———
ลืมโอกาสที่จะมีฤดูหนาวไปสนิท
ทั้งที่พูดว่าจะทำเกษตรแท้ ๆ ช่างเป็นความผิดพลาดที่ไม่ได้เรื่องเอาซะเลย
ไม่ได้อยากจะอ้างอะไรแต่ เพราะพืชพันธุ์โตเร็วผิดปกติ ราวกับป่าไร้ฤดูกาล
สภาพอากาศก็เช่นกัน มีแค่สองสามวันที่ในตกหนักจนออกไปข้างนอกไม่ได้ นอกจากนั้นก็แค่ตกปรอย ๆ เท่านั้น
ทำเอาลืมไปซะสนิท
ถ้าแค่ตัวผมคนเดียวคงพอถูไถไปได้ แต่เพราะมีพวกคุโระอยู่ด้วยเลยอยากรวบรวมอาหารเอาไว้ด้วย
ผมสร้างชั้นใต้ดินไว้แทนตู้เย็นสำหรับเก็บรักษาเนื้อ
แค่อยู่ในนี้ก็เย็นพอสมควรแล้ว
ควรสร้างไว้ให้เร็วกว่านี้แท้ ๆ
แล้วผมก็ออกไปล่ากระต่ายกับพวกคุโระ
….ว่ากันว่า ถ้ามองหาอะไร จะหาสิ่งนั้นไม่เจอ
ผมล่าไม่ได้สักกะตัว แต่เพราะพวกคุโระล่ากลับมาได้ ผมจึงได้รับหน้าที่ถ่ายเลือดออก แล้วก็จัดการกับเนื้อและเครื่องในแทน
การถ่ายเลือดออก
หลังจากล่าสัตว์ ก็คืองานถ่ายเลือด
เนื้อที่ถ่ายเลือดออกจะมีกลิ่นคาวลดลง
จำได้ว่าเนื้อกระต่ายที่ถ่ายเลือดออกไปแล้ว อร่อยใกล้กับเนื้อหมูป่าทีเดียว
ดั้งนั้น ถ้าเป็นไปได้ผมจะถ่ายเลือดก่อนเสมอ
ส่วนเครื่องใน….ค่อนข้างน่ากลัวในหลาย ๆ แง่เลยทิ้งไป
พวกสุนัขทำสีหน้าราวกับจะบอกกับผมว่า [เอ๊ะ? จะทิ้งไอนั่นเหรอ?] แต่ว่า เครื่องในเน่าเสียง่าย ต้องรีบทานทันที แล้วถ้าผมจะทานก็ต้องเตรียมเป็นอย่างดีก่อนด้วย
ก็เพราะ บางส่วนก็มีของเสียอย่างมูล ยูเรีย น้ำย่อย ก็เลย….
ผมเคยได้เห็นแมลงยักษ์ที่กำลังละลายกับกบสีประหลาดมาแล้ว เลยไม่อยากจะเข้าไปแตะต้อง
ในโลกใบก่อน ไส้ย่างตอนบาร์บีคิวก็เป็นของสัตว์กินพืช ฉะนั้นผมไม่ฝืนทานเครื่องในของสัตว์กินเนื้อ หรือสัตว์กินทั้งพืชและเนื้อจะดีกว่า
อ๊ะ….หรือว่าสำหรับพวกคุโระ ของพวกนั้นเป็นสิ่งที่อุดมไปด้วยสารอาหารอย่างงั้นเหรอ
ผมก็ไม่เคยได้ยินว่ามีสัตว์ป่าที่เลี่ยงการกินเครื่องในนี่นะ….เหมือนจะกินเป็นอยากแรกเลยด้วยซ้ำ
……
ผมแบ่งทุกส่วนแล้วเก็บไว้ โดยอาศัยความรู้จากโลกก่อน แล้วนำส่วนระบบย่อยอาหารให้พวกคุโระ
จะทำอย่างไรกับเจ้าสิ่งที่เหมือนก้อนหินซึ่งอยู่ใกล้ ๆ หัวใจดีนะ
ของที่เหมือนกับนิ่ว**เหรอ?
<TN: gallstone ซึ่งหมายถึงนิ่วในถุงน้ำดี แต่ในที่นี่ ฮิราคุบอกว่าอยู่ใกล้ ๆ หัวใจ เลยตัดสินใจละบางส่วนไป >
เหมือนจะไม่ได้มีแค่กระต่าย หมูป่าเองก็เหมือนจะมี
เรื่องปกติของสัตว์ในโลกนี้เหรอ
ทานได้ไหมนะ
ผมลองเอาให้พวกคุโระ พวกมันก็เคี้ยวแล้วกินอย่างเต็มอกเต็มใจ
….มันอร่อยงั้นเหรอ?
อย่างไรก็ตาม เครื่องในเอาไว้ให้พวกคุโระ
แต่แค่วันต่อวันเท่านั้น ไม่มีเก็บข้ามคืน
จะว่าไปแล้ว ทั้งคุโระอิจิ คุโระนิ คุโระซัง และคุโระยงเมื่อเทียบกับคุโระ ยูกิแล้วอาจจะยังตัวเล็กกว่า แต่ผมคิดว่าพวกมันโตเต็มวัยแล้ว
บริเวณกลางหน้าผากของพวกมันมีสีแดง เหมือนว่าเขาที่รูปร่างเหมือนมีดจะกำลังงอก
ถึงอย่างไรก็ตาม เรื่องรวบรวมเนื้อปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกคุโระ ผมรับหน้าที่สนับสนุน พอคิดแบบนั้น พวกคุโระก็ล่อหมูป่ายักษ์ตัวหนึ่งมาทางผม
อยากให้ผมเป็นคนจัดการเหรอ
ผมแค่กำลังถูกพึ่งพาอยู่ หรือว่าพวกมันแค่อยากแบ่งเครดิตให้ผมบ้างกันแน่
ยังไงก็ปล่อยให้เข้าไปในไร่ไม่ได้ ผมเลยใช้จอบสับไปคอของมัน
หลังจากนั้น ก็ถ่ายเลือดและนำเครื่องในออก
ถ้ามีแค่ผมคนเดียวปริมาณเท่านี้ก็ผ่านฤดูหนาวไปได้แล้ว แต่พวกคุโระกินเยอะกว่าที่คิด
ผมจึงอยากได้หมูป่าเพิ่มอีก
รวบรวมหญ้าด้วย
แน่นอนเอามาใช้เป็นกระดาษชำระ แต่ที่สำคัญกว่านั้นก็คือนำมาใช้ทำเตียงนอน
พอคิดเผื่อเรื่องความเย็นในช่วงฤดูหนาว ก็ต้องรวบรวมไว้เยอะ ๆ
ในแง่ของประสิทธิภาพแล้ว เตียงนอนที่ทำจากหญ้านั้นอยู่ได้ราว 10 วัน
ตอนใช้เป็นกระดาษชำระ ผมแค่วางไว้เฉย ๆ เลยอยู่ได้นาน
ถ้าเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี คงไม่มีปัญหา
ถึงแม้จะตัดง่าย แค่การหามกลับมานั้นค่อนข้างลำบาก
ผมลองให้พวกคุโระช่วยขนมา โดยผูกติดกับตัวเอาไว้ แต่พอมาคิดถึงเรื่องที่ผมเป็นคนเดียวที่เอาลงจากตัวพวกมันได้ เลยคิดว่าลงมือทำด้วยตัวเองคงจะดีกว่า
ผมอยากให้พวกมันตั้งใจไปกับการล่า
ต่อไปก็ ชุด
พวกคุโระมีขนคงไม่มีปัญหา แต่ผมนี่สิ ทั้งท่อนบนท่อนล่างเป็นแค่ชุดชาวบ้านธรรมดา ๆ
ผ่านหน้าหนาวไปไม่ไหวแน่
และสิ่งที่เข้าตาผมก็คือหนังของกระต่ายและหมูป่า
….
หลังจากแร่หนังออกมาแล้วทำยังไงต่อนะ?
เหมือนจะต้องเอาไปฟอก…แต่มันต้องทำยังไงหว่า?
อ้างอิงจากมังงะเอาชีวิตที่เคยอ่าน เหมือนจะต้องเคี้ยวให้อ่อนลง…เอ่อ..
ถ้าเป็นจากรายการ TV ที่เคยดู หลังจากล้างจนสะอาดแล้ว จากนั้นก็ละลายไขมันที่เหลืออยู่ด้วยอะไรสักอย่าง ทำให้แห้งแล้วยืดออก
ลองทดลองกับหนังกระต่ายดู
หลังจากล้มเหลวไป 4 ครั้งก็ยอมแพ้
ไม่ไหว
คนธรรมดาที่ไม่มีพื้นฐานอะไรเลยจะมาฟอกหนังเนี่ย ไม่ไหว
ฤดูหนาวนี้จำศีลอยู่ในบ้านอย่างเดียวแล้วกัน
ผมปรับปรุงอาคารเล็ก ๆ ที่ใช้เป็นบ้านอยู่ โดยเสริมมาตรการป้องกันความหนาวเข้าไป
กับหน้าต่างช่องแสง ผมได้เตรียมหน้าต่างเปิดปิด…ไม่สิ ต้องพูดว่าฝาปิดที่มีขนาดพอ ๆ กับหน้าต่างช่องแสง แล้วติดตั้งลงไป
ผมเสริมกำแพงเป็น 2 ชั้น และอัดหญ้าลงไประหว่างช่องว่างของกำแพงทั้งสอง
ประตูที่ใช้มาจนถึงตอนนี้ เป็นแค่ไม้กระดานขนาดประมาณหนึ่งพิงไว้เท่านั้น
ลองพยายามติดตั้งประตู
ส่วนที่ยากคือบานประตู
เพราะไม่มีทั้งชิ้นส่วนเหล็กหรือตะปู เลยยอมแพ้แล้วยึดประตูเข้ากับเสาโดยตรง
พอติดประตูเข้าไปห้องเก็บของก็ดูเหมือนบ้านมากขึ้น
อื้มม อารยธรรม
……เรื่องมาตรการการป้องกันความหนาวเอาแบบนี้แล้วกัน
ถ้าหากติดจนขยับไม่ได้ขึ้นมาก็ใช้ [อุปกรณ์เกษตรสารพัดประโยชน์] ทุบเอาแล้วกัน
….
จะเอายังไงกับตอนใช้ห้องน้ำดีนะ
เลยเพิ่มมาตรการป้องกันความหนาวที่นี่ด้วย
ระหว่างที่กำลังทำอะไรหลาย ๆ อย่างอยู่ คุโระยงที่ออกไปล่าก็มาเรียก
หมูป่าอีกแล้วงั้นเหรอ
คิดแบบนั้นแล้วก็ตามคุโระยงมา สถานที่ที่มุ่งหน้าไปคือ บริเวณใกล้ ๆ ที่ก่อสร้างรางน้ำ
รางน้ำพังงั้นเหรอ?
ระหว่างที่กำลังมุ่งหน้าไปก็รู้สึกกังวลเล็กน้อย ที่นั่นมีคุโระซังคออยู่
ข้างๆ ยังมี..มองไกล ๆ เห็นเป็นของรูปร่างเรียบ ๆ สีดำ
เบาะรองนั่งสีดำ?
ก็คิดแบบนั้น แต่จริง ๆ แล้วคือแมงมุม
ใหญ่จัง
ขนาดประมาณ 2 เสื่อทาทามิ
ไม่ใช่เบาะรองนั่ง แต่เป็นฟูกฟูตงสี่เหลี่ยม
มีขา 8 ข้างด้านละเท่า ๆ กัน
ถ้ากางขาออกก็น่าจะมีขนาดราว 6 เสื่อทาทามิ
ถึงจะไม่เชี่ยวชาญเรื่องแมงมุมเท่าไหร่ ขาของมันก็ไม่ได้ใหญ่นัก
ลักษณะที่โดดเด่นก็คือ ทั้งตัวและขาปกคลุมไปด้วยขน
แมงมุมตัวนั้นยืนอยู่ข้างคุโระซังด้วยท่าทีนอบน้อม
อยากจะให้ทำอะไรกันล่ะ?
ดูไม่เหมือนว่าอยากจะให้จัดการเหมือนตอนหมูป่าเลย…..
คุโระยงทำท่าทีพึงพอใจราวกับเพิ่งทำงานใหญ่สำเร็จ
เอ่อ…คือ
พอเห็นผมทีท่าทางลำบากใจ คุโระซังก็เห่าไปทางแมงมุมราวกับพยายามจะบอกอะไรบางอย่าง
แมงมุมใช้สิ่งนั้นเหมือนเป็นสัญญาณ แล้วปล่อยใยออกมาจากบั้นท้าย แล้วเริ่มใช้ขาด้านหน้าลงมือทำบางสิ่งอย่างชำนาญ
อะไรล่ะนั้น?
….
หลังจากผ่านไปราว 5 นาที แมงมุมก็ทอผ้าผืนหนึ่งที่ดูเปล่งประกายจนเสร็จ
ขนาดราว ๆ ด้านละ 5 เซนติเมตร
ผ้าเช็ดหน้า?
พอพับเป็น 4 ส่วน ก็ยื่นไปด้านหน้าคุโระซัง แล้วคุโระซังก็นำมาส่งให้ผม
ของขวัญ?
พอลองตรวจสอบดู ก็พบว่าคุณภาพเหนือกว่าชุดที่ผมใหญ่อยู่ซะอีก
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีรอยปักเป็นรูปแมงมุมอยู่ด้วย
คุโระซังงับชายกางเกงของผมเบา ๆ แล้วหันกลับไปหาแมงมุม
[หรือว่า….จะให้แมงมุมทำเสื้อผ้าให้งั้นเหรอ?]
คุโระยงเห่าอย่างดีอกดีใจราวกับผมตอบถูก
[อย่างนี้นี่เอง]
ผมไม่ได้เกลียดแมงมุม
พวกมันเป็นแมลงที่มีประโยชน์
ถ้าไม่ใช่แมงมุมที่มีพิษล่ะก็ คงไม่มีปัญหา
ดูเหมือนจะไม่มีพิษ
….
อย่างน้อยก็อยากเชื่อแบบนั้น
ในสังคมนั้นมีเรื่อง การให้และรับ อยู่
ไม่ว่าจะเป็นสัตว์หรือแมลงก็ไม่ต่างกัน
ไม่มีทั้งการเอาเปรียบอยู่ฝ่ายเดียว หรือการให้อยู่ฝ่ายเดียว
มันคือ การพึ่งพากันและกัน (Give and take)
และแมงมุมก็ได้มาอาศัยอยู่ด้วยกัน
ที่พักของแมงมุม คือด้านบนของต้นไม้ที่ผมเคยใช้
อาหารนั้นกินอะไรก็ได้ แต่ดูเหมือนจะชอบมันฝรั่งเป็นพิเศษ
…..กินมันฝรั่งด้วยแฮะ
ก็แมงมุมต่างโลกนี่นะ
แล้วก็สร้างผ้าได้อีก
แถม ไม่ใช่แค่ผ้า ยังปรับเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าได้ด้วย
สุดยอด
มันมองมาที่ผม แล้วทำท่าทีเหมือนกำลังวัดขนาดตัวด้วยนี่นะ
บางที แมงมุมตัวนี้เองก็ฉลาดมากเหมือนกัน
พอรู้ว่าสามารถตอบรับความหวังของผมได้ เลยขอให้สร้างม่านสำหรับติดหน้าต่างช่องแสงกับประตูให้ด้วย
มาตรการป้องกันความหนาวก็พัฒนาขึ้น
ความสุดยอดของแมงมุมไม่ได้มีแค่นั้น
ยังช่วยรับหน้าที่ฟอกหนังที่ผมยอมแพ้ไปแล้วให้ด้วย
เรื่องเซนส์ก็ดีกว่าผมเป็นไหน ๆ
เทียบไม่ได้เลย
ชื่อก็ตั้งให้แล้วด้วย
อ้างอิงจากความประทับใจแรกเห็น ซาบุตง (เบาะรองนั่ง)
ผู้อยู่อาศัยคนใหม่ล่ะ
———
สวัสดีท้ายตอนครับ
ยาวววววววววมากกกกกกกกกกกกก (ก.ไก่ สี่พันล้านตัว)
แต่ ซาบุตง สหายผู้ โย่ว ๆ ใส่เสมอที่ผมรอคอย มาถึงแล้ว !! ( ´ ▽ ` )
สุดท้ายนี้
ช่วงนี้ยุ่งพอสมควรครับ เลยน่าจะอัพช้าบ้าง แต่ก็เหมือนเดิมครับ เป็นไปได้ก็จะอัพให้ทุกวัน
ᕦ(ò_óˇ)ᕤ
ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้าครับ