ลิลลี่ยัดกระจกทองเเดงของเธอเข้าลงไปในสาบเสื้ออย่างช้า ๆ
ในหัวของเธอมีความคิดต่าง ๆ โถมเข้าอย่างไม่ทันตั้งตัว…
เธอกลายเป็นพี่สาวที่ตนชื่นชอบ ?
วิญญาณของเธออยู่ในร่างพี่สาวงั้นเหรอ ?
ความคิดที่ว่าผู้หญิงมีใบหน้าคล้ายกับพี่สาวของเธอ ไม่ได้อยู่ในหัวของลิลลี่เลยเพราะใบหน้าที่สะท้อนอยู่ในกระจกตอนนี้ก็คือพี่สาวของเธออย่างไม่ผิดเเน่ ! ลิลลี่เป็นคนที่มองคนอื่นอยู่เสมอเเละยิ่งเป็นใบหน้าของผู้หญิงที่เธอโหยหามาตลอด เธอจะเข้าใจผิดว่าเป็นคนอื่นได้อย่างไร ?
ถ้าอย่างนั้นร่างเดิมของเธอละ ? มันถูกสิ่งโดยคนอื่นเหมือนกันหรอ ? หรือว่าจะเป็นพี่สาวสิงร่างของเธออยู่ ?
ไม่..ไม่สิต่อให้เป็นอย่างนั้นจริงก็คงเป็นไปได้ยากอยู่เเล้ว ยังไงก็เถอะ..ตอนนี้เธอต้องใจเย็นไว้
ลิลลี่ก้มลงมองหน้าอกใต้ผิวกิโมโนของเธอ หน้าอกขนาดใหญ่ใต้ร่มผ้านี้ที่เป็นของพี่สาว
ไม่เเปลกใจเลยที่มันจะใหญ่ขนาดนี้…
ของพี่สาว..
หน้าอก กลิ่นของเธอ ทุกอย่างของเธอ ตอนนี้มันอยู่ที่เธอเเล้วจริง ๆ งั้นหรอ ?
ลมหายใจของเธอถี่ขึ้นอย่างไม่รู้ตัวเเละใบหน้าเนียนของลิลลี่เริ่มมีสีเเดงปรากฏที่พวงเเก้ม
สําหรับนักเรียนปีหนึ่งธรรมดาอย่างเธอ รักเเรกของเธอก็คือรักที่คิดเพียงฝ่ายเดียวหรือบางทีอาจจะเรียกได้ว่าเป็นรักที่ไม่สมหวังด้วยซํ้า
เเต่ตอนนี้ร่างที่เธอโหยหามานาน เธอได้ครอบครองทุกอย่างของมันเเล้ว
หากเป็นในโลกเดิมเธอคงจะเกลียดถูกหากเธอเข้าไปหาพี่สาวเเต่ในตอนนี้มันไม่จําเป็นต้องคิดถึงเรื่องพวกนั้นอีกเเล้ว ! นี้คงเป็นโชคชะตาของเธอหรือเปล่านะ ?
เอ๊ะ ? ไม่สิ ?
มีบางอย่างไม่ถูก ?
ตอนนี้มันอยู่ในเวลาคิดถึงเรื่องอะไรเเบบนั้นกัน !
ขบวนร้อยอสูรที่เธอเพิ่งพบ ฝูงสุนัขที่กระหายในกระจกทองเเดงของเธอ สถานการณ์อันเฉียดตายที่เธอรอดมาได้อย่างหวุดหวิด เเต่เธอกลับมีความคิดสกปรกในสถานที่เเบบนี้เนี่ยนะ !
“บางทีจะบอกว่ามันเป็นความคิดสกปรกก็มากเกินไปหน่อย..ตามจริงฉันก็ควรจะชอบอะไรเเบบนีด้วยซํ้า ! ” ในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง เธอก็มักจะใช้ร่างกายของพี่สาวเป็นต้นเเบบในความคิดเเย่ ๆ ของเธออยู่เป็นประจํา พี่สาวที่เธอชอบอยู่ตลอดจะไม่ให้นึกถึงได้อย่างไรกันล่ะ ?
ยิ่งกว่านั้นในตอนนี้เธอจะจับส่วนไหนของร่างกายก็ได้ตามใจชอบอยู่เสมอ เมื่ออยู่ในที่ลับตาผู้คน…
“ไม่ ๆ ๆ …ถ้าหากวิญญาณของพี่สาวมารู้ว่าฉันทําอะไรตอนอยู่ในร่างของเธอละก็…ไม่สิ ต่อให้เธอไม่รู้ก็จริง เเต่ทําอย่างนี้มันก็คงไม่ดีต่อพี่สาวเเน่ ! ร่างกายนี้เป็นของพี่สาว ดังนั้นฉันจะปล่อยให้ร่างที่งดงามเช่นนี้มีมลทินเพราะคนไร้หยาบคายเช่นฉันได้ยังไงกัน พี่สาวคงเกลียดฉันเเน่หากเธอรู้ ! “
ยังไงก็ตาม เหตุการณ์เเบบนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไงนะ ?
อึก..
จู่ลิลลี่ก็รู้สึกเจ็บหน้าอกขึ้นมาราวกับมีกระเเสความร้อนไหลผ่านเมื่อเธอกําลังนึกถึงเหตุการณ์สุดท้ายก่อนหน้าจะมายังที่เเห่งนี้ มันเหมือนกับหัวใจเธอรู้สึกว่างเปล่าอย่างบอกไม่ถูก
เพราะอะไรกันนะ ?
“คุณผู้หญิง..”
“เอ๊ะ ? ” ลิลลี่ที่หมกมุ่นอยู่กับความคิดของตัวเธอเอง จนลืมรอบข้างไปอย่างประมาทตัว เมื่อเธอมองไปยังต้นเสียง ก็พบกับซามูไรหนุ่มตัวสูงถือตะเกียงกําลังเดินเข้ามาใกล้ ๆ ทางด้านหน้า
ซามูไรตรงหน้าเธอดูมีอายุประมาณยี่สิบถึงช่วงสามสิบต้น ๆ เสื้อกิโมโนธรรมดาตัดกับกางเกงขายาวสีดําหลวม ๆ เเละคาตานะสองเล่มที่เหน็บอยู่ข้างเอว ยิ่งขับออร่าที่ดูชอบธรรมรอบตัวของเขาให้ดูกล้าหาญเเละทรงพลัง เเม้จะอยู่ภายใต้เเสงสลัวยามราตรีก็ตาม
ผิวที่ไร้รอยเปื่อยย่น คิ้วหนา ไหล่ที่กว้างเเละใบหน้าคมคายบ่งบอกถึงประสบการณ์ของเขาเป็นอย่างดี
เเต่เดี่ยวก่อน !
ลิลลี่สะดุ้งตัวราวกับเเมว
เเม้เเต่ตอนนี้หรือก่อนหน้านี้เธอก็ยังคงถือร่มกระดาษของเธออยู่ เเต่ซามูไรคนนี้กลับมองเห็นเธอหรือว่าร่มคันนี้ไม่มีผลกับมนุษย์หรอ ? เเสดงว่าเขาก็เป็นมนุษย์ปกติเหมือนกันสิ ? เขาคงไม่ทําร้ายเธอหรอกนะ ?
ยิ่งด้วยความงามของพี่สาวของเธอเเล้ว จะมีใครที่ไม่กล้าจ้องจะรุมเข้าหาบ้างละ ในโลกเดิมของลิลลี่ที่ยังคงมีกฎหมายป้องกันตัวได้อยู่ เเต่เเล้วโลกเเห่งนี้ละ ใครจะปกป้องเธอได้กัน ! ถ้าเขาทําร้ายเธอจริง ๆ ละก็เธอควรทําอย่างไรดีล่ะ ? ไม่ว่ายังไงก็ตามเธอต้องห้ามประมาทเด็ดขาด !
“คุณผู้หญิง..” เสียงของซามูไรพูดอย่างอ่อนโยน เเต่คําต่อมาของเขาทําให้เธอรู้สึกเเปลกใจ
“คุณ..เป็นมนุษย์หรือผี ? “
“เอ๊ะ ?!”
ลิลลี่จ้องมองซามูไรหนุ่มอย่างว่างเปล่า..เขาถามเพราะอะไรหรือเเค่สงสัยเฉย ๆ กัน ? เพราะเธอก็สงสัยอีกฝ่ายเช่นกัน..
เเต่เมื่อเธอมองไปยังดวงตาของซามูไรหนุ่มเเละสังเกตสีหน้าของเขาเเล้ว อีกฝ่ายออกจะดูน่าสงสัยน้อยกว่าเธอด้วยซํ้า
เเต่ใครจะไปรู้กันละ เขาอาจจะเเค่ตีสองหน้าก็ได้เช่นกัน
“ฉ..ฉันหลงทาง..”
ลิลลี่รู้สึกอับอายกับตัวเองอย่างมากเมื่อฟังเสียงที่เป็นเเผ่วเบาของเธอ เเต่เธอจะทําอะไรได้กับเรื่องนี้บ้างล่ะ ?
“หืม ? ” ซามูไรหนุ่มขนวดคิ้วเเละดูระมัดระวังตัวมากขึ้น
ลิลลี่เห็นท่าทางอีกฝ่ายเเละรู้สึกอึดอัดขึ้นมาทันที เธอก็มีเหตุผลของเธออยู่เเต่ต่อให้พูดไปอีกฝ่ายก็จะยิ่งสงสัยมากขึ้นเท่านั้น หญิงสาวที่ถือร่มในราตรีเเทนที่จะเป็นยามอรุณยิ่งทําให้เธอดูเหมือนปีศาจสาวโฉมสะคราญมาล่อลวงคนซะมากกว่าอีก !
“คุณผู้หญิง คุณมาจากไหนกัน” ซามูไรพยายามถามเพื่อคลายความสงสัยในตัวเธอ
“ฉัน..ฉันก็ไม่รู้ว่าเหมือนกันว่าฉันมาจากไหน”
ท่าทีของซามูไรหนุ่มที่ระมัดระวังตัวอยู่เเล้วขยายขึ้นอย่างทันใด เเต่หญิงสาวตรงหน้าของชายหนุ่มกลับดูท่าทางเเละลักษณะเช่นไรก็ไม่เหมือนกับปีศาจเลยซักนิดทําให้เขาดูเเปลกใจ
“ชื่อของคุณ ? ” ซามูไรพยายามจะเข้าไปจับเเขนของลิลลี่
สัมผัสที่ทรงพลังเเตะเข้ากับผิวอันอ่อนนุ่มของหญิงสาว ทําให้ลิลลี่ตื่นตัวขึ้นในทันที
เพียะ ! ..
ฝ่ามืออันอ่อนนุ่มของหญิงสาวตบเข้าที่หน้าของซามูไรหนุ่มอย่างจัง
เเม้ว่าตัวลิลลี่จะรู้ว่าเธอไม่มีทางเอาชนะคู่ต่อสู้ตรงหน้าได้เเน่นอนในโลกเเปลกประหลาดเเห่งนี้ เเต่อย่างไรก็ตามลิลลี่ที่มีจิตเป็นชายเเละยิ่งร่างนี้เป็นของพี่สาวด้วยเเล้วก็ยิ่งทําให้ไม่ต้องการให้ผู้ชายเเตะต้องเธอขึ้นไปอีก !
ซามูไรหนุ่มเมื่อโดนตบเข้าที่ใบหน้าก็มีอารมณ์ที่ร้อนครุกกรุ่นขึ้นเเต่ก็สงบลงอย่างรวดเร็วเมื่อลองตั้งสติคิดถึงท่าทางของหญิงสาวตรงหน้าของตนเเล้ว การทําลักษณะเช่นนี้กลับคลายข้อสงสัยขอชายหนุ่มไปได้หลายส่วน
เพราะถ้าเธอเป็นปีศาจจริงการตบก่อนหน้านี้คงจะเป็นการข่วนมากกว่าซะด้วยซํ้า !
เเละด้วยปฎิกิริยาที่มีสายตาดูหยิ่งผยองประกอบกับเสื้อผ้าเเละยิ่งสีผิวที่ได้รับการดูเเลของเธอ หากพิจารณาให้ดีละก็คงเป็นลูกหลานของตระกูลผู้ดีซักเเห่งเป็นเเน่
เมื่อคิดอย่างถี่ถ้วนเเล้ว ซามูไรหนุ่มจึงเก็บอารมณ์ของตนลงไปเเละก้าวถอยไปอย่างให้เกียรติ
“ข้าต้องขออภัยต่อเหตุการณ์ก่อนหน้านี้เป็นอย่างยิ่ง อย่างที่คุณผู้หญิงทราบในคํ่าคืนนี้มีขบวนร้อยอสูรเคลื่อนผ่านเเละยิ่งสําหรับคุณผู้หญิงที่ออกไปไหนคนเดียวในยามวิกาลเช่นนี้ ทําให้ข้าต้องเข้ามาตรวจสอบให้ชัดเจนตามหน้าที่”
“ตามหน้าที่ ? ” ลิลลี่มองไปยังซามูไรหนุ่มตรงหน้าถือมีคาตานะสองเล่มเเละถือตะเกียงในมืออยู่
เขาอาจจะเป็นคนจากหน่วยงานรัฐก็ได้ใช่ไหม ?
ซามูไรหนุ่มเห็นใบหน้าที่เหมือนมีเครื่องหมายคําถามลอยอยู่เหนือหัวของเธอ จึงกล่าวอธิบายออกไป
“ข้ามีนามว่า โฮโจ อุจิซาเนะ ทํางานลาดตระเวนอยู่เเถวบริเวณเมืองคามาคุระในยามราตรี อย่างที่คุณผู้หญิงทราบก่อนหน้านี้มีขบวนร้อยอสูร พวกข้าจึงยังออกมาปฎิบัติหน้าที่ไม่ได้ได้เพียงรอมันผ่านไปก็เท่านั้นเเละนอกจากนี้ข้าขอเรียนถามชื่อคุณผู้หญิงได้ไหม ? “
ลิลลี่คิดจะกล่าวชื่อเล่นของเธอไปเฉย ๆ เเต่อย่างนั้นมันก็คงจะเสียมารยาทต่ออีกฝ่ายเเน่เเละอีกฝ่ายก็ดูเหมือนคนในหน่วยงานรัฐด้วย เธอเองก็อยากจะขออะไรบางอย่างจากเขาเหมือนกัน ดังนั้นถ้าเเนะนําตัวอย่างเป็นทางการเลยก็ดูจะเหมาะสมกว่าเเต่…
ชื่อจริงเธอชื่อว่าอะไรกันนะ ?
……
………
“คากามิ ลิลลี่”
จู่ ๆ ก็มีความคิดที่ให้เธอพูดชื่อนั้นออกมาในใจของลิลลี่ เหมือนเป็นเครื่องเตือนใจให้เธอนึกถึงใบหน้าของพี่สาวของเธออยู่เสมอ เพื่อให้เธอปกป้องมันเอาไว้ในที่เเปลกประหลาดนี้เเละอีกอย่างกระจกทองเเดงในปกเสื้อของเธอก็ดูน่าสงสัยเหมือนกัน ทําไมปีศาจถึงอยากได้มันกันนะ ?
..กระจกใบหนึ่งที่สะท้อนให้เธอเห็นถึงใบหน้าของตัวตนจริง ๆ ของเธอในโลกใบนี้..
นั่นจึงทําให้เธอนึกพูดชื่อนี้ออกมา (N:ในที่นี้คากามิเเปลว่ากระจกได้เช่นกัน)
โฮโจจ้องมองอย่างหลงใหลครู่นึกก่อนจะอุทานออกมา
“ช่างเป็นชื่อที่งดงามจริง ๆ..”
เเต่เมื่อนึกถึงมารยาทของเขาที่ดูหยาบคายไปเล็กน้อยเเละนึกบางอย่างออก เขาจึงรีบก้าวถอยครึ่งก้าวเเล้วโค้งคํานับลง
“หรือว่าท่านจะมาจากตระกูลคากามิอันเลื่องลือในภูมิภาคคันไซอันห่างไกล ? “
“อา…ใช่เเล้วล่ะ..”
ลิลลี่ตอบอย่างไม่ต้องคิด สมองของเธอประมวลผลอย่างรวดเร็วเมื่อเขาพูดถึงภูมิภาคคันไซอันห่างไกลเเสดงว่าอีกฝ่ายนั้นไม่ได้รู้จักสถานที่เเห่งนั้นเป็นอย่างดีเเน่นอน เธอจึงไม่ต้องกังวลที่จะตอบเช่นนั้นไป
“ข้าขอถามได้ไหมว่าทําไมท่านถึงได้อยู่คนเดียวกันในคืนที่มีขบวนร้อยอสูรเช่นนี้ ? “
“คือว่า..เรื่องนั้น..” ลิลลี่พูดขึ้นอย่างตะกุกตะกักเเละพยายามนึกถึงเหตุผลต่าง ๆ นานาที่เธอนึกออกในสมอง
เเต่จู่ ๆ พื้นใต้เท้าเธอก็เริ่มสั่นสะเทือน
“เเผ่นดินไหว ? หรือว่าที่นี่จะเหมือนกับที่ญี่ปุ่น ? ” สิ่งเเรกที่เธอคิดถึงคงไม่พ้นประเทศญี่ปุ่น
ฟิ้ว..
ลมเย็นบ้านั่นอีกเเล้ว !
ลมเย็นที่พัดเข้าหาเธอเหมือนดังกับตอนที่เจอขบวนร้อยอสูรพัดเข้ามาอีกครั้ง
“ไม่ได้การ ! ตามข้ามาเร็ว ! ” โฮโจเเสดงท่าทีตื่นตระหนกอย่างมาก เเละจูงเเขนเธอไปอยู่ตรงเงาของกําเเพงในตรอกก่อนหยิบผ้าคลุมเก่า ๆ ที่มีข้อความโบราณสลักไว้ออกมาจากถุงผ้าเเล้วคลุมใส่ทั้งตัวเขาเเละลิลลี่อย่างรวดเร็ว
“คุณคิดจะทําไร- “
“ขออภัยด้วยท่านคากามิ…พวกมันกําลังมาดังนั้นโปรดอยู่ใต้ผ้าคลุมนี้ไว้เเละทําตัวให้นิ่งที่สุดขอรับ..”
ลิลลี่ฟังได้ถึงภัยอันตรายจากคําพูดเหล่านั้นเเละอยู่ให้นิ่งที่สุดไว้ ทิ้งเพียงสายตามองไปยังเบื้องหน้าที่มีลมโชยมาเท่านั้น
ในเงาหมอกร่างปีศาจสีนํ้าเงินค่อย ๆ เดินออกมา บนหัวของมันมีเขาสีทองติดอยู่ทั้งสองข้าง ขนสีนํ้าตาลเข้มที่งอกอยู่บนหลังเเละร่างสูงกว่าห้าเมตรของมัน ทําให้ลิลลี่นึกไปถึงปีศาจที่เธอพบในตอนขบวนร้อยสูร
“ปีศาจสีนํ้าเงิน ! เเถมเขาบนหัวขนาดนั้นอีก..” ผิวของโฮโจมีเหงื่อไหลท่วมราวกับสั่นกลัวกับสิ่งตรงหน้าเขา
“ถ้าเราถูกพบเข้าละก็..ไม่เหลือเเน่” เขาพึมพํา
ลิลลี่รู้สึกอึดอัดเมื่อมองไปยังเศษผ้าที่มีรอยสลักโบราณที่คลุมเธออยู่ เเต่เธอก็ไม่อยากเผยศักยภาพของร่มกระดาษของเธอให้คนอื่นรู้เช่นกัน
“นายไม่ใช่นักรบจากรัฐบาลงั้นหรอ ? นายจะหลบอยู่อย่างนี้ไปถึงไหนกัน ? “
ลิลลี่มองเย้ยไปยังซามูไรหนุ่ม เพื่อกระตุ้นอีกฝ่ายให้ก้าวออกไปเพราะเมื่อนั้นเธอจะได้กางร่มกระดาษของเธอเเละหนีไปอย่างไร้กังวลซักที
เพื่อจะปกป้องร่างกายของพี่สาวเเล้วละก็เธอจะไม่รู้สึกผิดกับเรื่องนี้เลย ! อีกอย่างซามูไรก็ต้องช่วยเหลือผู้คนอยู่เเล้วสิ ?
“ท่านคากามิเเม้ท่านจะดูเหมือนหญิงสาวจากตระกูลสูงส่งก็จริง เเต่คําพูดของท่านเมื่อกี้ถือเป็นการดูหมิ่นมากนะขอรับ” เเม้ซามูไรหนุ่มจะบอกอย่างนั้นเเต่คําก่อนหน้านี้ของหญิงสาวก็ทิ่มเเทงเข้าอย่างมากจริง ๆ
“การเผชิญหน้ากับปีศาจสูงมากกว่าสี่เมตร ต่อให้จะรวมหน่วยลาดตระเวนทั้งหมดในเมืองนี้มาก็คงจะเป็นไปได้ยากอยู่ดี เว้นเเต่เหล่า “เก็นจิ [Genji]” ที่ถูกส่งตัวไปจะถูกเรียกกลับมาก็เท่านั้น ! ด้วยกําลังของพวกเราการจะปราบมันด้วยเพียงคําพูดท่านคงเป็นไปไม่ได้เเน่นอน ความกล้าหาญในการเสีสละ กับ ความเสียสละในความไม่รู้ มันต่างกันนะขอรับ ! “
โฮโจพูดโต้ตอบกลับไปเพื่อปกก้องเกียรติศักดิ์ศรีของตน
ในขณะเดียวกันในอีกด้านของปีศาจ…
ร่างหญิงสาวที่ตัวสูงกว่าลิลลี่ก็ปรากฏขึ้น เธอย่างก้าวเข้าปีศาจสีนํ้าเงินตนนั้นอย่างช้า ๆ
ราวกับเดินชมบรรยากาศทั่วไป ผมสีเงินที่ยาวถึงส้นเท้าประกอบกับเสื้อเเขนกุดสีดําตัดกับสายสะพายสีทองพันรอบเอวของเธอเเละกระโปรงสีดํายาวเสมือนนําผ้าสองใบประกบหน้าหลังของเธอ
ดาบขนาดใหญ่จนเหนือสามัญสํานึกติดอยู่บนหลังเเละก้าวย่างของขาอันเรียวยาวเหนือรองเท้าหนังของเธอ ชวนให้ดูหลงใหลอย่างน่าประหลาด
ทั้งสองร่างหยุดลงในระยะที่ห่างกันอย่างพอดี ปีศาจสีนํ้าเงินเเสยะเคี้ยวของมันอย่างดุร้าย
ในขณะที่หญิงสาวผมสีฟ้าเริ่มก้าวออกไปต่ออย่างมั่นใจ หน้าอกที่ดูจะใหญ่กว่าของลิลลี่เคลื่อนลงอย่างช้า ๆ ราวกับอวดถึงความยิ่งใหญ่ของมัน