บทที่ 736 เจ็ดอารมณ์ของโฮ่วถู่ (6)
บนท้องฟ้าสูง มีลำแสงหลากสีพุ่งไปที่ด้านล่างของวงแหวนหญ้าและรวมเข้ากับธารแสงเซียน
จากนั้นก็มีภาพลวงตาค่อยๆ ก่อตัวขึ้น นางสวมชุดกระโปรงยาวสีขาวเรียบๆ และหลับตาพริ้ม…
โฮ่วถู่!
หลี่ฉางโซ่วโค้งคำนับให้นางอย่างสุดซึ้งและกล่าวเสียงดังว่า “คุณธรรมความดีงามแห่งโฮ่วถู่ ฟ้ารู้ดินรู้! โปรดกลับคืนมาเถิด ราชินีโฮ่วถู่!”
เสียงของเขาดังแผ่กระจายออกไปไกล แต่ภาพลวงตาของโฮ่วถู่ ก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ แล้วแสงเซียนที่แผดแสงเจิดจ้าเหนือวงแหวนหญ้าก็เริ่มสลัวลง
ราชินีโฮ่วถู่ ซึ่งดูเหมือนว่า จะกำลังหลับอยู่ ขมวดคิ้วเล็กน้อยในขณะที่ใบหน้าของนาง เผยความเจ็บปวดออกมาเล็กน้อย
หลี่ฉางโซ่วเงยหน้าขึ้นมองอย่างกระวนกระวายใจ…
นางไม่ได้อยู่ที่นี่หรือ?
ผิดเวลาไปหรือไม่?
หรือว่าพลังแห่งเจตจำนงเหล่านั้น จะไม่อาจเข้าถึงสถานที่แห่งนี้ได้?
หลี่ฉางโซ่วสูดลมหายใจเข้าลึก และโค้งคำนับอย่างสุดซึ้งอีกครั้ง
จากนั้นเขาก็กล่าวเสียงลั่นว่า “ต้าเต๋อโฮ่วถู่ปกป้องสังสารวัฏ สิ่งมีชีวิตทั้งมวลล้วนสำนึกในพระคุณและระลึกถึงท่านอย่างซาบซึ้งใจตลอดชั่วกัปชั่วกัลป์!”
เพียงทันทีที่เขากล่าวจบ ก็มีแปดเสียงดังขึ้นมาจากทั่วทุกที่ นั่นคือ เสียงของปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูและปรมาจารย์คนอื่นๆ
พวกเขาล้วนโค้งคำนับให้โฮ่วถู่และท่องถ้อยคำของหลี่ฉางโซ่วเหล่านั้นทุกคำอย่างพร้อมเพรียงกัน
ทันใดนั้น
เสียงตะโกนโห่ร้องก็ดังกระหึ่ม ทรงพลังมากขึ้น ดังขึ้น และดังกึกก้องไปทั่วหล้าตลอดเวลา!
บัดนั้นหมู่ดาราจักรที่แผ่นจานสังสารวัฏหกวิถีฉายออกมาก็กำลังปะทุขึ้นด้วยแสงเจิดจ้า
มีฟองอากาศสีทองลอยขึ้นมาจากหมู่ดาราจักรและตกลงไปในทุกที่ทั่วหล้า
ยามเฉิน สามเค่อ
บนชายฝั่งทะเลทักษิณ และทะเลบูรพา ในพื้นที่ที่สำนักเทพทะเลครอบคลุมอยู่ มีร่างนับไม่ถ้วนคุกเข่าต่อหน้ารูปปั้นเทพโฮ่วถู่ และท่องถ้อยคำของหลี่ฉางโซ่วเหล่านั้นทุกคำอย่างพร้อมเพรียงกันเช่นกัน
ที่แม่น้ำเทียนเหอแห่งศาลสวรรค์ อ๋าวอี่และเปี้ยนจวงต่างก็คุกเข่าลงข้างหนึ่งและประสานมือคารวะ และบรรดาทหารหนึ่งแสนนายที่อยู่ข้างหลังพวกเขาต่างก็คุกเข่าลงข้างหนึ่งเช่นกัน!
ที่ด้านหน้าของหอทงหมิง เจ้าหน้าที่แห่งศาลสวรรค์หลายร้อยคนต่างก็โค้งคำนับ ตามหลังแม่ทัพตงมู่
ในทางเหนือ ใต้ ตะวันออก กลาง ประตูสวรรค์ทั้งห้า ที่สระหยก และบนสวรรค์ล่างชั้นสามที่เหล่ามนุษย์สวรรค์อาศัยอยู่…
ในทั่วทั้งสี่คาบสมุทร ทั้งภายในและภายนอกวังมังกร ในเมืองต่างๆ ของเผ่าทะเล…
พวกเขาแต่ละคนต่างก็คุกเข่าลงข้างหนึ่ง หรือไม่ก็โค้งคารวะเต๋า และท่องถ้อยคำของหลี่ฉางโซ่วเหล่านั้นทุกคำอย่างพร้อมเพรียงกันเช่นกัน!
เวลานี้ เหล่าศิษย์แห่งสำนักตู้เซียน ซึ่งมารวมตัวกันล่วงหน้าสองชั่วยาม ต่างก็อยู่ในสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกันกับบรรดาสำนักเซียนส่วนใหญ่แห่งสามสำนักบำเพ็ญเต๋า
พวกเขาทั้งหมดล้วนโค้งคำนับให้แผ่นจารึกที่เป็นอนุสรณ์ถึงต้าเต๋อโฮ่วถู่ ถวายเครื่องสักการะ และสวดมนต์ให้นาง และร้องตะโกน…
“ต้าเต๋อโฮ่วถู่ ปกป้องสังสารวัฏ”
“สิ่งมีชีวิตทั้งมวลล้วนสำนึกในพระคุณและระลึกถึงท่านอย่างซาบซึ้งใจตลอดชั่วกัปชั่วกัลป์”
ในดินแดนเทวะอุดร พวกเผ่าเวทต่างก็คุกเข่าลงบนพื้นและส่งเสียงครวญเบาๆ…
ในแดนยมโลก เหล่าผู้พิพากษาแห่งแดนยมโลก จ้าวแห่งแดนยมโลก เจ้าหน้าที่แห่งแดนยมโลก ทหารผี และวิญญาณต่างๆ ที่กำลังจะเข้าสู่แผ่นจานสังสารวัฏ ล้วนคุกเข่าลงและร้องตะโกนเช่นกัน
ความเป็นจริงแล้ว สถานการณ์ที่คล้ายคลึงกันก็กำลังปรากฏขึ้นพร้อมๆ กันในทั่วทั้งตรีสหัสโลกธาตุ
ลำแสงสีทองได้สาดส่องเข้าสู่แดนยมโลกครั้งแล้วครั้งเล่า และพร้อมๆ กับลำแสงสีทองจากดินแดนเทวะทั้งห้า ลำแสงทั้งหมดนั้น ล้วนพุ่งเข้าสู่แผ่นจานสังสารวัฏหกวิถี!
บนภูเขาวิญญาณ นักพรตเต๋าเฒ่าสองสามคนดูโกรธเคืองในขณะที่พวกเขามองไปที่นักพรตเต๋าหนุ่มซึ่งกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ข้างๆ ตี้ทิง
“ตี้จั้ง เจ้าเป็นคนออกคำสั่งให้เหล่าศิษย์ของสำนักบำเพ็ญประจิมสักการะบูชาโฮ่วถู่ในวันนี้หรือ?”
“น่าขันนัก! นี่เป็นโอกาสสำหรับสำนักบำเพ็ญเต๋าของพวกเขา แล้วเจ้าไม่ได้กำลังช่วยให้พวกเขาได้รับบุญหรอกหรือ?!”
ตี้จั้งยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ เขาลืมตาขึ้นและกล่าวเบาๆ ว่า “นี่เป็นบัญชาของท่านอาจารย์”
เหล่านักพรตเต๋าเฒ่าทั้งหลาย หุบปากของพวกเขาทันที
ตี้จั้งถอนหายใจและกล่าวอีกครั้งว่า “สังสารวัฏหกวิถี ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการต่อสู้ระหว่างสำนักบำเพ็ญเต๋า และสำนักบำเพ็ญประจิม
การกระทำเช่นนี้ เป็นเพียงเพื่อทำให้แน่ใจว่า สำนักบำเพ็ญประจิมจะมีโชคในการต่อสู้กับสำนักบำเพ็ญเต๋าของพวกเขาในภายภาคหน้า
ศิษย์พี่ เวลานี้ ตี้จั้งกำลังฝึกฝนอยู่ขอรับ”
กล่าวจบ นักพรตเต๋าหนุ่มก็หลับตาลงด้วยสีหน้าดูสงบเล็กน้อย
บัดนั้น นักพรตเต๋าเฒ่าต่างก็มองหน้ากันพร้อมกับขมวดคิ้วแล้วจากไป
ชั่วเวลานั้น ตี้ทิงก็กวาดหางและแอบกลอกตาของมันอย่างลับๆ มันนอนอยู่ที่นั่นและฟังคำสวดอธิษฐานของสิ่งมีชีวิตทั้งมวล ด้วยความรู้สึกเป็นสุขและอิ่มเอมใจ
……
ในแผ่นจานสังสารวัฏหกวิถี
ลำแสงสีทองมากมายนับไม่ถ้วนเต็มไปทั่วท้องฟ้า บัดนี้ทั้งทะเลทรายและหินหนืดแต่เดิม ก็ได้กลายเป็นเนินเขาไปแล้ว
ภูเขาและที่ราบต่างๆ ล้วนถูกปกคลุมไปด้วยหญ้าสีเขียวอ่อน และบุปผาสีขาวดอกเล็กๆ ก็กำลังค่อยๆ ผลิบานอย่างช้าๆ
บนท้องฟ้า ร่างของราชินีโฮ่วถู่นั้น ดูแข็งแกร่งมากแล้ว
นางสวมวงแหวนหญ้าบนศีรษะของนาง เส้นผมสีดำสลวยราวกับไหมของนางสยายลงมาราวกับน้ำตก
นางประกบนิ้วทั้งสิบของนางและแนบประสานกันไว้ที่หน้าอกในขณะที่นางคุกเข่าลงบนท้องฟ้าในระดับสูง และพึมพำเบาๆ
นางกำลังให้พรแก่สิ่งมีชีวิตทั้งมวล รัศมีรอบกายนาง ดูช่างอ่อนโยนและเงียบสงบยิ่งนัก
ณ มุมหนึ่งของโลก
จู่ๆ เทพธิดาจินหลิงก็ได้ยินเสียงร้องตะโกน
“พี่สาว!”
เทพธิดาจินหลิงหันกลับมาทันที และเครื่องประดับสีทองบนชุดกระโปรงยาวของนางก็พลิ้วไหว ส่งเสียงดังกรุ๊งกริ๊งขึ้น
ร่างจำแลงแห่งเจ็ดอารมณ์ทั้งสองที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับราชินีโฮ่วถู่ คือ ความรักแห่งอารมณ์ทั้งเจ็ด และความสุขแห่งอารมณ์ทั้งเจ็ด พวกนางต่างกำลังโค้งคำนับให้เทพธิดาจินหลิงพร้อมๆ กัน
พวกนางแย้มยิ้มและกล่าวว่า “ขอบคุณเจ้าค่ะ”
จินหลิงส่ายศีรษะเล็กน้อยและกล่าวว่า “ถนอมตัวด้วย”
“เจ้าค่ะ” พวกนางรับคำอย่างนุ่มนวล
จากนั้นร่างของพวกนางก็ค่อยๆ ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า และบินตรงไปทางด้านหลังของราชินีโฮ่วถู่
………………………………………………………………..