เซียนหมากข้ามมิติ – ตอนที่ 327 สาเหตุ

เซียนหมากข้ามมิติ

ตอนที่ 327 สาเหตุ

ในห้องโถง ธิดามังกรที่เดิมทีสงบเงียบเรียบร้อย กลับกลายเป็นตื่นตกใจเสียกิริยาอยู่บ้าง แม้จะอยู่ในงานเลี้ยงวันเกิดในปีนั้น หลังจากได้รับการเคาะใจจากจี้หยวนแล้ว ปมในใจหายไปมากกว่าครึ่ง ทว่าเมื่อได้ยินข่าวคราวของมารดาตนเองก็ยังคงเปี่ยมไปได้ความรู้สึกมากมาย

“ท่านอาจี้ ท่านพบเขาที่ใด เหตุใดไม่มากับท่านด้วย”

ธิดามังกรพูดเร็วกว่าปกติอยู่หลายเท่า

จี้หยวนไม่ปิดบังตอบไปตามตรง

“อีกฝ่ายเป็นวาฬยักษ์ตัวหนึ่ง เรียกตนเองว่าแม่ทัพวาฬยักษ์ บอกว่าเป็นชื่อที่มารดาเจ้าตั้งให้ มันรอโม่หรงอยู่ที่ชายฝั่งทะเลตะวันออกบริเวณอาณาจักรจู่เยวี่ย ราวกับรู้ว่าโม่หรงล้วนออกทะเลทุกปี ข้าคนแซ่จี้พบว่าเพราะมันกระเพาะใหญ่เกินไป กินปลาที่ชายฝั่งจนไม่เหลือ ชาวประมงจึงเชิญคนมาขับไล่ปีศาจแล้ว…”

จี้หยวนเล่าเรื่องระหว่างนั้นให้ธิดามังกรฟังอย่างละเอียด สุดท้ายกล่าวว่า

“ขนาดของวาฬตัวนี้ใหญ่เกินไป ไม่สามารถเข้าแม่น้ำทั่วไปได้ อีกทั้งเหมือนกับรู้จักเพียงโม่หรง ส่วนแท้จริงเป็นมารดาเจ้าส่งมันมาหรือไม่ ข้าคนแซ่จี้ยังไม่รู้ชัด ต้องขอเทพีแม่น้ำไปไขข้อข้องใจกับข้าสักหน่อย”

“อืม!”

ธิดามังกรกำมือทั้งสองข้างเดินไปข้างหน้าหลายก้าว กระโปรงยาวขยับไหวเหมือนรูปทรงของดอกไม้

ตอนนี้ยักษ์ข้างหลังรีบเดินมา มองธิดามังกรแล้วมองจี้หยวน ประสานมืออย่างมีมารยาท

“เทพีมังกร ท่านจี้ ประมุขมังกรหลับลึกไม่คิดตื่นเลยขอรับ”

“อะไรนะ แต่ท่านจี้มาเชิญด้วยตนเองเชียว!”

ธิดามังกรกล่าวด้วยความประหลาดใจ

ยักษ์มองจี้หยวนอย่างระแวดระวัง จากนั้นประสานมือก้มศีรษะลงต่ำกว่าเดิมก่อนตอบธิดามังกร

“เรียนเทพีแม่น้ำ ประมุขมังกรไม่ตื่นจริงๆ ข้าน้อยก็ไม่กล้ารบกวนขอรับ!”

ธิดามังกรมุ่นคิ้ว มองยักษ์แล้วหันกายไปพูดกับจี้หยวน

“ท่านอาจี้รอตรงนี้ก่อน ข้าจะไปเรียกท่านพ่อ!”

พูดจบแล้วธิดามังกรสาวเท้าก้าวใหญ่จากไป เหลือไว้เพียงจี้หยวนและยักษ์ตนนั้น

จี้หยวนยิ้มและพยักหน้าให้ยักษ์ ฝ่ายหลังรีบยิ้มกลบเกลื่อน

“ท่านจี้ ข้าชงชาให้ท่านดีกว่า!”

“ดี ขอบคุณมาก รบกวนเจ้าชงชาร้อนหน่อยแล้ว”

“ขอรับ!”

ยักษ์เหมือนได้รับความกรุณา รีบร้อนจากไปแล้ว มันรู้สึกว่าท่านจี้และประมุขมังกรมีความคุกคามที่แตกต่างกัน ใช่ ความคุกคาม ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนล้วนทำให้มันรู้สึกกดดันอย่างถึงที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์นี้ มันรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าท่านจี้มองคำพูดโกหกของมันออก ทว่าไม่ได้เปิดโปงเท่านั้น

ขณะนี้ธิดามังกรรีบร้อนเดินไปยังส่วนลึกของจวนบาดาล ไม่นานก็ไปถึงถ้ำตรงปากทางเข้าบึงมังกร ยักษ์สองตนยื่นมือขวางนางไว้

“เทพีแม่น้ำ ประมุขมังกรกำลังหลับลึก ตอนนี้ไม่สะดวกให้ท่านเข้าไป”

ธิดามังกรไม่พูดจา เพียงมองพวกมันครั้งหนึ่ง ยักษ์สองคนมองหน้ากันแล้วหดมือกลับ จากนั้นนางเดินเข้าไปข้างในทันที

ทว่าเพิ่งเดินเข้าไปได้สองก้าว ธิดามังกรรู้สึกว่าไปต่อไม่ได้แล้วจึงยื่นมือสัมผัสข้างหน้า กระแสน้ำหนาหนักอย่างยิ่ง มือข้างหนึ่งยื่นเข้าไปในน่านน้ำตรงหน้า ยิ่งเดินเข้าไปแรงต้านยิ่งมากขึ้น จนกระทั่งไม่อาจเดินต่อไปได้อีก

‘เขตอาคม!’

“ท่านพ่อ! ท่านให้ข้าเข้าไปเถอะ! ท่านอาจี้มาหาท่าน เมื่อปีก่อนท่านบ่นไม่ใช่หรือว่าท่านจี้หายตัวไปอีกแล้ว ท่านได้ฟังเรื่องเพลิงสมาธิแล้วสนใจมากไม่ใช่หรือ ท่านจี้มาด้วยตนเองแล้ว! ท่านพ่อ…”

ธิดามังกรตะโกนเสียงดัง ยักษ์สองตัวข้างๆ ลำบากใจเป็นอย่างยิ่ง อ้อนวอนนางจากใจจริง

“เทพีแม่น้ำ ลดเสียงหน่อยเถอะขอรับ ประมุขมังกรพักผ่อนอยู่!”

“ใช่ เทพีแม่น้ำ หากท่านตะโกนเช่นนี้ต่อไป พวกข้าคงรักษาชีวิตไว้ไม่ได้แล้วขอรับ!”

อิงรั่วหลีขมวดคิ้ว ในใจเกิดความลังเลทว่าตะโกนอีกครั้งหนึ่ง

“ท่านพ่อ ครั้งนี้อาจเป็นท่านแม่ก็ได้…”

นางพูดเพียงครึ่งเดียวก็หยุดไป จากนั้นหันไปมองข้างๆ พบว่าบนไหล่มีมือเพิ่มขึ้นมาข้างหนึ่ง พวกยักษ์ไม่กล้าแตะต้องนางโดยสิ้นเชิง เมื่อนางหันไปมองกลับเห็นว่าเป็นจี้หยวน

“ท่านอาจี้…”

จี้หยวนส่ายหน้า ใช้เสียงแผ่วเบาที่มีแต่ธิดามังกรได้ยินพูดว่า

“เจ้าเรียกคนแกล้งหลับให้ตื่นไม่ได้หรอก อืม ควรพูดว่าเป็นมังกรแกล้งหลับมากกว่า เจ้ากับข้าไปพบแม่ทัพวาฬยักษ์ตัวนั้นก็เหมือนกันนั่นแหละ”

พูดจบแล้วจี้หยวนหดมือกลับ ประสานมือคารวะไปทางบึงมังกร

“จี้หยวนขอตัวลาก่อน ไม่รบกวนผู้อาวุโสอิงพักผ่อนแล้ว!”

จี้หยวนมองธิดามังกรก่อนหมุนกายเดินไปยังทางขามา ฝ่ายหลังลังเลครู่หนึ่งแล้วมองทางเข้าบึงมังกร สุดท้ายไม่อดทนรอต่อ หมุนกายตามจี้หยวนไปเช่นกัน

ไม่นานนักเงาร่างสองสายก็ออกจากขอบเขตของจวนบาดาล ว่ายน้ำขึ้นไปเหนือผิวน้ำ ทว่าไม่มีเงาคนใดออกจากช่วงแม่น้ำเลย จากนั้นเหยียบเมฆลอยขึ้นบนอากาศสูง

ทว่าประมาณครึ่งเค่อหลังจากนั้น ผิวแม่น้ำอีกด้านหนึ่งของแม่น้ำเทียมฟ้ามีคลื่นน้ำก่อตัว กระแสน้ำเล็กๆ ตามด้วยหยดน้ำซ่านเซ็นไปสองด้าน ปราณรูปร่างมังกรเลือนรางที่ไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าลอยขึ้นจากในนั้น

ผ่านไปหนึ่งวันกว่า จี้หยวนและธิดามังกรเข้าใกล้ชายฝั่งทะเลด้านหนึ่งของอาณาจักรจู่เยวี่ยแล้ว ตลอดทางธิดามังกรหัวใจหนักอึ้ง มาถึงที่นี่แล้วยิ่งเป็นกังวลครุ่นคิดมากกว่าเดิม

“ท่านอาจี้ วาฬยักษ์ตัวนั้นอยู่ที่ใดหรือ”

ธิดามังกรมองทะเลเบื้องล่าง นอกจากเกลียวคลื่นแล้วก็มองไม่เห็นอย่างอื่น นางถึงกับใช้ร่างจริงค้นหาในทะเลด้วยซ้ำไป

“ไม่แน่ใจ อาจจะซ่อนตัวอยู่ก็ได้ ถึงอย่างไรมันก็ไม่ได้เชื่อใจข้า…”

จี้หยวนพูดพลางยิ้มให้ธิดามังกร

“แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ครั้งก่อนข้าลงไม้ลงมือกับมันนิดหน่อย ดีดปราณกระบี่ใส่กระดูกสันหลังมัน ไม่ต้องกังวลว่าจะหามันไม่เจอ”

หึ่ง…

ทันทีที่จี้หยวนพูดจบ กระบี่เครือเขียวข้างหลังส่งเสียงเล็กน้อย บินไปถึงตรงหน้าจี้หยวน

“ไป พามันออกมา”

หึ่ง…

กระบี่เครือเขียวส่งเสียงอีกครั้งก่อนหายตัวไป แทบจะในวินาทีนั้นเอง ผิวน้ำทะเลเบื้องล่างแหวกออกเป็นร่องยาว กระบี่เครือเขียวปรากฏขึ้นในนั้น น้ำทะเลคลั่งถูกคมกระบี่ผ่าเป็นทาง ตรงที่กระบี่เซียนผ่านเกิดเป็นร่องรอยไร้น้ำช่วงสั้นๆ

“ไป พวกเราตามไป”

จี้หยวนข้ามท้องฟ้าร่วมกับธิดามังกรอีกครั้ง ตามหลังกระบี่เครือเขียวอยู่ไกลๆ

“เฮ้อ ท่านพ่อข้าก็จริงๆ เลย เหตุใดไม่มานะ!”

ตอนนี้อิงรั่วหลียังคงกลุ้มใจอยูบ้าง จี้หยวนบินไปพลาง กวาดสายตามองท้องฟ้าและผิวน้ำทะเลหลายครั้งไปพลาง แววตาเคลื่อนไหวพร้อมพูดเสียงเอื่อย

“อาจจะมาก็ได้”

นี่ไม่ใช่เพราะจี้หยวนรับรู้ได้ถึงตัวตนของมังกรเฒ่าจริงๆ ทว่ามีการคาดเดาได้ในบางระดับ เรื่องของหัวใจ หากเปลี่ยนเป็นตนเองคงแอบตามมาดูแน่นอน

ก้อนเมฆไกลออกไป ปราณหมอกมังกรกลุ่มหนึ่งซ่อนตัวอยู่ในก้อมเมฆด้วยความระมัดระวัง

‘จี้หยวนผู้นี้ความรู้สึกไวเกินไปแล้ว! ข้าใช้วิชาร่างลวงแบ่งจิตมา แต่เหมือนกับถูกเขาพบแล้วหรือนี่!’

หนึ่งเค่อกว่าผ่านไป ในสายตาของจี้หยวนและอิงรั่วหลี ผิวน้ำทะเลไกลๆ พลันเกิดดสียงครืน คลื่นขนาดใหญ่ระเบิดออกสู่ท้องฟ้า

“อย่าฆ่าข้า…ท่านเซียนอย่าฆ่าข้า…”

วาฬยักษ์ตัวหนึ่งกระโดดออกจากผิวน้ำ ลอยสูงอยู่กลางอากาศสิบกว่าจั้ง จากนั้นตกลงอีกครั้ง

ตูม…เสียงสนั่นดังขึ้น ผิวน้ำทะเลเหมือนกับถูกโยนระเบิดลูกยักษ์ใส่

คลื่นขนาดมหึมาถูกแหวกออก ล้มลงใส่ทั้งสี่ด้าน ด้านข้างยิ่งเหมือนกับมีฝนตกลงมาห่าใหญ่ ส่วนกระบี่เครือเขียวแฉลบออกจาก ‘ฝน’ กลับสู่ข้างกายจี้หยวนโดยตรง

“บอกให้เจ้าคอยดีๆ ไยซ่อนตัวเสียเล่า”

จี้หยวนพูดเสียงเรียบอยู่บนก้อนเมฆที่กำลังลอยต่ำ ไม่คิดฟังวาฬยักษ์อธิบาย ขยับไปหาคนข้างกายทันที

“เจ้ารู้จักท่านนี้กระมัง ส่วนผู้อาวุโสอิงกำลังหลับลึก ไม่ตื่น”

ประโยคครึ่งหลังจี้หยวนจงใจเพิ่มเสียงพูด สายตากวาดมองรอบด้านอย่างไม่ยี่หระ

ทว่าวาฬยักษ์ไม่ได้สนใจทางนี้อย่างชัดเจน เพราะความจริงแล้วความสนใจของมันรวมศูนย์อยู่ที่อิงรั่วหลีแล้ว

“ท่าน ท่านคือเทพีรั่วหลีจริงหรือ คล้ายกับเจ้าแม่ยิ่งนัก…”

วาฬยักษ์ราวกับมีวิธีการพิเศษบางอย่าง แม้พบกันครั้งแรกก็รู้ทันทีว่านี่คือธิดามังกรตัวจริง ระดับความเคารพและซื่อสัตย์เหนือกว่าที่มีต่อจี้หยวนขั้นหนึ่ง

อิงรั่วหลีในตอนนี้กลับมามีท่าทีของเทพีปกติแล้ว ใจเย็นและมีเมตตา นางมองวาฬยักษ์แล้วกล่าว

“เจ้าคือแม่ทัพวาฬยักษ์ที่ท่านแม่ข้าแต่งตั้งหรือ ท่านแม่ข้าส่งเจ้ามาใช่หรือไม่”

วาฬยักษ์ขยับตัวบนผิวน้ำ ตอบตามความจริง

“ไม่ใช่เจ้าแม่ส่งข้ามา เจ้าแม่จะพูดเรื่องนี้ได้อย่างไรกัน เป็นข้าลอบมาตามหาท่านโม่ ด้วยไม่กล้าขัดคำสั่งของเจ้าแม่ เดิมไม่คิดรบกวนประมุขมังกรและองค์ชายองค์หญิงทั้งสอง เพียงคิดไม่ถึงว่าท่านโม่จะ…”

อิงรั่วหลีมีแววตาเรียบเฉย ที่แท้ไม่ใช่ท่านแม่ส่งมา ทว่านางยังคงถามต่อ

“เช่นนั้นเจ้ามาด้วยธุระใด”

ตอนนี้วาฬยักษ์ไม่ปิดบังอะไรทั้งนั้น

“เมื่อร้อยปีก่อน นอกทะเลเวิ้งว้างมักมีปีศาจเผ่าวารีมาเยือน ประมาณยี่สิบสามสิบปีก่อนหน้านี้ มังกรเจียวชั่วร้ายมรรควิถีลึกล้ำมาเยือนตัวหนึ่ง มันคอยพัวพันกับเจ้าแม่ไม่เลิก…เจ้าแม่กำจัดมันไปไม่ได้จึงเร้นกายอยู่ใต้เกาะหินมังกรสิบกว่าปีไม่ออกมา ข้ารู้สึกกลุ้มใจมากอยากตามท่านโม่มาช่วยสั่งสอนมัน….ส่วนเรื่องหลังจากนั้น ท่านเซียนผู้นี้รู้หมดแล้ว!”

“อะไรนะ! มีเรื่องพรรค์นี้ด้วยหรือ! มันไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วกระมัง!”

อิงรั่วหลีได้ฟังแล้วอดไม่ได้ หว่างคิ้วเคร่งขรึม พลังมังกรปะทุขึ้น ผมยาวสลวยพลิ้วไสว ราวกับปราณไร้รูปร่างแผ่ออกมาจากกายนาง

เซียนหมากข้ามมิติ

เซียนหมากข้ามมิติ

Status: Ongoing
เพราะกระดานหมากเก่าๆ จี้หยวน พนักงานบริษัทธรรมดาๆ จึงข้ามมิติมาสู่โลกใหม่ในร่างขอทานตาเกือบบอด เพื่อเอาตัวรอดในโลกที่ไม่คุ้นเคย เขาจึงต้องใช้ไหวพริบของคนยุคปัจจุบันและกลหมากพัฒนาตัวเองให้แกร่งกล้า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท