เจี้ยนกู่ เซียนกระบี่สยบหล้า – ตอนที่ 151 สิงโตแบกกระถางสำริด ปราชญ์ปฐมออกทะเล

เจี้ยนกู่ เซียนกระบี่สยบหล้า

ตอนที่ 151 สิงโตแบกกระถางสำริด ปราชญ์ปฐมออกทะเล

เกิดสายลมขึ้น

พัดน้ำทะเล ไหลเข้าปากผนังหินแตกสุสาน

น้ำหลายระลอกกระทบตัวเจียงหลิน ยอดปีศาจหนุ่มที่ถือราชสีห์ขาวมีสีหน้าสับสนเสี้ยวหนึ่ง

‘หนิงอี้ไปที่ใดแล้ว’ คำถามนี้ ตอนนี้ถูกเขาโยนไว้ข้างหลัง…เจียงหลินรู้ว่าเจ้าหนูเผ่ามนุษย์ที่มีกลอุบายมากมายนี้อาจจะหนีไปแล้ว อีกทั้งเกรงว่าตนคงยากจะหาโอกาสสังหารอีกฝ่ายลงได้ พบกันครั้งหน้า ไม่รู้ว่าต้องรอไปถึงเมื่อไร

ตอนนี้ปัญหาที่กวนใจเจียงหลินคือ…น้ำทะเลที่มีพลังปีศาจพวกนี้ทำลายยันต์รอบนอกสุสาน หลั่งทะลักเข้ามาที่นี่ มีสิ่งใดจะคืนชีพกัน

บนแท่นบวงสรวงมีแสงสว่างสีขาวสายหนึ่งพุ่งออกมาจากซอกที่ดึงราชสีห์ขาว

ฟ้าดินเชื่อมกัน

เจียงหลินไม่ลังเลเลยสักนิด เขาเอามือข้างหนึ่งจับถุงสวยงามแน่น ความคิดหนึ่งในทะเลวิญญาณ หลั่งไหลดวงจิตยอดฝีมือในถุงสวยงาม

ห่างไปหลายพันหลายหมื่นลี้ ผู้เฒ่าที่นั่งตรงหัวเมืองธารน้ำ กลางเมฆหมอกดุจพระพุทธดับสูญ แยกดวงจิตออกมาส่วนหนึ่ง พุ่งไปในใต้ฟ้าเผ่าปีศาจ

ถุงสวยงามระเบิดออก เส้นสายของนกกระจอกเมฆและสายฟ้ากลายเป็นเถ้าถ่าน ดวงจิตแตกสลายห่อหุ้มเจียงหลิน จะพาเขาไปจากที่นี่ภายใต้แรงดันของน้ำทะเล

ทันใดนั้น ผู้เฒ่าที่นั่งตรงหัวเมืองธารน้ำ ดวงตาที่เดิมทีปิดสนิทพลันลืมตาขึ้น

ฟ้าคนดิน หนึ่งเส้นฟ้า สามร้อยหกสิบทวาร พลันจุดไฟลุกโชนขึ้นพร้อมกัน

เจียงหลินที่จับถุงสวยงามแน่นม่านตาหรี่แคบลง เขาหันไปมองข้างหลังตนอย่างเหลือเชื่อ เห็นภาพที่เขาจะไม่มีวันลืมไปชั่วชีวิต

กลางแสงสีขาวบนแท่นบวงสรวงนั้น ปรากฏโลงศพหินลอยขึ้นมาจากใต้ดินช้าๆ

ไม้โลงศพถูกมือข้างหนึ่งผลักออกช้าๆ

ร่างกำยำลุกขึ้นนั่งในโลงหิน

เมื่อร่างเงานี้ลุกขึ้นนั่ง ทั้งสุสานก้นทะเลมหึมาหนักหมื่นชั่งถูกคนยกลอยขึ้นจากก้นทะเล พังทลายลงเป็นส่วนๆ อิฐกระเบื้องที่เชื่อมต่อระหว่างตำหนักก้นทะเลกับใต้ดินและยันต์เครือเถาวัลย์ถูกถอนรากขึ้น ถูกน้ำทะเลกัดเซาะจนถล่มทลาย

บุรุษที่ยื่นมือมาดันฝาโลงช้าๆ เคลื่อนไหวเชื่องช้า ท่าทางการดันโลงหนักแต่ก็ทรงพลัง เหมือนยกทั้งตำหนักสุสานก้นทะเล…แต่ความจริง ตำหนักแห่งนี้อยู่ร่วมกับโลงหิน ผนึกเขามาหลายพันปีแล้ว

เสียงคำรามต่ำดังมาจากในโลงหิน

ในนั้นมีความโกรธ และยังมีความเจ็บปวด

เดิมทีเขาไม่ควรตายไป เพียงแค่ถูกสูบความเป็นเทพไปจนหมด กายเนื้อก็ยังสมบูรณ์ดี…ตอนนี้ในที่สุดก็มีโอกาสตื่นขึ้นมาจากโลง สิ่งแรกที่ทำคือขยับสิ่งที่กดศีรษะตนไว้ ทำให้ตนไม่ได้เห็นแสงตะวัน!

สุสานถล่มทลาย

เหนือศีรษะเจียงหลินไม่มืดมิดอีก ทั้งสุสานพุ่งขึ้นฟ้า

หัวสิงโตที่ฝังในผนังหินเก้าหัว ดวงตาเปล่งประกายเทพ พุ่งไปก้นทะเล

ในความคิดเจียงหลินว่างเปล่า ความคิดไร้สาระและเหลวไหลโดดออกมา

ปราชญ์ปฐมเก้าวิญญาณ…คืนชีพรึ

ภายในถุงสวยงาม วิญญาณของผู้เฒ่าเมืองธารน้ำถูกดวงจิตยิ่งใหญ่ของปราชญ์ปฐมเก้าวิญญาณกำราบไว้พริบตาหนึ่ง เจียงหลินเหมือนจมอยู่ในบึงเลน ขยับไม่ได้ หัวไหล่เขาถูกตบเบาๆ

มีคนชิดกับหลังเขา พ่นลมหายใจเบาๆ แต่เขาไม่รู้สึกเลย

“ชนรุ่นหลังราชวงศ์โบราณกิเลน…”

เจียงหลินเพ่งสายตามอง ในน้ำทะเลไกลลิบ ฝาโลงว่างเปล่าลอยขึ้นข้างบนตามกระแสน้ำ แกว่งไปมาไม่หยุด พันหญ้าทะเล แต่ในโลงโบราณนั้นตรงใจกลางสุดของแท่นบวงสรวงไม่มีใครอยู่แล้ว

เขาขนลุกในใจนิดๆ ยอดปีศาจหนุ่มที่มาจากสุสานโบราณกิเลนคนนี้ เจอกับปราชญ์ปีศาจโบราณที่แกร่งกว่าตน เวลานี้ไม่รู้จะทำอย่างไรดี ระดับความแกร่งของวิญญาณของผู้เฒ่าเมืองธารน้ำแทบจะไม่มีใครทัดเทียมเขาได้ในใต้ฟ้าเผ่าปีศาจ เพียงแต่ผู้เฒ่านั่นอยู่มานานมาก ปกติจะออกเดินทางน้อย ทั้งยังห่างจากที่นี่ไกลมาก

เจียงหลินรู้ว่าตนต้องยื้อไว้ช่วงเวลาหนึ่งถึงจะออกจากภูเขาแดงได้…ตอนนี้เขาเข้าใจดีว่าลางสังหรณ์ของตนแม่นยำมาก การเก็บถุงสวยงามไว้ใช้ถูกต้องมาก มีอย่างเดียวที่ไม่ถูกต้องคือหลังจากดึงราชสีห์ขาว เขาไม่ได้บีบถุงสวยงามแตกในทันที แต่ฟันดาบนั้นใส่หนิงอี้

หากไม่เสียเวลาตรงนั้น…บางทีตอนนี้ตนคงออกไปแล้ว

เหมือนรู้สึกถึงลมหายใจกระชั้นของเจียงหลิน เสียงข้างหลังหัวเราะเบาๆ

“เจ้าดึงดาบของข้า…ราชสีห์ขาว…”

เสียงนั้นแหบอย่างยิ่ง ตื่นมาจากกาลเวลาที่ไม่รู้จักในอดีต ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย ตอนนี้ถูกพลังปีศาจกับน้ำทะเลชะล้าง คำพูดของปราชญ์ปฐมเก้าวิญญาณช้ามาก เขาเหมือนจะยังแปลกตากับร่างกายตนตอนนี้ กำลังพยายามปรับตัวอยู่

ปราชญ์ปฐมยืนข้างหลังเจียงหลิน เขามองราชสีห์ขาวนั้นในมือเจียงหลิน เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงช้ามาก “เจ้า…อยากได้รึ”

ตรงหน้าผากเจียงหลินมีเหงื่อซึมออกมาจำนวนมาก

พลังบำเพ็ญของปราชญ์ปฐมเก้าวิญญาณ แม้จะสู้บิดาตนไม่ได้ แต่ตามบันทึกในตำราเผ่าปีศาจ กำลังรบของมหาปราชญ์ท่านนี้น่ากลัวที่สุดเช่นกัน และยังอยู่ตัวคนเดียว ไม่สนใจยอดฝีมือเผ่าปีศาจคนอื่น หากบิดาตนยังมีชีวิตอยู่…

ตนก็ไม่ต้องกังวล ทว่าเผ่ากิเลนเงียบหายไปนานแล้ว หากตนพูดจาไม่เข้าหู ยั่วโทสะการคงอยู่ข้างหลังตน ปราชญ์ปฐมเก้าวิญญาณที่เล่าลือว่าบ้าคลั่งยิ่งท่านนี้ก็อาจจะลงมือโดยไม่สนใจราคาต้องจ่าย

ไม่รอให้เขาคิดคำตอบที่เหมาะสม

ปราชญ์ปฐมเก้าวิญญาณเอ่ยเสียงแหบและหนักแน่นทีละคำ “เจ้าดึงมัน ปล่อยข้าออกมา เหตุและผล…สมควร….เจ้าเอาดาบนี้ไปได้”

เจียงหลินงุนงงเล็กน้อย

แรงกดตรงบ่าเขาพลันเบาลง

แสงสว่างพุ่งขึ้นฟ้าระเบิดจากข้างหลังตน

เจียงหลินเงยหน้า เขามองเหนือศีรษะตนด้วยใบหน้าซีดขาว

น้ำทะเลหมื่นชั่ง พังทลายเดือดพล่าน ร่างเงาหนึ่งยกสองมือ แบกทั้งสุสานยักษ์พุ่งขึ้นฟ้า

“อ๊ากๆ…”

หัวสิงโตเก้าหัวที่ฝังในผนังหินส่งเสียงคำรามด้วยความเจ็บปวดและหนักต่อเนื่องกัน แต่ละหัวระเบิดออก น้ำทะเลถาโถมใส่บุรุษที่ยืนอยู่ใต้สุสานเพียงลำพัง

ยอดปีศาจหนุ่มที่ถือดาบยาวสีขาว ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานนั้น ในที่สุดก็ถูกดวงจิตของผู้เฒ่าเมืองธารน้ำห่อหุ้ม นี่คือการก้าวข้ามความเป็นและตาย ผู้เฒ่าที่นั่งบนทะเลหมอกยื่นมือมาข้างหนึ่ง กำช้าๆ ดึงเจียงหลินมาไว้ในมือ

พริบตาก่อนหน้าเหมือนตกนรก

พริบตานี้ลอยขึ้นเมฆนภา

เจียงหลินอยู่บนทะเลหมอก หลังถุงสวยงามแตก ข้างกายเขาก็มีเปลวเพลิงสีครามลุกไหม้ เผาออกมาเป็นร่างผู้เฒ่านั่งขัดสมาธิ ผู้เฒ่าที่ร่างจริงนั่งอยู่หัวเมืองธารน้ำมาตลอดใช้ร่างแยกดวงจิตมา สำแดงยอดพลังวิเศษของขอบเขตนิพพาน พาเจียงหลินขึ้นไปบนทะเลหมอก

ข้างหูเงียบสงัด

เจียงหลินหน้าขาวซีด เขาคลึงระหว่างคิ้ว นึกไปถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นตรงหน้าตนก็ยังกลัวอยู่ลึกๆ ยังไม่หายไป

ผู้เฒ่าเมืองธารน้ำพูดเสียงเบา “ราชวงศ์โบราณกิเลนเคยช่วยปราชญ์ปฐม เขาจะไม่สร้างความลำบากให้เจ้า”

คำพูดนี้เหมือนจะสายไปหน่อย เจียงหลินโล่งอก ไม่ใช่เพราะคำพูดนี้ แต่เพราะเขารู้ว่าจนถึงตอนนี้ตนเพิ่งจะถือว่าปลอดภัยจริงๆ…ผู้เฒ่าเมืองธารน้ำที่ดูมีสีหน้าเหนื่อยอ่อนเห็นดังนั้นก็ถามเสียงเบา “เจ้าคิดว่าข้าออกมือรับเจ้าแล้ว ตอนนี้ถือว่าปลอดภัยแล้วรึ”

เจียงหลินได้ยินแบบนั้นก็งุนงงนิดๆ

เขาก้มหน้ามอง ใต้ทะเลหมอก ถูกผู้เฒ่าใช้ยอดพลังวิเศษเปิดออก ฉายภาพแผ่นดิน

เขตต้องห้ามนี้ ข้ามผ่านหลายร้อยลี้ สัตว์ปีศาจมากมายพุ่งเข้ามาภูเขาแดงอย่างเสียสติ

ผู้เฒ่าเมืองธารน้ำพูดปลง

“พวกเขามาแสวงบุญ”

เจียงหลินรู้ว่าคำว่า ‘แสวงบุญ’ ซ่อนน้ำหนักไว้เพียงใด ทำให้เจ้าของที่เป็นคนใหญ่คนโตมากขนาดนี้ออกมาได้ ตนเองก็เพิ่งพบมาเมื่อครู่…คนนั้นมีคุณสมบัติให้เข้ามา ‘แสวงบุญ’ จริงๆ

สัตว์ปีศาจพวกนี้จะถวายเลือดและเนื้อของตน มอบพลังส่วนหนึ่งให้กับการคืนชีพของปราชญ์ปฐม

“นิพพานมีจริงและปลอม มีแข็งแกร่งมีอ่อนแอ” ผู้เฒ่าเมืองธารน้ำเอ่ยเสียงเบา “มีคนสืบทอดมรรคผล กุมเพลิงธูปจุดระหว่างคิ้ว นี่ถือว่าสำเร็จเป็นอรหันต์ทันที แต่ไม่ถือว่าเป็นนิพพานที่แท้จริง มีชีวิตยืนยาว แต่ไม่มีกำลังรบ มีเมตตา แต่ไม่มีความถมึงทึง…ปราชญ์ปฐมเก้าวิญญาณเดินเส้นทางที่เงียบงัน ใช้การเข่นฆ่าพิสูจน์มรรค ใช้การสังหารนิพพาน สัตว์ปีศาจพวกนี้สืบสายเลือดของเขา ถึงเวลากลับมาแล้ว ก็จะเป็นสมบัติของเขา”

“เรื่องนี้ ใต้ฟ้าต้าสุยจะไม่นิ่งดูดายแน่”

เจียงหลินพลันเข้าใจความหมายของผู้เฒ่าเมืองธารน้ำ

“ใต้ฟ้าต้าสุยจะมียอดฝีมือออกมือรึ” เขาหน้าซีดขาว พูดงึมงำ “เจ้าบ่อสวรรค์แห่งสำนักเต๋าหรือแขกเขาวิญญาณของฝ่ายพุทธ หากพวกเขาออกมือ…เราจะต้องรีบไปจากที่นี่”

ในที่สุดผู้เฒ่าเมืองธารน้ำก็เห็นเจียงหลินมีสีหน้าลนลานเล็กน้อย เขายิ้มสบายใจ “ไม่ต้องกลัว สองคนนั้นมาก็เอาข้าไม่อยู่…กลัวก็แต่จะมีคนที่เก่งกว่ามา หนึ่งกำลังทลายหมื่นวิชา สังหารปราชญ์ปฐมในเขตแดนภูเขาแดง”

ผู้เฒ่าเมืองธารน้ำเลิกคิ้วขึ้น แม้เขาจะเป็นอันดับหนึ่งใต้ฟ้าเผ่าปีศาจในด้านวิชาพยากรณ์ แต่คนในขอบเขตพลังเดียวกันล้วนเป็นพวกไม่เผยความลับสวรรค์ ไม่อาจพยากรณ์ได้ เว้นแต่เขาจะสละโลหิตบริสุทธิ์ชีวิตของตน ใช้อายุขัยที่มีไม่มาก ไม่อย่างนั้นก็จะไม่อาจทำนายได้ว่าจะรับมือกับใต้ฟ้าต้าสุยครั้งนี้ได้อย่างไร

เจียงหลินที่ถือราชสีห์ขาวคลายนิ้วมือและกำใหม่ ทำซ้ำไปมา ถึงจะไม่พูด แต่ก็มองออกไม่ยากว่ายอดผู้บำเพ็ญอัจฉริยะท่านนี้มีความคิดที่จะออกจากภูเขาแดงแล้ว

“ไม่ต้องรีบ”

ผู้เฒ่าเอ่ยสบายๆ “ข้าจะให้เจ้าได้เห็นภาพที่ยากจะลืมไปชั่วชีวิต…”

หมอกหมุนม้วนใต้ทะเลหมอก

แผ่นดินภูเขาแดง พื้นดินขึ้นลง ก่อนจะลาดชันลงไปทันใด

บนยอดวิหารใหญ่มุมแหลมคม เบียดทลายแผ่นดิน ชนภูเขาสูงตระหง่านถล่ม จากนั้นก็เป็นเสาตำหนัก ชายคา กระเบื้องบิน เกล็ดมังกรลอยทวน สิ่งที่ลอยขึ้นมาเหนือแผ่นดินใหญ่ด้วยกันยังมีน้ำทะเลท่วมฟ้า

เจียงหลินเหม่อมองภาพนี้ บุรุษที่แบกตำหนักที่ไม่รู้ว่าหนักเท่าไรบินขึ้นมาจากใต้ดินภูเขาแดง เทียบกับขนาดตัวแล้ว ดูผอมบางมาก ภูเขาแดงเปิดออก สัตว์ปีศาจส่งเสียงคำราม น้ำทะเลพลิกผัน แตกเป็นเสี่ยงๆ วนอ้อมผ่านเขาไปคนเดียว

กำลังแบกภูผานทีพันหมื่น ยืนตระหง่านไม่ล้มลง

ยกตำหนักเหมือนแบกกระถางสำริด เปิดภูเขาผ่าแม่น้ำ อำนาจน่าเกรงขามถอยหนี!

บนทะเลหมอก ผู้เฒ่าที่ไล่ความเซื่องซึมออกไปและกลับมามีชีวิตชีวา ตอนนี้ลูบมือพลางหัวเราะเสียงดัง ชื่นชมเสียงดัง “สมกับเป็นราชสีห์แบกกระถางสำริด ปราชญ์ปฐมออกทะเล!”

………………………….

เจี้ยนกู่ เซียนกระบี่สยบหล้า

เจี้ยนกู่ เซียนกระบี่สยบหล้า

Status: Ongoing

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน