สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 1215 บุรุษนอก

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1215 บุรุษนอก

เมื่อเห็นหมอทหารเดินเข้ามาด้านในแล้ว เว่ยจงจึงเอ่ยเรียกไป๋ชิงเหยียนเสียงเบาด้วยความร้อนใจ “ฝ่าบาท!”

“ฝ่าบาท…” หมอทหารทำความเคารพไป๋ชิงเหยียนผ่านฉากกั้น

ไป๋ชิงเหยียนกุมมือเซียวหรงเหยี่ยนเอาไว้ หญิงสาวมองแผลที่เป็นหนองรุนแรงของเซียวหรงเหยี่ยน จากนั้นกล่าวเสียงเบา “เข้ามาได้”

หมอทหารแบกกล่องยาเข้าไปด้านใน เขาเห็นไป๋ชิงเหยียนนั่งอยู่บนที่วางเท้าซึ่งทำจากไม้หวงหวาหลีจึงตะลึงงันไปชั่วครู่ จากนั้นรีบเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว “ฝ่าบาท ทรงถอยออกมาให้กระหม่อมตรวจชีพจรของท่านอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ”

ไป๋ชิงเหยียนพยายามออกแรงกระชากมือของตัวเองกลับมา ทว่า ไม่เป็นผล หญิงสาวจึงเงยหน้าถามหมอทหาร “ตรวจชีพจรเช่นนี้ได้หรือไม่”

หมอทหารรีบกล่าว “กระหม่อมรักษาบาดแผลให้ท่านอ๋องเก้าก่อนก็ได้พ่ะย่ะค่ะ”

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า

หมอทหารเปิดกล่องยาออก เว่ยจงซึ่งยืนอยู่ด้านข้างรีบเข้าไปช่วย

ไป๋ชิงเหยียนเห็นหมอทหารตัดผ้าพันแผลเดิมของเซียวหรงเหยี่ยนออก เขาอังมีดลงบนไฟเพื่อฆ่าเชื้อ จากนั้นใช้มีดตัดบาดแผลส่วนที่เป็นหนองของเซียวหรงเหยี่ยนออก

เมื่อทำความสะอาดบาดแผลตรงหน้าเสร็จ หมอทหารทายาให้เซียวหรงเหยี่ยนใหม่ จากนั้นกล่าวกับเว่ยจง “เว่ยกงกงช่วยพลิกตัวท่านอ๋องเก้าตะแคงให้ข้าที ท่านอ๋องเก้าถูกแทงทะลุหลัง แผลทางด้านหลังต้องเป็นหนองเช่นเดียวกันแน่ ข้าต้องรีบขูดแผลส่วนที่เป็นหนองทิ้ง!”

เว่ยจงรับคำแล้วเดินไปด้านหน้า ทว่า เซียวหรงเหยี่ยนกุมมือไป๋ชิงเหยียนแน่นไม่ยอมปล่อย หมอทหารมองไปที่มือของเซียวหรงเหยี่ยนที่จับไป๋ชิงเหยียนแน่นไม่ยอมปล่อยเช่นเดียวกัน “ฝ่าบาท…”

“ข้าทำเอง” ไป๋ชิงเหยียนยังไม่ได้ถอดเกราะออกจากร่าง หญิงสาวโน้มกายไปพลิกร่างของเซียวหรงเหยี่ยนให้นอนตะแคง

เซียวหรงเหยี่ยนถูกแทงทะลุแผ่นหลังอย่างที่หมอทหารกล่าวจริงๆ บาดแผลบริเวณหลังของเขาเป็นหนองจนสภาพดูไม่ได้เช่นเดียวกัน

ไป๋ชิงเหยียนมองใบหน้าที่สวมหน้ากากของเซียวหรงเหยี่ยนนิ่ง ไม่รู้ว่าเขาฝืนพาทหารมายังที่นี่ได้อย่างไรกัน เมื่อนึกถึงคำถามที่ถามนางว่าเคยนึกถึงเขาบ้างหรือไม่ก่อนที่เซียวหรงเหยี่ยนจะสลบไป ไป๋ชิงเหยียนรู้สึกปวดร้าวขึ้นอีกครั้งทันที

หมอทหารทำความสะอาดบาดแผลที่หลังให้เซียวหรงเหยี่ยนเสร็จเรียบร้อย จากนั้นพันแผลให้ชายหนุ่มอีกครั้งโดยมีเว่ยจงคอยช่วยเหลือ เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยเว่ยจงจึงพาหมอทหารออกไปจากห้อง จากนั้นกล่าวกำชับหมอทหารเสียงเบา “ท่านหมอหงให้ท่านติดตามกองทัพมายังสนามรบด้วยแสดงว่าท่านมีฝีมือและเป็นคนมีคุณธรรม เรียกได้ว่าท่านคือลูกศิษย์ของท่านหมอหง คือคนของกองทัพไป๋ ท่านควรรู้ดีว่าสิ่งใดควรกล่าวไม่ควรกล่าว อย่าแพร่งพรายเรื่องนี้ให้คนภายนอกรับรู้เด็ดขาด!”

เมื่อกล่าวจบเว่ยจงจึงทำความเคารพหมอทหารด้วยรอยยิ้ม จากนั้นกล่าวต่อ “ข้าทราบดีว่าถึงไม่บอกท่านก็ทราบอยู่แล้ว ข้าแก่แล้วจึงอดคิดมากไม่ได้ หวังว่าท่านจะไม่ถือสา”

หมอทหารรีบโบกมือ “เว่ยกงกงเกรงใจเกินไปแล้ว! ถึงข้าไม่ได้เกิดมาในกองทัพไป๋ ทว่า ข้าคือคนของต้าโจวเช่นเดียวกัน! ท่านอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนนำทัพมาช่วยเหลือต้าโจวจนได้รับบาดเจ็บ ฝ่าบาททรงเชื่อใจข้าถึงให้ข้ามารักษาบาดแผลของท่านอ๋องเก้า นี่คือหน้าที่ของข้าอยู่แล้ว เดี๋ยวข้าจะกลับไปต้มยาให้ท่านอ๋องเก้าด้วยตัวเองและจะให้คนนำมาให้ขอรับ”

เว่ยจงได้ยินหมอทหารกล่าวเช่นนี้จึงรู้ทันทีว่าหมอทหารจะกล่าวกับคนภายนอกเพียงแค่นี้ เขาจึงพยักหน้าอย่างสบายใจ จากนั้นเดินออกไปส่งคนที่นอกเรือน

ชุนจือต้มน้ำร้อนในโรงครัวจนเดือดจัด นางกลับมาถามเว่ยจงว่าจะให้นำน้ำร้อนเข้าไปในห้องเลยหรือไม่ เว่ยจงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นตัดสินใจยกน้ำร้อนเข้าไปด้านในด้วยตัวเอง “ฝ่าบาท น้ำร้อนมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ บ่าวจะเช็ดตัวและเปลี่ยนฉลององค์ให้ท่านอ๋องเก้าเองพ่ะย่ะค่ะ”

เดิมทีไป๋ชิงเหยียนอยากทำด้วยตัวเอง ทว่า เซียวหรงเหยี่ยนยังคงจับมือนางแน่น นางจึงได้แต่หันไปตอบเว่ยจงที่ยืนรออยู่นอกฉากกั้นอย่างนอบน้อม “ได้…”

ไม่นานเว่ยจงจึงเดินถือน้ำร้อนเข้ามาด้านใน เขาเปลี่ยนน้ำอยู่สามสี่กะละมังจึงเช็ดตัวเซียวหรงเหยี่ยนจนสะอาด เขาไม่สามารถสวมเครื่องแต่งกายท่อนบนให้เซียวหรงเหยี่ยนได้เพราะชายหนุ่มจับมือไป๋ชิงเหยียนแน่นไม่ยอมปล่อย เว่ยจงจึงได้แต่เอาผ้าห่มมาคลุมให้ชายหนุ่ม

เว่ยจงเห็นไป๋ชิงเหยียนยังคงสวมชุดเกราะอยู่จึงกล่าวขึ้น “หากฝ่าบาททรงเชื่อใจแม่นางชุนจือ บ่าวจะให้นางเข้ามาช่วยถอดเกราะออกให้ฝ่าบาท ฝ่าบาทจะได้รู้สึกดีขึ้นพ่ะย่ะค่ะ”

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า จากนั้นลุกขึ้นจากเตียงพลางสั่งให้เว่ยจงนำเก้าอี้กลมมาให้นางนั่งแทน “ให้ชุนจือเข้ามาเถิด”

แม้ชุนจือจะขี้ขลาด ทว่า นางเป็นคนจงรักภักดี

เว่ยจงรับคำแล้วเดินออกไป ก่อนชุนจือจะเข้ามาด้านในเว่ยจงบอกกับนางก่อนหน้านี้แล้วนางจึงไม่ได้ตกใจมากนักที่เห็นเซียวหรงเหยี่ยนกุมมือไป๋ชิงเหยียนแน่น นางช่วยถอดเกราะออกจากร่างให้ไป๋ชิงเหยียน จากนั้นสวมเสื้อคลุมให้หญิงสาว นางเดินไปหยิบเตาอุ่นมือมาวางไว้ข้างกายไป๋ชิงเหยียน จากนั้นเอ่ยถามไป๋ชิงเหยียนเสียงเบาว่าต้องการรับประทานอาหารหรือไม่ “บ่าวป้อนคุณหนูใหญ่ดีหรือไม่เจ้าคะ”

ก่อนเข้ามาเว่ยจงบอกกับชุนจือว่าอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนนำทัพเสริมมาช่วยเหลือเมืองเจียงจือ ก่อนสลบไปเขาจับมือของไป๋ชิงเหยียนแน่นไม่ยอมปล่อย คุณหนูใหญ่ต้องการตอบแทนบุญคุณชายหนุ่มจึงปล่อยให้เขาจับมือไว้เช่นนี้ ชุนจือจึงเชื่อตามนั้น

“คุณหนูใหญ่คงเหนื่อยมากแล้ว” ชุนจือมองมือของเซียวหรงเหยี่ยนที่จับไป๋ชิงเหยียนไว้แน่นแวบหนึ่ง จากนั้นกล่าวขึ้น “ให้บ่าวช่วยแกะมือของท่านอ๋องเก้าออกให้ดีหรือไม่เจ้าคะ”

“ช่างเถิด เจ้าไปพักผ่อนเถิด เอาหมอนอิงมาให้ข้าสักใบก็พอ ข้าจะงีบตรงนี้สักครู่” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวจบจึงกล่าวต่อ “วันนี้เจ้ากับเว่ยจงไม่ต้องอยู่เฝ้าเวรข้าหรอก ไปพักผ่อนกันให้หมด”

“จะทำเช่นนั้นได้อย่างไรเจ้าคะ!” ชุนจือมองไปทางเซียวหรงเหยี่ยนแวบหนึ่ง “ไม่ว่าอย่างไรเขาก็เป็นบุรุษ…”

“ด้านนอกเต็มไปด้วยองครักษ์ไป๋ มิเป็นอันใดหรอก เจ้ารีบไปเถิด”

ชุนจือไม่กล้าขัดคำสั่งของไป๋ชิงเหยียนจึงได้แต่จากไป

เมื่อได้ยินเสียงปิดประตูไป๋ชิงเหยียนจึดถอดหน้ากากให้เซียวหรงเหยี่ยน หญิงสาวขยับผ้าห่มให้ชายหนุ่มเล็กน้อย จากนั้นก้มลงจูบมือของชายหนุ่มเบาๆ นางเอื้อมมือสัมผัสใบหน้าของเซียวหรงเหยี่ยนอย่างทะนุถนอมทั้งน้ำตา

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะกำลังตั้งครรภ์อยู่หรือไม่ ไป๋ชิงเหยียนไม่เคยคิดว่านางจะร้องไห้ได้บ่อยถึงเพียงนี้

ทำสงครามมาทั้งวัน อีกทั้งถูกปลุกให้ตื่นกลางดึก ตอนนี้ไป๋ชิงเหยียนรู้สึกอ่อนล้ามาก นางนั่งเอนกายพิงหมอนอิงหลับไปบนที่วางเท้า

เมื่อเว่ยจงนำยาของเซียวหรงเหยี่ยนเดินเข้ามาด้านในไป๋ชิงเหยียนจึงตื่นขึ้น นางมองไปทางเซียวหรงเหยี่ยนที่กำลังหลับสนิทแวบหนึ่ง นางดึงมือที่ถูกบีบจนช้ำออกจากการเกาะกุมของเซียวหรงเหยี่ยน จากนั้นรับถ้วยยามาจากเว่ยจง “เจ้าประคองเขาขึ้นมา ข้าจะป้อนเขาเอง”

“พ่ะย่ะค่ะ” เว่ยจงเดินเข้าไปประคองเซียวหรงเหยี่ยนให้ลุกขึ้น

เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนใช้ช้อนป้อนยาเซียวหรงเหยี่ยนไม่ได้ผลเว่ยจงจึงกล่าวขึ้น “ฝ่าบาท ท่านอ๋องเก้ายังไม่ได้สติเพราะไข้ขึ้นสูง ให้บ่าวช่วยกรอกเข้าปากดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ”

ไป๋ชิงเหยียนก้มมองใบหน้าที่ขาวซีดของเซียวหรงเหยี่ยน “ข้าทำเอง”

ไป๋ชิงเหยียนวางช้อนลงด้านข้าง บีบคางของเซียวหรงเหยี่ยนให้อ้าออกเล็กน้อย จากนั้นค่อยๆ กรอกยาเข้าไปในปากเซียวหรงเหยี่ยนอย่างระมัดระวัง เมื่อเห็นชายหนุ่มเริ่มกลืนยาลงไปแล้ว ไป๋ชิงเหยียนจึงกรอกต่อรอบสอง

ไม่นานยาจึงหมดถ้วย เว่ยจงวางร่างของเซียวหรงเหยี่ยนลงบนเตียงอีกครั้ง จากนั้นกล่าวกับไป๋ชิงเหยียน “หมอทหารกล่าวว่าเขาจะมาฝังเข็มให้ท่านอ๋องเก้าหลังจากเขาดื่มยาหมดแล้วครึ่งชั่วยามพ่ะย่ะค่ะ”

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท