สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 1241 ความปลอดภัย

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1241 ความปลอดภัย

หากนางรู้ว่าผู้ใดต้องการทำร้ายน้องๆ ของนาง นางจะถลกหนังเลาะกระดูกของคนผู้นั้นออกมาแน่นอน!

“เว่ยจงเตรียมรถม้า” ไป๋ชิงเหยียนตะโกนสั่งเสียงแหบพร่า “ตามหลู่ไท่เว่ย เสิ่นซือคงและต่งซือถูเข้ามาในวังด่วน!”

“พ่ะย่ะค่ะ” เว่ยจงรับคำแล้วรีบไปทำตามคำสั่งทันที

ทหารกองทัพไป๋ซึ่งคุกเข่าอยู่บนพื้นเงยหน้าขึ้นทันที “เสี่ยวไป๋ไซว่…”

เสี่ยวไป๋ไซว่จะเดินทางไปซีเหลียงจริงๆ อย่างนั้นหรือ

ทว่า เสี่ยวไป๋ไซว่เพิ่งคลอดลูกออกมานะ!

ต่งซื่อรู้ว่าไป๋ชิงเหยียนกำลังจะออกเดินทางไปยังซีเหลียง นางกำผ้าเช็ดหน้าที่เปียกชื้นไปด้วยน้ำตาในมือแน่น น้ำตาไหลพรากไม่ขาดสาย นางไม่รู้จะห้ามปรามบุตรสาวเช่นไรและไม่รู้ว่าควรห้ามปรามหรือไม่

ไป๋ชิงเหยียนก้มหน้ามองลูกน้อยทั้งสองคนแวบหนึ่ง จากนั้นก้มจูบลงบนหน้าผากของลูกทั้งสองอย่างแผ่วเบา

เด็กสองคนนี้ตัวเล็กกว่าเด็กแรกเกิดปกติ โดยเฉพาะลูกสาวตัวเล็กกว่าลูกชายค่อนข้างมาก เสียงร้องไห้ตอนแรกเกิดของนางเบาราวกับลูกแมวที่เพิ่งคลอดออกมาจากท้องแม่ของมัน นางสงสารลูกมาก ไป๋ชิงเหยียนโทษว่าเป็นเพราะนางเดินทางไปออกรบทั้งๆ ที่ตั้งครรภ์อยู่จึงทำให้ลูกของนางได้รับผลกระทบเช่นนี้

หมอหลวงและต่งซื่อเห็นว่าท้องของไป๋ชิงเหยียนไม่ใหญ่มากนักจึงไม่มีผู้ใดคิดว่านางจะตั้งครรภ์แฝด แม้แต่ไป๋ชิงเหยียนเองก็ยังนึกไม่ถึง นางจำได้ว่าตอนที่อนุของท่านอาสี่ตั้งท้องเสี่ยวอู่และเสี่ยวลิ่วนางเคยไปแอบดูแวบหนึ่ง ท้องของอนุผู้นั้นใหญ่กว่านี้มาก ทว่า ท้องของนางเล็กจนแทบสังเกตไม่ออกว่าตั้งครรภ์แฝด

ไป๋ชิงเหยียนทบทวนเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ด้วยความหงุดหงิด ก่อนหน้านี้นางมักคิดว่าลูกของนางเป็นเด็กดี เขาไม่ดิ้นเพราะกลัวนางจะทรมาน นางไม่ได้ใส่ใจเรื่องอาหารเท่าที่ควรจนลูกในท้องของนางได้รับผลกระทบไปด้วยโดยที่นางไม่รู้ตัว

“เจ้าไม่ต้องห่วง…” ต่งซื่อกล่าวกับไป๋ชิงเหยียนเสียงเบา “หมอหลวงบอกแล้วว่าแม้เด็กสองคนนี้จะตัวเล็กราวกับแมว แม้จะอ่อนแอกว่าเด็กแรกเกิดปกติไปบ้าง ทว่า หากพวกเราดูแลเขาทั้งสองอย่างดี พวกเขาจะค่อยๆ แข็งแรงจนเป็นปกติแน่นอน”

เดิมทีร่างกายของเด็กแฝดแรกเกิดก็อ่อนแอกว่าเด็กปกติอยู่แล้ว เสียงร้องของพวกเขาเบาราวกับแมว ไม่ได้ดังกังวานเหมือนเด็กแรกเกิดทั่วไป โดยเฉพาะหลานสาวของนางที่อ่อนแอกว่าหลานชายค่อนข้างมาก เมื่อครู่พอดื่มนมจากเต้าของแม่นมเสร็จก็อาเจียนออกมาหมด

ต่งซื่อกลัวว่ากล่าวออกมาแล้วไป๋ชิงเหยียนจะเป็นกังวลจึงสั่งให้หมอหลวงปิดเรื่องนี้เป็นความลับ

นางได้แต่ภาวนาให้สวรรค์และบรรพบุรุษไป๋ช่วยคุ้มครองให้หมอหลวงรักษาเด็กทั้งสองให้กลับมาแข็งแรงเหมือนเด็กปกติทั่วไปให้ได้

“ท่านแม่ ลูกทั้งสอง…พี่ชายนามว่าไป๋ไห่เยี่ยน น้องสาวนามว่าไป๋เหอชิง มาจากคำว่าใต้หล้าสงบสุข นามเล่นของพวกเขาคือสี่เล่อและคังเล่อ ท่านแม่ช่วยดูแลสี่เล่อและคังเล่อแทนข้าด้วยนะเจ้าคะ ข้าจะพาอาอวี๋และเสี่ยวชีกลับมาให้ท่านแม่ให้ได้เจ้าค่ะ! ข้าจะให้อาอวี๋กลับมาคุกเข่าลงตรงหน้าท่านแม่และบอกว่าเขากลับมาบ้านอย่างปลอดภัยเจ้าค่ะ”

น้ำตาของต่งซื่อไหลพรากไม่ขาดสายอย่างควบคุมไม่อยู่ นางกอดร่างของบุตรสาวพลางร้องไห้โฮออกมา

ถงหมัวมัวพาชุนเถาเดินไปด้านหน้า จากนั้นคุกเข่าลงตรงหน้าต่งซื่อและไป๋ชิงเหยียน

“ฮูหยิน คุณหนูใหญ่ ครั้งนี้บ่าวห้ามไม่ให้คุณหนูใหญ่ไม่ไปไม่ได้ บ่าวขอติดตามคุณหนูใหญ่ไปด้วยเจ้าค่ะ” ถงหมัวมัวกล่าวเสียงหนักแน่นพลางก้มศีรษะแนบพื้น “หากฮูหยินและคุณหนูใหญ่ไม่ตกลง บ่าวจะนั่งอยู่เช่นนี้จนกว่าคุณหนูใหญ่จะตกลงเจ้าค่ะ!”

“บ่าวด้วยเจ้าค่ะ” ชุนเถาก้มศีรษะแนบพื้นเช่นเดียวกัน น้ำตาของนางไหลพรากไม่ขาดสาย “หากคุณหนูใหญ่จะไป ชุนเถาจะติดตามไปด้วยเจ้าค่ะ ตอนนี้ร่างกายของคุณหนูใหญ่อ่อนแอมากจำเป็นต้องมีคนคอยดูแลเจ้าค่ะ คุณหนูใหญ่พาบ่าวไปด้วยนะเจ้าคะ!”

“บ่าวด้วยเจ้าค่ะ!” ชุนจือรีบคุกเข่าลงเช่นเดียวกัน “ชุนจือเคยติดตามคุณหนูใหญ่ไปแล้วครั้งหนึ่ง บ่าวจะทำให้ดีกว่าครั้งที่แล้ว คุณหนูใหญ่พาบ่าวไปด้วยนะเจ้าคะ!”

ต่งซื่อหันไปมองถงหมัวมัวและชุนเถา นางรู้สึกซาบซึ้งกับความจงรักภักดีของบ่าวเหล่านี้มาก

“ถงหมัวมัวไม่ต้องตามไปหรอก” ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางถงหมัวมัวทั้งน้ำตา นางต้องพาชุนเถาไปด้วยมิเช่นนั้นท่านแม่คงไม่สบายใจ ชุนเถาก็คงไม่สบายใจเช่นเดียวกัน ทว่า ถงหมัวมัวอายุมากแล้ว นางคงเดินทางไกลเช่นนั้นไม่ไหว

เมื่อเห็นถงหมัวมัวอยากกล่าวสิ่งใดออกมาอีกไป๋ชิงเหยียนจึงรีบกล่าวขึ้น “ข้าอยากให้ถงหมัวมัวช่วยดูแลลูกทั้งสองของข้า ถงหมัวมัวดูแลข้ามาตั้งแต่เล็ก หมัวมัวมีประสบการณ์ในการดูแลเด็ก ข้ารู้สึกผิดมากที่ไม่ได้อยู่ดูแลพวกเขาด้วยตัวเอง ท่านแม่และถงหมัวมัวได้โปรดช่วยดูแลลูกทั้งสองแทนข้าด้วย”

ได้ยินเช่นนี้ถงหมัวมัวจึงไม่กล่าวสิ่งใดอีก นางก้มศีรษะคำนับไป๋ชิงเหยียน “คุณหนูใหญ่ไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ บ่าวจะดูแลคุณหนูทั้งสองให้ดีที่สุดเจ้าค่ะ”

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า “ข้าจะพาชุนเถาและชุนจือไปด้วย”

ต่งซื่อพยักหน้า “ได้ ทว่า แม่มีเรื่องจะกำชับอีกเรื่อง แม่รู้ว่าเจ้าเป็นห่วงอาอวี๋กับเสี่ยวชี ทว่า เจ้าเพิ่งคลอดลูก เจ้าห้ามขี่ม้าเองเด็ดขาด จงนั่งรถม้าไป ชุนเถา ชุนจือ พวกเจ้าต้องดูแลคุณหนูใหญ่ของพวกเจ้าให้ดีที่สุด! เรื่องอื่นยังไม่เท่าใดนัก ทว่า คุณหนูใหญ่เพิ่งคลอดลูก ห้ามนางโดนลม โดนความเย็นและห้ามนางขี่ม้าเด็ดขาด หากกลับมาแล้วข้ารู้ว่านางแอบขี่ม้า ถึงข้าจะทำอันใดนางไม่ได้ ทว่า ข้าจะลงโทษพวกเจ้าทั้งสองคนแทน!”

ชุนเถาก้มศีรษะคำนับด้วยสีหน้าหนักแน่น “ฮูหยินไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ ชุนเถาจะไม่มีทางปล่อยให้คุณหนูใหญ่ขี่ม้าเด็ดขาดเจ้าค่ะ หากคุณหนูใหญ่จะขี่ม้าต้องข้ามศพชุนเถาไปก่อนเจ้าค่ะ!”

“ชุนจือก็เช่นเดียวกันเจ้าค่ะ” ชุนจือรีบก้มศีรษะคำนับ

ต่งซื่อกุมมือบุตรสาวแน่นพลางพยักหน้า จากนั้นหันไปสั่งฉินหมัวมัว “ฉินหมัวมัวไปเตรียมรถม้าให้คุณหนูใหญ่ที ห้ามมีลมเข้าไปในตัวรถม้าได้เด็ดขาด เตรียมถ่านไปให้มากพอ จริงสิ หลูผิงอยู่ที่ใด”

ฉินหมัวมัวรีบกล่าว “เมื่อวานคือวันพักผ่อนของหลูผิงเจ้าค่ะ ตอนนี้เขาคงรู้ข่าวเรื่องคุณหนูใหญ่คลอดลูกแล้วเจ้าค่ะ”

ต่งซื่อพยักหน้า “ให้หลูผิงตามอาเป่าไปยังซีเหลียงด้วย พวกเราอยู่แต่ในวังหลวงไม่จำเป็นต้องให้หลูผิงคอยคุ้มกัน”

“ฮูหยินไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ บ่าวจะจัดการเรื่องทุกอย่างให้เรียบร้อยเจ้าค่ะ” ฉินหมัวมัวทำความเคารพและจากไปเตรียมรถม้าและของอื่นๆ สำหรับเดินทางให้ไป๋ชิงเหยียน

ต่งซื่อหันกลับมาก็เห็นบุตรสาวมองลูกทั้งสองของตัวเองนิ่ง ต่งซื่อรู้ว่าบุตรสาวไม่อยากแยกจากลูกๆ บุตรสาวเพิ่งคลอดพวกเขาออกมาแท้ๆ ทว่า อาเป่าเป็นห่วงน้องชายและน้องสาวของนางเช่นเดียวกัน

ต่งซื่อเอ่ยโน้มน้าวบุตรสาวอย่างอดไม่ได้ “เจ้าไม่จำเป็นต้องไป เจ้าเพิ่งคลอดลูกออกมา ท่านลุงของเจ้าส่งองครักษ์ลับของตระกูลต่งไปช่วยตามหาแล้ว…”

ไป๋ชิงเหยียนส่ายหน้า “ต่อให้มีความเป็นไปได้เพียงแค่ร้อยละหนึ่งที่อาอวี๋กับเสี่ยวชีจะถูกซีเหลียงจับตัวไปข้าก็ต้องไปด้วยตัวเองเจ้าค่ะ ข้าต้องทำให้ข่าวนี้รู้ไปถึงหูพวกซีเหลียงให้ได้เจ้าค่ะ”

ความอาลัยอาวรณ์ที่มีต่อลูกทั้งสองเทียบไม่ได้กับชีวิตที่กำลังแขวนอยู่บนเส้นด้ายของอาอวี๋และเสี่ยวชี

นางได้กลับมาเกิดใหม่อีกครั้งเพื่อปกป้องมารดา อาสะใภ้และบรรดาน้องๆ นางจะปล่อยให้อาอวี๋และเสี่ยวชีเป็นอันใดไปได้อย่างไร

ที่สำคัญลูกทั้งสองของนางอยู่ในเมืองหลวง นางไม่จำเป็นต้องห่วงความปลอดภัยของพวกเขา ไม่ว่าอย่างไรท่านแม่และอาสะใภ้ของนางก็ไม่มีทางปล่อยให้เด็กทั้งสองเป็นอันใดไปอยู่แล้ว

นางมองลูกทั้งสองนิ่ง เพิ่งคลอดออกมาพบหน้ากันก็ต้องแยกจากกันเสียแล้ว วันหน้าเมื่อเรื่องทุกอย่างจบสิ้นลงนางจะชดเชยให้พวกเขาอย่างดี นางจะคอยอยู่ข้างกายพวกเขา คอยดูแลอบรมพวกเขา…

หมอหลวงหวงและขันทีเดินถือถ้วยยาเข้ามาด้านใน

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท