ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก – ตอนที่ 315 ขายดี (1)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ตอนที่ 315 ขายดี (1)

ตอนที่ 315 ขายดี (1)

กลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาพร้อมกับเจนนี่ก็ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของล่ามจากป้าอายุสี่สิบปีกลายเป็นพี่สาววัยสามสิบปี อีกทั้งยังเป็นพี่สาวที่สวยด้วย

“พระเจ้า นี่ช่างน่าอัศจรรย์ เครื่องสำอางเหล่านี้มีประสิทธิภาพเช่นนี้นี่เอง”

“ใช่ น่าเหลือเชื่อมาก”

ผู้ที่กล่าวนั้นคือหญิงสาวสองคนที่มีผมสีบลอนด์และดวงตาสีฟ้า สายตาที่พวกหล่อนมองฉินมู่หลานดูเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง และเป็นฝ่ายเอ่ยปากก่อน “พวกเราต้องการซื้อเครื่องสำอางทั้งหมดที่ล่ามคนนั้นเพิ่งใช้ไปเมื่อสักครู่”

เดิมทีเจนนี่ต้องการกล่าวอะไรบางอย่าง แต่เมื่อเห็นรูปลักษณ์ของล่ามก็ต้องยอมรับว่าเครื่องสำอางของประเทศจีนนั้นดีมาก อย่างน้อยก่อนหน้านี้หล่อนเองก็ไม่เคยเห็นเครื่องสำอางที่มีประสิทธิภาพอันน่าทึ่งเช่นนี้ สุดท้ายแล้วหล่อนเองก็ไม่ได้กล่าวอะไรและมองดูซูซานกับลิซ่าซื้อเครื่องสำอาง

เมื่อเห็นสถานการณ์นี้ ฉินมู่หลานก็เอ่ยแนะนำกิจกรรมของวันนี้ด้วยรอยยิ้ม

ล่ามคนนั้นพบว่าตนเองไม่มีประโยชน์เลย ฉินมู่หลานพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วมากและพูดคุยสื่อสารกับชาวต่างชาติได้อย่างไม่มีปัญหา

หลังจากฉินมู่หลานเอ่ยแนะนำเสร็จ ซูซานและลิซ่าพลันเอ่ยถาม “ก่อนอื่นคุณต้องแนะนำพวกเราว่าเมื่อสักครู่นี้คุณใช้เครื่องสำอางตัวไหนบ้าง”

ฉินมู่หลานได้ยินเช่นนี้ หล่อนยิ้มและพยักหน้า จากนั้นเอ่ยแนะนำทั้งสองคน สุดท้ายกล่าว “ราคาเซ็ตเครื่องสำอางเซ็ตนี้จะอยู่ที่ประมาณหกร้อยหยวน วันนี้มียอดใช้จ่ายเกินห้าร้อยหยวนจะได้รับเครื่องสำอางและครีมบำรุงผิวฟรีหนึ่งขวด และยังได้รับสิทธิจับรางวัลสองครั้ง”

ขณะกล่าว ฉินมู่หลานก็เอ่ยแนะนำกิจกรรมของวันนี้อีกครั้ง

“ได้ๆ ตกลง พวกเราต้องการคนละหนึ่งเซ็ต ตอนนี้คุณรีบแต่งหน้าให้พวกเราเถอะ”

ซูซานและลิซ่าอยากเห็นว่าหลังจากพวกหล่อนแต่งหน้าเสร็จแล้วจะเป็นอย่างไร หากดูเด็กลงเป็นอย่างมากขนาดนั้นก็ถือได้ว่าเป็นกำไรมหาศาล ยิ่งกว่านั้นจำนวนเงินหกร้อยหยวนไม่แพงเลยเมื่อเทียบกับความงดงาม ไม่ต้องเอ่ยเลยว่าจะคุ้มค่าขนาดไหน

เมื่อเห็นสีหน้ากระตือรือร้นของทั้งสองคน ฉินมู่หลานยิ้มพลางมองพนักงานขายทั้งสองคนและกล่าว “จัดเซ็ตเครื่องสำอางให้กับคุณซูซานและคุณลิซ่า ฉันจะแต่งหน้าให้กับพวกหล่อนก่อน”

“ค่ะ”

พนักงานขายสองคนได้ยินเช่นนั้นก็รีบเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้ม หลังจากนั้นก็รีบจัดเซ็ตเครื่องสำอาง

ส่วนฉินมู่หลานก็เริ่มแต่งหน้าให้กับซูซาน เนื่องจากรูปลักษณ์ของชาวต่างชาติและชาวจีนค่อนข้างแตกต่างกัน ดังนั้นฉินมู่หลานย่อมแต่งหน้าสไตล์ที่เหมาะสมกับชาวต่างชาติ

กระทั่งแต่งหน้าให้ซูซานเสร็จสิ้น ลิซ่าพลันร้องอุทานอย่างตื่นตกใจ “พระเจ้า ซูซาน ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเธอจะสวยขนาดนี้”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ซูซานรีบเอ่ยถาม “มีกระจกไหม กระจกอยู่ไหน?”

ฉินมู่หลานยื่นกระจกให้ด้วยความเอาใจใส่และเอ่ยถาม “คุณสามารถดูได้เลยค่ะ”

ซูซานหยิบกระจกขึ้นมา เมื่อเห็นคนภายในกระจก หล่อนเองก็อุทานเช่นกัน “พระเจ้า นี่คือฉันเหรอ ฉันสามารถสวยได้ขนาดนี้เลยเหรอ ร่องรอยบนใบหน้าก็จางลง น่าเหลือเชื่อจริงๆ”

ซูซานยังคงตะลึงงันอยู่อย่างนั้น ลิซ่าดึงหล่อนขึ้นและเอ่ย “เอาล่ะซูซาน ถึงตาฉันแต่งหน้าแล้ว เธอรีบหลีกไป”

ลิซ่านั่งลงและมองฉินมู่หลานพร้อมกับกล่าว “เร็วเข้า รีบแต่งหน้าให้ฉันเถอะ”

“ได้เลยค่ะ”

ฉินมู่หลานยิ้มและเริ่มแต่งหน้าให้กับลิซ่า

ลิซ่าอายุน้อยกว่าซูซาน แต่ใบหน้าของเธอไม่ได้สัดส่วนเท่าไรนัก เมื่อฉินมู่หลานทำการแต่งหน้าให้กับลิซ่า เธอก็ใช้อายแชโดว์ที่สีคล้ายกับสีผิวสร้างเงาตามแนวเปลือกตา หลังจากนั้นก็ให้ความสนใจกับการกรีดอายไลเนอร์ ด้วยวิธีการนี้ ระยะห่างระหว่างดวงตาของลิซ่าจึงสั้นลงอย่างเห็นได้ชัด

ฉินมู่หลานแต่งหน้าให้กับลิซ่าอยู่พักใหญ่ และก็ให้ผลลัพธ์น่าพึงพอใจเช่นกัน

ลิซ่ายังคงเป็นลิซ่า แต่รู้สึกได้ว่าหล่อนมีผิวละเอียดมากยิ่งขึ้นและใบหน้าดูสว่างมากขึ้น

“พระเจ้า ลิซ่า เธอรีบดูรูปลักษณ์ของตัวเองตอนนี้เร็วเข้า”

ลิซ่าเองก็ร้อนใจมากเช่นกันและรีบช่วงชิงกระจกภายในมือของซูซาน หลังจากหล่อนเห็นรูปลักษณ์ของตนเองตอนนี้ก็ยกมือป้องปาก “พระเจ้า นี่คือฉันเหรอ นี่คือฉันจริงเหรอ?”

“คือเธอ เป็นเธอ ลิซ่า หลังจากนี้เธอต้องแต่งหน้าแบบนี้ทุกวัน มันสวยมากจริงๆ”

ซูซานและลิซ่าเป็นเพื่อนสนิทกัน ก่อนหน้านี้เพื่อนสนิทนั้นรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจเพราะหน้าตาของตนเอง แต่วันนี้รูปลักษณ์ของเพื่อนสนิทคนนี้งดงามมากจริงๆ

ฉินมู่หลานเห็นทั้งสองคนมีความสุขขนาดนี้ เธอก็ยิ้มอย่างอดไม่ได้พลางเอ่ยถึงเทคนิคการแต่งหน้าของตนเองเมื่อสักครู่

“เดี๋ยว เดี๋ยวก่อน……”

ซูซานและลิซ่ารีบบอกให้หยุด จากนั้นทั้งสองคนหยิบสมุดและปากกาขึ้นมาพร้อมกับกล่าว “พวกเราต้องจดสิ่งเหล่านี้ คุณพูดช้าๆนะ”

ฉินมู่หลานยิ้มเล็กน้อยและไม่เอ่ยแสดงความคิดเห็นใด จากนั้นบอกกล่าวซูซานและลิซ่าเกี่ยวกับเทคนิคและวิธีการแต่งหน้าให้กับพวกหล่อน ทั้งสองคนตั้งใจจดบันทึกเป็นอย่างมากและกลัวว่าจะพลาดจุดสำคัญบางอย่าง

หลังจากฉินมู่หลานกล่าวจบ หล่อนมองทั้งสองคนและเอ่ย “ตอนแรกพวกคุณอาจจะยังไม่ชำนาญนัก การแต่งหน้าอาจยังไม่ดีเท่านี้ แต่หลังจากพวกคุณมีความชำนาญมากขึ้นแล้ว แน่นอนว่าพวกคุณจะแต่งหน้าให้ตนเองงดงามได้อย่างแน่นอน”

“รับทราบคุณฉิน พวกเราเข้าใจแล้ว”

ขณะนี้ลิซ่าเอ่ยปาก “คุณฉิน ฉันต้องการซื้อเพิ่มอีกห้าเซ็ต ไม่สิ…..อีกสิบเซ็ต”

ซูซานที่อยู่ด้านข้างนั้นได้ยินและรีบกล่าว “ใช่ๆ ฉันเองก็ต้องการเพิ่มอีกสิบเซ็ต”

ฉินมู่หลานได้ยินเช่นนี้ก็เอ่ยอธิบายอีกครั้ง “เครื่องสำอางนี้มีอายุการเก็บรักษา ถ้าหากว่าหมดอายุแล้วก็ไม่สามารถใช้งานได้แล้ว ดังนั้นพวกคุณไม่จำเป็นจะต้องซื้อมากมายขนาดนี้”

“ไม่เยอะ ไม่เยอะหรอก นอกจากพวกเราจะใช้เองแล้วก็ยังสามารถมอบให้กับคนภายในครอบครัวและเพื่อนๆได้อีกด้วย พวกเรากลัวว่าเมื่อถึงเวลานั้นแล้วจะไม่พอ”

เดิมทีกลุ่มชาวต่างชาติหลายคนยืนมองซูซานและลิซ่าซื้อสิ่งของมากมาย พอถึงตอนนี้พวกหล่อนเองก็รีบก้าวเท้าไปและเอ่ย “พวกเราเองก็ต้องการซื้อเช่นกัน”

เดิมทีฉินมู่หลานกังวลว่าเครื่องสำอางล็อตแรกนั้นจะไม่เพียงพอ และมันก็มีไม่เพียงพอตามที่คาดการณ์ไว้จริงๆ ตอนแรกเธอรับประกันว่าทุกคนที่ซื้อนั้นจะได้รับคนละหนึ่งชุด แต่หากซื้อเพิ่มก็คงต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง “ต้องขออภัยด้วยนะคะทุกคน เมื่อมีสินค้าพร้อมจำหน่ายแล้วพวกเราจะให้คนนำไปส่งให้พวกคุณทันที”

เดิมทีคำพูดนี้เธอเองก็ไม่กล้ารับประกัน อย่างไรก็ตามหลิวเสวียข่ายเผยกับเธอว่าอีกระยะหนึ่งบังเอิญว่ามีกลุ่มคนหนึ่งจะเดินไปทางสหรัฐอเมริกา ดังนั้นสามารถนำสิ่งของไปให้ได้

ซูซานและลิซ่าได้ยินคำพูดนี้ก็วางใจและพยักหน้าพร้อมกับเอ่ย “ก็ได้”

หลังจากนั้นฉินมู่หลานมอบครีมบำรุงให้กับชาวต่างชาติเหล่านั้นที่ใช้จ่ายเกินจำนวนและพาพวกหล่อนไปจับสลาก บางคนนั้นโชคดีได้สบู่ก้อนหนึ่งและมีบางคนที่ไม่ได้รับอะไรเลย ลิซ่านั้นโชคดีที่สุดตรงที่ได้ปากกาหนึ่งด้าม

แม้ลิซ่าจะเห็นว่าปากกาไม่ค่อยคุ้มค่ากับเงินเท่าไรนัก แต่ก็ไม่มีใครจับได้สิ่งนี้ มีเพียงแค่หล่อนคนเดียว หล่อนจึงยังคงรู้สึกมีความสุขมาก

“ขอบคุณการสนับสนุนของทุกคนในวันนี้นะคะ พวกคุณวางใจได้ หลังจากเครื่องสำอางเสร็จสิ้นแล้วจะส่งถึงมือของพวกคุณอย่างแน่นอน”

“ตกลงค่ะ พวกเราจะรอคุณ”

แน่นอนว่าพวกเขาเองก็อยากได้สิ่งของที่ตนเองซื้อภายในทันที แต่ในเมื่อสิ่งของมีเพียงเท่านี้ พวกเขาเองก็ไม่สามารถทำอะไรได้

ขณะนี้ ชายวัยกลางคนผมสีน้ำตาลคนหนึ่งเดินเข้ามา เขามองฉินมู่หลานและเอ่ย “คุณฉิน ผมขอพูดคุยกับคุณสักหน่อยได้ไหม?”

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

เอาล่ะสิ ขายดีเกินคาด เร่งผลิตกันมือระวิงแล้วทีนี้

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Status: Ongoing
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก[嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住]ผู้แต่ง : 钰儿เรื่องย่อหลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท