ตอนที่ 1239 ทำอย่างเต็มที่ที่สุด
ตอนที่ไป๋ชิงเหยียนตกจากรถม้าฮูหยินทุกคนจึงมัวแต่เป็นห่วงหญิงสาว กลัวว่าไป๋ชิงเหยียนและลูกในท้องจะเป็นอันใดไปจึงไม่มีเวลาสนใจเรื่องรายงานสถานการณ์รบ คิดเพียงว่าต้าโจวพ่ายแพ้จึงไม่ได้ส่งคนไปสืบเรื่องนี้ให้แน่ชัด
ตอนนี้ไป๋ชิงเหยียนคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัยแล้ว ทุกคนจึงโล่งใจและมีเวลาสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ
คนอื่นอาจไม่เข้าใจว่าไป๋ชิงเหยียนเป็นคนเช่นไร ทว่า อาสะใภ้อย่างพวกนางรู้ดี
แพ้ชนะคือเรื่องปกติของการทำสงคราม ไป๋ชิงเหยียนไม่เพียงเคยออกรบในสนามรบมานับไม่ถ้วน หญิงสาวยังอ่านตำราพิชัยสงครามอยู่เป็นประจำ นางได้รับการสั่งสอนจากเจิ้นกั๋วอ๋องไป๋เวยถิงและเจิ้นกั๋วกงไป๋ฉีซานมาเป็นอย่างดี เหตุใดจะยอมรับความพ่ายแพ้ไม่ได้กัน!
ต่งซื่อแอบเห็นเนื้อหาในรายงานสถานการณ์รบที่ไป๋ชิงเหยียนกำไว้ในมือแน่นตอนที่นางช่วยบุตรสาวทำคลอด เมื่อได้ยินฮูหยินห้าฉีซื่อถามขึ้นน้ำตาของต่งซื่อจึงไหลพรากออกมาทันที นางพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้พลางกล่าวเสียงสะอื้น “อาอวี๋กับเสี่ยวชีหายตัวไป”
ฮูหยินคนอื่นๆ ตะลึงงันไปทันที
“เหตุ…เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้!” ฮูหยินสี่หวังซื่อเบิกตาโพลง “อาเจวี๋ยกับอาฉีควรปกป้องอาอวี๋ให้ดีไม่ใช่หรือ”
“ครั้งนี้ต้องมีคนเป็นตัวล่อให้ศัตรูมาติดกับเพื่อดักซุ่มโจมตี อาอวี๋พาเสี่ยวชีไปเป็นเหยื่อล่อ ทว่า แม่ทัพชราชุยซานจงรับรู้ข่าวนี้ก่อนแล้วจึงนำทัพไปดักซุ่มโจมตีพวกเราก่อนเจ้าค่ะ” น้ำเสียงของไป๋ชิงเหยียนแหบพร่ามาก
“ต้าเยี่ยนเผลอทำข่าวหลุดไปถึงหูของศัตรู” ฮูหยินห้าฉีซื่อได้ยินเรื่องที่ไป๋ชิงเหยียนสั่งให้คนจัดทัพไปประชิดชายแดนต้าเยี่ยน กล่าวว่าหากต้าเยี่ยนมีความเคลื่อนไหวใดให้บุกโจมตีทันที นางจิกเล็บลงบนฝ่ามือของตัวเองอย่างแรง ขอบตาร้อนผ่าว จากนั้นเอ่ยถามอย่างหยั่งเชิง “หรือต้าเยี่ยนจงใจปล่อยข่าวนี้ออกไปกันแน่”
ไป๋ชิงเหยียนส่ายหน้า ไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมาอีก
แม้ฮูหยินคนอื่นๆ จะเป็นกังวลเมื่อได้ยินข่าวนี้ ทว่า พวกนางเจ็บปวดไม่เท่าพี่สะใภ้ใหญ่และอาเป่า โดยเฉพาะตอนนี้อาเป่าเพิ่งคลอดลูกออกมา
ฮูหยินห้าเอื้อมมือไปรับตัวเด็กทั้งสองมาจากฮูหยินสี่หวังซื่อและฮูหยินสองหลิวซื่อ นางเดินไปที่เตียงแล้ววางเด็กทั้งสองลงบนเตียง นางมองไปทางต่งซื่อและไป๋ชิงเหยียนพลางเอ่ยขึ้น “พี่สะใภ้ใหญ่และอาเป่าไม่ต้องเป็นห่วง อาฉีคือพี่ชาย มีอาฉีอยู่เขาต้องพยายามตามหาอาอวี๋และเสี่ยวชีให้พบให้ได้ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิตของเขาก็ตาม”
ฮูหยินห้าฉีซื่อพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเอง นางก้มไปกุมมือของต่งซื่อและไป๋ชิงเหยียนไว้หลวมๆ “อาเป่าคลอดลูกแฝดชายหญิงออกมาถือเป็นลางดี อาอวี๋และเสี่ยวชีล้วนเป็นเด็กฉลาดและเก่งเรื่องวางแผน พวกเขาต้องปลอดภัยแน่นอน!”
“ใช่แล้ว!” ฮูหยินสามหลี่ซื่อกล่าวเสริม “กล่าวกันว่าผู้ที่รอดจากความตายมาได้คือผู้มีบุญญาธิการ ตระกูลไป๋ของเราเผชิญเรื่องอันตรายมามาก ทว่า กลับผ่านมาได้อย่างปลอดภัยทุกครั้ง อาเป่ากำลังอยู่ไฟ เจ้าห้ามเป็นกังวลเกินไปนัก ตั้งใจอยู่ไฟก่อน เข้าใจหรือไม่”
ไป๋ชิงเหยียนหันไปทางเด็กน้อยทั้งสอง นางเอื้อมมือไปสัมผัสไปใบหน้าของลูกน้อยทั้งสองอย่างแผ่วเบา
“เอาเถิด อาเป่าเหนื่อยมาทั้งคืนแล้ว นางควรพักผ่อนได้แล้ว พวกเราอย่าอยู่รบกวนอาเป่าเลย พี่สะใภ้ใหญ่เหนื่อยมาทั้งคืนเช่นเดียวกัน รีบกลับไปพักผ่อนก่อนเถิดเจ้าค่ะ” ฮูหยินห้าฉีซื่อลุกขึ้นยืนพลางเบนหน้าใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาที่หางตาเล็กน้อย จากนั้นกล่าวกับพี่สะใภ้คนอื่น “พวกเรากลับกันก่อนเถิด”
ฮูหยินสอง ฮูหยินสามและฮูหยินสี่เดินตามหลังฮูหยินห้าออกไปจากตำหนักของไป๋ชิงเหยียน ฮูหยินห้าฉีซื่อหันไปกล่าวกับพี่สะใภ้คนอื่นๆ “อาอวี๋คือกำลังใจของพี่สะใภ้ใหญ่และอาเป่า ตอนนี้อาเป่ากำลังอยู่ไฟ จะปล่อยให้นางเสียใจเพราะเรื่องอาอวี๋และเสี่ยวชีมากเกินไปไม่ได้เด็ดขาด ซีเหลียงเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นเราไม่มีทางปกปิดรายงานสถานการณ์รบได้แน่ ไม่นานข่าวนี้คงแพร่กระจายไปทั่วเมือง เอาอย่างนี้ดีหรือไม่ ตระกูลฝั่งมารดาของพวกเราพอมีคนใช้งานได้อยู่บ้าง พวกเราส่งพวกเขาไปช่วยตามหาอาอวี๋และเสี่ยวชีที่ซีเหลียง มีคนตามหามากเท่าใดก็ยิ่งมีโอกาสหาเจอมากเท่านั้น นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดที่บรรดาอาสะใภ้อย่างพวกเราสามารถทำเพื่ออาอวี๋และเสี่ยวชีแล้ว”
“ข้าก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน!” ฮูหยินสามหลี่ซื่อไม่รอให้ฮูหยินห้าฉีซื่อกล่าวจบก็รีบพยักหน้ารัว นางจับชายกระโปรงและมืออีกข้างก็จับมือหมัวมัวเดินจากไปอย่างรีบร้อน “ข้าจะไปเขียนจดหมายถึงตระกูลฝั่งมารดาของข้าเดี๋ยวนี้”
“ข้าก็เหมือนกัน!” ฮูหยินสองหลิวซื่อรีบเดินกลับเช่นเดียวกัน
ฮูหยินสี่หวังซื่อได้ยินคำกล่าวนี้จึงขยับริมฝีปากเล็กน้อย ทว่า เมื่อหันกลับไปมองตำหนักของไป๋ชิงเหยียนนางจึงพยักหน้ารัว
“พี่สะใภ้สี่ ข้าทราบสถานการณ์ของตระกูลฝั่งมารดาของท่านดี” ฮูหยินห้าฉีซื่อเดินไปคล้องแขนฮูหยินสี่หวังซื่อ จากนั้นเดินลงบันไดไปพร้อมนาง “ท่านเขียนจดหมายกลับไปบอกว่าหากหาตัวอาอวี๋และเสี่ยวชีพบจะถือว่าทำความดีความชอบยิ่งใหญ่ ตระกูลหวังปฏิบัติต่อพี่สะใภ้สี่ไม่ดี อาเป่าจึงไม่ได้สนับสนุนตระกูลหวังเมื่อนางขึ้นครองราชย์ ท่านบอกพวกเขาว่านี่คือโอกาสอันดีที่พวกเขาจะได้สร้างผลงาน หากตระกูลหวังไม่คว้าโอกาสครั้งนี้ไว้ก็คงไม่มีวาสนาแล้ว ท่านบอกพวกเขาว่าสะใภ้คนอื่นรีบเขียนจดหมายไปให้ตระกูลฝั่งมารดาของตัวเองเพราะต้องการแย่งความดีความชอบในครั้งนี้มาเป็นของตัวเองให้ได้!”
ฝ่ามือของหวังซื่อเต็มไปด้วยเหงื่อ “จะได้ผลแน่หรือ”
“พี่สะใภ้สี่ยังไม่รู้จักน้องชายอนุของตัวเองอีกหรือเจ้าคะ เขาชอบอยู่เหนือผู้อื่น หากพี่สะใภ้สี่บอกเขาว่าสะใภ้คนอื่นกำลังแย่งกันสร้างความดีความชอบ เขาต้องรีบเข้ามาแย่งด้วยแน่นอนเจ้าค่ะ!” ฉีซื่อตบหลังมือของหวังซื่อเบาๆ อย่างปลอบโยน
หวังซื่อชะงักมือที่กำลังคลำลูกประคำอยู่ นางพยักหน้าตอบ “ตกลง ข้าจะเชื่อน้องสะใภ้”
ตำหนักของไป๋ชิงเหยียน
ไป๋ชิงเหยียนอ่อนเพลียจนแทบทนไม่ไหว นางควรนอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่ ทว่า นางเป็นห่วงอาอวี๋และเสี่ยวชีจึงฝืนร่างกายของตัวเองเอาไว้ ตอนนี้นางมีสติมาก
ถงหมัวมัวให้ชุนจือพานางกำนัลเดินไปปิดประตูหน้าต่างทุกบานของตำหนักให้มิดชิด จากนั้นยกเตาผิงหลายอันเข้ามาด้านใน ตอนนี้ไป๋ชิงเหยียนกำลังอยู่ไฟ นางจะโดนลมไม่ได้แม้แต่น้อย
เตาผิงใต้ดินถูกจุดขึ้นเช่นเดียวกัน
ต่งชิงผิงได้เข้าวังก่อนผู้อื่นเพราะเขาคือลุงของไป๋ชิงเหยียน ทว่า ไป๋ชิงเหยียนเพิ่งคลอดลูกเสร็จต่งชิงผิงจึงไม่ได้เข้าไปด้านใน ได้แต่สนทนากับหลานสาวผ่านผ้าม่านเท่านั้น
การที่ไป๋ชิงเหยียนคลอดลูกแฝดชายหญิงออกมาถือเป็นเรื่องน่ายินดีของทุกคน ต่งชิงผิงเล่าเรื่องปรากฏการณ์ดีที่เกิดขึ้นบนท้องฟ้าฝั่งตะวันออกเมื่อเช้าให้ไป๋ชิงเหยียนฟัง “ท้องฟ้าปรากฏลางดีขึ้นเช่นนี้แสดงว่าอาอวี๋และคุณหนูเจ็ดต้องปลอดภัยแน่นอน อาเป่า เจ้าอยู่ไฟให้สบายใจ ลุงให้คนส่งจดหมายไปบอกท่านยายของเจ้าแล้ว พรุ่งนี้ท่านยายและป้าสะใภ้ของเจ้าจะเข้ามาเยี่ยมเจ้าในวัง วันนี้เจ้าพักผ่อนให้เต็มที่เถิด”
“ไปประกาศเรื่องน่ายินดีเถิด ให้ขุนนางทุกคนรับรู้ว่าฝ่าบาทประสูติทายาทแฝดมังกรและหงส์ออกมา” ต่งซื่อถอนหายใจออกมาพลางกล่าวขึ้น
“ได้!” ต่งชิงผิงรับคำ เขาพยายามควบคุมความรู้สึกเป็นห่วงอาอวี๋เอาไว้ “ข้าจะไปประกาศเดี๋ยวนี้”
ต่งชิงผิงทำความเคารพเตรียมจากไป แต่นึกสิ่งใดขึ้นได้จึงหันไปกล่าวกับไป๋ชิงเหยียน “อาเป่า หลู่ไท่เว่ยไปจัดการเรื่องที่เจ้าสั่งให้ทำแล้ว เจ้าไม่ต้องกังวลเกินไปนัก องครักษ์ลับของตระกูลต่งออกเดินทางไปช่วยตามหาอาอวี๋และคุณหนูเจ็ดแล้ว ท่านยายของเจ้าส่งจดหมายไปให้น้าชายของเจ้าสั่งให้ฉางหลานออกเดินทางไปตามหาอาอวี๋และคุณหนูเจ็ดที่ซีเหลียงด้วยตัวเองแล้วเช่นเดียวกัน เจ้าไม่ต้องห่วง”
“ขอบพระคุณท่านยายและท่านลุงมากเจ้าค่ะ…”
“นี่จะห่างเหินกันเกินไปแล้ว” ต่งชิงผิงกล่าวจบจึงทำความเคารพไป๋ชิงเหยียนอีกครั้งและจากไปทันทีโดยไม่ต้องการรบกวนการพักผ่อนของไป๋ชิงเหยียน