได้รับการเลื่อนฐานะเป็นชาวสวรรค์
ตอนที่นางอยู่ในพระพุทธศาสนา นางตระหนักได้แล้วว่าผู้หญิงประเภทใดที่จะสามารถดึงดูดความสนใจจากตี้จวินได้
คำตอบนี้ไม่ได้มาจากไหน แต่มาจากเรื่องที่หงส์เพลิงไม่รับรู้ถึงตัวตนของตี้จวินตอนที่นางกำลังตามล่าปีศาจอยู่นั้นเอง
แต่เวลานั้นกลับเป็นชายหนุ่มต่างหากที่กำลังจิบสุราและจับตามองหงส์เพลิงอยู่
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ดอกบัวทองคำก็ตระหนักได้ว่านางจะต้องโดดเด่นไม่เหมือนใคร จึงจะสามารถเรียกความสนใจจากชายหนุ่มได้
นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้นางเลือกสารภาพรักกับเขาต่อหน้าสาธารณชนเช่นกัน
การทำเช่นนี้จะทำให้ชายหนุ่มจดจำนางได้
อันที่จริง ทั้งหงส์เพลิงและนางต่างก็ใช้กลยุทธ์เดียวกัน
พวกนางต่างก็เล่นตัวกันทั้งคู่
แต่หงส์เพลิงโง่เขลาที่ทำตัวดื้อรั้นเกินไป นางไม่รู้ว่าต่อให้นางจะดื้อรั้นเพียงใด แต่บางครั้งนางก็ต้องเรียนรู้ที่จะประนีประนอมเสียบ้าง
ความจริงแล้วดอกบัวทองคำเชื่อมาตลอดว่าความสนใจของชายหนุ่มจะหมดลงทันทีที่เขาสามารถพิชิตบางสิ่งบางอย่างได้อย่างง่ายดาย
หงส์เพลิงมีข้อได้เปรียบมากกว่าเพราะตอนแรกนางเป็นผู้ชนะ
แต่ถ้านางเป็นคนรุกก่อนทุกครั้ง ผู้ชายย่อมรู้สึกเบื่อในที่สุด
ดอกบัวทองคำยิ้มออกมาเล็กน้อย นางปลอมตัวเป็นแม่มดเพื่อไม่ให้ใครจำนางได้
แม้กระทั่งสมเด็จก็ไม่รู้ถึงนิสัยชั่วร้ายที่นางได้มาตอนอยู่ในนรก…
ข่าวการแยกทางของตี้จวินและหงส์เพลิงแพร่สะพัดไปทั่วภพภูมิทั้งหกราวกับไฟลามทุ่ง
ดูเหมือนจะไม่มีใครประหลาดใจกับข่าวนั้นเลย อันที่จริง พวกเขากลับเห็นข่าวนั้นเป็นเรื่องตลกระหว่างยกจอกขึ้นจิบสุราในงานเลี้ยงของภพสวรรค์ด้วยซ้ำ
”ข้าบอกแล้วว่าอย่างไร ทั้งสองคนจะต้องเลิกกันแน่นอน ตี้จวินไม่มีทางเอาอกเอาใจใครตลอดไปแน่ ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่หงส์เพลิงไม่ใช่รสนิยมของเขาอีกด้วย หงส์เพลิงอาจดูเข้าหายากจนตี้จวินอยากลองเท่านั้นกระมัง”
”เจ้ารู้ได้อย่างไร เจ้าไม่ใช่ตี้จวินด้วยซ้ำ”
”ข้าต้องรู้อยู่แล้วสิ หงส์เพลิงมีรูปโฉมและมีเสน่ห์อันหายากยิ่ง แต่นางเย็นชาเกินไป ไม่มีผู้ชายคนไหนชอบผู้หญิงที่ไร้ความอ่อนโยนหรอก เจ้าดูหงส์เพลิงสิ นางสามารถชำระล้างทะเลเลือดได้โดยไม่กะพริบตา วันใดวันหนึ่งนางอาจจะแทงข้างหลังเจ้าเอาก็ได้ ผู้หญิงเช่นนั้นมีหัวใจโหดเหี้ยม เจ้าคงไม่รู้สึกสบายใจนักหรอกหากต้องอยู่กับนาง ไม่เหมือนแม่มดสาวที่เพิ่งได้เลื่อนฐานะขึ้นมาเป็นชาวสวรรค์ นางรู้ว่าเมื่อใดควรแข็งเมื่อใดควรอ่อน ผู้หญิงแบบนี้สิที่จะสามารถเอาชนะใจชายได้”
”เจ้าอย่าพูดจาใจร้ายกับหงส์เพลิงถึงเพียงนั้นสิ ก่อนหน้านี้ใครกันหรือที่เพิ่งทำท่าทางอยากแต่งงานกับหงส์เพลิงตั้งแต่แรก”
”จริงอยู่ที่ข้าชอบหงส์เพลิง แต่ข้าขอมองผู้หญิงเช่นนางอยู่จากที่ไกลๆ ดีกว่า ถ้าข้ามีโอกาสได้อยู่กับนางทั้งวัน ข้าก็คงรู้สึกเบื่อเหมือนกัน ในฐานะผู้หญิง นางต้องรู้จักเผยความอ่อนโยนออกมาบ้าง ใครบ้างจะชอบคนที่รู้จักแต่การฆ่าฟัน ตี้จวินอาจจะขอเลิกกับนางเพราะขาดความแปลกใหม่ก็ได้”
”นี่ ระวังปากหน่อย นางมานั่นแล้ว!
”ใครมาหรือ”
”ก็หงส์เพลิงน่ะสิ”
ทันทีที่พวกเขาได้ยินคำพูดนั้น คนในงานเลี้ยงของภพสวรรค์ก็รีบปิดปากเงียบพร้อมกับหันหน้ากลับไปทันที เป็นอย่างที่คิด ร่างที่อยู่ไม่ไกลนั้นกำลังขยับเข้ามาหาพวกเขาอย่างช้าๆ
นางเหยียบอยู่บนก้อนเมฆ หงส์เพลิงแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นๆ เพราะนางไม่ได้แต่งองค์ทรงเครื่องแต่อย่างใด นางยังคงสวมเสื้อคลุมยาวระพื้น ผมสีดำของนางตัดกับเสื้อคลุมสีขาวตัวนั้น ที่ข้อมือขาวของนางมีสร้อยลูกประคำพันอยู่ บนไหล่ของนางมีเสื้อคลุมสีแดงราวกับเปลวเพลิงตัวหนึ่งพาดอยู่
ร่างสูงและขาเรียวยาวคู่นั้นเผยให้เห็นความบริสุทธิ์และไร้เดียงสาที่ซ่อนอยู่ภายใต้ท่าทางดื้อรั้นของนาง นางสามารถสร้างความประทับใจได้อย่างมากเพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น
พูดกันตามตรงว่า ทุกการปรากฏตัวของหงส์เพลิงนั้นทำให้ทุกคนตกตะลึงอยู่เสมอ
ผู้หญิงคนนี้เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์อันหล่อเหลาไม่ว่าจะภายนอกหรือภายใน
ราวกับว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นางก็จะเป็นตัวตนอันโดดเด่นเพียงหนึ่งเดียวของฟ้าดิน และจะไม่มีวันยอมอ่อนให้ใครแม้แต่นิดเดียว
อรหันส์สาวๆ และเทพธิดาที่แต่งตัวกันมาอย่างงดงามล้วนแต่ดูธรรมดาไปทันทีเมื่อเทียบกับนาง
ไม่มีใครสามารถปฏิเสธความสง่างามที่หงส์เพลิงสั่งสมมาตั้งแต่ยังเด็กได้ มันหลอมรวมเข้ากับการเคลื่อนไหวของนางได้เป็นอย่างดี และไม่มีใครที่สามารถเลียนแบบนางได้
แต่แม้จะเป็นเช่นนั้น นางก็ยังถูกตี้จวินทิ้ง
เวลานี้ ทั่วภพภูมิทั้งหกต่างก็รู้ว่าหงส์เพลิงสมควรแก่การถูกเหยียดหยามเพียงใด…