สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 1210 ช่วยแก้สถานการณ์

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1210 ช่วยแก้สถานการณ์

ชาวบ้านซีเหลียงในเมืองเจียงจือยอมกลายเป็นชาวบ้านของต้าโจวเพื่อมีชีวิตรอดต่อไปและมีอาหารประทังชีวิตเท่านั้น เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าชาวบ้านซีเหลียงจะช่วยเหลือต้าโจวต่อต้านกองทัพซีเหลียง

กองทัพซีเหลียงเคลื่อนทัพมาจากเมืองที่ห่างไกล พวกเขาไม่มีเครื่องทุ่นแรงอย่างเครื่องโยนหิน พวกเขาต้องโจมตีเมืองอย่างลำบากแน่นอน

ดังนั้นเมื่อเกิดการบุกโจมตีเมืองครั้งแรกกองทัพต้าโจวจึงใช้ธนูยิงใส่กองทัพซีเหลียงอย่างแม่นยำและต่อเนื่อง

ไป๋ชิงเหยียนมองกองทัพซีเหลียงที่บุกเข้ามาอย่างไม่กลัวตายพลางตะโกนเสียงดังลั่น

“หลิ่วผิงเกา จุดไฟที่ลูกธนูบนเครื่องยิงธนู!”

“พ่ะย่ะค่ะ” หลิ่วผิงเการับคำจากหันไปสั่งให้ลูกน้องวิ่งไปสั่งงานชาวบ้านที่อยู่ด้านล่างกำแพง

เว่ยจงอยากให้ไป๋ชิงเหยียนไปยืนหลบอยู่ด้านหลังตน ทว่า ไป๋ชิงเหยียนกลับหยิบลูกธนูขึ้นมาอีกดอก จากนั้นยิงออกไป…ลูกธนูของหญิงสาวแม่นยำไม่เคยพลาดเป้า

เมื่อได้รับคำสั่งจากหลิ่วผิงเกาชาวบ้านจึงช่วยกันเติมน้ำมันใส่ขวดดิน ปิดปากขวดแน่น จากนั้นส่งต่อให้ชาวบ้านที่รออยู่บนกำแพงอย่างรวดเร็ว กองทัพต้าโจวไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องอาวุธจะมีไม่เพียงพอเลยด้วยซ้ำ

ด้านหน้าสุดของเครื่องยิงธนูมีขวดดินบรรจุน้ำซึ่งไฟกำลังลุกมันผูกติดอยู่ เมื่อลูกธนูไฟลอยไปตกกลางกองทัพซีเหลียง ไฟลุกโหมขึ้นทันที

เมื่อน้ำมันไฟที่บรรจุอยู่ใสขวดดินแตกออกกลางอากาศจึงเปรียบเสมือนลูกไฟที่ตกลงมาจากท้องฟ้า กองทัพซีเหลียงต่างส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

ท้องฟ้าเริ่มมีแสงสว่างแรกของวันสาดส่องออกมา เมื่อเห็นว่าท้องฟ้าใกล้สว่างเต็มที่แล้วต้าโจวจึงโจมตีอย่างรุนแรงกว่าเดิม ตอนนี้บริเวณติดกับกำแพงเมืองเจียงจือเต็มไปด้วยศพของทหารซีเหลียง

ไป๋ชิงเหยียนออกแรงถึงขีดสุดแล้ว ตอนนี้ร่างของนางท่วมไปด้วยเหงื่อ

แม่ทัพชราชุยซานจงเห็นการป้องกันเมืองที่ดุดันและเข้มแข็งของกองทัพต้าโจวจึงกำที่วางแขนบนรถศึกแน่นอย่างตกตะลึง

กองทัพต้าโจวมีจำนวนมากกว่าที่เขาคาดการณ์ไว้อย่างนั้นหรือ!

ไม่มีทางเป็นไปได้! ก่อนไป๋ชิงเหยียนมาถึงเมืองเจียงจือมีเพียงทหารคุ้มกันเมืองจำนวนหนึ่งเท่านั้น ไป๋ชิงเหยียนพาทหารมาเพียงสองพันกว่านาย รวมกันแล้วเมืองเจียงจือน่าจะมีทหารเพียงห้าพันกว่านายเท่านั้น

กองทัพซีเหลียงบุกโจมตีเมืองเจียงจือทั้งสี่ทิศพร้อมกัน พวกเขาโจมตีอย่างรวดเร็วและพร้อมเพรียงถึงเพียงนี้ คนเพียงหลักพันไม่มีทางต้านทานพวกเขาได้แน่นอน!

ตอนนี้พวกเขาเริ่มบุกโจมตีเมืองแล้ว หากทำให้ฝ่ายตรงข้ามบาดเจ็บไม่ได้แม้แต่น้อยจะไม่เป็นผลดีต่อซีเหลียง ดังนั้นเขาจำเป็นต้องทำสงครามต่อไปเรื่อยๆ

เดิมทีแม่ทัพชราชุยซานจงแค่อยากบุกโจมตีเมืองเจียงจือเพื่อล่อให้กองทัพเสริมจากด่านเย่เฉิงบุกมาช่วยเหลือ เขาจะได้ดักซุ่มโจมตีทำลายกองทัพด่านเย่เฉิงเหล่านั้นได้เท่านั้น!

ทว่า ตอนนี้เมื่อเห็นท่าทีของทหารต้าโจวบนกำแพงเมืองเจียงจือฮึกเหิมขึ้นเรื่อยๆ แม่ทัพชราชุยซานจงจึงเริ่มเปลี่ยนแผน ไม่ว่าอย่างไรตอนนี้ทัพเสริมของซีเหลียงก็ไปดักปล้นเสบียงอาหารของต้าโจวแล้ว ไม่นานพวกเขาคงปล้นเสบียงได้สำเร็จ

ตอนนี้ทหารซีเหลียงของพวกเรากำลังฮึกเหิมขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งโจมตีพวกเขายิ่งไม่กลัวตาย ต่างสาบานว่าจะยึดเมืองเจียงจือมาให้ได้ หากเขาเรียกทหารซีเหลียงเหล่านั้นกลับมาในตอนนี้พวกเขาคงหมดกำลังใจที่จะต่อสู้ต่อไปแน่นอน

ก่อนหน้านี้ที่เขาเอาแต่ล้อมเมืองไม่ยอมโจมตีเป็นเพราะขาดแคลงเสบียงอาหาร บัดนี้เสบียงอาหารใกล้จะตกเป็นของพวกเขาแล้ว เขาจึงตัดสินใจเปลี่ยนแผนบุกโจมตีเมืองเจียงจือเพื่อจับเป็นจักรพรรดินีแห่งต้าโจว จากนั้นค่อยดักซุ่มโจมตีทัพเสริมของด่านเย่เฉิง ถึงแม้จะดักซุ่มโจมตีไม่สำเร็จ ทว่า เขามีจักรพรรดินีแห่งต้าโจวอยู่ในมือแล้ว พวกเขายังต้องกลัวทัพจากด่านเย่เฉิงอีกหรือ

แม่ทัพชราชุยซานจงคำนวณเวลาที่สายลับซีเหลียงจากด่านเย่เฉิงนำข่าวมารายงานและเวลาเคลื่อนทัพของแม่ทัพคุ้มกันด่านเย่เฉิงอยู่ในใจ จากนั้นตะโกนขึ้นเสียงดังลั่น

“ทหารกล้าของซีเหลียงทุกคน สงครามครั้งนี้พวกเราไม่มีทางให้ถอยหนี กองทัพหลักของต้าโจวใกล้บุกไปถึงเมืองอวิ๋นจิงแล้ว หากเมืองอวิ๋นจิงถูกตีแตกซีเหลียงจะดับสูญทันที ทหารกล้าทั้งหลาย! พวกเราต้องยึดเมืองเจียงจือให้ได้ภายในบ่ายของวันนี้! พวกเราต้องจับเป็นจักรพรรดินีแห่งต้าโจวให้ได้เพื่อแก้สถานการณ์ของซีเหลียงในตอนนี้! บุกเข้าไป!”

ทหารของซีเหลียงได้ยินเสียงตะโกนของแม่ทัพชราชุยซานจง พวกเขารู้ดีว่าสงครามครั้งนี้คือสงครามตัดสินชะตาของแคว้นซีเหลียง ผู้ใดอยากให้แคว้นของตัวเองดับสูญกลายเป็นคนไร้บ้านบ้าง พวกเขาไม่มีทางให้ถอยหนีแล้ว หากต้องการปกป้องซีเหลียงก็ต้องบุกโจมตีอย่างถึงที่สุด

ทหารซีเหลียงกำลังจะทำสงครามครั้งสุดท้าย พวกเขาล้วนยินดีสละชีพของตัวเองเพื่อแผ่นดิน ทุกคนบุกไปด้านหน้าอย่างไม่กลัวตาย

ทหารต้าโจวที่อยู่บนกำแพงรู้ว่าจักรพรรดินีของพวกเขาอยู่บนกำแพงกับพวกเขาด้วย ทุกคนจะไม่ปล่อยให้เมืองเจียงจือถูกตีแตกอย่างแน่นอน

ส่วนชาวบ้านในเมืองเจียงจือยิ่งกลัวธรรมเนียมการสังหารล้างเมืองของกองทัพซีเหลียง พวกเขากลัวว่าหากซีเหลียงบุกเข้ามาในเมืองได้สำเร็จพวกเขาถูกสังหารในฐานะกบฏของซีเหลียง ดังนั้นพวกเขาจึงพากันเร่งส่งอาวุธขึ้นไปบนกำแพงให้ทหารต้าโจวอย่างสามัคคี

สองแคว้นทำสงครามกันถึงช่วงบ่าย กองทัพซีเหลียงเริ่มมีอาการเหนื่อยล้า ทหารต้าโจวบนกำแพงเมืองเริ่มง้างสายธนูไม่ไหวเช่นเดียวกัน

ตู้ซานเป่าก้าวไปหาไป๋ชิงเหยียน จากนั้นกำหมัดรายงาน

“ฝ่าบาท น้ำมันและเชื้อเพลิงของเราใกล้หมดแล้วพ่ะย่ะค่ะ เชื้อเพลิงอื่นๆ ในเมืองที่พอจุดไฟได้ก็ไม่มีเหลือแล้ว ขวดบรรจุน้ำมันถูกใช้จนหมดแล้วเช่นเดียวกัน เมื่อครู่กระหม่อมไปสำรวจคลังอาวุธของพวกเรามาแล้ว หากซีเหลียงยังโจมตีพวกเราต่อเช่นนี้ลูกธนูของพวกเราคงพอใช้ได้ถึงแค่พรุ่งนี้เช้าเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ”

ตอนนี้ตู้ซานเป่ารู้สึกเสียใจมาก หากรู้เช่นนี้เขาคงไม่บุกไปโจมค่ายทหารของซีเหลียง คงไม่ยั่วโมโหจนพวกมันมุ่งหน้ามาโจมตีเมืองเจียงจือเช่นนี้

แผนการเดิมของฝ่าบาทคือรอได้รับข่าวแล้วค่อยเริ่มทำสงคราม เช่นนี้กองทัพซีเหลียงจะได้แบ่งกำลังออกไปโจมตีทัพเสริมจากด่านเย่เฉิงและปล้นเสบียงอาหารจากเมืองไป๋หลง ต้าโจวจะได้ลดแรงกดดันลง ทว่า การวู่วามบุกไปโจมตีค่ายทหารซีเหลียงของเขาทำให้ซีเหลียงยกทัพบุกมาโจมตีเมืองเจียงจือก่อนเวลา

ตู้ซานเป่าโทษตัวเองว่าทุกอย่างคือความผิดของเขา

ฝ่าบาทคือเสี่ยวไป๋ไซว่ของกองทัพไป๋ นางจะไม่รู้ข้อดีของการบุกไปโจมตีค่ายทหารของซีเหลียงก่อนพวกมันบุกมาโจมตีต้าโจวอย่างนั้นหรือ ฝ่าบาทคงไปสำรวจคลังอาวุธในเมืองเจียงจือมาแล้ว ฝ่าบาทคงคำนวณดูแล้วว่าหากบุกโจมตีค่ายหทารของต้าโจวตอนนี้แล้วกองทัพซีเหลียงยกทัพมาโจมตีเมืองเจียงจือก่อนเวลาอันควรเมืองเจียงจือคงต้านทานได้ไม่นาน ทว่า การอวดฉลาดของเชาทำทุกอย่างพังหมด

ไป๋ชิงเหยียนหายใจอย่างเหนื่อยหอบ ทหารต้าโจวเริ่มอ่อนล้าจนไม่มีแรงยิงธนูดังนั้นซีเหลียงจึงฝ่าด่านธนูเข้ามาใกล้เมืองเจียงจือมากกว่าเดิมแล้ว ทหารซีเหลียงเริ่มแบกบันไปมาวางพาดบนกำแพงเมืองเจียงจือแล้ว

ดูเหมือนว่าแม่ทัพชราชุยซานจงจะไม่ได้แสร้งโจมตีเมืองเจียงจือพอเป็นพิธีอีกต่อไปแล้ว เมื่อเขาแน่ใจแล้วว่าเมืองไป๋หลงจะส่งเสบียงมาให้เมืองเจียงจือในวันพรุ่งนี้ เขาต้องการได้เสบียงพร้อมกับจับเป็นจักรพรรดินีแห่งต้าโจวให้ได้ก่อนที่ทัพเสริมของด่านเย่เฉิงจะบุกมาช่วยเหลือพวกนาง จากนั้นค่อยไปดักซุ่มโจมตีทัพเสริมของด่านเย่เฉิง จากนั้นจับตัวนางไปโจมตีด่านเย่เฉิงต่อ

“ฝ่าบาท ตู้ซานเป่าขุดหลุมลับไว้แล้ว ให้แม่ทัพตู้เปิดหลุมทางออกนั้นอีกครั้งแล้วให้องครักษ์ไป๋คุ้มกันฝ่าบาทหนีไปก่อนดีหรือไม่ขอรับ” เว่ยจงก้าวเข้าไปเสนอ

ตู้ซานเป่าพยักหน้าอย่างแรง “ฝ่าบาทเสด็จออกไปจากเมืองก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ ทรงไม่ต้องห่วง ตู้ซานเป่าจะปกป้องเมืองเจืองจือจนตัวตาย คนอยู่เมืองอยู่ คนตายเมืองดับสูญพ่ะย่ะค่ะ!”

“ยังไม่ร้ายแรงถึงขั้นนั้น” ไป๋ชิงเหยียนปรับจังหวะลมหายใจ

นางรู้ดีว่าว่าตอนนี้นางคือขวัญกำลังใจของทหารต้าโจว หากนางทิ้งเมืองเจียงโจวไปในตอนนี้กองทัพต้าโจวต้องเสียขวัญและกำลังใจอย่างแน่นอน!

สงครามที่ทำมาทั้งคืนครั้งนี้เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น

กองทัพไป๋เคยถูกล้อมอยู่ในเมืองหลายครั้ง ท่านปู่ ท่านพ่อและบรรดาท่านอาของนางสามารถยืนหยัดต่อต้านศัตรูด้วยเสบียงและอาวุธที่ขาดแคลนได้ นางมีเหตุผลอันใดต้องถอยหนีกัน

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท