บทที่ 817 หลี่จิ่วเต้า ‘ตัวข้าไร้เทียมทาน เจ้าเอาที่สบายใจ!’
ผู้เฒ่าผู้นี้ไม่ธรรมดา เป็นถึงยอดฝีมือสะท้านโลกันตร์ในจักรวาลโกลาหลผืนหนึ่ง หลังมาถึงอาณาจักรก็หมายตาที่นี่เอาไว้ ระหว่างนั้นมียอดฝีมือจากจักรวาลโกลาหลอื่น ๆ มาหาเขาอยู่ไม่น้อย แต่ก็ถูกเล่นงานจนล่าถอยกันหมด
สถานที่แห่งนี้วิเศษเกินไป ไม่เพียงแต่เต็มไปด้วยสสารระดับสูง ซ้ำยังมีเหมืองผลึกในเทือกเขามากมาย ทำให้การฝึกฝนในสถานที่แห่งนี้ได้ผลยอดเยี่ยมยิ่งนัก!
เขาฝึกฝนที่นี่ได้ไม่นานก็ได้รับประโยชน์มหาศาล ทลายขีดจำกัดของขอบเขตตนเอง และก้าวจากขอบเขตลอยชายขั้นหกขึ้นไปยังขั้นเจ็ด
ซึ่งชายชราศึกษาเหมืองผลึกเหล่านั้นดูแล้ว ผลึกขนาดเท่าเล็บในเหมืองยังเป็นสมบัติล้ำเลิศที่ประเมินค่ามิได้ สามารถนำไปตีเป็นศาสตราวิเศษหายาก มีพลานุภาพสะท้านฟ้า
ครานั้น เขาสะท้อนใจอย่างยิ่งยวด ที่นี่เป็นอาณาจักรเช่นไรกันแน่ มีของวิเศษอยู่ถมเถ ซ้ำยังเป็นของวิเศษชนิดที่จินตนาการแทบไม่ออก!
“หืม ที่นี่น่าประหวั่นพรั่นพรึงถึงเพียงนั้นเลยหรือ”
หลี่จิ่วเต้ากล่าว “คราวก่อนที่มา เหตุใดข้าถึงไม่รู้เลยว่าที่นี่น่ากลัวเยี่ยงนี้! แต่จะว่าไป ที่นี่เปลี่ยนไปมากจริง ๆ ต้นไม้เขียวขจีขึ้น ยอดเขาสูงใหญ่ขึ้น…”
“โอ้ ที่นี่ต้องอันตรายอยู่แล้ว ผู้ที่ร่วมทางมากับข้ามีทั้งหมดเก้าคน ต่างคนต่างไม่รู้ถึงความสยดสยอง จึงมีหกคนตายอยู่ตรงนี้ ที่เหลืออยู่ก็กระจัดกระจายออกไป…”
ผู้เฒ่าถอนหายใจ “หากมิใช่ว่าต้องตามหาอีกสองที่เหลือให้พบ ข้าคงไปจากที่นี่นานแล้ว! ที่นี่เต็มไปด้วยภยันตราย เสียชีวิตได้ทุกเมื่อ…”
เขามิได้เอ่ยอันใดอีก เพียงแต่กล่าวว่า “พวกเจ้ารีบไปจากที่นี่เสียเถิด ข้าต้องไปหาลูกศิษย์ของข้าแล้ว!”
พูดจบ เขาก็ไปจากที่นี่ มุ่งหน้าไปยังทิศทางหนึ่ง
ไปง่าย ๆ เช่นนี้เลยรึ?
ลั่วสุ่ยรู้สึกว่าเรื่องราวมิได้มีเพียงเท่านี้
อันตรายปานนั้นจริงหรือ
หลี่จิ่วเต้าลอบเตรียมตัวไว้แล้ว หากมีอันตรายจริง เขาจักเรียกยอดศาสตราที่นำมาด้วยออกมาทันที
“พวกเราไปกันเถิด”
เขามิได้หวาดกลัวเท่าใด ถึงอย่างไรเขาก็รู้ดีว่าศาสตราในมือเขาทรงพลังเพียงใด คงไม่เป็นอะไรแน่นอน
ทว่า พวกเขาเดินห่างออกไปได้ไม่ไกลก็พบกับสตรีตัวโชกเลือด เดินโซซัดโซเซนางหนึ่ง
ดูเหมือนสตรีนางนั้นอยู่ในความหวาดกลัว ไม่อาจก้าวเท้าได้อย่างมั่นคงจนล้มตึงลงกับพื้น
“เป็นอันใดหรือไม่แม่นาง”
หลี่จิ่วเต้าเห็นดังนั้นแล้วรีบเข้าไปประกองสตรีนางนั้นให้ลุกขึ้น
“น่ากลัวเหลือเกิน มีสัตว์อสูรสยดสยองปรากฏออกมา กินศิษย์พี่ทั้งห้าของข้า และท่านอาจารย์อาของข้าไป! ข้า…ข้าต้องลำบากไม่น้อยกว่าจะหนีออกมาได้”
สตรีผู้นั้นใบหน้าซีดเซียว เอ่ยด้วยตัวสั่นเทา
“ศิษย์พี่ห้าคน อาจารย์อาหนึ่งคน?”
หลี่จิ่วเต้าตาเป็นประกายขึ้นมาฉับพลัน “เจ้ายังมีอาจารย์ท่านหนึ่งอยู่ที่นี่ใช่หรือไม่”
ผู้เฒ่าเมื่อครู่เอ่ยว่าผู้ร่วมทางตายไปแล้วหกคน สอดคล้องกับที่สตรีผู้นี้กล่าวมาพอดี!
“เอ๋ ท่านได้พบท่านอาจารย์ของข้ามาแล้วใช่หรือไม่?!”
เด็กสาวอารมณ์พลุ่งพล่านขึ้นมาทันที “ท่านช่วยพาข้าไปหาท่านอาจารย์ทีได้หรือไม่”
ลั่วสุ่ยได้เห็นภาพนี้ก็ลอบหัวเราะในใจ
ตาเฒ่านี่เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวจริงเชียว
รู้จักปลอมตัวเป็นสตรีวัยเยาว์เพื่อให้คุณชายสงสารด้วย
อนิจจา ตาเฒ่าผู้นี้ไม่รู้ว่าคุณชายเก่งกาจเพียงใด!
ช่วงที่ผ่านมานางเองก็ก้าวหน้าขึ้นมาก จากขอบเขตบรรพจารย์เต๋าโกลาหลในคราแรก ยกระดับขึ้นมาถึงขอบเขตลอยชายขั้นห้า
นางมองตื้นลึกหนาบางของสตรีตรงหน้าออกในปราดเดียว
สามารถบรรลุขอบเขตบรรพจารย์เต๋าโกลาหลได้ เป็นการลิขิตแล้วว่านางไม่ธรรมดา แม้ว่าตาเฒ่ามีระดับสูงกว่านางหนึ่งขั้น กระนั้นก็ไม่อาจอำพรางสิ่งใดเมื่ออยู่ตรงหน้านาง
“เช่นนี้หรือ… ได้สิ เจ้าอย่าเพิ่งร้อนใจ ข้าจะพาเจ้าไปหาอาจารย์ของเจ้า!”
หลี่จิ่วเต้าเห็นว่าสตรีผู้นี้บาดเจ็บหนัก จึงยอมรับปาก
“ขอบคุณ ขอบคุณ! พี่ชายช่างเป็นคนดีจริง ๆ!”
สตรีนางนั้นเอ่ยด้วยสายตาซาบซึ้ง
พี่ชายรึ?!
ตาเฒ่านี่หน้าไม่อายยิ่งนัก!
หลังลั่วสุ่ยได้ยินก็ขนลุกไปทั้งตัว นางสงสัยอย่างมากว่าตาเฒ่าผู้นี้มีความเพ้อฝัน อยากเป็นสาวน้อยนางหนึ่งหรือไม่
ไม่อย่างนั้น ไยจึงเรียกพี่ชายได้คล่องปากเยี่ยงนี้!
แน่นอนว่านางมิได้เอ่ยอันใดออกไป
นางยังดูออก ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงคุณชาย
“เจ้าอยากปลอมตัวก็จงทำต่อไป ข้าสงบราบเรียบได้ดั่งแสงจันทร์ที่ส่องสะท้อนบนผืนน้ำลำธาร…ตัวข้าไร้เทียมทาน เจ้าเอาที่สบายใจ!”
ลั่วสุ่ยนึกขบขำในใจ
ใช้ลูกไม้กับคุณชายมีประโยชน์ด้วยรึ?
ไม่เลยสักนิด!
คุณชายคิดจะวางท่าให้เห็นถึงความ ‘ตัวข้าไร้เทียมทาน เจ้าเอาที่สบายใจ’ ด้วยตนเอง!
“ได้ เช่นนั้นเราไปกันเถิด เมื่อครู่อาจารย์ของเจ้ามุ่งหน้าไปทิศนี้…”
หลี่จิ่วเต้าเดินอยู่ข้างหน้าสุด มุ่งหน้าไปยังทิศที่ผู้เฒ่าเมื่อครู่จากไป
“หลอกง่ายนัก! ลูกไม้ง่าย ๆ ก็ติดกับเสียแล้ว!”
สตรีนางนั้นหัวเราะในใจ
อย่างที่คิด คนเยาว์วัยเหล่านี้ยังมิสู้จะเจนโลกเท่าใด จิตใจใสซื่อเป็นที่สุด ไม่อาจเทียบกับเขาได้เลย
ทิศที่อีกฝ่ายจากไปเมื่อครู่เป็นทางมรณะ มีพืชสยดสยองมากมายขึ้นอยู่ที่นั่น อีกทั้งยังมีปีศาจน่าสะพรึงอีกคณานับ แม้แต่เขาเองยังหวาดกลัวจนมิกล้าเข้าใกล้
พืชและปีศาจเหล่านั้นล้วนเปลี่ยนแปลงไปเพราะการมีสสารระดับสูงปะทุ แต่ละตนล้วนดุดันทรงพลัง เขาเคยเห็นยอดฝีมือที่เข้าไปที่นั่น และถูกพวกวัชพืชที่ขึ้นอยู่เต็มพื้นสังหารในพริบตา!
นอกจากนี้ ผู้เฒ่ายังเคยเห็นยอดฝีมือที่ถูกยุงในนั้นดูดเลือดจนแห้งเหือด น่าสยดสยองอย่างถึงที่สุด
ตนจงใจล่ออีกฝ่ายไปที่นั่นก็เพื่อยืมพลังทางนั้นสังหารพวกหลี่จิ่วเต้า
ไม่นานนัก พวกหลี่จิ่วเต้าก็มาถึงที่นั่น
เขาเริ่มวิตกจนแทบจะได้ยินเสียงยุงดูดเลือดอยู่ข้างหู หวาดระแวงไปทั้งกายและใจ หากมีความไม่ชอบมาพากลเมื่อใด ก็จะล่าถอยออกไปทันที!
“นี่มัน… เรื่องอะไรกัน?!”
ทว่า หลังจากนั้นผู้เฒ่าก็ต้องชะงักงัน… ที่นี่มันจะสงบเกินไปหรือไม่? อันตรายที่เขาจินตนาการไว้ไม่ปรากฏออกมาสักอย่าง!
พืชน่าพรั่นพรึงเหล่านั้นบัดนี้อ่อนโยนเหลือแสน ราวกับเป็นเพียงพืชพันธุ์ธรรมดา มิได้แฝงไว้ด้วยอันตราย
เขาเด็ดดอกไม้ดอกหนึ่งลงมาอย่างระมัดระวังด้วยความสงสัย และพบว่าไม่เป็นไรจริง ๆ
เรื่องนี้เป็นผลให้ผู้เฒ่าตื่นเต้นขึ้นมา พืชที่นี่ล้วนไม่ธรรมดา อย่างเช่นดอกไม้ที่เด็ดลงมานี้ เขาสัมผัสได้ถึงพลังอันน่าทึ่งที่แฝงอยู่ข้างใน หากได้หลอมแล้ว เขาต้องยกระดับขึ้นอีกมหาศาลแน่
“ยุงก็หายไปหมด…”
เขาฉงน นี่ก็เดินทางมาได้ระยะหนึ่งแล้ว กลับไม่ได้พบยุงสักตัว รวมถึงผึ้งและผีเสื้อก็มิได้ปรากฏออกมาให้เห็น ราวกับทั้งหมดได้อันตรธานไปแล้ว
“เกิดอันใดขึ้นกันนี่?!”
ผู้เฒ่าคิดไม่ตก ไม่เข้าใจว่าเกิดเรื่องใดขึ้นกันแน่
ทว่าในไม่ช้า เขาก็เข้าใจขึ้นมา
“ข้าจะไปคิดตกได้อย่างไรเล่า เดิมทีอาณาจักรนี้ก็เต็มไปด้วยความพิสดารอยู่แล้ว นี่คือความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกะทันหัน! บางทีพืชและปีศาจที่เปี่ยมไปด้วยพลังทำลายล้างอาจไปจากที่นี่แล้ว…”
ผู้เฒ่าคิดในใจ มิได้ใคร่ครวญไปมากกว่านี้
ถึงอย่างไรก็คิดไปก็เปล่าประโยชน์ อาณาจักรนี้มีสิ่งที่เขาไม่เข้าใจอยู่มากมาย
“เอ๋ เหตุใดถึงไม่พบอาจารย์ของเจ้ากัน…”
หลี่จิ่วเต้าเอ่ย “ไม่ควรเป็นเช่นนี้เลย เมื่อครู่อาจารย์ของเจ้ามายังทิศทางนี้เห็น ๆ”
พวกเขาออกเดินทางไปไกล แต่กลับไม่เห็นวี่แววของผู้เฒ่าแม้แต่น้อย
“ที่นี่กว้างใหญ่เกินไป บางทีท่านอาจารย์อาจเปลี่ยนทิศทางกะทันหันกระมัง!”
สตรีผู้นั้นกล่าว
“เป็นไปได้”
หลี่จิ่วเต้าพยักหน้า “เอาอย่างนี้ เจ้าคอยติดตามพวกเราก่อนแล้วกัน พวกเราจะไปขุดเหมือง เสร็จแล้วค่อยไปตามหาอาจารย์ของเจ้า”
เขาเอ่ยว่าภูเขาข้างหน้านี้มีเหมือง ในเมื่อเดินมาถึงนี่แล้ว ขอขุดเหมืองก่อนแล้วกัน
ทรัพยากรในเหมืองนี้อุดมสมบูรณ์อย่างแท้จริง ซ้ำยังมิได้มีอยู่ในภูเขาลูกเดียวเท่านั้น เรียกได้ว่าที่นี่คือเทือกเขาแห่งเหมือง
“ขุดเหมืองหรือ”
สตรีนางนั้นเอ่ย “ไม่ล่ะ พวกท่านไปกันเถิด ข้าขอรอพวกท่านอยู่ที่นี่! จะได้รักษาอาการของข้าด้วย”
พับผ่าสิ ให้เขากล้ากว่านี้อีกร้อยเท่าก็มิกล้าเข้าไปในภูเขาลูกนั้น
เหมืองในภูเขาลูกนั้นกลายเป็นภูตกันหมดแล้ว เขาเห็นภูตเหมืองผลึกปรากฏตัวอยู่เนือง ๆ เพียงยกมือก็มีพลังมหาศาล เทียบกับเขาแล้วไม่รู้ว่าแข็งแกร่งกว่าตั้งกี่เท่า!
ขืนเขาเข้าไปจริง ๆ น่ากลัวว่าจะหนีไม่พ้น ต้องถูกสังหารในเสี้ยวลมหายใจ!
“ได้ เช่นนั้นพวกเราขอตัวไปขุดเหมืองก่อน เสร็จแล้วจะมาหาเจ้า”
หลี่จิ่วเต้าบอก สตรีนางนี้อยู่ในสภาพสะบักสะบอมจริง ๆ จำต้องได้รับการรักษา ทางนี้พวกเขาเดินผ่านมาแล้ว มิได้มีอันตรายแต่อย่างใด ปล่อยให้นางอยู่รักษาตัวข้างนอกได้ไม่มีปัญหา
จากนั้น เขากับลั่วสุ่ยและกิเลนไฟเข้าไปในภูเขาลูกนั้นเพื่อเตรียมขุดเหมือง
“รนหาที่ตาย ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเอาเสียเลย!”
สตรีวัยเยาว์จ้องมองภูเขาลูกนั้นและต้องตกตะลึงไปในบัดดล เขาเห็นภูตเหมืองผลึกนับคณาอยู่ราง ๆ แต่ละตนล้วนสยดสยองน่าครั่นคร้าม หลังพวกหลี่จิ่วเต้าเข้าไปแล้วจะไม่มีวันได้กลับออกมาอีก!
เสียงดังฟึ่บ เขาคืนกลับสภาพผู้เฒ่า เมื่อได้เห็นพวกหลี่จิ่วเต้าเข้าไปในภูเขากับตา บัดนี้ก็ไม่จำเป็นต้องปลอมตัวอีก
“ฮ่า ๆ คิดไม่ถึงเลย ข้าจะได้รับความโชคดีอย่างคาดไม่ถึงเช่นนี้!”
ตาเขาเป็นประกายวาววาม อย่าให้เอ่ยเลยว่าปีติตื้นตันปานใด
หนนี้ หากมิใช่ว่าเขาต้องการยืมพลังจากพื้นที่นี้ในการฆ่าพวกหลี่จิ่วเต้า เขาคงไม่รู้ว่าภยันตรายในพื้นที่นี้หายไปแล้ว!
“ของดีทั้งนั้น! ต้องเก็บ! ต้องเก็บให้หมด!”
เขารีบย้อนกลับไป เตรียมขุดพืชในพื้นที่นั้นออกให้หมด!
มิฉะนั้น หากมีสิ่งมีชีวิตซึ่งแข็งแกร่งกว่านี้มาที่นี่คงแย่แน่
สู้เก็บเข้ากระเป๋าตัวเขาเองดีกว่า!