ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย – บทที่ 1177 คิดสั้น

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 1177 คิดสั้น

บทที่ 1177 คิดสั้น

กู้หนิงอันทำในสิ่งที่ถูกต้อง แต่กลับถูกกล่าวหาเหมือนกระทำความผิดร้ายแรง

หรือต้องการให้กู้หนิงอันมองคนตายไปต่อหน้า หรือไม่ก็ให้เขาโยนเหลียนจือกลับลงไปในน้ำแล้วปล่อยให้นางจมน้ำตายไปเสีย

“วันนี้ตระกูลกู้ของเจ้าต้องให้ความเป็นธรรมกับลูกสาวข้า มิฉะนั้นเราจะแขวนคอที่ประตูบ้านตระกูลกู้ของเจ้า!” เกาต้าผิงคำราม

ทันทีที่คำพูดของเขาจบลง ก็ได้ยินเสียงคำรามอย่างโศกเศร้าจากด้านหลัง

“สามี สามี เกิดเรื่องใหญ่แล้ว เหลียนจือจะฆ่าตัวตาย!”

“หืม?”

คำพูดของหญิงผู้นั้นทำให้กู้เสี่ยวหวานแปลกใจ

ฝูงชนรอบข้างหลีกทางให้หญิงผู้นั้น

ผู้ที่มาใหม่คือสวีซื่อ นางวิ่งเข้ามาอย่างร้อนรน ใบหน้าโศกเศร้าอาบไปด้วยหยาดน้ำตา

“สามี เหลียนจือจะฆ่าตัวตาย ฮือ ๆๆ” สวีซื่อวิ่งเข้ามาดึงเกาต้าผิง และเริ่มร้องไห้ฟูมฟาย

จากนั้นราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่างออก นางหันกลับมาและฟาดฝ่ามือลงบนใบหน้าของกู้หนิงอัน

ใบหน้าของกู้หนิงอันบิดเบี้ยวและหันไปอีกทางตามแรงตบ

เมื่อเห็นการกระทำของหญิงตรงหน้า หัวใจของกู้เสี่ยวหวานก็กระตุกอย่างรุนแรง

กู้เสี่ยวอี้พลันร้องไห้ออกมา “ท่านพี่!”

เมื่อเห็นสิ่งนี้ อาโม่กำลังจะก้าวไปข้างหน้าเพื่อช่วยเหลือกู้หนิงอัน

กู้เสี่ยวหวานรีบคว้าตัวเขาและบอกให้เขานิ่งไว้ก่อน

ตอนนี้สถานการณ์กลายเป็นเช่นนี้แล้ว การที่อาโม่เข้าไปช่วยเขาก็เท่ากับว่าทำให้เรื่องรุนแรงขึ้น มันไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร

สวีซื่อดูเหมือนกำลังจะเสียสติ นางทิ้งร่างกายในอ้อมแขนของเกาต้าผิงและร้องไห้ฟูมฟาย

เมื่อเกาต้าผิงได้ยินว่าลูกสาวของตนต้องการฆ่าตัวตาย เขาก็ร้องไห้เช่นกัน

“เหลียนจือผู้น่าสงสารของข้า!”

“กู้หนิงอัน เจ้ายังบอกว่าเจ้าไม่ได้เอาเปรียบลูกสาวของข้าอีกหรือไม่ ถ้าเจ้าไม่ทำให้ความบริสุทธิ์ของนางเสื่อมเสีย ทำไมนางต้องการฆ่าตัวตายด้วย” เกาต้าผิงกระชากตัวกู้หนิงอัน

กู้หนิงอันเคยผ่านช่วงเวลาแห่งความตื่นตระหนกมาก่อน หลังจากผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ เขาก็เหมือนจะได้สติ

เขาพบว่าสมาชิกของตระกูลเกากำลังจะจัดการกับเรื่องนี้ในตอนนี้

กู้หนิงอันส่งเสียงอย่างเย็นช้า “ข้า กู้หนิงอัน กล้าสาบานกับฟ้าดินว่าข้าแค่ช่วยแม่นางเกาเท่านั้น หากมีการกระทำที่ไร้ยางอายอื่น ๆ ขอให้ข้าถูกฟ้าผ่าตาย”

“โห่”

เนื่องจากคำสาบานที่เย็นชาของกู้หนิงอัน ฝูงชนรอบตัวพวกเขาจึงโห่ร้องเสียงดัง

หลังจากที่กู้เสี่ยวหวานได้ยินว่าเกาเหลียนจือจะฆ่าตัวตาย นางก็พูดอะไรบางอย่างกับอาโม่ อาโม่พยักหน้าและหันหลังจากไป

เกาต้าผิงไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะเอ่ยคำสาบานที่ชั่วร้ายเช่นนี้ มันทำให้เขาอยากจะเป็นลมไปชั่วขณะ แต่เขากลับมามีสติอย่างรวดเร็วและเยาะเย้ย “สาบานน่ะใครก็ทำได้ ตอนนี้เจ้ายังไม่ตายนี่ แต่ลูกสาวของข้ากำลังจะตายแล้ว”

กู้เสี่ยวหวานเห็นว่ามีผู้คนมามุงดูมากขึ้นเรื่อย ๆ เกาต้าผิงดูเหมือนว่าต้องการใส่ร้ายกู้หนิงผิงท่ามกลางฝูงชนจำนวนมาก เพียงต้องการให้ทุกคนรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้

แม้ว่าตอนนี้คนจะยังรู้ไม่ทั่ว แต่พรุ่งนี้ก็น่าจะรู้กันทั่วหมู่บ้าน

บางทีวันพรุ่งนี้ เรื่องนี้อาจจะรู้ไปทั่วเมืองหลิวเจีย

“สามี ตอนนี้ข้าควรทำอย่างไรดี” สวีซื่อร้องไห้คร่ำครวญ เมื่อเห็นว่าคนในตระกูลกู้ไม่พูดอะไรสักคำ

เกาต้าผิงชำเลืองมองกู้หนิงอัน จากนั้นก็มองไปที่กู้เสี่ยวหวานและตะคอกอย่างเย็นชา “วันนี้ข้าต้องได้ความเป็นธรรมให้เหลียนจือ นางเป็นหญิงสาวบริสุทธิ์ นางต้องไม่ถูกเอาเปรียบโดยเปล่าประโยชน์”

ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงตอนนี้ กู้เสี่ยวหวานและคนอื่น ๆ เฝ้าดูอย่างเงียบ ๆ

พวกเขาทุกคนรู้ว่ากู้หนิงอันเป็นคนอย่างไร และไม่คิดว่ากู้หนิงอันจะทำอนาจารเช่นนี้ สิ่งเดียวที่สามารถอธิบายได้ก็คือ เกาต้าผิง สวีซื่อ เกาซื่อ และคนอื่น ๆ จงใจทำให้เรื่องนี้รุนแรงขึ้น และต้องการให้กู้หนิงอันรับผิดชอบเกาเหลียนจือ…

รับผิดชอบ

“จะให้รับผิดชอบอย่างไร” กู้เสี่ยวหวานขมวดคิ้วถาม

“จะให้รับผิดชอบอย่างไรหรือ” เกาต้าผิงตะคอกอย่างเย็นชาพลางมองไปที่กู้หนิงอันแล้วพูดว่า “ลูกสาวของข้าถูกน้องชายของเจ้าเอาเปรียบ เจ้าจะรับผิดชอบผู้หญิงที่ดีเช่นนี้อย่างไร น้องชายของเจ้ามองไปที่ร่างกายของนาง กอดนาง ยังต้องถามอีกหรือว่าจะรับผิดชอบอย่างไร”

เกาซื่อวิ่งไปหากู้เสี่ยวหวานและรีบพูดว่า “เสี่ยวหวาน เจ้าอาจไม่เคยเห็นหลานสาวของข้ามาก่อน นางสวยมาก หนิงอันและครอบครัวของเจ้าเป็นคู่ที่สมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ทั้งสองคนอายุไล่เลี่ยกัน ทำไมเจ้าไม่ตัดสินใจเรื่องการแต่งงานของทั้งสองล่ะ ให้พวกเขาแต่งงานกันในอีกสองปี แบบนี้ก็ดีนะ”

เกาซื่อรอไม่ไหวแล้วรีบพูดความคิดของพวกนางออกมาทันที

เกาต้าผิงและสวีซื่อก็พยักหน้าพร้อมกัน “เช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน”

ให้แต่งงานกับกู้หนิงอัน

ใบหน้าของกู้เสี่ยวหวานเต็มไปรอยยิ้ม หากแต่มันเป็นรอยยิ้มเย็นชา

พ่อแม่ของเกาเหลียนจือและเกาซื่อเอาแต่พยักหน้าหงึกหงัก โดยบอกว่านี่เป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุด แต่พวกเขาไม่เคยถามกู้เสี่ยวหวาน กู้หนิงอัน และคนอื่น ๆ เลย

บางทีพวกเขาคิดว่าไม่จำเป็นต้องปรึกษาสมาชิกในครอบครัวของกู้

เกาต้าผิงและเกาซื่อดูเหมือนจะมีความสุข และพูดถึงเรื่องนี้ออกไปทันที

สวีซื่อแทรกขึ้น ดูเหมือนจะพอใจกับคำอธิบายนี้มาก

พวกเขาทั้งสามยิ้มอย่างพึงพอใจ ราวกับว่าพวกเขาลืมเกาเหลียนจือที่กำลังจะปลิดชีพตนเอง

ในเวลานี้ ฉินเย่จือพากู้หนิงผิงกลับมาที่บ้าน เมื่อเห็นคนกลุ่มใหญ่ล้อมรอบอยู่หน้าประตูบ้าน การแสดงออกของฉินเย่จือนั้นตึงเครียด

เขาและกู้หนิงผิงรีบตรงเข้าไปในบ้าน

ครั้นเห็นว่าเป็นคนจากตระกูลกู้กลับมา ฝูงชนก็รีบหลีกทางให้พวกเขา

กู้หนิงผิงรีบเดินไปข้างหน้า ฉินเย่จือตามมาข้างหลังอย่างมั่นคง สีหน้าของเขาเย็นชาราวกับธารน้ำแข็ง

ทุกคนรู้สึกว่าอากาศรอบตัวถูกแช่แข็ง และพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะหลบไปด้านข้าง

ชายหนุ่มที่ครอบครัวของกู้เสี่ยวหวานเลือกมานั้นมีทักษะศิลปะการต่อสู้ที่เก่งกาจ และไม่ใช่คนที่จะมาล้อเล่นด้วยได้ ชาวบ้านในหมู่บ้านต่างรู้ดี

บางคนจึงพารีบพาลูกกลับบ้าน

นอกจากนี้ หลังจากที่ฉินเย่จือกลับมา ยังมีผู้กล้าหาญบางคนล้อมรอบพวกเขาไว้อีกครั้ง ชะเง้อคอมองเพื่อรอดูเรื่องสนุก ๆ

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

Status: Ongoing
กู้เสี่ยวหวานเป็นสาวนักวิจัยด้านการเกษตรวัยเฉียดสามสิบผู้เพียบพร้อม​ในทุกด้าน​ เว้นแต่ด้านความรักที่ยังไม่มาทักทาย​ จนพ่อแม่กลุ้มใจและจัดนัดบอดให้หลายหน และความซวยก็มาเยือนในนัดบอดครั้งนี้​ หลังได้รับโทรศัพท์​จากหัวหน้าทีมวิจัยว่าการทดลองล้มเหลว​ ทำให้เธอต้องรีบทำการทดลองก่อนเวลานัดบอด​ จนประสบอุบัติเหตุ​โทรศัพท์​มือถือระเบิดกลางห้องแลบและพาตัวเธอทะลุมิติ​มาเกิดใหม่ในร่างสาวน้อยสมัยราชวงศ์ชิงผู้แบกภาระเลี้ยงดูน้องๆ​ ท่ามกลางครอบครัวที่เต็มไปด้วยการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น​

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท