——
ในจังหวะที่ฤดูใบไม้ผลิมาถึง เทียร์ก็กลับมาพอดี
เธอพาทูตสวรรค์มาด้วยสามคนกับกลุ่มคนอีก 15 คนซึ่งมีใบหน้าเป็นสัตว์เลื้อยคลาน แทบทั่วร่างปกคลุมไปด้วยเกล็ดแข็ง
ร่างกายครึ่งบนเปลือยเปล่า ท่อนล่างมีเพียงผ้ากันเปื้อนผูกอยู่ที่เอว
ส่วนมากกำลังแบกกระสอบขนาดใหญ่กว่าตัวไว้บนหลัง
อิงจากที่เทียร์แนะนำให้รู้จัก เหมือนพวกเขาจะเป็นเผ่าลิซาร์ตแมน
อย่างไรก็ดี น่าจะพวกเขาจะถูกพามาในฐานะผู้ติดตามเผ่าทูตสวรรค์
“แกรนด์มาเรียค่ะ”
“คูเดลค่ะ”
“โคะโรเนะค่ะ จากนี้ไปก็ขอรบกวนด้วยนะคะ”
ทูตสวรรค์ทั้งสามนั้นแต่งกายด้วยชุดเกราะ ถือหอกขนาดใหญ่ลักษณะคล้ายกับแลนซ์
ในแวบแรกนั้น ชวนให้นึกถึงนักรบวัลคีรี่
ดูเหมือนจะเป็นผู้ติดตามของเทียร์
ถึงจะเป็นแบบนั้น แต่ในมุมมองของผมแล้ว เนื่องจากจากภายนอกดูแล้วน่าจะมีอายุราวคราวเดียวกับเทียร์ ผมจึงมองเห็นเป็นกลุ่มของสาวมัธยมปลายสี่คน
แม้ว่าทุกคนจะมีผมสีทอง และมีปีกอยู่ด้านหลังก็ตามที
ผมก็คิดว่าพวกเธอจะมาอาศัยอยู่ที่บ้านของผมด้วยกันกับเทียร์ซะอีก กลายเป็นว่าพวกเธอแสดงความประสงค์ที่จะแยกไปอยู่กันเอง
กลุ่มลิซาร์ตแมนเองก็จะไปอยู่กับพวกเธอเช่นเดียวกัน
ดังนั้นผมจึงเริ่มก่อสร้างบ้านของพวกเธอในเขตตะวันตกเฉียงใต้
ด้วยทำกันจนคล่องแล้ว ภายใต้การร่วมแรงร่วมใจของกลุ่มไฮเอลฟ์ งานจึงเสร็จสิ้นภายในเวลาราวห้าวัน
พอทำบ่อยครั้งผลลัพธ์ย่อมดีขึ้นเป็นธรรมดา จะว่าไปแล้วสร้างบ้านของกลุ่มเรียใหม่ดีไหมนะ
ตัวห้องน้ำก็อยู่นอกอาคารด้วยสิ คงจะไม่สะดวกอะไรหลาย ๆ อย่าง
ทว่าด้วยพวกเธอกล่าวปฏิเสธด้วยความเกรงใจ จึงจบลงที่การปรับปรุงเพียงเท่านั้น
–
“ผมดากะ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ”
เขาเป็นตัวแทนของกลุ่มลิซาร์ตแมน
อาจจะฟังดูเสียมารยาทไปบ้าง แต่เอาจริง ๆ ผมแยกความแตกต่างของแต่ละคนไม่ออกเลย
ในสายตาผมแล้ว ไม่ว่านะคนไหนก็หน้าตาเหมือนกันไปหมด
ตามที่ได้ยินมา ในกลุ่มมีผู้หญิงอยู่ 5 คน ถึงอย่างนั้นผมก็ยังแยกไม่ออกอยู่ดีนั่นแหละ
สำหรับกลุ่มของเทียร์ผมก็บอกความต่างของแต่ละคนไม่ได้เหมือนกัน ทว่าดูเหมือนจะไม่มีปัญหาอะไรเป็นพิเศษ
อย่างไรก็ตาม อย่างน้อยผมก็อยากจะแยกดากะซึ่งเป็นตัวแทนกลุ่มให้ได้
ในตอนแรกผมตั้งใจจะให้สวมชุดเอาไว้ ทว่าสำหรับเผ่าลิซาร์ตแมนแล้ว จะลำบากเอาถ้าไม่ได้เปลือยกาย
ดังนั้นแล้ว ผมจึงให้ผูกผ้าเอาไว้ที่บริเวณแทนขวาแทน
–
กลุ่มของดากะแบกสัมภาระจำนวนมาก และไก่ที่เทียร์พูดให้ผมฟังมาให้
เป็นแม่ไก่ที่ออกไข่ได้
พวกมันออกไข่กันอยู่ก่อนแล้ว ห่อนจะมาถึงที่นี่ ทำให้คาดหวังเรื่องเสบียงได้ในทันที
ทว่ามีจำนวนน้อยทีเดียว
ทั้งหมด 40 ตัว
เป็นพ่อไก่ 5 ตัว แม่ไก่ 35 ตัว
ส่วนตัวผมคิดว่าพวกมันจะออกไข่ทุกวันซะอีก ทว่าตามที่ดากะเล่าให้ฟังแล้วดูเหมือนจะไม่ใช่แบบนั้น
ไม่รู้ว่าความรู้ที่ผมมีมันผิด หรือเพราะไก่ในโลกใบนี้นั้นเป็นแบบนี้อยู่แล้ว โดยถ้าแม่ไก่อารมณ์ดีก็จะออกไข่สองวันหนึ่งฟอง
ดังนั้นแล้ว คงคาดหวังได้ราววันละ 10 ฟอง
ผมไม่รู้ด้วยว่าปริมาณเท่านี้นั้นมากหรือน้อยกันแน่
นั่นก็เพราะ จำนวนผู้อยู่อาศัยมีมากกว่า 10 คนนั่นล่ะนะ
ช่วยไม่ได้ เพราะผมไม่เข้าใจความแตกต่างระหว่างไข่สำหรับบริโภคกับไข่สำหรับทำพันธุ์ แต่ยังไงก็มีพ่อไก่อยู่คงจะไม่มีปัญหาอะไรล่ะนะ
อันที่จริงผมคิดเอาไว้ว่าจะดำเนินการสร้างเขตสำหรับพวกไก่ แต่พอคำนึงเผื่อการเก็บไข่ในอนาคตแล้ว ถ้าพื้นที่กว้างเกินไปจะกลายเป็นยุ่งยากเอาได้
ดังนั้น ก่อนอื่นก็นำมาเลี้ยงไว้ใกล้ ๆ ตัวบ้าน
ตั้งอยู่ที่ใกล้ ๆ ทางเหนือของต้นไม้ใหญ่
จากนั้นก็สร้างโรงเลี้ยงไก่ ขุดหน้าดิน แล้วก็ของที่น่าจะเป็นอาหารของไก่
อาหารไก่เนี่ย มันใช่เมล็ดธัญพืชหรือเปล่านะ
คงจะเป็นของอย่างข้าวโพดไม่ก็ข้าวสาลี
จะไม่คิดขยายไร่คงจะไม่ได้สินะ
ก่อนอื่นก่อนก็ ระหว่างที่ขุดก็คำนึงถึงหญ้าอะไรสักอย่างที่พอจะนำมาเป็นอาหารไก่ได้ไปพลางแล้วกัน
แล้วก็ บอกพวกคุโระไปแล้วว่าอย่าลงไม้ลงมือกับพวกไก่
–
ผมสร้างบ้านหลังใหม่สำหรับกลุ่มของแอน ไม่สิต้องเรียกว่าหอพักมากกว่า เอาไว้ใกล้ ๆ ตัวบ้าน
ด้วยเพราะหลังจากที่กลุ่มของแอนราว 20 ชีวิตเข้ามาอาศัยอยู่ด้วย จำนวนห้องพักที่มีอยู่ก็ไม่เพียงพอ
ตั้งแต่หลังจากนั้นเป็นต้นมาก็ขอให้พวกเธอปรับปรุงห้องเก็บของแล้วใช้เป็นที่พักไปก่อน แต่คงจะปล่อยให้เป็นแบบนั้นไปเรื่อย ๆ ก็คงไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่นัก
ด้วยเหตุนี้เอง ลู เทียร์ ฟลอร่า รวมไปถึงแอนจะพักอยู่ที่บ้านของผม ส่วนคนอื่น ๆ ในกลุ่มนั้นให้ไปพักอยู่ในบ้านที่สร้างขึ้นมา
ตอนสร้างบ้านของกลุ่มไฮเอลฟ์เองก็เหมือนกัน งานเร็วจริง ๆ เพียงสามวันก็เรียบร้อยแล้ว
เรื่องการตกแต่งภายในนั้นยังเตรียมการไม่ทันเรียบร้อยดี แต่บ้านสำหรับพวกเธอทั้ง 19 คนก็เรียบร้อย แถมยังมีห้องว่างเหลืออยู่อีกด้วย
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในบ้านมีห้องน้ำกับห้องครัวแบบง่าย ๆ แล้วก็เตาผิงในห้องนั่งเล่น ภายในห้องส่วนตัวของแต่ละคนก็เตียงนอนกับชั้นวางอย่างละหนึ่งชิ้น ที่เหลือก็เป็นโต๊ะไม่ก็เก้าอี้แบบที่แต่ละคนชอบ
โดยพื้นฐานแล้ว เป็นห้องสำหรับใช้นอนเท่านั้น ดังนั้นแล้วนอกเหนือไปจากห้องของเมดบางคนแล้ว ก็จะมีเพียงเตียงกับชั้นเท่านั้น
ทว่า ดูเหมือนว่าพวกเธอเองก็ค่อนข้างจุกจิกเรื่องอย่างผ้าม่านหรือผ้าปูที่นอน และดูเหมือนว่าจะไปปรึกษากับพวกซาบุตงแล้วให้ทำอะไรให้หลาย ๆ อย่าง
ทูตสวรรค์หน้าใหม่ทั้งสามคนนั้น ในตอนที่ผมคิดว่าพวกเธอคงจะเริ่มคุ้นชินกับชีวิตที่นี่แล้ว พวกเธอก็มาหาผม
“ขอคำสั่งด้วยค่ะ”
“เรื่องแนวหน้าให้พวกเราจัดการเถอะค่ะ”
“เรื่องรวบรวมข้อมูล จะพยายามอย่างเต็มที่ค่ะ”
……
ไม่ใช่
มันไม่ควรเป็นแบบนี้สิ
ผมคือชาวบ้านที่ใช้หยาดเหงือแรงกายไปกับงานไร่….ไม่สิ บรรยากาศรอบตัวผมคือหัวหน้าหมู่บ้าน
บรรยากาศรอบตัวพวกเธอคือนักรบ
ไม่สิ ก็คงจะแบบนั้นแหละก็สวมเกราะ แถมยังติดอาวุธด้วยนี่นะ
“เทียร์?”
ผมลองไปถามเทียร์เพื่อยืนยันกับเจ้าตัวดูอีกหนว่าพาพวกเธอมาด้วยเหตุผลแบบไหน
“”ฉันคิดว่าจะให้พวกเธอรับหน้าที่เป็นหน่วยจู่โจมลาดตระเวนรอบ ๆ ป่าน่ะค่ะ”
“หน่วยจู่โจม?”
“ใช่ค่ะ ครั้งก่อนที่ไวเวิร์นเข้ามาโจมตี ด้วยเคลื่อนไหวรับมือช้าเลยเป็นการปล่อยให้มันมีโอกาสโจมตี ดังนั้นเพื่อรับมือเรื่องแบบนั้น เลยเรียกพวกเธอทั้งสามมาน่ะค่ะ”
“……อย่างนี้นี่เอง”
“ถ้าหากเป็นไวเวิร์นแบบเดียวกันกับเหตุการณ์ครั้งก่อน ก็ได้แจ้งเอาไว้แล้วว่าให้ล่อออกไป เพื่อป้องกันไม่ให้ที่แห่งนี้ได้รับความเสียหายถึงแม้จะไม่สามารถเอาชนะมันได้ค่ะ”
พวกเธอพงักหน้าอย่างมั่นอกมั่นใจให้กับคำพูดของเทียร์
“อารมณ์ประมาณยามรักษาความปลอดภัยสินะ”
อย่างนี้นี่เอง
ตลอดมาจนถึงปัจจุบันก็พึ่งพาสัญญาณเตือนจากซาบุตงกับพวกคุโระมาโดยตลอด ทว่าพอมีไวเวิร์นแบบนั้นโผล่มาการป้องกันแบบรุกก็อาจจะจำเป็นก็เป็นได้
ที่แห่งนี้ก็กว้างขวางขึ้นด้วยนี่นะ
“เข้าใจแล้วล่ะ ขอฝากด้วยนะ”
พวกเธอตอบรับคำพูดของผมอย่างกระตือรือร้น
–
“มีเรื่องจะปรึกษาน่ะ”
คุโระ ซาบุตง ลู เทียร์ เรีย แอน ดากะ
สไลม์ ผึ้งกับวัว แม้ไก่จะไม่ได้มาเข้าร่วมด้วย แต่ก็คงช่วยไม่ได้ล่ะนะ
ผมเรียกตัวแทนของแต่ละเป่ามาพูดคุยในห้องโถงของบ้าน
“มาตั้งชื่อให้ที่นี่กันเถอะ”
“ที่นี่……งั้นเหรอคะ”
“ใช่แล้ว ในตอนแรกนั้นถึงจะเป็นแค่บ้านของผมก็เถอะ พอมีอะไรหลาย ๆ อย่างเพิ่มเข้ามาก็กลายเป็นสิ่งที่คล้ายกับหมู่บ้านขึ้นมาใช่ไหมล่ะ”
อันที่จริง กลุ่มของเรียก็เรียกผมว่าหัวหน้าหมู่บ้าน ตอนนี้ก็เลยรู้สึกแบบนั้น
“ดังนั้นแล้ว เลยอยากจะตั้งชื่อในฐานะหมู่บ้านน่ะ มีชื่ออะไรบ้างไหม?”
ด้วยผมไม่รู้วิธีตั้งชื่อหมู่บ้าน
ก็เลยมาปรึกษากับทุกคน
“ใช่ชื่อหัวหน้าหมูบ้านดีไหมคะ?”
ผมเอาคำพูดของเรียมาคิด
ชื่อของผมคือ มาจิโอะ ฮิราคุ
หมู่บ้านมาจิโอะ หมู่บ้านฮิราคุ……
แหม่ง ๆ
“เอาเป็นชื่อของป่าแห่งนี้ดีไหมคะ?”
แอนเสนอขึ้น
ชื่อของป่าแห่งนี้เหรอ?
จะว่าไปแล้ว ที่นี่ ป่าแห่งนี้มีชื่อด้วยงั้นเหรอ?
ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก ถ้ามีก็คงต้องเอามาพิจารณาเป็นธรรมดาล่ะนะ
“ชื่อของป่าแห่งนี้คืออะไรงั้นเหรอ?”
“ป่าแห่งความตายค่ะ”
……
มีชื่อที่น่าสะพรึงกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ซะอีก
“เอ่อ…..ชื่อของที่แห่งนี้……”
“ดินแดนแห่งความตายค่ะ”
……
นี่ตัวฉันอาศัยอยู่ในที่แบบนี้งั้นเหรอเนี่ย
แต่ถึงจะมีชื่ออย่าง ป่าแห่งความตาย หรือ ดินแดนแห่งความตาย ก็ตามที แต่รู้สึกว่าที่นี่ก็คือนข้างอุดมสมบูรณ์ทีเดียว……
เอาเป็นว่า จะปล่อยไปแบบนี้ล่ะก็ชื่อจะกลายเป็น หมู่บ้านแห่งความตาย เป็นแน่แท้
แบบนั้นคงเกินไปหน่อยล่ะนะ
ยังคิดอยู่เลยว่าถ้าจะให้เป็นแบบนั้นสู้ใช้ชื่อผมจะดีซะกว่า
หลังจากนั้น ก็มีการเสนอชื่อหลาย ๆ แบบขึ้นมาแล้วโต้แย้งกันอย่างดุเดือด แต่ก็ยังไม่ได้ชื่อที่โดนใจ
คิดอยู่ว่าจะล้มเลิกไปหากยังไม่มีไอเดียดี ๆ โผล่ออกมา แต่แล้วซาบุตงก็เรียกผมแล้วชี้ไปทางต้นไม้ต้นใหญ่นอกบานหน้าต่าง
……
หมู่บ้านไทจู (หมู่บ้านแห่งต้นไม้ใหญ่)
ในที่สุด
ได้แล้ว
ชื่อของที่แห่งนี้ก็คือ หมู่บ้านไทจู
——
←ประมาณ 5 กิโลเมตรเป็นแม่น้ำ
หมายเหตุ
畑 = ไร่ 犬 = สุนัข 新畑 = ไร่ใหม่
池 = อ่างน้ำ 建設中 = ระหว่างก่อสร้าง
家 = บ้าน 下水路 = ทางน้ำใต้ดิน (ทางระบายน้ำ)
上水路 = ทางน้ำ 風呂 = ห้องอาบน้ำ
果実 = ผลไม้ 東南 = เขตตะวันตกเฉียงใต้
牛 = วัว
!! (ใหม่) 鶏 = ไก่ 寮 = หอพัก
——
สวัสดีครับ
หายไปนานเลย (ฮา)
ยุ่งอะไรหลาย ๆ อย่างครับ แถมตอนมานั่งแปลดึก ๆ ก็เผลอหลับก่อนตลอด เลยแปลได้แค่วันละนิดละหน่อย ในที่สุดก็เสร็จ
ขอโทษคนที่รออ่านด้วยแล้วกันนะครับ
ยังไงก็ enjoy ครับ
ไว้พบกันใหม่ตอนหน้า