———
การสร้างทางน้ำคืบหน้าไปแค่เล็กน้อย
นำดินกองลากยาวตั้งแต่บ่อกับเก็บน้ำไปจนถึงน้ำตกแล้วอัดให้แน่นด้วยค้อน
ถึงแม้จะไม่เหนื่อย เพราะเป็นงานที่ใช้ [อุปกรณ์เกษตรสารพัดประโยชน์] แต่ยังไงแรงงานก็มีแค่ผมคนเดียว
แถมยังต้องดูแลไร่อีกด้วย
10 วัน คืบหน้าไป 500 เมตร
แค่ 1 ใน 10 ส่วน
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อยิ่งเข้าใกล้น้ำตกปริมาณดินที่ต้องใช้ก็จะเพิ่มขึ้นอีก
ใน 90 วัน คงจะไม่เสร็จ
โต้รุ่งแบบไม่หยุดพักดีไหมนะ
แต่ถ้าทำแบบนั้น พวกคุโระจะได้รับผลกระทบไปด้วย
อืมม
ระหว่างนั้น มะเขือเทศ ผักกาดก้านขาว และอ้อยก็พร้อมเก็บเกี่ยว
จึงต้องหยุดพักการก่อสร้างทางน้ำ
แล้วมาตั้งใจกับการเก็บเกี่ยวผลผลิต
ดูเหมือนพวกคุโระจะยังชื่นชอบมะเขือเทศเหมือนเคย
พวกมันกินกันอย่างมีความสุข
ผักกาดก้านขาวต้องนำมาสกัดเพื่อเอาน้ำมัน จึงแค่เก็บเกี่ยวแล้วเก็บรักษาไว้
เรื่องสกัดเอาไว้ทีหลังละกัน
ส่วนอ้อย ระหว่างที่เคี้ยวกลิ่นหอมหวานก็ฟุ้งไปทั่วปาก
ความหวานที่ไม่ได้สัมผัสมานาน น้ำตาผมไหลนิดหน่อย
ตอนที่ทานอ้อยอยู่ พวกคุโระทำสีหน้าเหมือนอยากกินบ้าง เลยแบ่งให้ไป
……..
ในหมู่พวกสุนัข มีแค่ยูกิกับคุโระซังเท่านั้นที่ชื่นชอบ
เหมือนกับสตรอเบอรี่
ผมตัดแล้วรวบรวมเอาไว้
ทั้งข้าวสาลีและถั่วเหลืองต้องนวด เลยเจอปัญหานิดหน่อยเพราะไม่เคยนวดข้าวหรือถั่วเหลืองมาก่อน
ตอนนี้ยังทำอะไรไม่ได้
ก่อนอื่นก็เก็บเกี่ยวไปก่อนค่อยคิดทีหลัง
เรื่องต้นข้าว…ผมตั้งใจจะทำบางอย่างกับต้นอ่อนแต่ก็ปล่อยทิ้งไว้อย่างนั้น เพราะอยากให้ความสำคัญในการหาเกลือและการก่อสร้างทางน้ำก่อน
กับนาข้าวก็เลยยังไม่ได้ลงมือทดลองจริงจัง
เอาเถอะ ผมทำอ่างเก็บน้ำไว้ก็เพื่อนาข้าว และทางน้ำเองก็เหมือนกัน….
คิดว่ามันจะเปล่าประโยชน์ แต่กลับไม่เป็นแบบนั้น
ต้นอ่อนเติบโตขึ้น รวงข้าวก็เริ่มปรากฏให้เห็น
ปัญหาของการทำนาคือผลผลิตที่เก็บเกี่ยวได้งั้นเหรอ
หรือว่าสายพันธุ์
ผมได้เข้าใจว่า ตัวเองแค่หลงไหลในการเกษตรเท่านั้น แต่ไม่มีความรู้อะไรเลย
อย่างไรก็ตาม มาเก็บเกี่ยวข้าวทั้งหมดก่อน
ต้นผลไม้ก็โตขึ้นพอสมควรแล้ว แต่ยังไม่ออกผล
คงต้องให้เวลาอีกสักพักล่ะนะ
แต่ความเร็วในการเติบโต ยังเร็วกว่าที่รู้มาก
หรือว่าบางที อาจจะสามารถปลูกต้นสนไม่ก็ไม้ฮิโนกิ**ได้?
<Hinoki cypress หรือ Japanese cypress เป็นไม้สนไซเปรสสายพันธุ์ญี่ปุ่น>
……..
ไม่ต้องห่วงเรื่องรวบรวมไม้เหรอ?
ค่อย ๆ ลงมือทำไปโดยไม่ต้องรีบร้อนดีกว่า
หลังจากเก็บเกี่ยว ผมปลูกมะเขือเทศไว้ 2 แปลง ที่เหลือปล่อยว่างเอาไว้
ถึงจะมีทางเลือกมากมาย แต่สิ่งที่ทำได้นั้นมีจำกัด
ก่อนอื่นก็ต้องทำทางน้ำให้เสร็จ แล้วทำบ่อเก็บน้ำให้เรียบร้อยซะก่อน
ผมกลับมาสานต่องานสร้างทางน้ำ
ทำและทำไปเรื่อย ๆ
เพราะรู้สึกเศร้าที่ทำอยู่อย่างเดียว เลยเปลี่ยนบรรยากาศไปสำรวจป่าบ้าง
ผมยังไม่ได้ล้มเลิกการหาหินเกลือ
หินเกลือ คือ เกลือที่ตกผลึกเป็นก้อน
เพราะหาที่แม่น้ำไม่เจอเลยเปลี่ยนไปหาในทางตรงข้ามดู
นอกจากการเปลี่ยนบรรยากาศก็ไม่มีผลลัพธ์อย่างอื่น
30 วันผ่านไป
ผมสังเกตเห็นว่ามะเขือเติบโตจนใกล้พร้อมเก็บเกี่ยวแล้ว
อุณหภูมิกำลังลดต่ำลง
….
ฤดูกาล?
ใช่แล้ว!
ลืมคิดถึงเรื่องที่ว่าอาจจะมีฤดูหนาวด้วยไปสนิทเลย
โถ่
เพราะพวกพืชเติบโตไว เลยลืมไปซะสนิท
ในโลกนี้มีฤดูกาล
ถึงจะเป็นต่างโลกก็คงมีสินะ
ตั้งแต่มาที่โลกนี้ ผ่านไปกี่วันแล้วนะ
เก็บเกี่ยวไป 2 ครั้ง อีกนิดก็ครั้งที่ 3
ตั้งแต่ลงมือปลูกไปจนถึงตอนเก็บเกี่ยวน่าจะราว ๆ 40-50 วัน
ถ้าคิดว่ารอบล่ะ 40 วัน ก็ 120 วันแล้ว?
หลังจากเริ่มทำไร่ก็ผ่านไป 4 เดือนแล้ว
ถ้าคิดว่าช่วงที่มายังโลกนี้คือฤดูใบไม้ผลิ….
ผมเสียชีวิตตอนเดือนพฤษภาคม
อิงจากตอนนั้น งั้นตอนนี้ก็เดือนพฤศจิกายน หรือว่าตุลาคมกันนะ
ถ้าที่นี่เหมือนกับโลกล่ะก็ ตอนนี้ก็เช้าช่วงฤดูหนาวแล้วสิ
ควรจะคิดไว้ว่าฤดูหนาวจะยาวอย่างน้อย 90 จะดีกว่าไหมนะ?
ถ้าหิมะตก ก็จะออกไปทำอะไรข้างนอกไม่ได้
………
แย่แล้ว
ไม่ใช่เวลามาสร้างทางน้ำแล้ว
ควรรีบทำไร่
มันฝรั่ง มันหวาน แรดิช และแคร์รอตสามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน
แล้วก็ต้องการฟืนสำหรับไฟด้วย
ปกติแล้ว ฟืนคือไม้ที่ตากจนแห้งแล้ว แต่ใช้ [อุปกรณ์เกษตรสารพัดประโยชน์] ตัด ไม้ที่ได้จะสามารถใช้เป็นฟืนได้ทันที
ช่วยได้มากทีเดียว
ผมเก็บฟืนจำนวนมากไว้ที่บริเวณด้านหลังต้นไม้ใหญ่ที่เคยใช้เป็นที่พัก
———