บทที่ 819 กับดักที่ห่อหุ้มด้วยภาพลักษณ์อันงดงาม!
แดนลับอาทึก นับเป็นสถานที่ลึกลับเปี่ยมด้วยปริศนา ไม่มีใครสามารถกระจ่างชัดว่าสถานการณ์ด้านในเป็นเช่นใด
มันไม่เพียงแต่อยู่ในเทวโลกชั้นที่หนึ่งเท่านั้น ยังเคยปรากฏขึ้นในเทวโลกชั้นอื่น ๆ รวมกระทั่งเบื้องบนเทวโลกด้วย
ตำนานเกี่ยวกับมันได้แผ่กระจายไปยังทุกชั้น
เล่ากันว่าหลังจากเข้าไปยังแดนลึกลับแห่งนี้แล้ว ก็จะสามารถเกิดการตระหนักรู้ครั้งใหญ่ ได้รับวาสนาการเปลี่ยนแปลงมหาศาล กระทั่งสิ่งมีชีวิตเหนือเทวโลกยังให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง
นี่เป็นหนึ่งในแดนลับที่มีอยู่น้อยนิด
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!
แสงตะวันสาดส่อง สิ่งมีชีวิตจำนวนมากมาถึงยังสถานที่แห่งนี้ ทุกคนล้วนเป็นหญิงงามทรงเสน่ห์ รูปร่างอิ่มเอิบ แต่งกายด้วยอาภรณ์พลิ้วไหว ผิวสีขาวราวหิมะส่วนใหญ่ปรากฏให้เห็น เส้นโค้งเว้าเย้ายวนชวนให้คนอดใจกลืนน้ำลายลงไปไม่ไหว
พวกนางมาจากหุบเขาสุขาวดี เป็นหนี่งในกองกำลังแนวหน้าของเทวโลกชั้นหนี่ง ความแข็งแกร่งนั้นชวนให้คนตื่นตะลึง
“สหายไม่ได้พบพานกันเสียนาน...”
หญิงวัยกลางคนผู้หนึ่งเดินออกมาด้านหน้าพร้อมรอยยิ้ม ดูมีเสน่ห์อย่างถึงที่สุด ก่อนเอ่ยกล่าวทักทายเจ้านิกายชิงหยาง
นางเป็นจ้าวหุบเขาของหุบเขาสุขาวดี นำกำลังคนมาด้วยตนเองเพื่อเตรียมการเข้าสู่แดนลับ
“สวัสดี จ้าวหุบเขาไป๋”
เจ้านิกายเซี่ยงพยักหน้าตอบรับหญิงวัยกลางคนที่ไม่ธรรมดาสามัญ นางมีนามว่าไป๋เหวิน
“สหายอย่าได้หาว่าข้าไม่เตือนเลย ข้าเคยบอกเจ้าไปตั้งนานแล้วว่าภรรยาของเจ้าไม่ใช่คนดีแต่อย่างใด ทว่าเจ้ากลับไม่เชื่อ คิดว่าข้ามีเจตนาพูดยุแยง ยามนั้นเจ้าเกือบจะแตกหักกับข้าเสียด้วยซ้ำ!”
ไป๋เหวินส่งเสียงหัวเราะออกมา “สหาย เจ้าเองก็รู้ว่าข้าฝึนฝนด้านใดเป็นหลัก จะมองผ่านในเรื่องนี้ได้อย่างไร? ตอนนี้สหายคงรู้ว่าแล้วสิ่งที่ข้าเคยเอ่ยเตือนนั้นไม่ใช่การยุแยง แต่มาจากใจจริงของข้า!”
กองกำลังใหญ่ล้วนไม่ธรรมดา มีความสามารถใช้มือปิดบังผืนฟ้า แม้เจ้านิกายจะพยายามปิดปังทุกเรื่องเกี่ยวกับภรรยาของเขา ก็ยังถูกกองกำลังใหญ่อื่น ๆ ล่วงรู้ได้
ภรรยาคบชู้กับลูกศิษย์ในนิกาย เรื่องนี้น่าอับอายเป็นอย่างยิ่ง เจ้านิกายถึงกับไม่กล้าออกไปข้างนอกเป็นระยะเวลานาน
หากครั้งนี้ไม่ใช่เพราะแดนลับอาทึกปรากฏออกมา เขาก็ยังคงจะเก็บตัวอยู่ในนิกาย ไม่ออกมาข้างนอก
สีหน้าของเจ้านิกายมืดครึ้มลง ทว่าไม่ได้พูดอันใด
จะให้พูดอันใดอีก?
เป็นเรื่องจริงที่ภรรยาของเขาไปคบชู้กับลูกศิษย์ การพูดเรื่องนี้มีแต่ยิ่งทำให้อับอายมากขึ้นเท่านั้น
“ฮ่าฮ่า จ้าวหุบเขาไป๋กล่าวผิดแล้ว! หากเขาดีจริงในทุกสิ่ง เช่นนั้นแล้วภรรยาของเขาจะคบชู้ได้อย่างไร? เห็นชัดว่าเขาจะต้องมีบางอย่างบกพร่อง!”
มีเสียงหัวเราะดังขึ้นพร้อมกับคนจากกองกำลังอื่นมาถึง นี่คือพรรคกระบี่เจินหยวนอันเป็นหนึ่งในกองกำลังแนวหน้าของชั้นหนึ่งเช่นเดียวกัน และผู้ที่พูดออกมาเมื่อครู่คือหัวหน้าพรรคกระบี่เจินหยวน
“ข้าคิดว่าเขาจะต้องไม่เอาไหนในด้านนั้นอย่างแน่นอน จึงไม่สามารถเติมเต็มภรรยาของเข้าได้ ไม่เช่นนั้นภรรยาของเขาจะยังทำเช่นนี้ได้อย่างไร?”
วาจาของเขาไร้ความสุภาพ มุ่งเป้าไปที่เจ้านิกายด้วยท่าทางที่ดูไม่เป็นมิตรนัก
“วันนี้จ้าวหุบเขาไป๋ก็มาที่นี่แลว เหตุใดเจ้ายังไม่รีบไปขอคำแนะนำอีก? จ้าวหุบเขาไป๋นับได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้! สามารถสอนเคล็ดลับสักสองสามประการให้ได้ เจ้าก็จะได้รับผลประโยชน์เป็นอย่างยิ่ง!”
เขามองเจ้านิกายเซี่ยงพร้อมหัวเราะออกมา “ไม่ต้องเขินอายไป ตอนนี้ทุกคนต่างก็รู้เรื่องนี้แล้ว ไม่จำเป็นต้องปิดบังแต่อย่างใด!”
“เจี้ยนอู่ เจ้าไม่พูดก็ไม่มีใครคิดว่าเจ้าเป็นใบ้หรอก!”
ดวงตาของเจ้านิกายทอประกายเย็นเยียบ พรรคกระบี่เจินหยวนมักตั้งตนเป็นศัตรูกับนิกายชิงหยางมาโดยตลอด เช่นเดียวกับเขาและเจี้ยนอู่ที่เป็นศัตรูกันไม่อาจอยู่รวมโลกกันได้ ตั้งแต่เล็กจนโตล้วนต่อสู้ประชันกัน ความสัมผัสเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
“อ่า ข้าหวังดีกับเจ้าแท้ ๆ! นี่สินะที่ว่าคนดีไม่ได้ดี ข้าคิดเพื่อเจ้า แต่เจ้ากลับยังแสดงท่าทางเช่นนี้กับข้า!”
เจี้ยนอู่ถอนหายใจเอ่ยออกมา “ทว่าข้าเองก็เข้าใจ ตัวเจ้านั้นว้าวุ่นไม่สงบ จะเที่ยวกัดคนก็ไม่แปลก! แต่ให้ข้าพูดหน่อยเถิด บางทียาของจ้าวหุบเขาไป๋อาจสามารถช่วยเจ้าได้มาก!”
โฮก!
ขุนเขาและธารน้ำสั่นสะเทือน มีอสูรร้ายมาถึงยังสถานที่แห่งนี้ ตัวของมันใหญ่ราวกับบรรพต ประหนึ่งปิดฟ้าบังตะวัน
มันคือกิเลนสีทองตัวหนึ่ง ใต้เท้าทั้งสี่ข้างมีไฟสีทองลอยเวียนวน แววตาเย็นเยียบหนาวเหน็บจนถึงกระดูก ทำให้ผู้มองตื่นตกใจกลัว
มันปรายตามองมาทางนี้อย่างเรียบเฉย ก่อนทะยานตรงเข้าไปแดนลับอาทึกโดยไม่หยุด
หลังจากนั้นก็มีวิหคเก้าหัวบินตามไป ร่างกายของมันปกคลุมไปด้วยขนสีดำ และพุ่งตรงเข้าแดนลับอาทึกราวกับลำแสงสีดำ
นอกจากนี้ยังมีวิหคสีทองอีกตัวบินผ่าน มันเปล่งประกายเจิดจ้าสว่างไสวเสียยิ่งกว่าดวงตะวัน มุ่งเข้าไปยังเส้นทางเดียวกันโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
ราชวงศ์โบราณเองก็มาถึง จักรพรรดิเป็นผู้นำทัพด้วยตนเอง พาแม่ทัพและกำลังพลอีกจำนวนไม่ถ้วนเข้าไปยังแดนลับอาทึกด้วยความยิ่งใหญ่
นอกจากนั้นยังมีเผ่าต่าง ๆ อีกมากมายที่เตรียมพร้อมอย่างเต็มที่เพื่อเข้าสู่แดนลับอาทึก
“ข้าจะไม่เสียเวลากับเจ้าที่นี่แล้ว ไปกัน!”
เจี้ยนอู่โบกมือ นำยอดฝีมือจากพรรคกระบี่เจินหยวนเร่งเข้าไปในแดนลับอาทึก
“สหายจะเข้าไปในแดนลับอาทึกเช่นนี้หรือ? ด้วยคนเพียง…ไม่กี่คน!”
ไป๋เหวินเอ่ยกับเจ้านิกาย จำนวนคนของนิกายชิงหยางนำมามีเพียงประมาณสิบคน เมื่อเทียบกับกองกำลังอื่น ๆ แล้ว นับว่าน้อยนิดเป็นอย่างยิ่ง
“สหายต้องการจะเดินทางร่วมกับพวกเราหรือไม่?”
นางเอ่ยเชิญชวน แสดงท่าทางว่าสามารถจับมือเป็นพันธมิตรกับนิกายชิงหยางร่วมมือกันแบ่งปันวาสนาได้
“ขอบคุณจ้าวหุบเขาไป๋ ทว่าไม่เป็นอันใด!”
เจ้านิกายปฏิเสธ อันที่จริงแล้วเขาเองก็ต้องการเข้าร่วมกับหุบเขาสุขาวดี ทว่าเขาไม่ได้ต้องการจะพึ่งพิงพลังของหุบเขาสุขาวดี มีพวกหนานฉงอยู่ ก็ไม่ต้องกังวลอันใดเกี่ยวกับกองกำลังอื่น ๆ
เขารู้สึกซาบซึ้งในตัวจ้าวหุบเขาไป่ จึงต้องการเข้าร่วมกับหุบเขาสุขาวดี เพื่อให้จ้าวหุบเขาไป๋ได้รับผลประโยชน์จากการติดตามพวกเขา
ทว่าเขาก็ไม่กล้าตัดสินใจโดยพลการ อย่างไรเสียเขาเองก็เป็นเพียงคนกอดต้นขา ย่อมไม่กล้าให้หุบเขาสุขาวดีเข้าร่วมตามใจชอบ
“ไปเถิด”
เมิ่งจีเอ่ย ก่อนเดินนำหน้าสุด พาพวกเขาทั้งหมดเดินเข้าไปในแดนลับอาทึก
แดนลับอาทึกนั้นไม่ธรรมดาอย่างแท้จริง มีสสารเหนือชั้นวิ่งพล่าน ดีกว่าด้านนอกเป็นอย่างมาก เหมาะสมกับการฝึกฝนอย่างถึงที่สุด ทันทีที่เข้าไปก็จะสามารถสัมผัสได้ถึงพลังทุกด้านที่เริ่มพัฒนาเพิ่มขึ้น
“สถานที่แห่งนี้ดูเหมือนจะเป็นลานเต๋าอย่างนั้นหรือ?!”
สีหน้าของเมิ่งจีจริงจัง สถานที่แห่งนี้ไม่เหมือนกับแดนลับทั่วไป มีร่องรอยการฝึกฝนจำนวนมากอยู่ทั่วบริเวณ
ตัวอย่างเช่นภายในป่าเขียวขจี มีถนนหินสายหนึ่งมุ่งตรงเข้าไปยังส่วนลึก
นอกจากนี้ด้านที่มีเสียงน้ำตกสูงนับหมื่นจั้งดังอย่างต่อเนื่อง ก็มีศาลาแห่งหนึ่งตั้งเอาไว้ ด้านในมีโต๊ะและเก้าอี้หินตั้งอยู่ บนโต๊ะยังตั้งเอาไว้ด้วยชุดน้ำชา
เมื่อมองลึกเข้าไปด้านใน จะสามารถเห็นลานเต๋าอันปกคลุมไปด้วยรุ้งมงคล ประหนึ่งวังสวรรค์ กระเพื่อมด้วยจังหวะเต๋าที่ไม่อาจอธิบายได้ ดูแล้วเหนือชั้นไม่ธรรมดา!
โอ้ว!
อีกาทองคำโบยบินเหนือท้องนภามุ่งตรงไปยังศาลา พยายามโฉบเอาชุดน้ำชาด้านบนโต๊ะหินไป
ชุดน้ำชานี้ไม่ธรรมดาเป็นอย่างยิ่ง ผสานกับอัขระอันสลับซับซ้อนน่าอัศจรรย์ นับได้ว่าเป็นสมบัติในหมู่สมบัติอย่างไม่ต้องสงสัย
เปรี้ยง!
มีสิ่งมีชีวิตบางชนิดพุ่งออกมาจากน้ำตก ทำให้ฟ้าดินสั่นสะเทือน มันอ้าปากออกพ่นสายฟ้าพุ่งเข้าใส่อีกาทองคำ!
ทว่าอีกาทองคำก็ไม่ได้อ่อนแอแต่อย่างใด มันเงยหน้าขึ้นฟ้าแล้วส่งเสียงร้อง ปลดปล่อยทะเลเพลิงอันไร้ขอบเขตเข้าต้านทาน
ทว่ากลับไม่ได้ผลแม้แต่น้อย สายฟ้าพุ่งผ่าทะเลเพลิง ระเบิดใส่ร่างอีกาทองคำจนร่างครึ่งหนึ่งถูกทำลาย เลือดและเนื้อสาดกระเซ็นไปทั่ว อีกาทองคำร่วงลงบนพื้นอย่างแรง
สิ่งมีชีวิตจำนวนมากที่เห็นต่างหวาดผวา อีกาทองคำไม่ใช่ผู้ไร้ชื่อเสียงเรียงนาม นับได้ว่าเป็นผู้แข็งแกร่งโดดเด่นในชั้นที่หนึ่ง ทว่ากลับถูกจัดการลงภายในการโจมตีครั้งเดียว สถานที่แห่งนี้นับว่าน่ากลัวจริง ๆ!
เมิ่งจีขมวดคิ้ว สถานที่แห่งนี้แตกต่างจากที่เขาคิดก่อนหน้านี้
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าแดนลับอาทึกเป็นสถานที่ไร้เจ้าของ ทว่าเมื่อดูจากตอนนี้แล้ว แดนลับอาทึกน่าจะเป็นดินแดนที่มีเจ้าของ สิ่งมีชีวิตที่เพิ่งโจมตีอีกาทองคำเมื่อครู่ ก็เพื่อปกป้องชุดน้ำชาที่วางอยู่บนโต๊ะหิน
“พวกเราไปกันเถิด…”
เขาเอ่ยขึ้นมา ต้องการออกจากสถานที่แห่งนี้
เนื่องจากแดนลับอาทึกมีเจ้าของแล้ว พวกเขาไม่มีความจำเป็นจะต้องรั้งอยู่ที่นี่อีกต่อไป เขาจะไม่ปล้นชิงสิ่งของของผู้อื่น
แม้ว่าของในสถานที่แห่งนี้จะดีมากก็ตาม
“อืม”
ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเหิงพยักหน้า เขาเองก็จะไม่กระทำเรื่องปล้นชิง
ทว่าตอนนั้นเอง พลันเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น ลมหายใจอันน่าสะพรึงกลัวพลันปรากฏออกมาจากฟ้าดินและจับตัวพวกเขาเอาไว้
“ข้ารู้สึกแล้วเชียวว่าเรื่องราวจะไม่เรียบง่ายปานนั้น…”
เมิ่งจีเหยียดยิ้ม “ดูเหมือว่าพวกเราจะไม่อาจหลบเลี่ยงได้ สถานที่แห่งนี้เป็นกับดักที่ห่อหุ้มด้วยภาพลักษณ์อันงดงาม พวกเราล้วนแล้วแต่เป็นเหยื่อที่ถูกดึงดูดความสนใจ!”
ดูเหมือนว่าทุกสิ่งเป็นเพียงของปลอม วาสนาการเปลี่ยนแปลงและสมบัติล้วนเป็นเหยื่อล่อ!
พวกเขาถูกหย่อนเบ็ดล่อให้มา