บทที่ 807 เจดีย์เวหาตระกูลเทียน เข้าสู่ชั้นสิบแปดเพื่อฝึกฝน!
ตระกูลเทียนแข็งแกร่งมากจริง ๆ เป็นถึงกลุ่มตระกูลแนวหน้าของชั้นที่สอง มีกองกำลังเพียงน้อยนิดที่สามารถต่อกรด้วยได้
ซีและเต่าชราแวะสอบถามเล็กน้อยว่าตระกูลเทียนตั้งอยู่ที่ใด
ใช้เวลาเพียงไม่นานพวกเขาก็มาถึงสถานที่ตั้งตระกูลเทียน
เขาเขียวขจีธารน้ำใส นกขับขาน บุปผากรุ่นกลิ่นหอม สถานที่แห่งนี้เงียบสงบเป็นอย่างยิ่ง มีหมอกสีขาวพิสุทธิ์แผ่กระจาย ดินแดนที่ตระกูลเทียนครอบครองนั้นไม่ธรรมดา เต็มไปด้วยสสารทรงพลังและอุดมสมบูรณ์
สิ่งก่อสร้างสูงตระหง่านเสียดฟ้า เปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายความโบราณ ประหนึ่งยักษ์ขนาดมโหฬารมองลงมายังโลกหล้า สง่างามชวนให้คนมองหวั่นไหว รุ้งมงคลทอประกายงดงาม
“ไม่เลว…”
ซีมองสภาพแวดล้อมรอบด้าน ก่อนพยักหน้าออกมาด้วยความพึงพอใจ หากนางฝึกฝนที่นี่ ใช้เวลาเพียงไม่นานนางก็จะสามารถขึ้นไปยังชั้นสามได้
“แข็งแกร่งเสียยิ่งกว่าลานเต๋าของข้าสิบล้านเท่า!”
เต่าชราเต็มไปด้วยอารมณ์มากมาย โชคดีที่มันติดตามมากับซี ไม่เช่นนั้นมันจะได้รับโอกาสอย่างการเข้ามายังเทวโลกชั้นที่สองเช่นนี้ได้อย่างไรกัน
หากพึ่งพาเพียงตัวมันเอง เกรงว่ากระทั่งเข้าชั้นหนึ่งของเทวโลกยังเป็นเรื่องยากลำบาก
มีคนจากตระกูลเทียนทะยานออกมา เป็นสมาชิกวัยเยาว์สองคนที่มีหน้าที่เฝ้าประตู
“ท่านทั้งสองมีเรื่องอันใด?”
สมาชิกคนหนึ่งของตระกูลเทียนถามออกมาด้วยความสุภาพ สัมผัมได้ว่าซีนั้นไม่ธรรมดา และอาจไม่ธรรมดาเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นจึงไม่กล้าแสดงท่าทางโอหังออกมา
ถ้าไม่ใช่เพราะเหตุนี้ ตนจะสุภาพนอบน้อมเช่นนี้ได้อย่างไร สิ่งมีชีวิตทั่วไปล้วนถูกขับไล่ทันทีที่มาถึง
“พวกข้ามาหาเทียนลู่ พวกเราเคยพบพานกันมา”
ซียิ้มน้อย ๆ ดูงดงามสะท้านใจคน “ฝากบอกเถิดว่าซีกับเต่ากุยซวีเสวียนมาขอพบ”
เต่ากุยซวีเสวียนก็คือเต่าชรา มันไม่ใช่เต่าธรรมดาทั่วไป ในจักรวาลโกลาหลของมัน สายเลือดนั้นถือได้ว่าทรงพลังน่าตื่นตะลึงเป็นอย่างยิ่ง มีสายเลือดจำนวนน้อยมากที่สามารถนำมาเปรียบเทียบได้
“มาหานายน้อยเทียนลู่อย่างนั้นหรือ?”
ประกายแสงแปลกประหลาดปรากฏขึ้นในดวงตาของสมาชิกตระกูลเทียนผู้นี้ ทว่ามันก็หายไปอย่างรวดเร็ว
เขาเอ่ยออกมาทันที “ท่านทั้งสองรอสักครู่เถิด ข้าจะไปแจ้งข่าว”
หลังจากนั้นเขาก็จากไปเพื่อบอกข่าว โดยทิ้งสมาชิกอีกคนไว้ที่นี่
หลังจากนั้นไม่นาน สมาชิกผู้นั้นก็กลับมาพร้อมกับผู้อาวุโสอีกหลายคน
“แขกคนสำคัญได้มาเยือนแล้ว โปรดอย่าถือสาที่พวกเราไม่อาจต้อนรับได้ทันเวลา!”
ชายชราผมขาวผู้หนึ่งเดินออกมาด้านหน้าสุด ก่อนกล่าวออกมาด้วยสีหน้ารู้สึกผิด
เขาแนะนำตัว บอกว่าตนเป็นผู้อาวุโสใหญ่ของตระกูลเทียน ได้รับคำยืนยันจากนายน้อยเทียนลู่ว่าซีและเต่าชราเป็นแขกคนสำคัญ!
“นายน้อยเทียนลู่และท่านประมุขมีธุระจำต้องออกไปด้านนอก ทว่านายน้อยเทียนลู่กำชับกับพวกเราอย่างจริงจัง ให้ปฏิบัติต่อทั้งสองท่านเป็นอย่างดี! หากต้องการสิ่งใดโปรดอย่าได้ลังเลที่จะเอ่ยออกมา!”
เขากล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม ท่าทางดูมีความเมตตาโอบอ้อมอารีเป็นอย่างยิ่ง
“ไม่อยู่หรือ…”
ซีเอ่ย “ไม่ใช่เรื่องใหญ่แต่อย่างใด ข้าเพียงแค่ต้องการฝึกฝนในดินแดนตระกูลเทียนสักระยะหนึ่ง”
“ท่านเกรงใจเกินไปแล้ว! นายน้อยเทียนลู่กล่าวว่าท่านทั้งสองคือผู้มีพระคุณอย่างยิ่งของนายน้อยเทียนลู่ ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องการฝึกฝนระยะหนึ่งเลย แม้ท่านทั้งสองต้องการจะฝึกฝนที่นี่ตลอดไปก็ย่อมได้”
ผู้อาวุโสใหญ่พูดเชื้อเชิญซีและเต่าชราด้วยรอยยิ้ม “เชิญท่านทั้งสองเข้ามาก่อนเถิด!”
ซีและเต่าชราเข้าไปยังด้านในดินแดนตระกูลเทียน
สภาพแวดล้อมภายในตระกูลนั้นดียิ่งกว่าภายนอกมาก สสารฝีกฝนปกคลุมอย่างหนาแน่น ซีประเมินในใจ หากนางฝึกฝนที่นี่ เวลาที่ใช้ในการก้าวขึ้นไปยังชั้นสามจะสั้นลงเป็นอย่างมาก
“แล้วเทียนหมิงผู้นั้นเป็นเช่นไรบ้าง?”
ระหว่างทาง เต่าชราเอ่ยถามผู้อาวุโสใหญ่
“เทียนหมิงผู้นั้นชั่วร้ายนัก จิตใจโหดเหี้ยมอำมหิต กระทั่งพี่ชายร่วมสายเลือดยังสามารถฆ่าได้ เช่นนั้นคงไม่ปล่อยเขาไปโดยง่ายกระมัง”
เต่าชราพูดต่อ
“ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น”
ผู้อาวุโสใหญ่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “อย่าพูดถึงเรื่องที่เขาลงมือกับนายน้อยเทียนลู่เลย ต่อให้เขาลงมือกับคนธรรมดาในตระกูล ก็จะไม่มีทางได้รับการให้อภัย จะต้องได้รับโทษอย่างสาสม!”
เขาเล่าว่าเทียนหมิงนั้นถูกขังอยู่ในคุกใต้ดินนวปรภพ นับเป็นการลงโทษสถานหนักอย่างถึงที่สุด เทียนหมิงจะต้องทนทุกข์ทรมานทั้งวันคืนเพื่อชดเชยความคิดที่ก่อไว้
“เช่นนั้นก็ยอดเยี่ยม คนผู้นั้นมีจิตใจน่ารังเกียจยิ่งนัก ไม่มีความเป็นมนุษย์อยู่แม้แต่น้อย สมควรต้องได้รับโทษอย่างรุนแรงที่สุด!”
เต่าชรายิ้มออกมาอย่างเบิกบาน
พวกเขาเดินมาถึงตำหนักแห่งหนึ่งอันเป็นห้องโถงต้อนรับแขกของตระกูลเทียน ก่อนผู้อาวุโสใหญ่จะสั่งให้คนมารินชาให้ซีและเต่าชรา
“ข้าขอไปเตรียมพร้อมสักครู่ จากนั้นจะพาท่านทั้งสองเข้าไปยังเจดีย์เวหาของตระกูลเทียนเพื่อฝึกฝน!”
ผู้อาวุโสใหญ่กล่าว จากนั้นก็อธิบายเรื่องเจดีย์เวหาให้ซีและเต่าชราฟัง
“เจดีย์เวหาเป็นสถานที่ฝึกฝนที่ดีที่สุดในตระกูลเทียนของพวกเรา! เป็นสมบัติล้ำค่าที่บรรพจารย์ตระกูลเรานำมาจากตระกูลหลัก สามารถรวบรวมแก่นปราณและสสารฝึกฝนอันบริสุทธิ์ที่สุดในโลกมาได้ นี่เป็นสิ่งที่ทำให้ตระกูลเทียนของพวกเรายืนหยัดมาได้จนถึงทุกวันนี้ กลายเป็นรากฐานของตระกูลอันทรงพลังที่สุด!”
เขาบอกเล่าว่าเจดีย์เวหาล้ำค่าเป็นอย่างยิ่งในตระกูลเทียน มีเพียงคนจำนวนน้อยนิดที่มีคุณสมบัติเพียงพอจะเข้าไปในเจดีย์เวหาเพื่อฝึกฝน อีกทั้งยังมีกำหนดเวลาอีกด้วย
ซีและเต่าชราถือว่ามีบุญคุณกับนายน้อยเทียนลู่อย่างใหญ่หลวง จึงสามารถเข้าไปฝึกฝนด้านในเจดีย์เวหาได้โดยไม่จำกัดเวลา
“รบกวนแล้ว!”
ซียิ้มพร้อมกล่าวขอบคุณ
เจดีย์เวหา นางได้เห็นทันทีตั้งแต่เข้ามาในดินแดนตระกูลเทียนแล้ว มันพิเศษจริง ๆ มีกฎเกณฑ์อันไม่อาจอธิบายได้หมุนเวียนอยู่ ผลักดันให้แก่นปราณและสสารชั้นสูงหลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
หากฝึกฝนในเจดีย์เวหา จะต้องได้รับผลเพิ่มขึ้นครึ่งหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย บางทีอาจจะมากกว่านั้นเสียด้วยซ้ำ
“อย่าได้เกรงใจไป ข้าจะไปเตรียมพร้อมก่อน!”
ผู้อาวุโสใหญ่ยิ้มแล้วไปจากที่นี่
ซีและเต่าชรานั่งอยู่ในห้องโถงใหญ่รอผู้อาวุโสใหญ่กลับมา ระหว่างนั้นทั้งสองคนก็ดื่มชารอไปพลาง
“รสชาติไม่เลวเลย!”
เต่าชราจิบชา ดวงตาพลันเปล่งประกายขึ้นมา มันดื่มชาลงไปจนหมดถ้วย
“อร่อยยิ่งนัก สามารถเติมอีกได้หรือไม่?”
เต่าชราหัวเราะออกมา ไม่ได้มีความเขินอายแม้แต่น้อย หันไปหาสาวใช้ขอให้เติมชาด้วยใบหน้าหนาเป็นอย่างยิ่ง
“เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยสำหรับแขกคนสำคัญ!”
สาวใช้ยิ้มแผ่วบาง ก่อนจะรินชาอีกถ้วยให้เต่าชรา
เต่าชราดื่มหมดในอึกเดียว จากนั้นก็ให้สาวใช้เติมชาอีกถ้วยอย่างหน้าไม่อาย
เมื่อสาวใช้รินเติมให้ เต่าชราก็ดื่มหมดในอึกเดียวอีกครั้ง จากนั้นสาวใช้ก็รินเติมให้อีก เช่นนั้นกลับไปมายี่สิบกว่ารอบได้!
ทว่ายังไม่จบสิ้นแต่เพียงเท่านี้ เต่าชรายังต้องการจะดื่มชาอีก
สาวใช้แทบจะร้องไห้ออกมาแล้ว เต่าชราผู้นี้กำลังทำสิ่งใดกัน? ต้องการจะดื่มน้ำชาจนอิ่มเลยอย่างนั้นหรือ?
ทว่านางก็ยังคงรินน้ำชาให้เต่าชราต่อไป
ซีไร้วาจาจะเอ่ย เต่าชราผู้นี้ไม่สนสายตาที่ผู้อื่นมองมาแม้แต่น้อย มีแขกที่ไหนกันจะขอเติมชาเรื่อย ๆ เช่นนี้? นางไม่สามารถทนมองต่อไปได้
สาวใช้เทชาให้เต่าชราอีกหลายถ้วย จนสุดท้ายผู้อาวุโสใหญ่ก็กลับมา นางพลันโล่งใจขึ้นมา ในใจเบิกบานเป็นอย่างมาก
“พวกเราไปกันเถิด!”
ผู้อาวุโสใหญ่กล่าว “เจดีย์เวหามีสิบแปดชั้น ยิ่งขึ้นไปสูงเท่าใดผลลัพธ์ที่ได้ก็จะยิ่งดีขึ้นเท่านั้น ข้าได้เตรียมการให้พวกท่านทั้งสองขึ้นไปฝึกฝนยังชั้นที่สิบแปดแล้ว”
“รบกวนผู้อาวุโสแล้ว”
ซีเอ่ยขอบคุณอีกครั้ง ก่อนจะตามผู้อาวุโสใหญ่พร้อมเต่าชราไปยังเจดีย์เวหา
หลังจากนั้นผู้อาวุโสใหญ่ก็พาซีและเต่าชราเข้าไปยังเจดีย์เวหา ขึ้นไปจนกระทั่งถึงชั้นที่สิบแปด
“ทั้งสองท่าน… ฝึกฝนกันให้ดีเล่า!”
จู่ ๆ ผู้อาวุโสใหญ่ก็พลันแย้มยิ้มแปลกประหลาดน่าขนลุกออกมา แตกต่างจากท่าทางเป็นมิตรที่แสดงออกมาก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง!
ร่างของเขาค่อย ๆ เลือนรางไปอย่างรวดเร็ว ราวกับต้องการจะออกไปจากที่นี่ทันที
เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเรื่องราวทั้งหมดไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่ปรากฏให้เห็น!